📚 ☃︎ ✿ 𖠚ᐝ
🔆 เช้าวันศุกร์อากาศดี
ฟ้าสว่างกว่าหลายวัน 🌤️ ลมเย็นพัดเบา ๆ ต้นก้ามปูไหวช้า ๆ สายธารสะพายกระเป๋าผ้า มืออีกข้างถือกล่องหนังสือใหม่ที่ร้านสั่งมาให้ห้องสมุดคณะ เป็นกวีนิพนธ์ล็อตเล็ก ๆ ที่อาจารย์ขอ เธอตั้งใจจะเอาไปวางก่อนเข้าคลาส
กล่องค่อนข้างหนัก เธอหยุดพักที่บันไดขั้นแรก หายใจลึก ๆ ก่อนจะยกต่อ เสียงผู้ชายดังขึ้นข้าง ๆ
“ถือไหวไหม ให้ช่วยไหมครับ”
สายธารเงยหน้า เห็นผู้ชายสูงโปร่ง เสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแลคเนี้ยบ นาฬิกาข้อมือเงา ๆ ดูแพง เขายื่นมือมาที่กล่องพอดี ดวงตาสุภาพ
“เอ่อ…ไหวค่ะ ขอบคุณ” เธอตอบ แต่ก็ถอยครึ่งก้าว
“ผมกฤตย์” เขายิ้มมั่นใจ “บริหารปีสี่ เห็นคุณถือของจากประตูเลยตามมาช่วย กล่องดูหนักนะ”
ชื่อกฤตย์คุ้นทันที มินตราเคยพูดบ่อย ๆ หนุ่มฮอตคณะบริหาร หล่อ เนี้ยบ ฉลาด คนปลื้มเยอะ เธอพยักหน้า “สายธารค่ะ อักษรปีสอง เอาหนังสือไปห้องสมุด”
“พอดีเลย ผมก็จะไปห้องสมุด” เขาหยิบกล่องไปจากมือทันที น้ำหนักหายวับ “ผมยกให้เอง”
“เกรงใจค่ะ” สายธารพูด แต่กล่องอยู่ในอ้อมแขนเขาเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร ถือของให้คนสวยถือว่าเริ่มวันดี ๆ” กฤตย์พูดธรรมดา แต่มีแววทีเล่นทีจริง เธอเลือกเงียบ เขาหัวเราะเบา ๆ “โอเค ลดมุกแล้วกัน”
สองคนเดินขึ้นบันได กฤตย์ถือกล่องสบาย ๆ เดินไหล่ตรง ยิ้มพอดี สายธารสังเกตว่าเขาดูชินกับการ “ทำคะแนน” แต่ไม่ได้ทำให้เธออึดอัด เพราะไม่ได้จ้องจนเกินไป
“คุณเรียนวิชาอ่านบทกวีของอาจารย์ภพไหม” เขาชวนคุย
“เรียนค่ะ”
“ดีเลย ผมกำลังหาเล่มอ่านเพิ่ม อยากได้ที่ไม่เศร้ามาก อ่านแล้วใจสว่าง ๆ”
สายธารคิดสั้น ๆ “ลอง จังหวะเงียบ หรือ ลมหายใจในประโยค ค่ะ สองเล่มนี้อ่านง่าย ไม่หักใจเกินไป”
“ขอบคุณครับ” กฤตย์พยักหน้า “ดูจากคนแนะนำ ผมว่าน่าจะชอบ”
ถึงหน้าห้องสมุด เขาวางกล่องบนเคาน์เตอร์บรรณารักษ์ ยิ้มให้พี่เจ้าหน้าที่ “หนังสือของอักษรครับ”
พี่บรรณารักษ์ยิ้มตอบ “ขอบใจจ้า น้องกฤตย์ใช่ไหม ลูกคุณลัดดา”
“ครับ” เขาตอบสุภาพ
สายธารกรอกเอกสารเสร็จ ถอยมายืนข้าง ๆ กฤตย์ก็ขยับตาม “ผมว่าจะไปคาเฟ่ข้างล่าง กินกาแฟ คุณไปด้วยกันไหม เดี๋ยวช่วยถือกระเป๋า”
