📚 ♡̶ ⟡ ⑅◡̈ 𓇥 ✩‧₊˚
🔆 เช้าวันศุกร์ฟ้าใส
สนามหน้าตึกดูสว่างเหมือนโดนไฮไลต์ 🌤️ สายธารวางโน้ตบุ๊กลงที่โต๊ะมุมเดิม เปิดไฟล์ “สรุปหลังโปรเจกต์” แล้วเขียนโพสต์อิทสามคำ “เกลา – เช็ก – ส่ง” หัวใจวันนี้เต้นเรียบ ๆ คิดว่าทุกอย่างน่าจะกลับสู่โหมด “พอดี” ได้แล้ว
กฤตย์เดินเข้ามาพร้อมถุงกระดาษกับแก้วกาแฟ “สวัสดีครับคุณสายธาร ผมแวะคาเฟ่มาเลยหยิบอเมริกาโน่มาฝาก ไม่ใส่น้ำเชื่อมเหมือนเดิม”
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบสุภาพ พยายามคุมโทนกลาง ๆ
เขาวางแก้วลงอย่างพอดี พร้อมเลื่อนกล่องขนมปังเข้ามา “อันนี้เผื่อบ่าย”
ยังไม่ทันได้คุยต่อ เสียงรองเท้าผ้าใบก็ดังขึ้น วายุเดินมาพร้อมขวดน้ำสามขวดกับแฟ้ม 📂 เขาวางขวดน้ำตรงมือสายธารแบบเป๊ะ แล้วหันไปยักคิ้วให้กฤตย์ “มีบูธแจกกาแฟฟรีเหรอครับคุณ…กฤตย์ใช่ไหม”
กฤตย์ยิ้มสุภาพ “ใช่ครับ คุณวายุ พรีเซนต์วันนั้นทำได้ดีมาก”
“อือ ขอบใจ” วายุตอบสั้น ๆ แล้วดึงเก้าอี้นั่งลงข้างสายธารทันที ไม่เว้นระยะเหมือนปกติ เขาโน้มไปดูโน้ตบุ๊ก “หัวหน้า เราเกลาย่อหน้าแรกก่อนนะ จะได้ส่งตอนบ่าย” เน้นคำว่า หัวหน้า ชัดมาก จนสายธารเหล่มองนิด ๆ
กฤตย์หัวเราะบาง “งั้นผมไปนั่งมุมนู้น ฝากลองขนมด้วยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณ” เธอยิ้มสุภาพ
พออีกฝ่ายเดินห่าง วายุก้มพิมพ์เร็วผิดปกติ “ย่อหน้าแรกตัดคำว่า ‘สัญญา’ ออกนะ มันใหญ่เกิน เอาเป็น ‘จังหวะเงียบ’ แทน”
“โอเค” เธอตอบสั้น ๆ แล้วจิ้มโพสต์อิทแก้
สิบห้านาทีผ่านไป ทุกอย่างเหมือนปกติ…แต่ไม่ปกติ ทุกครั้งที่กฤตย์เดินมาที่โต๊ะด้วยเหตุผลเล็ก ๆ วายุจะขยับเล็ก ๆ เสมอ เช่น เลื่อนเก้าอี้เข้าหาเธอครึ่งฝ่ามือ วางแขนพาดพนัก หรือพูดแทรกสั้น ๆ บรรยากาศเลยแอบตึง ๆ แบบไม่ต้องชนโต๊ะ
“เล่ม ลมหายใจในประโยค มีปกใหม่ไหมครับ” กฤตย์ถาม
ยังไม่ทันสายธารตอบ วายุสวนทันที “ชั้นซ้ายสุด แถวล่าง เดี๋ยวฉันไปหยิบเอง” แล้วลุกเร็วเหมือนสปริง สายธารรีบแตะเสื้อเขาเบา ๆ “ไม่ต้อง ฉันบอกได้” จากนั้นหันไปยิ้มให้กฤตย์ “มีค่ะ ชั้นซ้ายสุด แถวล่างจริง ๆ”
กฤตย์พยักหน้าแล้วเดินไปหยิบ วายุนั่งลงช้า ๆ เหมือนรู้ตัวว่าพุ่งแรงไปหน่อย
พักห้านาที สายธารยกน้ำขึ้นจิบ วายุจ้องแก้วกาแฟของกฤตย์แล้วบ่นพึม “ศูนย์น้ำเชื่อมนี่คาเฟอีนแรงนะ เดี๋ยวใจเต้นถี่”
“ฉันโอเค” เธอตอบเรียบ ๆ
“ก็โอเค แต่ดื่มน้ำตามด้วย” เขาเปิดฝาขวดน้ำแล้วยื่นให้
เสียงมินตราดังขึ้นพอดี “โหมดเฝ้าประตูเปิดใช่ไหมคะคุณพายุ 😏” เธอยืนกอดอก ทำหน้าเหมือนจะขำ
วายุไม่หัน “ตรวจคุณภาพน้ำตาลอยู่”
สายธารถอนหายใจยาวในใจ ใจเย็นก่อนนะ นายพายุ 😅
เที่ยง ทั้งสี่ลงโรงอาหารพร้อมกันโดยบังเอิญ 🍚 กฤตย์ยิ้มสุภาพ “ผมเลี้ยงข้าวคุณสายธารได้ไหม ถือว่าแทนกาแฟเมื่อเช้า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจ่ายเอง” สายธารรีบปฏิเสธ
วายุสอดขึ้นทันที “ข้าวผัดไข่เธอสิ เหมาะกว่า วันนี้มีอ่านบ่าย กินไก่ทอดเดี๋ยวง่วง” แล้วหันไปสั่งกับแม่ค้า “ข้าวผัดไข่หนึ่ง ไม่เผ็ด เพิ่มแตงกวา ขอบคุณครับ” จากนั้นหันมามองสายธารเหมือนจะบอกว่า ฉันรู้นะว่าเธอกินอะไร
กฤตย์หัวเราะเบา ๆ “รู้ละเอียดดีจัง”
“ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน” วายุยักคิ้ว 😏
โต๊ะกลางวันเลยออกมาแปลก ๆ วายุนั่งข้างสายธาร กฤตย์นั่งตรงข้าม มินตรารีบแทรกอีกด้านเพื่อลดไฟ 🔥 สายธารตั้งใจคุยกลาง ๆ “วันนี้คุณกฤตย์มีคลาสไหมคะ”
“บ่ายผมมีพรีในชมรมครับ” เขาส่งกระดาษใบเล็ก “อาทิตย์หน้ามีเสวนาธุรกิจ ถ้าคุณว่าง ผมอยากชวน…ไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้”
วายุรีบเสริมเสียงเรียบ “อาทิตย์หน้าทีมเรามีเช็กโพสต์โปรเจกต์ด้วยนะหัวหน้า”
สายธารเหล่มองทันที แค่ตาเดียวก็สื่อว่า อะไรของนาย 🙄 วายุทำหน้าเฉย “อ้าว ก็บอกให้รู้เฉย ๆ” แล้วก้มกินข้าวต่อ
กินเสร็จ กฤตย์อาสาถือถาดขยะไปทิ้ง เธอพยักหน้าขอบคุณ ระหว่างเดินกลับ กฤตย์เปิดประตูให้ สายธารยิ้ม “ขอบคุณค่ะ” วายุเดินไปผลักอีกบาน “เข้าคู่ ทางโล่งกว่า” น้ำเสียงเหมือนปกติ แต่โทนในหัวคือ ฉันก็ทำได้
บ่าย ห้องสมุดเงียบแต่วุ่น วายุก้มหน้าแก้กราฟ สายธารไล่คำทีละบรรทัด กฤตย์เข้ามาถามเป็นระยะ ๆ ส่วนวายุทำตัว “เหมือนเดิมแต่ไม่เหมือนเดิม” ทั้งนั่งแทรก คอมเมนต์กวน สะกิดหยิบโพสต์อิทบ่อยกว่าปกติ จนหัวใจสายธารเริ่มอ่อนล้า 🫠
