📚 รอยยิ้มครั้งแรก ⟡ ⑅◡̈

2119 Words
📚 ⟡ ⑅◡̈ 🔆 เช้าวันอังคาร ฟ้ายังหม่นแต่ไม่เท่าเมื่อคืน 🌫️ ลมเย็นกำลังดี ห้องสมุดชั้นสองเงียบเหมือนเดิม โต๊ะมุมทีม 304 ก็พร้อมเหมือนเคย โน้ตบุ๊กสองเครื่อง น้ำสามขวด โพสต์อิทเรียงเป็นบันได สายธารมาถึงก่อน เปิดไฟล์รายงานใหม่ที่ต้องส่ง “สิ่งที่เรียนรู้ / สิ่งที่อยากลองต่อ / สิ่งที่พลาดแล้วแก้ยังไง” เธอพิมพ์หัวข้อคร่าว ๆ ไว้รอ วายุเดินเข้ามาตรงเวลา กลิ่นสบู่สะอาดติดตัว เสื้อยืดเข้มกับแจ็กเก็ตยีนส์ เขาวางน้ำตรงหน้าเธอเหมือนรู้ทาง “เริ่มจากบทเรียนการทำงานคู่ก่อนดีไหม” “โอเค” เธอพยักหน้า “ฉันร่างไว้แล้ว นายเติมตัวอย่างจริงได้เลย” ทั้งคู่พิมพ์งานเงียบ ๆ จังหวะคีย์บอร์ดดังสม่ำเสมอเหมือนเครื่องจักรเดินเบา ⌨️ สิบห้านาทีผ่านไป งานเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง สวยงามเหมือนต่ออิฐทีละก้อน “พักห้านาที” สายธารประกาศ “ครับหัวหน้า” เขาหยิบขวดน้ำขึ้นจิบ เธอวางมือจากคีย์บอร์ด เอาคางเกยแขนบนโต๊ะ สักพักก็เงยหน้ามองเขา “เล่าอะไรขำ ๆ หน่อยสิ อยากได้พลังหัวเราะ จะได้เขียนต่อไม่แข็ง” วายุเลิกคิ้ว “ฉันไม่ค่อยมีเรื่องขำหรอก เล่าทีไรแป๊กทุกที” “งั้นฉันเล่าเอง” เธอยิ้ม “รับประกันบ้าน ๆ แต่ฮา” “จัดมาเลย” เขาพยักหน้า สายธารทำท่าจริงจังเหมือนจะอ่านกวี แต่กลับเล่าเรื่องแทน “เมื่อวานก่อนร้านปิด มีเด็กผู้ชาย ม.ต้นสองคนวิ่งหน้าตื่นเข้ามา บอกว่า ‘พี่ครับ ต้องซื้อหนังสือให้เพื่อนผู้หญิงวันนี้ ไม่งั้นเขาจะเกลียดพวกผม’ ฉันก็ถามว่าเล่มไหน เด็กตอบว่า ‘เล่มที่มีคนตายแล้วฟื้น แล้วก็ไม่ฟื้น แล้วก็ฟื้นอีก’” วายุหัวเราะหึ ๆ “สรุปตายหรือไม่ตายวะ” “นั่นแหละปัญหา” เธอกลั้นขำ “ฉันเลยถามต่อว่าปกสีอะไร…เด็กบอกจำไม่ได้ ตัวละครชื่ออะไร…เด็กบอก ‘ชื่อเหมือนคนทั่วไปค่ะพี่’ ฉันเริ่มเอ๋อ เลยให้เขาเดินดูชั้นสืบสวน สุดท้ายหยิบ ‘เชอร์ล็อกโฮล์มส์’ มาแล้วบอกว่า ‘นี่แหละพี่ ผู้ชายคนนี้ตายแล้วฟื้นได้แน่ ๆ’” วายุหัวเราะชัดขึ้น “โฮล์มส์ตายตรงไหนเนี่ย” “ฉันก็ถามเหมือนกัน เด็กตอบว่า ‘เห็นรูปเขาคิดหนักในปก ผมว่าเขาตายแล้วฟื้นในหัว’” เธอเลียนเสียงเด็กจริงจังจนหน้าตาตลก วายุหัวเราะก้มหน้า ไหล่สั่น “ยังไม่จบ!” เธอยกนิ้ว “พอจ่ายเงินเสร็จ เด็กหันกลับมาถามอีกว่า ‘พี่ครับ ถ้าเพื่อนไม่ชอบ ผมขอคืนได้ไหม’ พ่อที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ตอบ ‘คืนได้ถ้ายังไม่เปิดอ่าน’ เด็กทำตาโตแล้วถามต่อ ‘ถ้าผมเปิดอ่านให้เพื่อนฟังล่ะพี่ ถือว่าเปิดไหม’” 😂 คราวนี้วายุหัวเราะจริงจัง เสียงดังพอให้โต๊ะข้าง ๆ เงยหน้ามองหนึ่งวิ 👀 เขายกหลังมือปิดปากแบบเคยชิน แต่รอยยิ้มก็หลุดออกมาก่อนแล้ว ยิ้มจริง ๆ ที่ไม่กวน ไม่ฝืน “แล้วสุดท้ายเพื่อนผู้หญิงชอบไหม” เขายังยิ้มอยู่ “ไม่รู้ ยังไม่เห็นกลับมา” สายธารยิ้มตาม “แต่ฉันชอบประโยค ‘ตายแล้วฟื้นในหัว’ มาก มันเหมือน…คนที่เราคิดว่าจบแล้ว แต่จริง ๆ ยังอยู่เงียบ ๆ ในความคิด” วายุฟังแล้วนิ่งลง ยิ้มยังค้าง แต่แววตาลึกขึ้นนิดหนึ่ง เขาพยักหน้า “เข้าใจ” ทั้งคู่เงียบพร้อมกันหนึ่งจังหวะ เงียบแบบสบาย ๆ ไม่มีอะไรหล่น สายธารหันไปติ๊กเช็กลิสต์ต่อ แต่หางตายังเห็นภาพเมื่อครู่ชัดรอยยิ้มของวายุที่ “เปิด” แบบธรรมชาติ อุ่น นิ่ง และเหมือนเด็กนิด ๆ หัวใจเธอสั่นหนึ่งบีตเหมือนโดนดีดสายกีตาร์ 🎸 เธอรีบก้มหน้าหลบ พยายามทำเสียงปกติ “เอ่อ…ทำหัวข้อ ‘สิ่งที่อยากลองต่อ’ กันต่อเนอะ ฉันเขียนไว้ว่าอยากทำกิจกรรมอ่านออกเสียงเดือนละครั้ง นายช่วยเติมหน่อย” วายุยังยิ้มบาง ๆ ไม่ยอมเก็บง่าย ๆ เหมือนก่อน เขาเลื่อนเก้าอี้เข้ามานิด “เพิ่มว่า อยากทำเวิร์กช็อปให้เด็กมัธยมลองจับเครื่องมือจริง แล้วโยงกับการเล่าเรื่องส่วนตัว…ให้เขา ‘ตายแล้วฟื้นในหัว’ กับเรื่องของตัวเองบ้าง” สายธารหัวเราะ “อ้างเด็ก ม.ต้นอีกแล้ว” “ก็แรงบันดาลใจสด ๆ ร้อน ๆ ไง” เขายิ้มอีกครั้ง คราวนี้สั้นกว่า แต่ยังอุ่นเหมือนเดิม 🌤️ สายธารรู้สึกว่าห้องสว่างขึ้นนิด ทั้งที่ไฟไม่ได้ปรับ เธอฝืนโฟกัสกลับไปที่คีย์บอร์ด แต่ในหัวเธอยังวนภาพรอยยิ้มเมื่อกี้ นี่คือครั้งแรกจริง ๆ ที่เธอเห็นเขายิ้มแบบนี้ใกล้ ๆ 💓 ภาคินโผล่มาเหมือนระบบเซฟ “หวัดดีคู่หู! โลกยังดีอยู่ไหม” เขาวางขนมปังกับกล้วยบนโต๊ะ “วันนี้ไส้ข้าวโพด…เอ้า ใครยิ้มอยู่วะ” ภาคินหันไปจ้องวายุ “โห แปลก เห็นยิ้มง่าย ๆ แบบนี้ไม่บ่อยนะ” วายุไอเบา ๆ เหมือนถูกจับได้ แต่ไม่ปิดหน้า แกล้งทำขรึม “ฉันปกติ” “ปกติบ้านนายสิ” ภาคินหัวเราะ “ยิ้มบ่อย ๆ เดี๋ยวหน้าจะลืมวิธี” แล้วชี้ไปมุมหลัง “ฉันไปเล่นบทกรรมการเงียบ ๆ ละกัน ถ้าใครหน้าเครียด ส่งสัญญาณด้วยสติ๊กเกอร์กล้วย 🍌” “รู้ทางดีจัง” วายุแซวกลับ “ก็คนของกันและกัน…เอ๊ย ของทีมกันและกัน” ภาคินทำหน้ายียวนแล้วรีบหนี สายธารส่ายหัว ยิ้มให้ความป่วนพอเหมาะ ก่อนหันกลับมาที่จอ “ต่อเลย” ☀️ ช่วงบ่าย งานไหลลื่นเป็นพิเศษ บางทีเพราะเสียงหัวเราะตอนเช้า บางทีเพราะโปรเจกต์ใหญ่เพิ่งผ่านไป ความกดดันเลยเบาลง ใจว่างพอให้คำไหลง่ายขึ้น เธอพิมพ์ เขาเกลา เขาเล่า เธอเรียบเรียง ทุกอย่างเข้ากันเหมือนเพลงที่เล่นจนคล่อง 🎶 ระหว่างพิมพ์ สายธารเล่าต่อ “จริง ๆ ยังมีตอนต่อ…เด็ก ม.ต้นคู่นั้น ตอนออกจากร้าน เขายืนคุยกันหน้าประตู คนหนึ่งบอก ‘กูว่าผู้หญิงชอบคนที่อ่านหนังสือให้ฟังนะ’ อีกคนตอบ ‘งั้นมึงอ่านหน้าแรกไป ถ้าเขาหลับ แสดงว่าไม่ใช่เล่มนี้’” วายุหัวเราะอีกที คราวนี้เสียงดังขึ้นนิด 😂 “มาตรฐานการทดสอบโคตรบ้าน ๆ แต่จริง” “ใช่” สายธารหัวเราะตาม “บางทีความชอบก็ไม่ต้องซับซ้อน คนเราเหนื่อยทั้งวัน แค่มีคนอ่านอะไรให้ฟังเบา ๆ ก็พอแล้ว” วายุพยักหน้า ยิ้มยังอยู่แต่ตาลึกขึ้น “ฟังแล้วอยากเป็นคนอ่านให้ใครบางคนฟังเลย” สายธารชะงักไปครู่ มือค้างบนแป้น หัวเราะกลบ “อ่านให้ภาคินฟังก่อนก็ได้ หลับง่ายสุด” “ไม่เอา…ไอ้คินไม่ใช่ ‘บางคน’ ฉันอยากเลือกเอง” เขาพูดเบากว่าปกติ เหมือนโยนหินลงน้ำแล้วมองวงกระเพื่อม 🌊 หัวใจสายธารสะดุดหนึ่งบีต แต่เธอไม่รับไม่ปฏิเสธ แค่ยิ้มบาง ๆ แล้วเปลี่ยนกลับไปที่งาน “รูปประกอบหน้า 10 เอารูปขอบโต๊ะกับโพสต์อิทไหม ฉันว่ามันเรียบดี” “เอาเลย ลายเซ็นทีมเรา” เสียงคีย์บอร์ดดังต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ข้างใต้โต๊ะ ใจทั้งสองยังเต้นแรงกว่าปกตินิด ๆ ☀️🌼 บ่ายแก่ ห้องสมุดเริ่มมีคนเข้า–ออกมากขึ้น แสงนอกหน้าต่างเปลี่ยนจากเทาเป็นทองอ่อน ☀️ สายธารเหลือบมอง “สวย” วายุหันตาม “เหมือนมีคนเอาไฮไลต์ไปขีดขอบฟ้า” “นายเริ่มพูดเหมือนนักเขียนแล้วนะ” เธอหัวเราะ “เพราะนั่งข้างนักเขียนทุกวัน” คำนี้ทำให้แก้มเธอร้อนขึ้น เธอก้มหน้ากลับ “อีกนิดเดียว…เสร็จแล้ว” เธอกด “ส่ง” ไฟล์รายงาน เสียงติ๊งดังพร้อมกันจากโน้ตบุ๊กทั้งสองเครื่อง ✅ ทั้งคู่ถอนหายใจพร้อมกัน เหมือนวิ่งครบห้ากิโลแล้วได้ยืดเส้น “เย็นนี้แวะร้านไหม” เธอถาม ตาเป็นประกาย “แม่จะลองชามะลิน้ำผึ้ง” 🍯 “แวะสิ ฉันเป็นหนูทดลองประจำอยู่แล้ว” “พูดดี ๆ ต้องบอกว่า ‘ลูกค้าทดลองที่มีเกียรติ’” “ครับ ลูกค้าทดลองที่มีเกียรติ” เขาเลียนเสียงจนเธอหัวเราะ ทั้งคู่เก็บของ เดินลงบันไดมาด้วยกัน ลมเย็นตีหน้าเบา ๆ อากาศหลังฝนสดขึ้นจริง ๆ 🌬️ สายธารหันไปบอกตรง ๆ “เมื่อกี้…นายยิ้ม” วายุชะงักนิด “เมื่อกี้ไหน” “ตอนเล่าเรื่องเด็ก ม.ต้น ยิ้มจริง ๆ ไม่ใช่ยิ้มกวน” เขาพยักหน้า “อือ…ยิ้ม” “ดีแล้ว” เธอตอบสั้น ๆ แต่นุ่ม “ยิ้มบ่อย ๆ ก็ได้ ไม่เสียตังค์” 🙂 “ต้องมีคนทำให้ยิ้มก่อน” เขาเงยหน้ามองฟ้า “วันนี้มีแล้ว” ประโยคนี้ลอยอยู่กลางอากาศ เธอไม่ต้องตอบ แค่ยิ้มรับ แล้วเปลี่ยนเรื่อง “ไปเถอะ เดี๋ยวชาเย็นละลาย” 🧋 🌒 ช่วงหัวค่ำ ร้านหนังสือเปิดไฟอุ่น ลูกค้าประจำสองสามคนนั่งคุยกันที่มุมอ่าน 📚 สายธารพาวายุไปโต๊ะไม้ใกล้หน้าต่าง แม่ยกชามะลิน้ำผึ้งมาเสิร์ฟ “ลองดูนะลูก หวานน้อย กลิ่นดอกชัด” วายุยกแก้วขึ้นดมก่อนจิบ “หอม…ดีมากครับ” แล้วหันไปยิ้มให้แม่ “ขอบคุณครับ” แม่ยิ้มตอบ อบอุ่นเหมือนคนเห็นเด็กโตในระยะใกล้ “ดื่มให้อุ่นใจนะลูก” ระหว่างนั่ง วายุหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋า วางไว้ข้างแก้วเหมือนธงเล็ก ๆ ภาคินโผล่เข้ามาทีหลัง พร้อมเสียง “ซุส!” 😂 “ได้ข่าวว่าที่นี่แจกยิ้มฟรี” “ออกไปเลย” สายธารทำตาดุแต่ปากยิ้ม “ล้อเล่นน่า” ภาคินหัวเราะ แล้วสั่งชามะลิเหมือนกัน “เอ้อ…วายุมึงเป็นอะไร หน้าตาเหมือนคนนอนครบแปดชั่วโมง” “ก็…ดีขึ้น” วายุตอบเรียบ ๆ “ดีขึ้นเพราะอะไร” ภาคินยิ้มกวน หันไปมองสายธารสองวิแล้วหันกลับ “เพราะชามะลิหรือเพราะ…” “เพราะปากมึงหยุดถาม” วายุตัดบท แต่ยังยิ้ม ภาคินหัวเราะลั่น “โอเค ๆ ไม่กวนแล้ว” หลังคุยเล่น ภาคินไปคุยกับพ่อที่มุมร้าน เหลือแค่สองคนกับไฟอุ่น ๆ 🌙 สายธารหยิบสมุดเล็ก ๆ ขึ้นมา เขียนสั้น ๆ ตรงหน้าเขา “เขียนอะไร” เขาถามเบา ๆ “บันทึก ‘รอยยิ้มครั้งแรก’” เธอตอบตรง ๆ “จะจดไว้ ว่าวันไหนนายยิ้มง่ายเป็นครั้งแรก” วายุนิ่งนิดเดียว ก่อนหัวเราะหึ ๆ “ตั้งชื่อเหมือนเพลงอินดี้เลย” “ก็คล้ายเพลงนั่นแหละ” เธอปิดสมุด “แต่ไม่ต้องเปิดให้ใครฟัง” เขามองหน้าเธอ แล้วยิ้มเล็ก ๆ “โอเค…ไม่เปิด” 🙂 หลังดื่มชาเกือบหมด วายุขอตัวกลับ เขายกมือไหว้พ่อแม่สายธารเหมือนเดิม เดินออกไปที่บิ๊กไบค์ใต้ไฟถนน สายธารยืนส่งจากประตู กระดิ่งหน้าร้านดังเบา ๆ ลมพัดผ้าม่านขยับ เขาใส่หมวก พยักหน้าให้หนึ่งที แล้วขับออกไปช้า ๆ เธอยืนมองอยู่พัก ก่อนกลับเข้าไปช่วยเก็บโต๊ะ แม่พูดยิ้ม ๆ “วันนี้ยิ้มทั้งคู่เลยนะลูก” สายธารหัวเราะ แก้มยังอุ่น “ค่ะ” 🌌 คืนนั้นในห้อง เธอเปิดโคมไฟ เขียนบันทึกยาวกว่าทุกวัน “วันนี้ ฉันเล่าเรื่องเด็ก ม.ต้น ที่อยากซื้อหนังสือให้เพื่อนผู้หญิง เขาหัวเราะ…แล้ว ‘ยิ้มจริง ๆ’ ไม่ใช่ยิ้มกวน ไม่ใช่ยิ้มประชด เป็นยิ้มแบบเด็กที่ปล่อยไหล่ลง ฉันเห็น…แล้วใจสั่น ใจสั่นเพราะรอยยิ้มทำให้ห้องสว่างขึ้น และทำให้คำง่าย ๆ ของเรา…เหมือนมีดนตรีอยู่ข้างใน” 🎶 เธอวางปากกา หลับตาเหมือนเพิ่งฟังเพลงจบ แล้วปิดสมุด อีกฟากเมือง วายุกลับถึงห้อง เขาวางหมวกบนชั้น วางผ้าเช็ดหน้าข้างกรอบรูปเหมือนเดิม เขานั่งพิงเตียง เปิดสมุดสเก็ตช์หน้าที่มีคำถามเก่า “ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร” แล้วขีดเพิ่มคำตอบ •เพราะเธอทำให้ฉันยิ้ม โดยไม่ต้องสั่ง เขามองประโยคนี้ แล้วยิ้มอีกครั้ง ยิ้มบาง ๆ ที่เริ่มคุ้น รู้สึกนิ่งและสบายกว่าทุกครั้ง ก่อนปิดตานอน คำหนึ่งลอยขึ้นมาในหัว ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันยิ้มง่ายขนาดนี้ 🙂 🫠 ภาพย้อนเอง: วันที่ลานจอดรถ วันที่ห้องสมุดเธอดุ วันที่เธอยื่นผ้า วันที่ซ้อมพรีจนหายใจตรงกัน และวันนี้…ที่เธอเล่าเรื่อง “ตายแล้วฟื้นในหัว” เขารู้แค่ว่า…เธอไม่เคยพยายามเปลี่ยนเขา แต่ทำให้เขาอยากเปลี่ยนเอง คืนนี้ ไม่มีคำใหญ่ ไม่มีสัญญา มีแค่ใจที่นิ่งขึ้น และกล้ามเนื้อหน้าที่ได้เรียนรู้ท่าใหม่ “รอยยิ้มที่ไม่ต้องป้องกัน แต่บอกว่า…สบายใจ” 💙 ˚◞♡ ◟✦✩‧₊˚ ˗ˏˋ ♡ ˎˊ˗ ⟡ ⑅◡̈
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD