📚 การปะทะครั้งแรก っ ̫ -˘. ♡⃣

2536 Words
📚 การปะทะครั้งแรก っ ̫ -˘. ♡⃣ 🫠 ห้องสมุดเย็นวันอังคาร คนบางแล้ว แต่โต๊ะมุมหน้าต่างยังมีสองคนสายธารกับวายุ บนโต๊ะเต็มไปด้วยเอกสาร แฟ้มโปรเจกต์ ปากกาหลายสี และครัวซองต์ครึ่งชิ้น วายุนั่งเอนหลัง เท้ายื่นออก มือหมุนปากกา เล่นมือถือไม่สนใจงาน “วายุ” สายธารเรียกเสียงเรียบ “หือ” เขาตอบ แต่ตายังมองจอ “พรุ่งนี้ต้องส่งร่างคลิป 3 นาที นายช่วยโฟกัสหน่อยได้ไหม” “กูก็ฟังอยู่” เขาพูดเรื่อย ๆ “เธออยากให้พูดอะไร กูพูดได้หมด” “ไม่ใช่แค่พูดอะไร แต่มันต้องมีโครง ต้องเชื่อมกับข้อมูลสำรวจที่เราเก็บมา” เธอจิ้มปากกาลงกระดาษ “ถ้าไม่จริงจัง อาจารย์หักคะแนนแน่” วายุวางมือถือ เสียงแข็งขึ้น “เอาจริงนะ สายธาร กูไม่เข้าใจว่าจะซีเรียสทำไม แค่โปรเจกต์เล็ก ๆ ไม่ใช่วิทยานิพนธ์” เธอเงยหน้ามองตรง “ก็เพราะมันเล็กไง ถึงต้องทำให้เรียบร้อย ถ้าเล็ก ๆ ยังปล่อย เรื่องใหญ่จะไหวไหม” คำพูดนั้นเหมือนจี้จุด วายุหัวเราะหึ ไม่ใช่เสียงสนุก “พูดเหมือนรู้จักกูดี” “ฉันไม่ได้บอกว่ารู้จักนายดี” สายธารเสียงเรียบ “แต่ในฐานะพาร์ตเนอร์ ฉันมีสิทธิ์คาดหวังว่านายจะไม่ทิ้งงานให้ฉันทำคนเดียว” วายุกระแทกปากกาลงบนโต๊ะ “เธอกำลังสั่งกู?” คนสองสามคนหันมามอง สายธารกดเสียงให้ช้า “ฉันไม่ได้สั่ง ฉันยืนยันว่าต้องทำให้เสร็จตามกำหนด” “แต่กูไม่อยากทำเพราะถูกบังคับโว้ย!” เสียงเขาดังจนบรรณารักษ์เงยหน้าขึ้นมามองคาดโทษ สายธารสูดหายใจลึก พยายามคุมเสียง “นายไม่อยากทำก็อีกเรื่อง แต่เรามีข้อตกลงเดียวกัน ถ้าไม่ส่ง เราได้ศูนย์ทั้งคู่ นายโอเคไหม” วายุนิ่งไปนิด ตาคมขึ้น กัดฟันพูดเบา ๆ “กูเกลียดคำว่า ‘ศูนย์’” “งั้นก็พิสูจน์สิว่าเราไม่ต้องได้ศูนย์” เธอตอบทันที โต๊ะเงียบตึง วายุจ้องเธอเหมือนจะเถียง แต่สุดท้ายหันหน้าหนี มือกำปากกาแน่น สายธารเม้มปาก ครั้งแรกที่เขาแสดงความไม่พอใจตรง ๆ ห้านาทีผ่านไป มีแค่เสียงพลิกกระดาษกับลมหายใจแรง ๆ ของวายุ สายธารเลือกเงียบ ปล่อยให้บรรยากาศสอนแทนคำพูด สุดท้ายวายุพูดขึ้น “ก็ได้ กูจะทำ แต่เธอต้องเลิกทำเหมือนครูใหญ่คอยจ้องโทษตลอด” สายธารเงยหน้ามอง “แล้วนายจะเลิกทำเหมือนเด็กที่ชอบทดสอบครูทุกนาทีได้ไหม” ทั้งคู่สบตากันตรง