“พี่…วันนี้ผมไม่ค่อยสบาย ห้ามรับงานด่วนนะอยากพักผ่อนบ้างครับ”
คิว ศิวัฒน์เอ่ยกับผู้จัดการส่วนตัวสาวใหญ่รุ่นลายครามที่อายุเกือบจะห้าสิบปี เมื่อสาวใหญ่เอาชุดที่ต้องใส่ออกงานในวันนี้มาให้เขาที่คอนโดส่วนตัวย่านชานเมือง ซึ่งตัวของคิว ศิวัฒน์เองนั้นยังนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่อ่อนล้าจากการโหมทำงานหนักติดต่อกันมาหลายวัน
ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วเขาแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนอย่างจริงจังเลย ได้นอนคืนละไม่ถึงห้าชั่วโมงด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่เวลาพักผ่อนเลยแม้แต่เวลาจะกินให้เต็มอิ่มก็ยังไม่มีเลย ถ้าช่วงไหนที่มีงานเช้า เขาก็ต้องไปอาศัยหลับบนรถแทนส่วนเรื่องอาหารนั้นเรียกได้ว่าแทบจะทุกมื้อ เขาต้องทานบนรถเป็นประจำติดต่อกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
“เอาน่า ช่วงขาขึ้นก็แบบนี้แหละ ตักได้ก็รีบตักช่วงที่ซีรีส์กำลังออนแอร์อยู่ โอกาสมันเป็นของเธอแล้วส่วนชุดพี่แขวนไว้ให้ที่หน้าตู้กระจกนะ”
‘ขนมเข่ง’ ผู้จัดการส่วนตัวของคิว ศิวัฒน์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ดึงตัวของคิว ศิวัฒน์เข้ามาอยู่ในสังกัดโมเดลลิ่งของเธอ ขนมเข่งก็พยายามพาคิว ศิวัฒน์ไปเปิดตัวโดยการรับงานโฆษณาต่างๆ ในวงการบันเทิงมากมายเพื่อเป็นใบเบิกทาง เผื่อหวังว่าจะมีผู้จัดละครฝีมือดีเห็นแววแล้วดึงเข้าไปเป็นพระเอกกับเขาบ้าง
แต่นี่ก็ผ่านมาหลายปีกว่าที่คิว ศิวัฒน์จะได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นซีรีส์เรื่องแรกของชายหนุ่มแต่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ก็พากันถอดใจไปหลายรอบเนื่องด้วยอายุที่ใกล้เลขสาม อีกทั้งศิลปินอายุน้อยที่พากันแจ้งเกิดราวกับดอกเห็ดจึงมีดวงดาวใหม่เกิดขึ้นจนเต็มท้องฟ้า
“ผมรู้ แต่มันยิ้มจนยิ้มไม่ไหวแล้วพี่ ร่างกายต้องการพักผ่อนจริงๆ นะ”
คิว ศิวัฒน์โอดครวญเมื่อผู้จัดการส่วนตัวดึงเขาให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ แม้เขาจะฝืนตัวไว้แต่ก็ยอมลุกไปแต่โดยดี
“ไป อย่างอแง เราไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”
ขนมเข่งดุศิลปินหนุ่มในสังกัดอย่างไม่จริงจังมากนัก
“เออพี่ แล้วเรื่องเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง ผู้ใหญ่เขาว่ายังไง”
คิว ศิวัฒน์นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็รู้สึกเป็นห่วงแฟนคลับที่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้
“เดี๋ยวผู้ใหญ่ทางช่องจัดการเอง ไปอาบน้ำได้แล้ว…สายแล้ว”
ขนมเข่งดันหลังศิลปินหนุ่มให้เขาไปในห้องน้ำ ส่วนเธอจะออกไปรอด้านนอกตรงห้องรับแขกที่ประจำ
“รีบอาบน้ำล่ะ พี่เตรียมอาหารเช้าใส่จานไว้ให้แล้ว”