สายธารส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะขึ้นไปทำรายงานต่อ ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”
“ยินดีเสมอครับ” กฤตย์ยิ้ม “ถ้าต้องการผู้ช่วยอีก เรียกได้เลย”
“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ ยิ้มบาง ๆ พอเป็นมารยาท
เขายกมือเล็กน้อยเป็นเชิงลาแล้วถอยไปทางบันได 🚶♂️ สายธารมองตามนิดหนึ่ง ก่อนส่ายหัวกับตัวเอง มินตราคงมีเรื่องให้แซวแน่ เธอเดินเข้าโต๊ะมุมประจำ วางกระเป๋า เปิดโน้ตบุ๊ก เช็กโพสต์อิทที่เขียนว่า “ส่งเล่มเสริม” แล้วติ๊กถูก หัวใจยังนิ่ง ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับเหตุการณ์เมื่อครู่
เธอกำลังจะพิมพ์ข้อความหาวายุเรื่องเวลาซ้อมเย็นนี้
แต่เสียงแจ้งเตือนขึ้นมาก่อน 📱
Vayu: วันนี้ 16:30 โต๊ะเดิม
Saitharn: โอเค เจอกัน
Vayu: พักกินน้ำด้วยนะ
เธอยิ้มมุมปากโดยอัตโนมัติ 😊
กำลังพิมพ์ “รับทราบ หัวหน้า” อยู่ดี ๆ เงาเสื้อเชิ้ตขาวก็ตกบนโต๊ะ กฤตย์ถือกาแฟสองแก้วกับถุงขนมเล็ก ๆ
“ผมเดาว่าคุณไม่ชอบหวานมาก” เขาวางแก้วหนึ่งตรงหน้าเธอ “อเมริกาโน่เย็น น้ำเชื่อมน้อย”
“เอ่อ…ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องลำบากก็ได้”
“ไม่ลำบากเลยครับ” เขายิ้ม “รู้สึกผิดที่แย่งงานพนักงานยกของเมื่อกี้ เลยอยากชดเชย”
เธอมองแก้วสักพัก ก่อนยกขึ้นจิบเล็กน้อย “รสนุ่มดีค่ะ ขอบคุณ”
“ตอนเย็นมีคลาสไหม” เขาชวนคุยต่อ
“มีซ้อมงานค่ะ”
“อ๋อ โปรเจกต์ดังของมหาลัยนี่เอง” กฤตย์หัวเราะเบา ๆ “ผมเห็นพรีวิวในไอจี หัวข้อ ‘ความซ้ำที่ไม่เจ็บ’ ใช่ไหม”
สายธารยิ้ม “ใช่ค่ะ”
“ถ้าจบแล้วว่าง ผมอยากชวนคุยเรื่องหนังสือบ้าง ร้านของครอบครัวคุณน่านั่งดีนะ ผมผ่านบ่อย”
สายธารเงียบหนึ่งจังหวะ ก่อนตอบกลาง ๆ “ไว้ถ้ามีโอกาสค่ะ”
กฤตย์พยักหน้า “โอเคครับ ไว้ค่อยคุย” แล้วถอยครึ่งก้าว “ผมไปอ่านโน้ตต่อ เจอกันอีกที”
“ค่ะ”
เขาเดินไปนั่งมุมสว่างอีกฝั่ง เปิดแท็บเล็ตเช็กตาราง ดูจริงจัง ไม่ใช่คนว่างงาน แค่จัดเวลาเก่งมาก 📅 สายธารพยายามดึงตัวเองกลับเข้าโหมดทำงาน แต่กาแฟแก้วนี้ก็ทำให้เธอวอกแวกนิด ๆ เธอส่ายหัว แล้วพิมพ์ต่อ
ไม่นาน มินตรากับนีน่าเดินมา เห็นแก้วกาแฟแปลกหน้าบนโต๊ะ มินตรารีบเลิกคิ้ว “ใครสปอนเซอร์คะ 😏”
“อย่าเริ่มเลย” สายธารกลั้วหัวเราะ
นีน่ามองไปที่กฤตย์ตรงมุม “โอ้โห ตัวจริงหล่อกว่ารูปในเพจอีกนะ”