ๆ ดื้อพอ ๆ กัน ก่อนถอนหายใจแทบพร้อมกัน “โอเค” วายุพูดเบา “งั้นลองใหม่ คราวนี้ไม่มีศูนย์” “ตกลง” เธอพยักหน้า “เริ่มจากร่างสคริปต์คลิป 3 นาที” ครึ่งชั่วโมงต่อมา สคริปต์เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง วายุเล่าเรื่องผ่านอุปมาเครื่องยนต์ สายธารใส่ประโยคกวีให้ไหลลื่น พอรวมกันก็ดูลงตัวกว่าที่คิด วายุอ่านทวนแล้วหัวเราะจาง ๆ “ตลกดีนะ เมื่อกี้เกือบทะเลาะแตก แต่ตอนนี้นั่งเขียนบทด้วยกันเฉย” สายธารตอบเรียบ ๆ “เพราะถ้าแตกจริง เราได้ศูนย์จริง” “เออ…ศูนย์อีกแล้ว” เขายิ้มเจื่อน “โอเค เข้าใจแล้วครู” วันถัดมา ทั้งคู่ซ้อมพูดหน้ากล้องมือถือในห้องเรียนว่าง วายุทำหน้านิ่ง แต่เสียงทุ้มจริงจังทำให้บรรยากาศหนักแน่นขึ้น สายธารพูดปิดท้ายอย่างมั่นคง ภาคินที่นั่งดูถึงกับปรบมือ “เฮ้ย ไม่คิดว่ามึงกับติวเตอร์จะเข้าขากันได้” วายุยักคิ้ว “ก็โทษที่ไม่คาดคิด ทำให้เจอพาร์ตเนอร์ที่ดื้อพอกัน” สายธารกลอกตา “ขออย่างเดียว อย่าเสียงดังในห้องสมุดอีก” “ครับครู” เขาตอบ แต่ตายังซุกซนเหมือนเดิม การปะทะครั้งแรก…ไม่ได้จบด้วยแตกหัก แต่กลายเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างเริ่มมองเห็น “อีกด้าน” ของกันและกัน เย็นนั้น ความตึงยังไม่หาย แม้สคริปต์คลิป 3 นาทีจะเริ่มลงตัว วายุก็ยังนั่งเอนเหมือนไม่อยู่นิ่ง สายธารตั้งนาฬิกาจับเวลาไว้ “ยี่สิบนาทีนี้ เรารีบเรียบสคริปต์ให้เสร็จ แล้วไปถ่ายที่ไหนดี ฉันเสนอร้านหนังสือที่บ้าน หลังปิดร้าน พ่อแม่อนุญาต ถ้าเสียงเบา กับกลับก่อนสี่ทุ่ม” เธอพูดจริงจัง “โอเค ร้านหนังสือ—บรรยากาศมันโคตร ‘รักและไว้ใจ’” เขายิ้มกวน แต่ตาไม่กวนเท่าเดิม “กูไม่ทำพังหรอก” “ดี” เธอสรุป “เจอกันทุ่มตรง ห้ามสาย” “รับทราบครับ…คุณครูใหญ่” เขายกมือตะเบ๊ะล้อ สายธารเหลือบตามองแบบไม่เล่นด้วย แต่ปากเผลอมีรอยยิ้มบาง ๆ วายุเห็น และเก็บเข้ากระเป๋าใจเงียบ ๆ หนึ่งทุ่มห้านาที…เก้า…สิบสอง วายุโผล่มาตอนทุ่มสิบสองนาที เปียกฝนเกือบครึ่งตัว ผมเปียกแนบหน้าผาก “ขอโทษ รถติด ฝนลงไม่เตือน” สายธารชี้นาฬิกา แต่เสียงนิ่ง “ฉันบอกแล้วว่า