“คุณสายธาร เล่ม บทสนทนาในความเงียบ อยู่ไหนครับ” กฤตย์ถาม
สายธารกำลังจะตอบ แต่วายุลุกทันที “เดี๋ยวไปหยิบให้” คว้ากุญแจลิ้นชักไวมาก
“พายุ” เธอเรียกเบา ๆ
เขาชะงัก “หืม”
“ฉันตอบได้นะ”
วายุหลบตา “อือ…ชินมือเฉย ๆ” แล้วก็เดินไปหยิบอยู่ดี
กฤตย์ยิ้มเจื่อน ๆ เหมือนได้กลิ่นไฟบาง ๆ ในอากาศ “ขอบคุณครับ”
ไม่นาน วายุกลับมาพร้อมหนังสือ แล้วยื่นผ่านสายธารไปให้กฤตย์เรียบร้อย แต่ปลายนิ้วจับสันหนังสือแน่นกว่าปกติ วินาทีนั้นสายธารรู้สึกเหมือน “จังหวะเงียบ” ที่เธอคุมไว้ ถูกใครบางคนเร่งขึ้น เธอก้มหน้ากลืนลมหายใจ “พักสิบห้านาที ฉันลงไปซื้อผลไม้” 🍎
“เดี๋ยวไปด้วย” วายุรีบลุก
“ไม่เป็นไร” เธอยิ้มบาง “ฉันอยากเดินคนเดียวแป๊บ”
เขาหยุดครู่หนึ่ง ก่อนนั่งลงใหม่ช้า ๆ “อือ”
ทางเดินชั้นล่างลมเย็นกว่าที่คิด เธอหยุดหายใจลึก ๆ เหมือนรีเฟรชอากาศ ซื้อฝรั่งหั่นหนึ่งถุงแล้วกลับขึ้นบันไดให้ใจนิ่งก่อนเข้าห้อง
ถึงโต๊ะ เธอยื่นถุงให้เขา “แบ่ง”
“ขอบใจ” เขารับ แต่ถามต่อ “โอเคขึ้นไหม”
“ดีขึ้น” เธอตอบ แล้วมองตรง “นาย…ไม่เหมือนเดิมนะวันนี้”
วายุวางถุงฝรั่งลง “รู้ตัว”
“ตอนเช้านายช่วย ฉันดีใจ แต่ตอนบ่ายนายพูดแทนฉันเยอะไป นั่งแทรกจนฉันเหนื่อย” น้ำเสียงเธอนิ่มแต่ตรง
วายุหายใจยาว มองปลายนิ้ว “โอเค…ขอโทษ กูไม่ชอบเวลาเห็นเขามา—เออ ไม่ชอบจริง ๆ แต่กูก็ไม่ควรทำให้เธอเหนื่อยไปด้วย”
คำว่า “ไม่ชอบ” แบบตรง ๆ ทำให้สายธารผ่อนคลายขึ้น เธอพยักหน้า “ขอบใจที่พูดตรง ๆ” แล้วแกล้งยิ้ม “ครั้งหน้า ถ้านายร้อน ให้นับหนึ่งถึงยี่สิบก่อน หรือไม่ก็ซื้อไอติมสองแท่งมาให้ฉันตามกติกา” 🍦
วายุเผลอยิ้มมุมปาก “ดีล”
มินตราที่นั่งไกล ๆ แอบชูนิ้วโป้ง 👍 สายธารทำหน้า เห็นนะ กลับไปหนึ่งที แล้วก้มพิมพ์งานต่อ บรรยากาศเริ่มกลับมาเป็นปกติ วายุขยับเก้าอี้ให้อยู่พอดี พูดเท่าที่จำเป็น ใส่มุกเล็ก ๆ เบา ๆ จนบรรยากาศเริ่มสบายขึ้น
ช่วงบ่าย กฤตย์กลับมาคืนหนังสือ “ผมเอามาคืนก่อนเวลา จะไปประชุมคณะต่อ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ” เขาวางการ์ดเชิญเล็ก ๆ อีกครั้ง “อันนี้ไม่ต้องรับก็ได้ แค่อยากให้รู้ว่าที่นั่งคุณสำคัญ”
สายธารยิ้มสุภาพ แต่ชัดขึ้น “ขอบคุณค่ะ ฉันคงไม่ไปนะ ช่วงนี้อยากพักจริง ๆ”
กฤตย์รับ ไม่มีสีหน้าเสีย แค่ยิ้ม “โอเคครับ ไว้เจอกัน” แล้วไปจริง ๆ
วายุยังจ้องจอ แต่หางตาคลายลงนิดหนึ่ง สายธารกลั้นขำ “เด็กดื้อ”
“ฝึกอยู่” เขาตอบสั้น ๆ
เย็นใกล้ค่ำ เธอชวน “ออกไปเดินสนามหน่อยไหม อยากลมเย็นก่อนกลับ”
“ไป” เขาคว้าขวดน้ำตามทันที 🚶🏻♂️🚶🏻♀️
สนามหลังฝนเขียวสด ลมพัดพอดี เสียงนกดังอยู่ไกล ๆ ทั้งคู่เดินขนาบกัน วายุเดินฝั่งนอกเหมือนทุกครั้ง สายธารพูดเบา ๆ “วันนี้นายทำฉันเหนื่อยจริง ๆ นะ”
“รู้” เขาตอบตรง “ขอโทษอีกครั้ง”
“ฉันเข้าใจ แต่มันดีกว่าถ้านายพูดตรง ๆ ว่า ‘ไม่ชอบ’ ตั้งแต่แรก แทนการกวนหรือแทรกไปทั่ว พูดง่าย ๆ ได้เลย” เธอหันไปมอง
เขาพยักหน้า “จะจำ”
“แล้วก็อย่าพูดแทนฉันมากไป ฉันตอบเองได้ ต่อให้คำตอบเหมือนกัน แต่ฉันอยากเป็นคนพูด”
“อือ ถ้าเผลออีก เตือนได้เลย”
“เตือนแน่” เธอยิ้มบาง “ถ้าเตือนแล้วยังเผลอ—ไอติมสองแท่งนะ” 😏
“รับทราบหัวหน้า” วายุกลับมาโหมดขำ น้ำเสียงไม่แข็ง ไม่แซะ เหมือนทุกอย่างเริ่มเข้าที่อีกครั้ง
พวกเขานั่งพักบนบันไดเหล็กหลังตึก ที่เดิมของสองคน เงียบไปพักหนึ่ง วายุพูดเองก่อน
“ถามได้ไหม”
“ได้”
“ตอนเขามา…เธออึดอัดไหม”
สายธารคิดนิด “ไม่อึดอัดนะ แต่ถ้าเขาทำบ่อย ฉันจะบอกให้ชัดกว่าเดิม เหมือนที่บอกวันนี้” เธอหันหน้าตรง “ส่วนนาย แค่รักษา ‘พอดี’ ของเราไว้ก็พอ”
วายุพยักหน้าแรงขึ้นนิด “โอเค กูจะพยายามให้มันพอดี แบบไม่หายไป”
“ดีมาก” เธอยิ้มจริงจัง “ไม่ต้องหายไป แค่อย่าบัง”
ลมเย็นพัดเฉียดแขน คำสุดท้ายฟังเหมือนกลอน วายุหัวเราะเบา ๆ “ไม่บัง” 🙂
ตอนแยกกันหน้าตึก สายธารสะพายกระเป๋า หันกลับมาชูสองนิ้วน้อย ๆ “ถึงแล้วบอกด้วยนะ”
“อือ” เขาตอบสั้น ๆ แต่ยิ้มมุมปากแบบที่เธอชอบ
🌒 ช่วงค่ำ
ร้านหนังสือเปิดไฟอุ่นเหมือนเดิม มินตราแวะมานั่งที่เคาน์เตอร์ “เล่า”
สายธารหัวเราะ “คุมไฟได้แล้ว”
“เขายอมฟังไหม”
“ยอม แล้วก็พูดตรง ๆ ด้วยว่า ‘ไม่ชอบ’” เธอหยิบสมุดบันทึก “คืนนี้คงเขียนยาวหน่อย”
“หัวข้อเดิม?”
“เพิ่มคำว่า ‘หึง’ เข้าไป” เธอยิ้มบาง ๆ 😌
มินตราทำหน้าร้าย “ฉันบอกแล้วว่าเขามีพายุในตัว” แต่ก็ยิ้มอ่อนลง “ดีที่พายุยอมฟังเข็มทิศ”
หลังปิดร้าน สายธารขึ้นห้อง เปิดโคมไฟ เขียนบันทึกเรียบ ๆ
“วันนี้ฉันเห็นวายุไม่เหมือนเดิม
เขานั่งแทรก พูดแทน แซวแรง ๆ หลายจังหวะ
แต่พอฉันบอก เขาก็ยอมฟัง ยอมช้าลง และพูดตรง ๆ ว่า ‘ไม่ชอบ’
ฉันไม่ได้ต้องการคนที่ไม่รู้สึก
ฉันต้องการคนที่กล้ารับความรู้สึก และกล้าจัดระยะของมัน
เราจะลองใช้กติกาเดิม—นับหนึ่งถึงยี่สิบ ไอติมสองแท่ง และคำสั้น ๆ ที่ตรงไปตรงมา”
เธอวางปากกา ยิ้มกับตัวเอง “โอเค”
อีกฝั่งของเมือง คอนโด 1207 วายุนั่งพิงเตียง
เปิดโน้ตในมือถือ เขียนเหมือนจดบันทึก ✍️
•เห็นเขา (กฤตย์) → ใจร้อน
•สเต็ป: หยุด – นับ 1–20 – ถ้าไม่ไหว = ไอติม 2 แท่ง 🍦
•ไม่พูดแทนเธอ
•ถ้าไม่ชอบ → พูดว่า “ไม่ชอบ” ตรง ๆ
•เดินพอดี ไม่บัง ไม่หาย
เขาหัวเราะน้อย ๆ กับข้อสุดท้าย “ไม่บัง ไม่หาย” —สองคำง่าย ๆ แต่โคตรยากในบางวัน วายุตบผ้าเช็ดหน้ากับหน้าผากให้ใจเย็น
แล้วพิมพ์หาสายธาร 📱
Vayu: ถึงห้องละ
Saitharn: ถึงแล้วเหมือนกัน
Vayu: วันนี้…ขอโทษอีกที
Saitharn: โอเค
Vayu: พยายามอยู่
Saitharn: เห็นอยู่ 💬
เขาวางมือถือ ยิ้มจาง ๆ เอนตัวลง ปล่อยให้ไฟเมืองลอดม่าน ก่อนจะหลับก็หัวเราะเบา ๆ ในคอ กูหึงใช่ไหม …ใช่ แต่จะหึงให้พอดี
🔆 วันถัดมา
บรรยากาศเบาขึ้น กฤตย์ยังทักแบบสุภาพเพราะเธอวางขอบเขตไว้แล้ว วายุก็ยังอยู่ตรงเดิม ไม่บัง ไม่หาย ไม่ห่างเกิน พอบ่าย เขาถือไอติมสองแท่งกลับมาที่โต๊ะ แปะยิ้ม “วันนี้นับถึงยี่สิบทัน เลยซื้อมาเผื่อไว้” 🍦🍦
สายธารหัวเราะ “ดีมาก” เธอรับมากัดคำเล็ก ๆ หวานเย็นพอดี ใจเธอนิ่งเหมือนลมเย็นที่พัดผ่านหน้าต่าง
พอเก็บของกลับบ้าน เธอเงยหน้ามองกระจกโถง เห็นตัวเองยิ้มมุมปากโดยไม่ตั้งใจ แล้วคำถามเดิมก็กลับมา…แต่คราวนี้คำตอบชัดขึ้น
ใช่ เขาหึง
แต่เป็นความหึงที่คุยกันได้ วางกติกาได้ และทำให้ทั้งสองคนเรียนรู้จะ “พอดี” มากขึ้น แทนที่จะปล่อยให้พัง
🌙 คืนนั้น
สมุดบันทึกของเธอมีบรรทัดปิดท้ายว่า…?
“วันนี้ ฉันคิดว่าเขาหึง…และฉันไม่หนี ฉันเลือกคุย” 🫠
♡ ◟✦✩‧₊˚ ˗ˏˋ ♡ ˎˊ˗ ⟡ ⑅◡̈