กลางดึก...
‘อัญชันลูก อย่าลืมตื่นมาสัมภาษณ์งานนะ ใกล้เวลาแล้ว’
“...” เสียงหนึ่งดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากใบหูเล็ก
ภาพความฝันที่มีลุงกับป้าส่งยิ้มให้ไกล ๆ ทำให้เจ้าของร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงนอนคลี่ยิ้มบางออกมา
“ลุง… ป้า…” เสียงหวานแผ่วเบาละเมอหาญาติผู้ใหญ่ที่เพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นาน แถมพวกท่านยังมาเสียพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุอีก เธอเลยต้องอยู่คนเดียวเพราะนอกจากลุงกับป้าแล้วก็ไม่มีญาติหรือคนรู้จักที่ไหนอีกเลย
‘ลุงกับป้าไปก่อนนะลูก ดูแลตัวเองดี ๆ นะ’
‘อย่าลืมโทรไปสัมภาษณ์งานนะรู้ไหม กว่าจะหางานได้ลุงกับป้าเอาใจช่วยแทบแย่’
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!
พรึบ!
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกในความฝัน ทั้งยังมีเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังติดต่อกันเป็นเวลานานเรียกสติให้กลับมา ร่างบางลุกขึ้นด้วยท่าทางงัวเงียก่อนจะเปิดไฟในห้องนอนให้สว่างจ้า
“นี่ลุงกับป้ามาหาหนูเหรอ…” เสียงหวานพึมพำเมื่อภาพในความฝันยังคงติดตา วิญญาณของลุงกับป้าอาจจะคอยเอาใจช่วยเธออยู่ก็เป็นได้ พอเห็นว่าตอนนี้เธอดูแลตัวเองได้ทั้งยังมีงานมีการทำก็เลยหมดห่วง
“ถ้าลุงกับป้ายังดูหนูอยู่ ช่วยให้หนูได้งานที่นี่ทีเถอะ” ว่าจบก็ประนมมือแล้วยกขึ้นเหนือหัว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเมื่อถึงเวลาตีสามตรง
“ทำไมต้องให้โทรหาตอนตีสามด้วยนะ หรือโรงแรมเขาเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยว่างกันตลอด” เพราะเกิดมาก็ไม่เคยทำงานในโรงแรม เลยไม่รู้ว่าระบบการทำงานเป็นยังไง ดีหน่อยที่พนักงานคนนั้นบอกแค่ให้โทรไปตอนตีสาม ถ้าให้ออกไปเจอกันตอนตีสามเธอคงหางานใหม่ไปแล้ว
ตืดด~ ตืดด~
นั่งฟังเสียงสัญญาณในสายดังได้สักพัก ปลายสายก็กดรับ ทว่าทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ความรู้สึกแปลก ๆ ก็เกิดขึ้น
[สวัสดีครับ]
น้ำเสียงทุ้มทว่าเย็นยะเยือกน่าขนลุกทำให้ร่างบางชะงักไป มือเรียวข้างหนึ่งลูบท่อนแขนเล็กเบา ๆ ก่อนจะทักทายกลับด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่ออัญชันนะคะ โทรมาสัมภาษณ์งานตำแหน่งคนทำความสะอาดศาลเจ้าที่โรงแรมxxx ค่ะ”
[อัญชัน…]
เหมือนปลายสายจะทวนชื่อเธอ
[ทำไมถึงมาสมัครตำแหน่งนี้ล่ะ]
“ว่างงานอยู่ค่ะ แล้วก็เป็นตำแหน่งที่ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา เลยคิดว่าเหมาะกับตัวเองค่ะเพราะจบแค่มอปลาย”
[เห็นป้ายรับสมัครตรงไหน]
“ตรงประตูทางเข้าโรงแรมค่ะ ป้ายใหญ่มากเลย”
[ทวนชื่อกับเบอร์โทรบนนามบัตรให้ฟังหน่อยสิ]
“...” มันเกี่ยวกับงานที่จะทำตรงไหนเนี่ย เสียงหวานนึกในใจ แต่ก็ดีแล้วที่ไม่สัมภาษณ์อะไรยาก ๆ “ค่ะ งั้นเริ่มเลยนะคะ”
[อือ]
“คิมหันต์…” เสียงหวานชะงักไปเมื่อชื่อบนนามบัตรไม่มีนามสกุล แถมยังเป็นชื่อที่รู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักชื่อนี้มาก่อน แต่ก็รีบทวนหมายเลขโทรศัพท์ต่อ “0xxxxxxxxx ค่ะ”
[เริ่มงานพรุ่งนี้สะดวกไหม]
“เอ๋? สัมภาษณ์แค่นี้เหรอคะ”
[อยากรู้อะไรอีกไหมล่ะ]
“เรื่องเงินเดือนแล้วก็สวัสดิการล่ะคะ”
[มาที่โรงแรมแล้วเจ้านายฉันจะเป็นคนบอกเธอ]
“ค่ะ ถ้างั้นพรุ่งนี้ให้เริ่มงานกี่โมงคะ”
[แปดโมงมาเก็บธูปเทียนออกจากศาล ควันมันลอยเข้ามาข้างในเจ้านายฉันไม่ชอบ]
“...” หืม? พูดเหมือนอยู่ในศาลกันเลยแฮะ หรือว่าเราจะฟังผิด
[แล้วก็เก็บของไหว้ไปทิ้งด้วย เอาไว้นานก็ไม่มีใครกินหรอก มีแต่ของไม่อร่อย]
“...” ?
[ส่วนตอนเย็นก่อนเลิกงานก็มาทำเหมือนเดิม ที่นี่ไหว้เจ้าที่สองเวลา]
“แค่นั้นเหรอคะ แล้วเวลาที่เหลือให้ทำอะไรคะ”
[หาอะไรทำแถวนั้นแหละ อยากทำอะไรก็ทำ ถ้ามีอะไรเพิ่มเดี๋ยวเจ้านายจะเป็นคนเรียกใช้เอง]
“ค่ะ”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
มือเรียววางโทรศัพท์มือถือลงก่อนจะยีหัวไปมาด้วยความงุนงงหลังจบการสัมภาษณ์
“ตกลงงานทำความสะอาดศาลเจ้าที่นี่เขาจะให้เงินเดือนฉันจริง ๆ ไหมเนี่ย ทำไมเหมือนไม่มีอะไรให้ทำเลย”