ห้ามสาย” “กูรู้…คราวนี้นับเป็นโควตาฉุกเฉินได้ไหม” เขาพยายามกวนให้เบาลง แต่เธอยังหน้าตรง “ไม่ต้องหยอดอะไรทั้งนั้น” เธอวางไฟฉาย แปะสคริปต์บนขาตั้ง “เราเหลือไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง กติกาคือถ่ายรวดเดียว ไม่เกินสามเทก” “สามเทก?” เขาทวน “กูนักกลึง ไม่ใช่นักข่าวนะ” “ก็เลยให้ซ้อมมาแล้วไง” เธอนิ่ง “เริ่ม เทกหนึ่ง…สาม…สอง…หนึ่ง” ไฟจากโคมในร้านส่องอุ่น พ่อจัดหนังสือเงียบ ๆ แม่ต้มน้ำชา มุมกล้องจับโลโก้ร้านพอดี วายุพูดได้สี่ประโยค—สะดุด “โทษที คำว่า น้ำมันหล่อลื่น ทำกูคิดไปอย่างอื่น—” “เทกสอง” สายธารตัดทันที เทกสอง ลื่นขึ้นหน่อย แต่พอถึงประโยค ผมเคยคิดว่าเงียบคือหนี เขาเหลือบตามาทางเธอเหมือนแกล้ง แล้วเนื้อหลุดอีก สายธารกดหยุด กลืนน้ำลาย ตั้งสติ สูดลมหายใจ “วายุ” “ครับครู” “ถ้าไม่อยากทำ บอกเลย เดี๋ยวฉันหาวิธีตัดต่อตัวอักษรแทน” เขาชะงัก กวนหายไป “กูอยากทำ เอาจริง” เธอเงียบเสี้ยววินาที ก่อนพูดช้า ๆ “วันนี้ทั้งวันฉันโดนแซว โดนถามว่าไปเป็น PR ให้ Bad Boy บางคอมเมนต์บอกฉันเป็นแค่ฉากหลัง ฉันไม่อิน แต่เหนื่อย ฉันอยากทำให้เสร็จ เพื่อพรุ่งนี้จะไม่ต้องตอบคำถามเดิม” วายุฟังแล้วพยักหน้า ไม่มีมุก “โอเค เทกสาม กูจะทำให้เสร็จ” พ่อแม่เงียบ ปล่อยพื้นที่ เทกสามเริ่ม วายุใช้เสียงทุ้มมั่นคง เล่าแทบไม่สะดุด ช่วงสบตากล้องก็มองจริง ไม่แกล้ง ประโยคของสายธารช่วยคุมจังหวะให้ภาพดูนุ่ม “คัต” เธอปล่อยลมหายใจ “ใช้ได้” “ไม่ใช่ ‘ผ่าน’ แค่ ‘ใช้ได้’ เองเหรอ” เขาทำหน้าเสียดาย ก่อนลดเสียง “เมื่อกี้…ขอโทษที่เล่น” “ชูโรสไม่ช่วยซื้อเวลาทุกครั้งนะ” เธอนิ่ง แต่ยิ้มเล็กน้อย “แก้ตัวด้วยการช่วยเก็บของ แล้วนั่งตัดต่อ ครึ่งชั่วโมง” “ครับ” โต๊ะยาวหลังร้าน หนังสือกั้นเสียงฝน สายธารเปิดโปรแกรมตัดต่อในโน้ตบุ๊ก วายุจด Timecode กับเช็กเสียง เขาเอาเสื้อยีนส์พาดไมค์กันเสียงก้อง “วิธีนี้เรียกว่า ‘ห้องอัดเสียงไส้กรอก’” เขาพึมพำ “อย่าเรียกมั่ว เดี๋ยวพ่อฉันคิดว่าจริง” เธอขมวดคิ้ว คีบเสียงขึ้นลง “ฟังอีกที…ช่วง ‘เงียบเป็นพื้นที่’ เอคโค่ยังแรง” “ถือผ้าห่มไหม” เขาหันไปขอแม่ “ป้ามีผ้าห่มหนา ๆ ไหมครับ จะทำบูธง่าย ๆ” แม่หัวเราะ “มีจ้ะ รอแป๊บ” แล้วหยิบผ้าห่มมา วายุยืนยกไว้เหนือหัว สายธารก้มตัดต่อ มือจัดคลิป ภาพบนจอสว่างสะท้อนหน้าใกล้กันเกินปกติ เงียบไปพักหนึ่ง มีแต่เสียงหายใจกับลากเมาส์ เสร็จคร่าว ๆ เธอกด Export พ่อมองนาฬิกา “เกือบสี่ทุ่มแล้ว” วายุรีบวางผ้าห่ม “ทันเวลาเป๊ะ” แม่เอาชามาวาง “เก่งกันทั้งคู่” “ขอบคุณค่ะ/ครับ” สองเสียงซ้อนกันพอดี ระหว่างเก็บของ โทรศัพท์สายธารสั่น มินตราส่งสตอรี่เพจมหาลัยมา “ติวเตอร์สาวกับ Bad Boy ถ่ายคลิปพรีเซนต์ที่ร้านหนังสือ—หวานฉิบ!” ใต้ภาพเบลอเห็นเงาพวกเขา “ใครแอบถ่ายอีกแล้ว” เธอบ่นเบา ๆ วายุชำเลืองหน้าจอ คลึงกราม “กูจะ—” “ไม่ต้องไปหาเรื่องใครทั้งนั้น” เธอตัดบท “มันก็แค่สตอรี่ พรุ่งนี้ก็ลืม เราทำให้เสร็จพอ” เขากัดฟัน เหมือนสู้กับนิสัยอยากบวก แต่สุดท้ายก็พยักหน้า “โอเค…เสร็จก่อนไปบวก” เธอปรายตา “หรือไม่บวกเลย” เขายกมือสองข้าง “พยายาม” คำนี้คราวนี้ไม่กวน เสียงจริงจนเธอไม่เถียงต่อ — เช้าเช็กไฟล์ก่อนส่ง วายุถือกาแฟสองแก้วมา “อเมริกาโน่ไม่หวาน กับลาเต้สำหรับครูหน้าเข้ม” “ฉันไม่กินกาแฟตอนท้องว่าง” เธอรับแค่น้ำเปล่า เขาหัวเราะแล้วหยิบแซนด์วิชไข่จากร้านหน้าตึกแทน “หน้าเข้มแต่ระบบดีมาก” เขาแซว “รับโปรตีนก่อนความเคร่งครัดไหม” “ก็ได้” เธอรับครึ่งหนึ่งแบบจำนน ก่อนเข้าเรียน ภาคินปั่นจักรยานผ่านมายกนิ้วโป้ง “คลิปเมื่อคืนกูดูแล้ว ผ่านว่ะ” “มึงดูได้ไง” วายุขมวดคิ้ว “เธอส่งให้กูเช็กซาวด์” ภาคินชี้สายธาร “หูผู้ชายโรงกลึงจะได้จับความเพี้ยน” แล้วหันมายักคิ้ว “ผู้จัดการทีมมือดีมากครับ” สายธารพยักหน้าขอบคุณ “แต่อย่าพูดเสียงดังแบบนี้ในห้องนะ” ภาคินทำท่า ซิปปาก แล้วปั่นผ่านไป — บ่าย ห้องเรียน อาจารย์เปิดดู “ร่างคลิป” ทีละกลุ่ม บางกลุ่มเสียงเบา ภาพสั่น พอถึงคิววายุ–สายธาร ภาพร้านหนังสือขึ้นจอ แสงอุ่น พอวายุเริ่มพูด ห้องก็เงียบเองเพราะ “ฟัง” สามนาทีจบด้วยประโยคของสายธาร รักไม่ใช่เวทมนตร์ แต่มันออกแบบได้ด้วยความซื่อสัตย์และนิสัยเล็ก ๆ ที่ทำทุกวัน โลโก้ร้านหนังสือขึ้นท้ายหนึ่งวิ อาจารย์ขยับแว่น “ฉันชอบสองอย่าง หนึ่ง โทนจริง ไม่พยายามอวยรักเกินจริง สอง ปิดด้วย ‘นิสัยเล็ก ๆ’ ทำให้จับต้องได้” แล้ววางปากกา “ปรับระดับเสียงช่วงกลาง แล้วอาทิตย์หน้าส่งฉบับสุดท้าย…ดี” เสียง “หูวว” ดังรอบห้อง ภาคินปรบมือเบา ๆ เพื่อนไม่กี่คนแอบแซว “เรือครูยางลบแล่นฉิว” แต่บรรยากาศโดยรวมเป็นบวก วายุหันมามองสายธาร ยิ้มมุมปาก สายตาเหมือนบอกว่า เห็นไหม เสร็จได้จริง เธอพยักหน้ากลับ ใช่ เพราะทำงาน ไม่ใช่โชค — พักคาบหน้า ทั้งคู่ลงมาที่โถง กำลังจะไปหาอะไรกิน กฤตย์ยืนพิงเสากระจก ยกแก้วกาแฟทัก “คลิปใช้ได้” กฤตย์พูดเหมือนชม แต่ปลายเสียงเย็น “ภาพอุ่น คำพูดเหมือนจะจริง” “เหมือนจะ?” วายุเลิกคิ้ว “มันก็ยังเป็นคลิป โลกจริงไม่ได้ตัดต่อได้ทุกครั้ง” สายธารก้าวขึ้นหนึ่งก้าว “คุณต้องการอะไรคะ” “ช่วยงานไง” เขายักไหล่ “ฝ่ายกิจการฯ ช่วยกระจายแบบสอบถามได้ ถ้าอยากเก็บถึง 300 ชุด คะแนนจะสวยขึ้น” “ขอบคุณค่ะ” เธอนิ่ง “ตอนนี้เกิน 200 แล้ว อาจารย์เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ” กฤตย์หรี่ตา เหมือนผิดหวัง “งั้นโชคดีนะ และฝากบอกพาร์ตเนอร์เธอด้วย—อย่าลืมว่าโลกจริงไม่ได้อุ่นเท่าไฟร้านหนังสือ” วายุเกือบสวน “โลกจริงก็คือมึงปล่อยข่าว—” แต่สายธารแตะแขนเขา ส่ายหน้า ไม่ใช่ตอนนี้ เขาหายใจลึก เปลี่ยนเป็น “ขอบใจสำหรับความหวังดี แต่เราโฟกัสให้งานเสร็จก่อนดีกว่า” แล้วพาเธอเดินผ่านไป กฤตย์มองตาม จิบกาแฟ แววตาเหมือนกำลังคิดโจทย์ใหม่ — ตอนเย็น ห้องสมุด สายธารทำกราฟจากผลสำรวจ วายุทำสไลด์ PowerPoint “เฮ้ย นายใช้ธีมสีโอเคนะ ไม่ฉูดฉาด” “กูไม่ได้ไร้ศิลป์ขนาดนั้น สีเยอะไปเดี๋ยวพี่แก้วดุ” “อย่าพาดพิงพี่แก้ว” เธอคุมเสียง แต่แอบขำ ครึ่งชั่วโมงต่อมา โทรศัพท์สายธารเด้ง ข้อความจากบัญชีแปลก ๆ “เลิกสร้างภาพได้แล้ว เธอไม่รู้เหรอว่ามันเคยทำอะไรบ้าง” แนบรูปเก่า ๆ ของวายุในปาร์ตี้ สายธารหน้าตึง วายุเห็น “เกิดอะไร” เธอยื่นให้ดู เขามองแล้วตาแข็ง “กูจะไปคุยกับมัน—” “ไม่ เดดไลน์ก่อน” “แต่—” “เดดไลน์ก่อน!” เธอย้ำชัด จนเขาค้างไป แล้วค่อย ๆ คลายมือกำ “…โอเค เดดไลน์ก่อน” เขานั่งลง “เร่งกราฟ ทำสคริปต์ปิด กูอ่านอีกรอบให้เสร็จคืนนี้” สายธารพยักหน้า ก้มหน้าทำงานต่อ สามทุ่มสิบห้า สไลด์ขึ้นคำว่า Draft v.0.9 — DONE วายุเอนหลัง “เธอเก่งเรื่องดึงกูไม่ให้ไปต่อยใคร” “ฉันแค่กลัวศูนย์” เธอมองนาฬิกา “กลับได้แล้ว พรุ่งนี้เกลาเป็น 1.0” “ส่งเธอก่อน” “ไม่ต้อง เพื่อนจะมา” “แค่หน้าตึก” เขาย้ำ สายธารยอมเดินไปด้วย ฝนหยุดแล้ว มุมตึกมีรถขายขนมครก “หิว?” “นิดหน่อย” “สองชุดครับป้า” วายุจ่ายก่อนเธอทันห้าม “ค่าธรรมเนียมไม่ไปต่อยใคร” “ภาษีใหม่เหรอ” เธอย่นคิ้วแต่รับมา เขาหัวเราะ กินเหมือนเด็ก เธอเผลอยิ้มจาง ๆ “นี่ไง เสียง ‘ลมหายใจผิดจังหวะ’ ของเธอ” “เงียบ” เธอสวน แต่แก้มร้อน มินตราขี่รถมา “ขึ้นเลย—อ้าว คุณพายุอีก” “คืนนี้เด็กดีครับ ศูนย์ไม่มา” วายุยกมือ มินตราหรี่ตา “หวังว่าจะใช่” สายธารขึ้นรถ “พรุ่งนี้เก้าโมง ห้อง 304” “ไม่สาย” เขาตอบ และคราวนี้เธอเชื่อ 🔆 รุ่งเช้า วายุมาก่อนเวลา 10 นาที นั่งปิดเสียงมือถือเอง สายธารเปิดสไลด์ 1.0 อาจารย์พยักหน้า “ดี อาทิตย์หน้าของจริง ฉันอยากเห็นการเติบโตของแต่ละคนด้วย” “การเติบโต?” วายุทวนเบา ๆ “ใช่ ของคุณ ฉันจะดูที่วินัยกับการทำงานร่วมกัน” เขาไม่เถียง แค่พยักหน้ารับ หลังเลิกคาบ กฤตย์มายื่นซองเหลืองให้ “จดหมายเรียกชี้แจงเรื่องชกต่อยในลานจอด มีพยานใหม่” วายุหน้านิ่ง “แล้วไง” “โลกจริงแก้ใน Premiere ไม่ได้ อย่าลืมเผื่อเวลา เผื่อกระทบโปรเจกต์” สายธารรับมา “ขอบคุณที่แจ้งค่ะ” กฤตย์ยิ้มบาง “โชคดีนะ วายุ” แล้วเดินไป วายุขยำซองแน่น จะตาม แต่สายธารคว้าข้อมือ “ไม่” “มันจงใจ—” เสียงเขาสั่น “ฉันเห็น แต่ห้ามปล่อยให้ดึงเราออกจากเดดไลน์ วันนี้เราทำให้เสร็จ พรุ่งนี้ค่อยไปชี้แจง” เขามองมือเธอที่จับไว้ หายใจแรงหนึ่งที ก่อนผ่อนออก “โอเค เดดไลน์ก่อน” เธอคลายมือ “ดีมาก” เขายิ้มมุมปาก “รู้ไหม คำว่า ทำให้เสร็จ ของเธอ น่ากลัวกว่าหมัดกูอีก” “ก็ดี จะได้จำ” เธอตอบ “ไปกินข้าว แล้วกลับมาเกลาคลิป เราเหลือรายละเอียด” “ครับครู” เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังพร้อมกัน เหมือนเครื่องยนต์ที่เริ่มเดินเรียบ การปะทะครั้งแรกไม่มีแพ้ชนะ มีแค่เดดไลน์ที่ยังเดินต่อ โลกจริงตัดต่อไม่ได้ แต่นิสัยเล็ก ๆ เลือกได้ และวันนี้ ทั้งคู่เลือกแล้ว 📝🫠✍️ ⟢. ˑ ִֶ 𓂃⊹ ☾⋆⁺₊ ✩°。⟢ ˑ 𓂃⊹
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD