📚 ᨳ ﹅♥︎₊˚✧ ₊
โปรเจกต์ใกล้จบแล้ว เสียงคีย์บอร์ดในห้องสมุดดังพอ ๆ กับเสียงหัวใจของสองคนที่พยายามไม่ให้ดังไปมากกว่านี้ 📚
วันไหนมีเรียนก็นัดหลังเลิก วันไหนว่างก็นัดเช้า ทุกอย่างเหมือนเดิมแต่ถี่ขึ้น ชัดขึ้น และเงียบแบบเข้าใจกันมากขึ้น
🔆 เช้าวันจันทร์
สายธารมาถึงก่อนเหมือนเคย เธอแปะโพสต์อิทสีเหลืองเรียงไว้ “เช็กหน้า 7” “เกลาบทสรุป” “ซ้อมพรีเซน” แล้วหยิบปากกาเพิ่มอีก “พักกินน้ำทุก 30 นาที” 😂 เธอหัวเราะเบา ๆ กับกฎเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตมาหลายครั้ง
วายุเดินเข้ามาเงียบ ๆ พร้อมขวดน้ำสามขวดเหมือนเคย หนึ่งให้เธอ อีกหนึ่งให้ภาคิน อีกหนึ่งขวดวางเผื่อไว้ “วันนี้ปิดหน้า 5–10 ให้เรียบ แล้วซ้อมปากเปล่า” เขาพูดสั้น ๆ แต่จริงจังกว่าทุกที
“โอเค หัวหน้าฝ่ายกราฟ” เธอยิ้มรับ 🙂 ก่อนเปิดไฟล์อ่านทวน วายุนั่งข้าง ๆ เว้นระยะตามที่เคยตกลง เขาปรับสีกราฟให้ดูง่ายขึ้น ใส่คำอธิบายใต้ภาพสั้น ๆ ตามที่เธอสอน “ชัด ไม่ต้องเท่”
ภาคินโผล่มาทีหลัง วางขนมปังลงบนโต๊ะ “เช้านี้โลกเงียบดีเนอะ กูขอเป็นฝ่ายอาหารละกัน”
“ดีมาก” สายธารยิ้ม “กินก่อนค่อยเกลา จะได้ไม่หงุดหงิดคำ”
“คำก็เหมือนน็อต” วายุเสริมขำ ๆ “หิวเมื่อไรขันเกินทุกที” 🔧
บรรยากาศเลยเหมือน “บ้านเล็ก ๆ” ที่ทุกคนรู้หน้าที่ สายธารคุมคำ ภาคินคุมเวลา วายุคุมภาพรวม ทุกอย่างลื่นจนรุ่นน้องที่เดินผ่านยังอมยิ้ม “ทีม 304 ไฟลุกอีกแล้ว” แต่ทั้งสามไม่ได้สนใจ เพราะสายตายังอยู่กับงาน
เที่ยง ทั้งสามลงโรงอาหาร นั่งโต๊ะติดกระจก มองออกไปสนาม วายุแกะกล่องข้าวไก่ย่าง สายธารกินข้าวผัดเหมือนเดิม ภาคินบ่นเรื่องคาบบ่าย ก่อนปิดด้วย “ทำได้แหละน่า” ✌️ และมันก็จริง พวกเขาทำได้เสมอ
บ่าย ภาคินแยกไป เหลือสายธารกับวายุซ้อมเสียงพรีเซนต์ วายุอ่านจากสคริปต์ของเธอ “จากการทดลอง เราพบว่า ‘ความซ้ำที่ไม่เจ็บ’ คือแกนของความไว้ใจ…” เขาหยุด หายใจ แล้วลองใหม่ให้เสียงนิ่งกว่าเดิม
สายธารพยักหน้า “ดีมาก” แล้วขีดเส้นใต้คำว่า ซ้ำ พร้อมเขียน “ช้า” ไว้ข้าง ๆ “ตรงนี้ลากเสียงนิดนึง”
“ครับคุณครู” เขายิ้มมุมปาก หยอดกวนพอให้บรรยากาศเบา แล้วก็ทำตามจริง ๆ
บ่ายแก่ กันสาดหน้าตึกสะท้อนแดด สายธารปิดโน้ตบุ๊ก วายุก้มเก็บสายชาร์จ “กลับร้านไหม วันนี้ฉันผ่านพอดี”
“กลับ” เธอตอบสั้น ๆ “แม่คงทำชาใหม่” 🍵
“ดี ลองกินรสเดิม” เขายักคิ้ว—ทั้งคู่รู้แล้วว่าภาษาเดียวกันคือ ภาษา “รสเดิม” ภาษา “ที่เดิม” ภาษา “ไม่รีบตั้งชื่อ”
ค่ำที่ร้าน ไฟอุ่น ลูกค้าประจำแวะซื้อหนังสือ บ้างนั่งอ่าน บ้างคุยกับพ่อเรื่องงานไม้ สายธารจัดชั้น “กวีนิพนธ์ที่อ่านแล้วใจเบา” 📖 วายุช่วยติดป้ายราคาอย่างตั้งใจ แม่หัวเราะ “ติดตรง ๆ หน่อยลูก” เขาก็ตั้งใจขึ้นกว่าเดิม
พักหนึ่ง เขาเลื่อนโพสต์อิทเล็ก ๆ มาให้สายธาร “น้ำ” เธอยิ้ม รับขวด จิบเงียบ ๆ เขาไม่ได้สั่ง แค่เตือนเบา ๆ และความเบานั้นก็เข้ากับเธอดี
หลังร้านปิด วายุกลับคอนโด 1207 ลิฟต์จอด เขามองเงาตัวเองในกระจก ตาแดงที่เคยมีหายไปแล้ว เหลือแต่ความล้าแบบคนทำงาน ไม่ใช่คนต่อสู้ เขาวางพวงกุญแจข้างกรอบรูปสีซีด ที่ตอนนี้มีผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ๆ วางไว้…กลิ่นชา เบามาก แต่ชัดมาก 🤍
เขาไม่หยิบกีตาร์ ไม่ตีกลอง แค่นั่งพิงเตียง หายใจช้า ๆ อยู่กับเงียบที่เพิ่งรู้ว่า “ทำให้เราอยู่กับตัวเองได้จริง” 🌙
มือถือสั่น 📱
Saitharn: ถึงบ้านแล้วนะ
Vayu: ถึงคอนโดแล้ว
Saitharn: พรุ่งนี้ 10:00 ซ้อมรอบใหญ่
Vayu: รับทราบ หัวหน้า
Saitharn: นอนเร็ว ๆ
Vayu: พยายาม
เขาวางมือถือ ใจวนอยู่กับภาพเย็นนี้—มือเธอที่รับโพสต์อิท เสียงแม่เธอที่บอก “กินขนมด้วยนะลูก” สีหน้าพ่อเธอที่พยักหน้า ทุกอย่างเหมือนวิดีโอสั้นที่อยากกดดูซ้ำ
เขาหยิบแม่เหล็กตัวอักษร STAY OK ข้างกรอบรูปขึ้นมาแตะ ๆ ตัว “Y” ที่เคยเอียง เขาไม่ฝืนให้ตรงแล้ว ปล่อยให้เอียงนิด ๆ ตามบุคลิก เหมือนยอมรับว่าบางอย่างไม่ต้องตรงก็อยู่ได้ แค่ไม่หลุดจากคำสำคัญก็พอ 💭
ภาพสายธารลอยขึ้นมา วันแรกที่ลานจอด เธอไม่หนี วันในห้องสมุดที่เธอดุ วันหน้าห้องเรียนที่เธอตอบเพื่อนสั้น ๆ วันที่ได้ผ้าเช็ดหน้า เธอยื่นให้เงียบ ๆ ไม่มีคำสอน เขานึกถึงทุกภาพ เหมือนเรียงเฟรมแล้วถามตัวเอง
ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร
เขาตอบในใจไม่เป็นประโยค รู้แค่ว่า…
เพราะเธอไม่วิ่งตาม ไม่วิ่งหนี แต่ยืนพอดี
เพราะเธอทำให้ “เงียบ” มีความหมาย
เพราะเธอไม่รีบเสนอคำตอบ
เพราะเธอให้ที่ว่างกับลมหายใจ
เพราะเธอทำให้คำว่า “บ้าน” ไม่ใช่ผ้าห่มที่ปิดปาก แต่เป็นกลิ่นชา ไม้ และเสียงหัวเราะ ☕🌿
และเพราะเวลาโลกดัง เธอไม่แย่งพูดกับโลก เธอแค่ยื่นผ้าแผ่นหนึ่ง
เขามองผ้าเช็ดหน้าอีกครั้ง กลิ่นชาจาง ๆ ยังอยู่ 🍵 เขาพับมันดี ๆ วางไว้บนหัวเตียง เหมือนธงเล็ก ๆ ที่บอกว่า “โซนปลอดภัย”
คืนนี้เขาไม่เปิดเพลง ปล่อยเสียงเมืองเป็นพื้นหลัง เสียงรถ เสียงลิฟต์ เสียงน้ำหยดจากแอร์ กลายเป็นจังหวะที่ทำให้ใจเขาช้าลง เขานึกถึงคำของเธอ “ความซ้ำที่ไม่เจ็บ” ใช่…นี่แหละ ความซ้ำที่ดี 🕊️ ข้อความสั้น ๆ ทุกคืน การเตือนกินน้ำ การเดินเคียงไม่ชน การพยักหน้า all of that มันซ้ำ และมันไม่เจ็บ แต่ช่วยรักษาแผลที่เขาไม่เคยรู้วิธีรักษาเองด้วย
ก่อนหลับ เขาเปิดโน้ตในโทรศัพท์แล้วพิมพ์สิ่งที่อยากทำหลังโปรเจกต์จบ
•พาเด็ก ม.ปลายมาดูห้องแล็บ (ขออนุญาตอาจารย์)
•ขอเพลย์ลิสต์อ่านกลอนจากเธอ 🎶
•ซื้อชาขาวดี ๆ ให้ร้านเธอ (ถามแม่เธอก่อน)
•ซ่อมแม่เหล็กตัว “Y” ให้แน่นขึ้นนิด ไม่ต้องตรง
•ฝึกพูด “ขอบคุณ” ให้คล่องพอ ๆ กับพูดมุก
เขายิ้มตอนอ่านบรรทัดสุดท้าย 🙂 มันตลกนิด ๆ แต่จริงที่สุด เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังโตแบบไม่ฝืน ไม่ต้องประชดโลก แค่ทำให้ดีในจังหวะที่พอดี 🤍
กลางวันถัดมา ทุกอย่างยังอยู่ในรางเดิมแต่เนียนขึ้น สายธารคุมคำ วายุคุมกราฟ ภาคินคุมเวลา จังหวะซ้อมไหลดี สายธารยืนหน้าห้องประชุมจำลอง ยกสัญญาณให้วายุเริ่ม เขาเปิดด้วยเสียงนิ่ง ไม่รีบไม่ลาก เธอพยักหน้า เขาเห็นแล้วใจเบา 🙂
พักเบรก เธอแบ่งบราวนี่ เขาหยิบแค่ครึ่งชิ้น ครึ่งจริง ๆ
“ไม่ต้องคุมขนาดนั้น” เธอขำ
“กลัวน้ำตาลพุ่ง”
“พุ่งแป๊บเดียว”
“คนพุ่งคือหัวใจ”
“บ้า”
หัวเราะเสร็จก็นั่งดื่มน้ำ เธอมองเมฆฝนช้า ๆ นอกหน้าต่าง “ใกล้แล้วนะ”
“อือ”
“เราทำได้”
“อือ”
คำสั้น ๆ แต่น้ำหนักพอดี แบบที่เขาชอบ และแบบที่เธอให้ได้ 🤍
เย็นนั้น เก็บของเสร็จ วายุไปส่งสายธารหน้าตึก เธอจะกลับร้าน เขาพยักหน้า ไม่รั้ง ไม่ถามยาว แค่บอก “พรุ่งนี้เจอกัน”
“เจอ”
“ฝันดี”
“ฝันดี”
เธอเดินพร้อมถุงหนังสือ เขามองจนลับมุม ก่อนเลี้ยวไปโรงกลึง พี่ช่างยื่นแผ่นเมทัลให้แล้วตบไหล่ “ช่วงนี้หน้าดีขึ้นนะ”
“หือ ทำไมครับพี่”
“เหมือนคนนอนอิ่ม”
วายุยิ้ม “คงงั้นครับ” 🙂
กลับคอนโด เขาอาบน้ำ เปิดหน้าต่าง นั่งบนพรมเหมือนเดิม ผ้าเช็ดหน้าวางอยู่หัวเตียง เขาหยิบมาแตะแก้มเบา ๆ แล้วเอนหัวพิงผนัง ปล่อยความคิดไหล
เขาถามตัวเองอีกครั้ง ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร
•เธอไม่บังคับให้เลือก “เก่ง” หรือ “อ่อน” แต่บอกว่าเป็นได้ทั้งสอง
•เธอสื่อสารด้วยการกระทำมากกว่าคำ
•เธอเชื่อใน “ความซ้ำที่ไม่เจ็บ” และทำให้ดูทุกวัน
•เธอทำให้คำว่า “บ้าน” ค่อย ๆ น่ารักขึ้น
•เธอไม่เคยเร่งให้เล่า แต่เขากลับอยากเล่าเอง
เขายิ้มกับสรุปในหัว รู้ว่ายังไม่พร้อมพูดคำใหญ่ ๆ รู้ว่ากับพ่อยังไม่ง่าย ข่าวลือยังมี แต่เขาก็มี “เครื่องมือ” มากขึ้น ความเงียบที่ดี น้ำหนึ่งขวด โพสต์อิทหนึ่งใบ ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืน และสายตาของผู้หญิงที่ “ยืนพอดี” 🌿
มือแตะแม่เหล็ก STAY OK เขาแตะ “OK” เบา ๆ แล้วปล่อย ตัวอักษรสั่นนิดเดียวแต่ไม่หลุด เขาพยักหน้า…โอเค
มือถือสั่น 📱
Saitharn: ลืมบอก วันนี้แม่ชมว่านายติดป้ายตรงดีมาก
วายุหัวเราะในคอ
Vayu: ฝากขอบคุณแม่ด้วยครับ
Saitharn: บอกแล้ว แม่ยิ้ม
Vayu: โอเค
…นิ้วหยุด แล้วพิมพ์เพิ่ม ✍️
Vayu: ขอบคุณเธอด้วย
จุดสามจุดขึ้นพักหนึ่ง ก่อนคำตอบสั้น ๆ กลับมา
Saitharn: อือ
พอแล้วสำหรับคืนนี้ เขาวางโทรศัพท์ หรี่ไฟดวงเล็ก แล้วนอนตะแคง ผ้าเช็ดหน้าวางข้างหมอน กลิ่นชาจาง ๆ ช่วยให้ใจนิ่ง 🍵
เปลือกตาค่อย ๆ ปิด มุมปากยกนิดเดียว รอยยิ้มที่ไม่มีใครเห็น นอกจากเมืองยามค่ำกับผ้าเช็ดหน้าข้างหมอน ✨
พรุ่งนี้ยังมีซ้อม ยังมีงาน ยังมีโลกที่บางทีก็ดังเกินไป แต่คืนนี้ มีเงียบที่พอดี มีคำสั้น ๆ ที่พอ และมีภาพเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เผลอยิ้มให้ใครสักคนในหัว…โดยไม่รู้ตัว 🤍
คืนเดียวกัน เมืองยังมีเสียงรถและฝนบาง ๆ 🌧️ ห้องของวายุสูงพอเห็นไฟไกล ๆ เหมือนเส้นทางไขว้ไม่รู้จบ แต่ในมุมเล็ก ๆ เขากลับนิ่ง เขานอนตะแคง มือแตะปลายผ้าเช็ดหน้าที่สายธารให้ เหมือนเผลอหาของกอดก่อนหลับ เสียงในหัวไม่ใช่เสียงพ่อ ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นเสียงเบา ๆ ของเธอ“ไม่ต้องรีบแก้โจทย์ยากในวันเดียว” คำนี้วนเหมือนเพลงกล่อม
เขานึกถึงเธอตอนขีดดินสอในสคริปต์ สายตานิ่งแต่แน่วแน่ การหัวเราะพอดีทุกครั้ง เขารู้สึกว่าเจอ “จังหวะเงียบ” ที่ทำให้ทุกคำดังขึ้น และเธอคือจังหวะเงียบนั้นในชีวิตเขา
เช้าใหม่ ลมฝนแรงจริง ๆ เมฆคลุมทั้งฟ้า แต่เขามาห้องสมุดตรงเวลา วางน้ำสามขวดเหมือนเดิม ภาคินบ่น “ฝนทำกูเปียกทั้งตัว” แต่ก็ยังยิ้ม ส่วนสายธารถือแฟ้มหนา ๆ ตาคล้ำนิด ๆ เหมือนอ่านต่อเมื่อคืน
“นอนดึก?” เขาถามสั้น ๆ
“อ่านบทกวี” เธอตอบพอ ๆ กัน เห็นเขาขมวดคิ้วเลยเติม “ยังไหว”
เขาไม่ดุ ไม่สั่ง แค่เลื่อนขวดน้ำให้ชิดมือเธอขึ้นอีกนิด เท่านี้เธอก็ยิ้มขอบคุณ
วันนี้ซ้อมจริงจังกว่าทุกครั้ง ภาคินรับบทผู้ฟังจำลอง จับเวลา ตัดคำซ้ำ ทำท่าเริ่มเบื่อให้ลองรับมือ วายุกับสายธารเลยปรับจังหวะ เธอชี้นิ้ว เขาลดเสียง เธอพยักหน้า เขาลากช้า ทุกอย่างกลายเป็นภาษากายที่เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูด 🤝
พักเบรก ภาคินวางขนม “ตุนแรงไว้ อีกไม่กี่วันพวกมึงจะเป็นตำนานคณะ”
สายธารหัวเราะ “ตำนานที่เหนื่อยมาก”
วายุไม่พูด แต่ในใจคิดว่า ถ้าเป็นตำนาน ก็อยากให้มีชื่อเธอคู่กันไม่ใช่แค่เพราะโปรเจกต์ แต่เพราะเธอคือครึ่งหนึ่งของทุกก้าวจริง ๆ
เย็นนั้น แยกกับภาคิน วายุไปส่งสายธารหน้าร้านหนังสือ ฝนพรำ กลิ่นดินชัด เธอกางร่มสีขาว เขาเดินข้าง ๆ ไม่ขอร่ม แต่ก็ไม่ทิ้งระยะไกลเหมือนก่อน
“เปียกหมดแล้ว” เธอบ่นเบา ๆ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวแห้ง”
“ดื้อ”
เขาหัวเราะหึ ๆ “ถ้าไม่ดื้อ ก็คงไม่ใช่วายุ”
ถึงร้าน พ่อสายธารทัก “ขอบใจนะที่มาส่งบ่อย”
วายุยกมือไหว้ “ไม่เป็นไรครับลุง”
สายธารยืนยิ้มเงียบ ๆ หัวใจเต้นดังกว่าฝน เพราะเริ่มชินกับการมีใครเดินข้าง ๆ แบบไม่บ่น ไม่เร่ง และไม่ทำให้รู้สึกเป็นภาระ
คืนนั้น เขาเปิดโน้ตบุ๊กทิ้งไว้เฉย ๆ แล้วเขียนกลางหน้าสมุดสเก็ตช์ว่า
“ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใคร”
เขามองอยู่นาน แล้วเติมคำตอบเล็ก ๆ รอบ ๆ
•เธอไม่กลัวเงียบ
•เธอไม่หนีเวลาฝนตก
•เธอเชื่อว่าบางความซ้ำไม่เจ็บ
•เธอ “เห็น” โดยไม่ตัดสิน
ยิ่งเขียนก็ยิ่งยิ้ม รอยยิ้มเบา ๆ และตรงไปตรงมากับใจที่สุดในรอบหลายปี เขาปิดสมุด เอนตัวพิงพนัก หัวใจเต้นสม่ำเสมอ เหมือนเครื่องที่เพิ่งหล่อลื่น ทุกอย่างหมุนเรียบขึ้น
… เพราะมีใครบางคนเติมในจุดที่ขาด 🫠🔆 …
˚◞♡ ◟✦✩‧₊˚ ˗ˏˋ ♡ ˎˊ˗ ⟡ ⑅◡̈