มินตราทำเสียงเบา ๆ “แต่ฉันไม่ค่อยสนุกกับความเนี้ยบเกินไปแบบนั้นอะ…แต่ธารตัดสินใจเองนะ” แล้วกระซิบต่อ “ระวังใจด้วย”
“รู้แล้วน่า” สายธารตอบเบา ๆ
บ่ายแก่ ๆ สายธารลงไปเอาโปสเตอร์กิจกรรมที่ฝ่ายวิชาการให้มาเพิ่ม 📜 เธอหิ้วมาสองม้วน พอดีมีคนกดลิฟต์ร่วม กฤตย์อีกแล้ว
“ให้ช่วยไหมครับ” เขายกมือถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ เบา ๆ เอง” เธอยิ้มตอบ
“แต่ถือตั้งสองม้วน เดี๋ยวค้ำคอ” เขาหยิบไปหนึ่งม้วนทันที “ขึ้นชั้นสองเหมือนกันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
ออกจากลิฟต์ เขาเดินข้าง ๆ เว้นระยะพอดี ไม่รุก ไม่เบียด จังหวะเท้าตรงกันเป๊ะ “คุณอยู่ชมรมอะไรครับ”
“ชมรมอ่านออกเสียงค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมไปนั่งฟังบ้าง อยากฝึก” เขายิ้มบาง ๆ
“ได้ค่ะ เปิดรับทุกคน” เธอตอบสั้น ๆ
พอถึงโต๊ะ เขาวางม้วนโปสเตอร์ให้แล้วขอตัวไปเรียนต่อ สายธารโล่งใจที่จบบทสนทนาแบบสุภาพ เธอปักใจไว้ว่า คืนนี้จะเลิกคิดเรื่องอื่น โฟกัสซ้อมกับวายุให้ดี เพราะพรุ่งนี้ต้องยื่นเล่มสุดท้ายแล้ว 📚
สี่โมงกว่า วายุส่งข้อความมา 📱
Vayu: ถึงแล้ว
สายธารรีบเก็บของลงกระเป๋า กำลังจะลุก กฤตย์ก็เดินสวนขึ้นบันไดพอดี “จะไปไหนครับ”
“ไปซ้อมงานค่ะ”
“อ๋อ ให้ผมไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ใกล้ ๆ เอง”
“งั้นผมเดินไปส่งที่หน้าตึกก็ได้ เผื่อมีอะไรต้องช่วยถือ”
สายธารลังเล แต่ก็ตอบตกลง “ก็ได้ค่ะ”
ระหว่างเดินผ่านโถงกระจก เขาชวนคุย “ผมลองเปิด จังหวะเงียบ แล้วนะ บทแรกดีมาก ภาษาอ่านง่าย”
“ดีใจที่ชอบค่ะ เล่มนั้นอ่านแล้วใจเบาจริง ๆ” เธอยิ้มบาง ๆ
ถึงหน้าตึก แดดเย็นส่องขอบสนามเป็นเส้นทองบาง ๆ ☀️ กฤตย์ยื่นถุงเล็ก ๆ ให้ “ผมซื้อขนมปังชีสมา เผื่อคุณหิวระหว่างซ้อม”
“ขอบคุณค่ะ เกรงใจจัง”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมอยากทำ ต่อให้คุณบอกไม่ก็หาทางทำอยู่ดี” เขาพูดกึ่งขำกึ่งจริงจัง
เธอชะงักนิดหนึ่ง ก่อนตอบเรียบ ๆ “ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ต้องบ่อยก็ได้ ฉันเกรงใจจริง ๆ”
“โอเคครับ งั้นผมไปก่อน เจอกัน” เขายอมง่าย ๆ
“ค่ะ”
สายธารหันหลังจะเดินต่อ อยู่ดี ๆ กฤตย์ก็เรียก “สายธาร”
เธอหันกลับ “คะ?”
“ผมชอบความนิ่งของคุณนะ มันไม่เหมือนใคร” เขาพูดตรง ๆ
สายธารกะพริบตาไปหนึ่งที ไม่รู้จะตอบยังไง เลยพยักหน้าสั้น ๆ “ขอบคุณค่ะ” แล้วหันกลับไปเดินต่อ ใจเธอไม่ได้เต้นแรง แต่มีน้ำหนักบางอย่างในอกที่ต้องจัดการ เธอตั้งใจไว้เลยว่าคืนนี้จะคุยกับมินตรา ว่าควรวางระยะยังไงให้ชัดเจน 💭
อีกฝั่งของสนาม วายุกำลังจะข้ามถนนจากโรงกลึงมาที่ตึกอักษร เขาใส่แจ็กเก็ตยีนส์ หมวกแก๊ปใบเดิม มือซ้ายถือขวดน้ำสองขวดกับเอกสารกราฟ เขาตั้งใจจะมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อยเพื่อเช็กโปรเจกเตอร์ แต่ดันเห็นภาพตรงหน้าตึก ผู้ชายเสื้อเชิ้ตขาวเนี้ยบกำลังยื่นถุงขนมให้สายธาร 🍞 เธอรับมาแบบสุภาพ แสงเย็นตกพอดี เหมือนฉากที่มีน้ำหนักบางอย่าง
วายุหยุดทันที ภาพมันอยู่ตรงหน้าหลบไม่ทัน เขาเห็นกฤตย์ยิ้มแบบมั่นใจ แล้วสายธารพยักหน้ารับ ก่อนหันเดินออกมา
ความรู้สึกแรกที่แล่นขึ้นมาคือความร้อนวูบในอก มันคือ หึง ที่เขาไม่อยากเรียกชื่อนั้น แต่ก็หนีไม่ได้ มือที่ถือขวดน้ำบีบแน่นจนพลาสติกยุบ เขาก้มหน้าจัดลมหายใจ แล้วเงยขึ้นใหม่ พยายามอ่านสถานการณ์ให้เหมือนคนนอก กฤตย์ดูดี สุภาพ และชัดเจนว่า “สนใจ”
ในใจวายุเหมือนมีสองทาง จะเดินไปยืนข้างเธอ หรือหายไปเลยสักพัก สุดท้ายเขาเลือกยืนนิ่ง รอให้สายธารเดินมาเอง
ไม่นาน เธอเงยหน้ามาเจอเขาตรงทางเดิน “อ้าว…มาถึงเร็วจัง”
“เพิ่งเสร็จจากโรงกลึง เลยแวะมาเร็ว” เขาตอบเรียบ ๆ แต่สายตาแอบมองถุงขนมในมือเธอแวบหนึ่ง ก่อนส่งขวดน้ำให้เหมือนทุกครั้ง 🥤
“ขอบใจ” เธอรับ แล้วพูดเพิ่ม “เมื่อกี้กฤตย์ซื้อขนมให้ เขาแค่สุภาพ ช่วยถือของ แล้วบังเอิญเจอ”
“อืม” วายุตอบสั้น ๆ
ทั้งคู่เดินเคียงกันขึ้นตึก ไม่ได้อธิบายอะไรยาว ๆ แต่วายุตาพูดแทนใจ—เข้มขึ้นนิดหน่อยแบบควบคุมไว้
ขึ้นห้องซ้อม เขาจัดโปรเจกเตอร์ เปิดสไลด์ตามปกติ เสียงพูดยังนิ่ง แต่หางเสียงสั้นลง สายธารสังเกตได้ เธอหายใจเข้าลึก ตั้งใจว่า หลังซ้อมคงต้องคุยตรง ๆ
ซ้อมรอบแรกผ่านเนียน รอบสองดียิ่งกว่า วายุทำงานเป๊ะเหมือนเดิม แต่คนดูอย่างมินตราที่นั่งมุมหลังเห็นชัดว่าแววตาเขา “เข้ม” กว่าปกติ
เธอส่งข้อความหาเพื่อนทันที 📱
Min: โอเค ข่าวด่วน นายหล่อบริหารโผล่มาใช่ไหม
Saitharn: อือ บังเอิญ
Min: แววตาพายุเข้มขึ้น 0.8 ระดับ
Saitharn: เห็นเหมือนกัน เดี๋ยวซ้อมเสร็จฉันคุย
พอซ้อมเสร็จ วายุม้วนสาย เก็บรีโมต ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เขาเงียบ เงียบแบบไม่กวน สายธารเดินไปยืนข้าง ๆ “วันนี้ทำดีมากนะ พรุ่งนี้ฉันจะพิมพ์ส่งเวอร์ชันท้าย แล้วเราพักหนึ่งวัน”
“อืม” เขาพยักหน้า
เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนสายธารพูดตรง ๆ “เมื่อกี้ข้างล่าง…เขาแค่มาส่งของ เขาพูดดี แต่ฉันก็บอกแล้วว่าไม่ต้องลำบากบ่อย”
วายุยืนนิ่ง หายใจเข้าออกช้า ๆ “โอเค” เขาพูดสั้น ๆ แต่ในตาเต็มไปด้วยคำอื่น ๆ ทั้งหวง กลัวเสีย และยังไม่พร้อมจะสู้แบบบ้าบิ่น แววตาเลยดูมืดลงนิดหน่อย
สายธารสบตาเขาแวบเดียว ก่อนพูดเบา ๆ “ฉันยังเหมือนเดิมนะ นายเดินพอดี ฉันก็เดินด้วยพอดี”
คำนี้เหมือนน้ำเย็นราดลงบนไฟ วายุพยักหน้าช้า ๆ “อือ…ขอบใจ” ไหล่เขาคลายลงหน่อย
มินตราไอเบา ๆ จากมุมห้อง “เอิ่มมม งั้นฉันไปก่อนนะคะเด็ก ๆ ซ้อมดีมาก บายค่ะ” แล้วรีบเผ่นออกไป สายธารเผลอหัวเราะ ส่วนวายุแค่ยิ้มมุมปากบาง ๆ
“ไปส่งไหม” เขาถามตอนเก็บของเสร็จ
“ไม่เป็นไร วันนี้ฉันอยากเดินคนเดียวหน่อย” เธอตอบจริงใจ ไม่ใช่ผลักไส แต่เพื่อให้ทั้งคู่ได้คิดคนละทาง “ขอบใจสำหรับน้ำ”
วายุพยักหน้า “โอเค…ถึงแล้วบอกด้วย”
“อือ”
ก่อนออกไป เธอหยิบถุงขนมปังชีสขึ้นมา “ฝากภาคินกินครึ่งหนึ่ง เดี๋ยวฉันส่งให้พรุ่งนี้”
“ได้” เขารับพร้อมยิ้มจาง ๆ
สายธารเดินออกจากห้อง วายุยืนมองจนประตูปิด ก่อนหันกลับไปเก็บของ เขานวดขมับเบา ๆ ไล่ความร้อนในหัว รู้ตัวว่าแววตาหลุด ไม่ได้อยากเป็นเจ้าของใคร ทั้งที่สัญญาไว้แล้วว่าจะ “เดินพอดี” แต่พอเจอคู่แข่งจริง ๆ ถึงรู้ว่ามันใช้แรงใจกว่าที่คิด
เขาเดินลงบันไดหลังตึก ลมเย็นปะทะหน้า โทรศัพท์สั่นขึ้นมา
Saitharn: [ถึงแล้วนะ]
Vayu: [โอเค พักเถอะ]
เขาลังเลนิด ก่อนพิมพ์เพิ่ม
Vayu: [ขอบคุณที่บอกตรง ๆ]
สามจุดเด้งขึ้น
Saitharn: [อือ]
วายุเก็บโทรศัพท์ ยืนพิงราวเหล็กเงียบ ๆ หายใจลึกขึ้นนิด แต่ภาพชายเสื้อเชิ้ตเนี้ยบยื่นถุงของยังวนอยู่ในหัว
“ไม่พูด…ไม่ใช่ไม่รู้สึก” เขาพึมพำเบา ๆ “แต่จะไม่ทำให้เธอลำบาก”
เขาเดินไปที่ลานจอดบิ๊กไบค์ สตาร์ตเครื่องช้า ๆ คืนนี้เขาจะกลับห้อง ไม่แวะไหน เขาจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาโปะหน้า แล้วเตือนตัวเองว่า เดินพอดี…แต่อย่าหลับตา 🚴♂️
ด้านสายธาร เธอเดินผ่านสนามช้า ๆ มือกำโทรศัพท์แน่นขึ้นนิด อ่านข้อความเขา [ขอบคุณที่บอกตรง ๆ] แล้วใจอุ่นขึ้น เธอรู้ว่าภาพเมื่อครู่คงติดใจเขา แต่ก็ภูมิใจที่เขาไม่พุ่ง ไม่กวน ไม่ถามจี้ ทั้งที่มันยากสำหรับวายุมากกว่าที่ใครคิด
ถึงป้ายรถ เธอนั่งลง หยิบถุงขนมออกมาถ่ายรูป
ส่งให้มินตรา 📱
Saitharn: ของฝากจากกฤตย์ จะส่งให้กินครึ่งหนึ่ง
Min: โอเค แต่ถ้าบ่อยไป ฉันจะทำป้าย “ห้ามจอด” ให้เธอ 🚫
Saitharn: 555 ใจเย็น
Min: จำกติกาเราไว้นะ
Saitharn: จำ
ขึ้นรถเมล์ เธอนั่งริมหน้าต่าง ลมพัดผมเบา ๆ ใจค่อย ๆ กลับมาสงบ เธอคิดว่า คืนนี้ต้องเขียนบันทึกยาวกว่าปกติ เรื่องขอบเขตที่อยากวาง และความชัดที่ต้องบอกกับคนอื่นให้สุภาพ
🌒 ค่ำที่ห้อง
วายุนั่งพิงเตียง มองผ้าเช็ดหน้าผืนเดิม
📝 เขาเปิดโน้ตมือถือ พิมพ์สั้น ๆ
•เห็นเขา (กฤตย์) ทำดีต่อเธอ
•ใจมืดวูบแรก แต่ยังควบคุมได้
•สิ่งที่ต้องทำ: เดินพอดี / ไม่กวน / ไม่หายไป / ไม่แซะ
•สิ่งที่ห้ามทำ: ประชด / แข่งด้วยความเสียงดัง / ดึงเธอไปอยู่ตรงกลาง
จากนั้นส่งข้อความหาเพื่อน 📱
Vayu: พรุ่งนี้ว่างไหม กูอยากซ้อมกลองสั้น ๆ
Pakinn: ได้ดิ อย่าทุบหัวกลองเป็นหน้าคู่แข่งก็พอ 555
Vayu: ไอ้สัส
Pakinn: ล้อเล่น เอ้อ ดีแล้วที่บอก แปลว่ายังหัวเราะได้
วายุหัวเราะในคอจริง ๆ นิดหนึ่ง แล้วเอนตัวลง นึกถึงคำของสายธาร ยังเหมือนเดิมนะ มันช่วยให้ใจนิ่งขึ้น ถึงภาพเมื่อเย็นยังตามหลอน แต่เสียงในหัวเปลี่ยนเป็นคำสั้น ๆ ที่ชัดขึ้น
ฉันจะไม่เร่ง…แต่จะอยู่ให้ชัด
ฉันจะไม่แย่ง…แต่จะดูแลในระยะที่เราเลือกด้วยกัน
คืนนี้ เขาไม่พูดอะไร แต่ใจเริ่มชัดขึ้นอีกนิด 💭
⟡ ⍤ ᱸ⁎⁺˳ ♡̩͙ ꙳꒰•◡̎•꒱꙳ ♡̶ ⟡ ⑅◡̈ 𓇥 ✩‧₊˚