วันนี้คิว ศิวัฒน์มีงานเปิดตัวป๊อปคอร์นรสชาติใหม่คู่กับพระเอกรุ่นน้องที่อายุห่างกันเกือบหนึ่งรอบหรือประมาณ 11 ปี แต่เพราะ คิว ศิวัฒน์หน้าเด็กจากการที่มีเชื้อสายคนจีนมาจากทางฝั่งคุณแม่ ดังนั้นเมื่อแสดงซีรีส์คู่กันจึงดูเหมือนอายุไม่ต่างกันมากแต่อาจจะเพราะเจ้าเด็กนั่นโตไวตามแบบฉบับเด็กสมัยใหม่ที่เริ่มหันมาดูแลตัวเองกันตั้งแต่ยังเด็กด้วย
ซ่า…
เสียงอาบน้ำที่ดังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ต้องหยุดลงเมื่อขนมเข่งเคาะประตูเรียกคิว ศิวัฒน์ให้ออกมาจากในห้องน้ำ ทุกนาทีมีค่าสำหรับเธอเมื่อคิว ศิวัฒน์กำลังทำเงินให้เธอได้อย่างน่าพอใจ เธอจึงอัดงานให้คิว ศิวัฒน์จนเต็มแน่นทุกตารางคิวในทุกๆ วัน
“โห่พี่ แค่เวลาอาบน้ำผมยังไม่มีเลยเหรอเนี่ย”
คิว ศิวัฒน์ที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีดำเปิดประตูออกมาอย่างเซ็งๆ
“เอาน่า หลังจบจากงานนี้พี่ให้เวลาเธอพักจนถึงเช้าพรุ่งนี้เลย โอเคไหม”
ขนมเข่งยื่นข้อเสนอ
“พี่ขนมเข่งสัญญาแล้วนะ…ห้ามผิดคำพูดล่ะ ไม่งั้นคราวนี้ผมหนีจริงๆ ด้วย”
คิว ศิวัฒน์เอ่ยอย่างจริงจังว่าคราวนี้เขาเอาจริง ขนมเข่งชอบรับงานด่วนให้พอเสร็จจากงานนี้ก็ต้องวิ่งไปรับอีกงาน เหนื่อยจากทำงานแล้วยังต้องมาเหนื่อยวิ่งอีกแม้เขาจะชอบเวลาที่อยู่หน้ากล้อง ชอบเวลาที่ได้เจอแฟนคลับแต่การต้องมาทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันมันก็บีบคั้นเขาจนเกินไป
ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปในห้องเสื้อผ้าคิว ศิวัฒน์ยืนมองเสื้อเบลเซอร์สีขาวกับกางเกงสแลคสีขาวเข้าคู่กันที่แขวนอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้ากระจกบานใหญ่แล้วถอนหายใจออกมา ขอบตาที่คล้ำโทรมจากการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันหลายวันในช่วงที่ผ่านมาช่างตัดกับชุดสีขาวๆ เสียจริง แม้ใบหน้าของเขาจะดูเนียน ขาว แต่ก็แฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
“โอ๊ย อีตาภาวุธนั่น น่าโมโหเสียจริง”
ลินาที่ยกกล่องใส่ของที่มีรูปของคิว ศิวัฒน์อยู่ในนั้น วางลงบนเบาะที่อยู่ด้านหลังของคนขับ
“เอาน่า ขาดเธอไปเขาก็ไม่รู้จะไปใช้ใครทำงานเพื่อเอาหน้าได้อีก”
เจนชมพูปลอบใจเพื่อนสาว
เมื่อช่วงเช้านี้ลินาเข้ามาเอาของที่ยังเหลืออยู่บนโต๊ะ ซึ่งก็เจอกับภาวุธ อดีตหัวหน้าที่ชอบเอางานของลูกน้องไปโปรโมทว่าเป็นผลงานของตัวเอง หญิงสาวยกมือไหว้เขาด้วยความคุ้นชิน แต่ภาวุธกลับทำเป็นมองไม่เห็นเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศ แล้วไหนจะเมื่อสักครู่นี้ที่เขาแกล้งปิดลิฟต์ใส่หน้าเธออีก ทั้งที่ในลิฟต์ไม่มีใครจนทำให้เธอต้องเสียเวลารอลิฟต์รอบต่อไป
…ไม่รู้จักประหยัดไฟเสียบ้างเลยอีตาบ้า…
ลลินาได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ แล้วสะบัดศีรษะไล่ภาวุธออกไปจากความคิด
“ไปแล้วนะ ไว้ว่างๆ มาเที่ยวเชียงรายแวะมานอนที่บ้านเราได้นะ”
หญิงสาวโบกมือลาเจนชมพูอย่างใจหาย เพื่อนสาวที่คบกันมายาวนานกว่าหกปีเข้ามาสวมกอดลินาไว้ด้วยความเศร้าด้วยเช่นกัน
“ไม่อยากให้ไปเลย”
เจนชมพูเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นราวกับกำลังจะร้องไห้
“ยัยเด็กขี้แย่ เราไม่อยู่ก็หัดสู้คนอื่นในทีมบ้างอย่ายอมให้คนอื่นใช้ทำงานจนงานของตัวเองออกมาไม่ดีอีกล่ะ”
ลินาเองก็เศร้าไม่ต่างกัน เธอลูบหลังเพื่อนสาวเป็นการปลอบใจเมื่อสัมผัสได้ถึงช่วงไหล่ที่แฉะชื้นจากหยดน้ำตา
“อืม ขับรถดีๆ นะ”
เจนชมพูผละออกจากลินาแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลลงมาเปอะแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะยิ้มให้เพื่อนสาว เมื่อเธอก้าวขึ้นรถเก๋งสีดำคันโปรด
“ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน”
ลินาที่ลดกระจกลงมากึ่งหนึ่ง เธอโบกมือลาเพื่อนสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเคลื่อนรถยนต์คู่ใจออกไปโดยมีเป้าหมายใหม่คือห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง
ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมือง…
“ตรงนี้จอดไม่ได้นะครับ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลลานจอดรถในชั้นนั้นรีบเข้ามาบอก เมื่อเห็นลินากำลังจะถอยจอดรถในช่องวีไอพี
“ทำไมคะ”
หญิงสาวลดกระจกถามด้วยความงุนงง เธอไม่รู้ว่าที่ตรงไหนจอดได้บ้าง รู้เพียงแต่ว่าช่องว่างก็จอดได้เท่านั้นและอีกอย่างชั้นนี้ก็มีช่องว่างเต็มไปหมด ไม่รู้จะหวงไว้ทำไม
“ชั้นนี้ต้องมีสติกเกอร์ติดหน้ารถว่าวีไอพีเท่านั้นครับ เชิญคุณลูกค้าชั้นถัดไปได้เลยนะครับ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมกล่าวเชิญให้ไปจอดที่ชั้นอื่นด้วยความนอบน้อม แล้วผายมือให้เธอขับรถออกไปจากตรงนี้
…เฮ้อ นี่มันอะไรกันเนี่ย แบ่งชนชั้นชัดๆ…
ลินาส่ายหน้าอย่างอารมณ์เสียแล้วขับรถวนหาที่จอดอย่างยากลำบาก อาจเพราะวันนี้เป็นวันครอบครัวอย่างวันอาทิตย์จึงมีผู้คนมากมายพากันออกมาทานข้าวนอกบ้านและซื้อของใช้เข้าบ้านกันซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วไหนจะยังจัดงานเปิดตัวโฆษณาป๊อปคอร์นของคิว ศิวัฒน์และทอย พีรวิชญ์อีก คนจึงเยอะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
สุดท้ายแล้วหญิงสาวก็ต้องขับรถวนลงมาที่ชั้นล่างสุด แล้วเริ่มวนหาที่จอดรถใหม่ตั้งแต่ชั้นหนึ่งอีกครั้ง
“จักกฤษณ์”
ลินาเปล่งเสียงออกมาเมื่อเธอนึกถึงคาถาขอที่จอดรถซึ่งกำลังแพร่หลายในสื่อโซเชียลอย่างกว้างขวางหรือกำลังเป็นกระแสนั่นเอง…และแล้วหญิงสาวก็ได้ที่จอดรถสมใจ
“เยี่ยมมากจักรกฤษณ์”
ลินาเอ่ยขอบคุณใครสักคนที่ชื่อจักรกฤษณ์ และเกาศีรษะด้วยความงุนงง
…ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคาถานี้จะใช้ได้จริง…
หญิงสาวได้ที่จอดรถตรงชั้นหนึ่ง ซึ่งเมื่อดูเวลาแล้วก็เห็นว่ายังเหลือเวลาอีกพอสมควรกว่าจะถึงเวลาเปิดตัวโฆษณาป๊อปคอร์นรสชาติใหม่ของคิว ศิวัฒน์ หญิงสาวเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะก้าวลงจากรถและไม่ลืมที่จะหยิบซองสีน้ำตาลที่เบาะด้านหลังรถของเธอติดมือไปด้วย ของขวัญที่ลินาตั้งใจจะมอบให้คิว ศิวัฒน์ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจากกันนั่นเอง