📚 งานเลี้ยงคณะ ⟡ ⑅◡̈ 𓇥 ✩‧₊˚
ข่าวงานเลี้ยงคณะดังตั้งแต่ต้นเทอม 🎉 โปสเตอร์สีสดติดเต็มบอร์ด เสียงประกาศก็ดังทุกสัปดาห์ “งานคืนสู่คณะ กึ่งทางการ กึ่งสนุก” ทุกคนรู้ว่ามันใหญ่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันจะกลับมาเจอกันทุกปี
วายุไม่เคยไป ไม่ใช่เพราะไม่รู้จัก แต่เพราะไม่อิน เขาไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบเพลงดัง ๆ ไม่ชอบยืนยิ้มให้คนไม่รู้จัก และยิ่งไม่ชอบใส่สูทผูกไทแบบที่พ่อชอบบังคับ ทุกปีเขาจะขับบิ๊กไบค์หนีไปเปิดเพลงร็อก แล้วกลับมานอนเงียบ ๆ
ปีนี้ก็คงเหมือนเดิม…ถ้าไม่มี “สายธาร”
เช้าในห้องสมุดเหมือนทุกวัน โต๊ะมุมเดิม น้ำสามขวดเดิม โพสต์อิทสีเหลืองเดิม งาน “สรุปหลังโปรเจกต์” เหลือเกลาอีกนิด สายธารพิมพ์ไปเรื่อย ๆ ส่วนวายุก้มเกลากราฟ จากไกล ๆ ดูนิ่ง แต่ในหัวเขามีคำเดียววนไปวนมา งานเลี้ยง
เขาเปิดไลน์กลุ่มคณะ “ศุกร์นี้ 18:00 ลานโดม” ภาคินเมนต์ “ปีนี้มีวงสด พวกมึงอย่าตายคาโต๊ะหนังสือ” พร้อมแท็กชื่อวายุแบบจงใจ
วายุปิดจอ สูดหายใจยาว แล้วเหลือบมองคนข้าง ๆ ที่กำลังพิมพ์เงียบ ๆ ใบหน้าสงบเหมือนน้ำ เขาคิดแล้วคิดอีกว่าจะชวนยังไงไม่ให้ดูแปลก
“หัวหน้า” เขาเอ่ยเสียงเบา
“หืม” เธอไม่เงยหน้า แต่ฟังอยู่
“ศุกร์นี้…ไปโดมไหม” เขาพูดช้า ๆ
“โดมไหน” เธอชะงัก
“โดมงานเลี้ยงคณะ” เขาพยายามทำเสียงเหมือนชวนกินข้าว “ปีนี้น่าจะโอเค มีวงสด ไม่ดังเกิน…เค้าว่างั้น”
สายธารทำหน้ามึนไปหนึ่งวิ “นายจะไป?”
“อือ ถ้าเธอไป”
คำตอบสั้นแต่ชัด เธอกะพริบตา “นายไม่เคยไปนี่”
“ก็เลยอยากลอง” เขาเกาหลังคอเบา ๆ “ปีนี้มีเหตุผล”
“เหตุผลคืออะไรคะคุณวายุ” เธอแอบยิ้มในตา
เขานิ่งครู่หนึ่ง ก่อนเลือกพูดตรง ๆ “เพราะเธอ”
สายธารค้างไปนิด ใจสะดุด เธอพูดออกมาได้แค่ “อืม…”
วายุรีบเสริม “ไม่ต้องฝืนนะ ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร กูแค่ลองชวนดู” น้ำเสียงนิ่ม ไม่เร่ง ไม่กวน
เธอนิ่งสองวิ แต่หัวใจย้อนกลับไปนึกถึงหลายโมเมนต์—วันที่เขายิ้มครั้งแรก วันที่เขายอมพูดตรง ๆ ว่า “ไม่ชอบ” วันที่เขาพยายามเดินพอดี… วันนี้เขายอมชวนไปงานที่ไม่เคยไป เพียงเพราะเธอ มันเหมือนเขากำลังขยับ “พอดี” ของตัวเองให้กว้างขึ้น เพื่อรวมเธอไว้ด้วย
“โอเค” เธอพูดเบา ๆ
“โอเค…คือจะไป?” เขาทวน
“อือ ไปด้วยกัน”
รอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปากเขาแบบคุมไม่อยู่ “ดี” 🙂
มินตราที่แอบอยู่มุมชั้นหนังสือ ส่งไลน์ทันที
Min: โอ้โห มีคนชวนไปงานเลี้ยงแล้วตอบตกลง! โลกสั่น
Saitharn: อย่าล้อ
Min: ไม่ล้อ แต่จะลากไปลองชุดด้วยเย็นนี้ 👗
Saitharn: โอเคก็ได้
🌒 เย็นวันเดียวกัน
หลังเลิกเรียน มินตราลากสายธารไปหน้ากระจก “ธีมกึ่งทางการ แต่อย่าแก่” 👗 เธอเปิดตู้เสื้อผ้า “ชุดเดรสเข่ายาว สีเรียบแต่ไม่หม่น…อ๊ะ เดรสคอวีสีครีม ใส่กับคาร์ดิแกนสีเทาอ่อน นี่แหละใช่เลย”
สายธารลองใส่แล้วมองตัวเอง “จะจืดไปไหม”
“ไม่จืดหรอก แกคือโทนนี้แหละ” มินตรายักคิ้ว “รองเท้าคัชชูเรียบ ๆ ต่างหูเม็ดเล็ก ๆ แหวนหนึ่งวงพอ แกไม่ต้องพยายามเป็นคนอื่น แค่เป็นเวอร์ชันที่อุ่นที่สุดของตัวเองก็พอ”
สายธารยิ้มในกระจก “ขอบใจนะ”
“ขอบใจแกต่างหาก ที่เริ่มยอมไปสนุกกับชาวบ้านบ้าง” มินตราหัวเราะ
“ฉันอยากไปดูด้วยว่า ‘คนที่ไม่เคยไปงาน’ จะอยู่ในงานยังไง”
“เออ นั่นแหละสนุก 😂 อย่าลืมถ่ายรูปส่งมาให้ด้วยนะ”
ฝั่งวายุ
ภาคินทำตัวเป็นสไตลิสต์จำเป็น “ไม่ต้องถึงขั้นทักซิโดนะเว้ย กางเกงสแลคเข้ม ๆ เสื้อเชิ้ตขาว แจ็กเก็ตผ้าวูลบาง ๆ พอ ไม่ต้องผูกไทก็เท่แล้ว”
วายุใส่เชิ้ตเรียบ ๆ ลองสวมแจ็กเก็ตทับ มัดผมขึ้นนิด เอาหมวกแก๊ปออก มองกระจก “ไม่ชินเลยว่ะ”
“ก็ต้องลองบ้างดิ” ภาคินตบบ่า “คืนนี้อย่าหนีเวทีนะ ถ้าวงสดขอมือกลองเสริม มึงขึ้นเลย”
“บ้า กูไม่ได้จะไปโชว์”
“ก็ไม่ได้ให้โชว์ แค่ถ้าอยากระบายก็เชิญ 🥁 แต่จำไว้นะเดินพอดี อย่ากวนจนพัง”
วายุหัวเราะเบา ๆ “เออ ๆ รู้แล้ว”
🌒 ฟ้าค่ำ
ลานโดมเปิดไฟส้มอุ่น ธงสามเหลี่ยมแขวนเรียง เสียงวงสดลองเครื่อง คนเริ่มทยอยมา กลิ่นลูกชิ้นย่าง น้ำส้ม ข้าวหน้าเนื้อ ลอยเต็มบรรยากาศงานเลี้ยง 🎶
วายุถึงก่อนเวลา ส่งข้อความ
Vayu: อยู่หน้าโดมแล้ว
ไม่ถึงครึ่งนาที
Saitharn: กำลังเดินไป
เขาหันไปทางประตู…แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง
สายธารเดินมากับมินตรา เดรสครีมเรียบ ๆ ผมรวบต่ำ แสงไฟตกโดนแก้มพอดี มินตราโบกมือ “ว่าไงคุณพายุ ไม่เห็นมาโผล่งานเลี้ยงนาน ดูโตขึ้นนะ”
“ก็…มีคนลากมา” วายุยิ้ม แล้วหันไปสบตาสายธาร “สวย” 🙂
แก้มเธอร้อนนิด ๆ “ขอบใจ”
มินตราถอย “ฉันไปถ่ายสตอรี่ก่อน พวกเธอไปเดินดูซุ้มกันเลย เดี๋ยวตาม”
วายุหยิบขวดน้ำส่งให้ “เผื่อคอแห้ง” เธอรับยิ้ม ๆ เดินเคียงกันผ่านซุ้มอาหาร “อยากกินอะไรบอก เดี๋ยวกูไปซื้อให้”
“ชามะลิน้ำผึ้งมีไหม 😆”
“บูธเธอขายหรือไงล่ะ” เขาหัวเราะ “เอาน้ำเปล่าก่อน”
เดินได้ครึ่งรอบ กฤตย์ก็โผล่มาในสูทเนี๊ยบ ไทสีกรม “สวัสดีครับคุณสายธาร คืนนี้สวยมาก” แล้วพยักหน้าให้วายุ “คุณก็ดูดีครับ”
“ครับ” วายุรับสั้น ๆ น้ำเสียงเรียบ ไม่แข็ง เขายืนพอดี ไม่แทรก ไม่กวน แค่ยืนข้าง ๆ
กฤตย์ยิ้มสุภาพ “ตรงโน้นมีมุมถ่ายรูป เดี๋ยวผมไปช่วยจัดไฟ ถ้าพวกคุณอยากถ่าย เดี๋ยวเรียกช่างให้”
สายธารยิ้ม “ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวไปดู”
กฤตย์เดินไป วายุหันมา “อยากถ่ายรูปไหม”
“ถ่ายก็ได้ แต่ฉันถ่ายไม่เก่งนะ”
“กูถ่ายให้” เขาตอบทันที 📸
พอถึงมุมถ่ายรูป ไฟส้มอุ่นส่องพอดี วายุกดกล้องจริงจังจนรุ่นน้องชมรมถ่ายรูปแซว “พี่วิศวะนี่มืออาชีพปะเนี่ย”
วายุยิ้มมุมปาก “สมัครเล่น…แต่จริงจัง” 📸
เขาถ่ายให้สายธารหลายช็อต ทั้งยืน ทั้งนั่งริมขั้นบันได ทั้งครึ่งตัวที่มีไฟโดมอยู่ไกล ๆ
“ดูหน่อยไหม” เขายื่นมือถือให้
สายธารเลื่อนดูเงียบ ๆ ก่อนพูด “นายถ่ายเก่งกว่าที่คิด”
“ก็…ถ่ายคนที่อยากถ่าย” เขาพูดสั้น ๆ แต่ตรงจนเธอกลั้นยิ้มไม่อยู่ 🙂
ระหว่างเดินกลับไปทางเวที ภาคินโผล่มา “โห่ สองคนนี้มาจริงด้วย กูนึกว่าจะเท” เขาเคาะไหล่วายุ “สองทุ่มถ้าวงขอมือกลองเสริม มึงขึ้นเลยนะ”
“ไม่ขึ้น” วายุหัวเราะ
“เออ ๆ อย่างน้อยโยกหัวตามจังหวะก็ยังดี” ภาคินหันไปยกมือไหว้สายธาร “คุณหัวหน้าสวยแบบนี้ เดี๋ยวพระเอกใจไม่ดีนะครับ”
สายธารหัวเราะ “ปากดีตลอด”
เพลงเปลี่ยนเป็นจังหวะช้า วงสดเริ่มเล่นโฟล์กเบา ๆ คนรอบ ๆ ขยับเข้าหาเวที ไฟสลับสีอ่อน วายุเอียงตัวถามเบา ๆ “อยากเดินออกไปตรงข้าง ๆ ไหม คนเริ่มแน่นแล้ว”
“ไป” เธอพยักหน้า เขาเลยพาเลี่ยงฝูงชนออกมาด้านข้างที่ลมพัดเย็น ๆ 🌬️
สายธารมองรอบ ๆ “แปลกดีนะ ฉันไม่คิดว่านายจะชวนมางานแบบนี้”
“กูก็ไม่คิด” เขาพูดตรง ๆ “แต่พอคิดแล้ว…ถ้าไม่มีเธอ กูก็ไม่อยากมาอยู่ดี”
เธอหันมามอง นิ่งไปนิด “ขอบคุณนะ ที่พูดตรง ๆ”
“ก็จริง” เขายิ้มบาง “เมื่อคืนคิดอยู่นานว่าจะชวนยังไง สุดท้ายเลยพูดสั้น ๆ ‘เพราะเธอ’”
คำเดิมวนในอกเธออีกครั้ง คราวนี้ดังขึ้นกว่าเดิม เธอยิ้มบาง “ฉันเลยตอบว่า ‘ไปด้วยกัน’”
“ดีใจ” เขาตอบเสียงเบา
เพลงช้าพอดี หลายคู่จับมือกันโยกตามจังหวะ รุ่นพี่บางคนเต้นช้า ๆ สายธารมองแล้วยิ้ม “นายเต้นเป็นไหม”
“ไม่ค่อย” เขาตอบตรง “แต่ถ้าเธอสอน…อาจจะเป็น”
“ฉันก็ไม่ค่อยเหมือนกัน งั้นยืนฟังพอ”
“โอเค” เขาตอบง่าย ๆ
ทั้งคู่ยืนใกล้ ๆ กัน มือไม่ได้แตะ แต่ระยะพอดีจนถ้าเผลอขยับก็เกือบชนกัน เสียงเพลงพาลมหายใจช้าลง 🌌
ไม่นาน กฤตย์เดินมาพร้อมกล้องฟิล์ม “ขอโทษนะครับ ขอถ่ายรูปคู่ได้ไหม แสงตรงนี้สวยมาก”
วายุเหลือบมองสายธาร เธอพยักหน้า “ได้ค่ะ” ทั้งคู่ยืนหันข้างเล็ก ๆ เว้นระยะตามธรรมชาติ เสียง “แชะ” ดังเบา ๆ
“ขอบคุณครับ” กฤตย์ยิ้ม “เดี๋ยวอัดให้แล้วส่งให้ สนุกนะครับคืนนี้”
“ค่ะ ขอบคุณ” สายธารตอบ
พอกฤตย์เดินไปไกล วายุหันมา “โอเคไหม”
“โอเค” เธอยิ้มบาง “ฉันวางขอบเขตแล้ว นายก็เดินพอดีแล้ว ทุกอย่างโอเค”
“อือ” เขาพยักหน้ายิ้มเบา ๆ โล่งขึ้นจริง ๆ
ช่วงหัวค่ำ วงสดชวนศิษย์เก่ามาแจม กลองขึ้นจังหวะมัน ๆ ภาคินตะโกน “ขึ้น ๆ ๆ” จากกลุ่มเพื่อน วิศวะหลายคนวิ่งไปเวที วายุหัวเราะส่ายหน้า แต่เท้าเผลอเคาะพื้นตามจังหวะ
สายธารหันมาขำ “ขึ้นไปก็ได้ ฉันยืนดูตรงนี้เอง”
“ไม่เอา เดี๋ยวหลุดโหมด” เขายิ้ม “วันนี้กูอยากเป็น ‘คนดูข้างเธอ’ มากกว่า”
“ก็ได้” เธอพยักหน้า ยอมรับว่าแอบชอบประโยคนี้เกินเหตุ 💬
เวลาผ่านไปสบาย ๆ พวกเขาเดินไปคุยกับอาจารย์ สวัสดีรุ่นพี่ที่เคยช่วยงานห้องแลบ หัวเราะกับแก๊งภาคิน แล้ววนกลับมาที่ข้างเวที ดึกขึ้น แต่บรรยากาศไม่หนักเลย
ระหว่างเดินไปซุ้มขนม สายธารชะงักเมื่อเห็นพ่อแม่เดินเข้ามาที่ลาน แม่โบกมือ “ธาร!” แล้วชะงักเมื่อเห็นวายุ “อ้าว มาด้วยเหรอลูก”
วายุยกมือไหว้ “สวัสดีครับป้า สวัสดีครับลุง” เสียงสุภาพกว่าปกติ
พ่อหัวเราะ “มางานแบบนี้ด้วยก็ดี เด็กหนุ่มต้องมีบ้าง”
“เพราะ…สายธารครับ” วายุพูดเบา ๆ แต่ชัด
แม่กับพ่อมองหน้ากันแล้วยิ้ม “งั้นเอ็นจอยนะ” แม่กระซิบกับลูก “เขาดูตั้งใจมากคืนนี้”
“แม่…” สายธารหน้าแดงนิด
พ่อแตะแขนวายุ “พาเดินให้ทั่ว ๆ นะ” แล้วถอยไปนั่งมุมศิษย์เก่า หัวเราะกันเบา ๆ
วายุหันมา “พ่อแม่เธอน่ารัก”
“ก็น่ารักแบบนี้ทุกวัน”
เขายิ้ม “โชคดีของเธอ…แล้วก็โชคดีของกูที่ได้เจอเธอ”
เธอก้มหน้ายิ้ม ไม่พูด แต่หัวใจดังชัดกว่าเสียงเพลง 🎶
ช่วงประกาศขอบคุณทีมงาน อาจารย์เรียกชื่อทีม “ความซ้ำที่ไม่เจ็บ” ให้ขึ้นเวที สายธารกับวายุถูกดันขึ้นไป ยิ้มรับเกียรติบัตรกันคนละใบ
เขาก้มกระซิบ “เก่ง”
เธอเหล่มอง “นายด้วย”
ไฟแฟลชแวบ ๆ ลงเวทีมาก็หัวเราะพร้อมกัน “อายอะ” เธอบ่น
“กูก็อาย” แต่ยิ้มเต็มตา
เพลงปิดงานเริ่ม ทุกคนร้องตาม วายุถาม “เมื่อยไหม กลับเลยก็ได้”
“ไม่เมื่อย ขออีกเพลง”
“ก็ได้”
ทั้งคู่ยืนฟังจนเพลงจบ โดมดับไฟ คนทยอยกลับ ภาคินตะโกนลา “ไอ้พายุ คุณหัวหน้า ขอบคุณที่มาทำให้โดมคืนนี้ดูคลีน!” แล้ววิ่งหายไป
วายุถาม “ส่งไหม”
“ส่งก็ได้ แต่เดินผ่านสนามก่อนนะ อยากเอาลมอีกนิด”
“จัดไป” 🌙
สนามเงียบ ลมเย็น หญ้าเปียกนิด ๆ เขายังเดินฝั่งนอกเหมือนเคย เธอเดินฝั่งใน
“ขอบคุณนะ” เธอพูด
“ขอบคุณอะไร”
“ขอบคุณที่ชวน และอยู่ข้าง ๆ แบบพอดี ฉันเคยคิดว่างานแบบนี้ไม่ใช่นาย แต่วันนี้นายทำให้มัน ‘เป็นนาย’ ได้”
เขาหัวเราะ “เพราะเธอทำให้สนามที่กูไม่คุ้น กลายเป็นที่ที่กูยืนได้”
“โอเค งั้นสรุปคือเราไปต่อได้…ทั้งงานแบบนี้ และวันธรรมดา”
“อือ” เขาพยักหน้าสั้น ๆ แต่แน่น
ถึงหน้าอาคารจอดรถ สายธารหันมา “วายุ”
“หืม”
“เมื่อเช้านายพูดว่า ‘เพราะเธอ’ …ฉันเลยตอบตกลง”
เขายิ้ม “ดีใจที่เธอตอบแบบนั้น”
“แล้วคืนนี้ ถ้านายจะจำอะไรไว้สั้น ๆ” เธอยิ้มบาง “จำว่า ‘ฉันยิ้มเพราะนาย’ ก็ได้”
เขาชะงัก แต่ยิ้มกว้าง “โอเค เก็บเข้าหัวใจแล้ว” ❤️
เขาเดินไปส่งถึงป้ายรถเมล์ แล้วยื่นน้ำให้ “เอาไว้ดื่มบนรถ”
“ขอบใจ” เธอรับ รถเมล์มาพอดี เธอขึ้นไป มองออกมา เห็นเขายกมือแตะปีกหมวกเหมือนเดิม ถึงคืนนี้ไม่มีหมวก แต่ท่าทางนั้นยังคงเป็นสัญญาณลับของสองคน
บนรถ เธอหยิบมือถือ
Saitharn: ถึงแล้วจะบอกนะ
Vayu: รับทราบหัวหน้า
เธอยิ้ม ดูรูปที่เขาถ่ายให้ทีละใบทุกใบมี “เขา” อยู่ในเงา เงาที่ทำให้ภาพสมบูรณ์ขึ้น
ถึงบ้าน เธอเปิดสมุด เขียนสั้น ๆ
“คืนนี้ไปงานเลี้ยงคณะกับวายุ
เขาไม่เคยไป แต่ชวน…เพราะฉัน
ในงาน เขาเดินพอดี ไม่กวน ไม่หาย
ฉันยิ้มเพราะเขา และเพราะเราเจอ ‘เสียงดังของโลก’ ด้วยกัน”
โทรศัพท์สั่น
Vayu: [ถึงห้องแล้ว]
Saitharn: [ถึงบ้านแล้วเหมือนกัน]
Vayu: [ขอบคุณที่ไปด้วย]
Saitharn: [ขอบคุณที่ชวน]
จุดสามจุดขึ้น แล้วหายไป เหลือความเงียบอุ่น ๆ เหมือนลานโดมตอนปิดไฟ…ยังสว่างจาง ๆ ค้างอยู่ในอากาศ 🌌
⟡ ⍤ ♡̶ ⟡ ⑅◡̈ 𓇥 ✩‧₊˚