“โอเค คุณเก่ง” อมลรดาเดินไปลากโต๊ะอาหารล้อเลื่อนแบบสอดใต้เตียงมาให้คนเจ็บ “คุณทานเองได้มั้ย”
อคิณไม่ตอบ แต่ใช้มือซ้ายหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มปลาใส่ปากอย่างไม่ถนัดนักแต่ก็กินเองได้ เมื่ออาหารคำแรกตกถึงท้อง คนที่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าก็เผลอตัวฟาดเรียบ
“รับเพิ่มอีกสักชามมั้ยคะ” อมลรดาถามยิ้มๆ
“ไม่” เขาตอบห้วนกลบเกลื่อนความเก้อเขินที่เผลอแสดงความหิวโหยให้เธอเห็น
“งั้นก็ทานยา” หญิงสาวหยิบยาเม็ดเล็กสามเม็ดวางใส่มือซ้ายให้เขา หลังจากเขากรอกยาเข้าปากเรียบร้อยเธอก็ส่งแก้วน้ำให้ รอจนเขาดื่มน้ำเรียบร้อยจึงรับแก้วกลับมาวางที่เดิม จังหวะนั้นเอง เธอเหลือบเห็นพยาบาลคนเดิมมาแอบมองอยู่ที่ช่องประตู จึงยกมือทำสัญลักษณ์ ‘โอเค’ ให้ พยาบาลสาวยิ้มรับอย่างโล่งใจแล้วจึงเดินออกไป
“ผมทานข้าวแล้ว ทานยาแล้ว ทีนี้ก็ถึงตาคุณแล้วนะ” อคิณยิ้มเยาะพลางถอดเสื้อที่ปลดกระดุมไว้อยู่แล้วออกจากตัว
ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เมื่อเห็นแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวของเขาเนียนละเอียดเป็นสีน้ำนม ตัดกับตุ่มไตเม็ดเล็กสีชมพูเข้ม หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘นมชมพู’ เห็นแค่ช่วงบนอมลรดาก็ใจสั่นระรัว ถ้าเห็นช่วงล่างด้วย เธอจะไม่ช็อกตาตั้งอยู่ตรงนี้เหรอ!
“อย่าเพิ่งถอดกางเกงนะคุณ!” หญิงสาวบอกอย่างลนลานพลางตวัดมือไปยับยั้งมือใหญ่ของอคิณที่วางทาบอยู่บนปมเชือกเอวกางเกงชุดคนไข้ แต่ไม่รู้บุญหรือบาป มือเล็กพลาดเป้าไปวางแหมะอยู่บน ‘อคิณน้อย’ ที่มีขนาดใหญ่กว่าของสุนัขพันธุ์ชิสุหลายเท่า
อคิณอ้าปากค้าง ดวงตาสีดำสนิทเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนประหลาดใจในคราวเดียวกัน เนื่องจากสัมผัสอ่อนนุ่มและความอบอุ่นจากฝ่ามือเล็กไม่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกวูบวาบหวั่นไหวอย่างที่ควรจะเป็นเลย
เกิดอะไรขึ้นกับอคิณน้อย!
‘เส้นประสาทไขสันหลังของคุณได้รับความกระทบกระเทือน อาจจะทำให้มีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกายช่วงล่าง และที่หมอเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ คุณอาจจะมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือไร้สมรรถภาพไปเลยก็ได้’
“บัดซบ!” ชายหนุ่มเผลอสบถออกมาเมื่อนึกถึงคำพูดของหมอที่บอกกับเขาในวันแรกที่ฟื้นขึ้นมาหลังจากประสบอุบัติเหตุ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจับของคุณซะหน่อย ทำไมต้องด่ากันแรงขนาดนี้ด้วย” อมลรดาถอยออกไปยืนห่างเตียงคนเจ็บหนึ่งก้าวด้วยความฉุนระคนเก้อเขิน
“ผมไม่ได้ด่าคุณ”
“อยู่กันสองคน ไม่ด่าฉันแล้วด่าใคร”
“ช่วยอะไรผมหน่อยได้มั้ย”
“อะไร?”
“จูบผมที”
“จะบ้าเหรอ!”
“ถ้าคุณยอมจูบผม ผมให้ล้านนึง”
“สิบล้าน” อมลรดาโก่งราคาสูงลิบเพื่อเป็นการปฏิเสธทางอ้อม
“สี่ล้าน”
“จูบแรกของฉันนะคุณ ต่อซะไม่มีราคาเลย”
อคิณแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่า หญิงสาวที่ใช้ชีวิตตามลำพังอยู่ต่างประเทศตั้งแต่มัธยมปลายจนจบปริญญาตรีจะยังรักษา ‘จูบแรก’ ไว้ได้ “งั้นผมให้ห้าล้าน”
“สิบล้าน!” อมลรดายืนกรานเสียงแข็ง “ถ้าไม่ตกลงฉันก็จะกลับ แล้วจะไปขายบ้าน ขายรถ ขายที่ดิน ขายทุกอย่างที่มีเอาเงินมาใช้หนี้คุณแทนคุณพ่อ”
“บ้านเล็กเท่ารูหนู กับที่ดินเท่าแมวดิ้นตายแถวชานเมืองของคุณ ถ้าขายก็คงได้แค่สองล้าน รถคุณก็ไม่มี เงินเก็บก็ไม่มี คุณมีแต่ตัว” เขายิ้มหยัน
“ถึงฉันจะจน ฉันก็ไม่ขายตัวใช้หนี้แน่นอน” เธออ่านสายตาดูแคลนของเขาออก
“ผมแค่ขอซื้อจูบคุณ ไม่ได้ขอซื้อตัวคุณ ไม่ต้องโวยวายเล่นใหญ่ขนาดนี้ก็ได้”
“คุณเป็นพวกโรคจิตเหรอ อยู่ๆ ถึงได้อยากให้ฉันจูบ”
“ผมแค่อยากทดสอบอะไรบางอย่าง” อคิณบอกสีหน้าเคร่งเครียด “ถ้ามันเป็นจูบแรกของคุณ ผมให้สิบล้านก็ได้”
“คุณพูดจริงเหรอ”
“ผมโทร. สั่งเลขาฯ ให้เอาเงินเข้าบัญชีคุณตอนนี้เลยก็ได้” ท่าทางของเขาจริงจัง ไม่เหมือนคนล้อเล่นเลยนักนิด
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องเงิน ฉันหมายถึงเรื่อง...จูบ”
“คนอย่างผมไม่เคยล้อเล่น” อคิณตวัดมือไปดึงข้อมือเล็กของหญิงสาวให้มานั่งที่ขอบเตียงแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มใสแจ๋วราวตากวางอย่างเว้าวอน “ขอร้อง ช่วยจูบผมที จูบให้เร่าร้อนที่สุดเท่าที่คุณทำได้”
อมลรดามองริมฝีปากหยักสวยได้รูปของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างลังเล ข้อเสนอของเขาน่าสนใจ แต่ถ้าเธอยอม ก็เท่ากับเธอขายศักดิ์ศรี และคงหมดความนับถือในตัวเอง
“คุณไปซื้อคนอื่นเถอะ ฉันไม่ขาย” ร่างเล็กทำท่าจะลุกออกจากเตียง แต่ถูกวงแขนแข็งแกร่งรวบเอวเอาไว้
“ผมรีบ ไม่มีเวลาไปหาคนอื่น คุณต้องจูบผมเดี๋ยวนี้”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ขาย ปล่อย!” อมลรดาพยายามแกะแขนเขาออกจากเอว แต่ไม่เป็นผล
“ถ้าคุณไม่จูบผม ผมจูบคุณเองก็ได้”
“ไม่นะ...” หญิงสาวเอ่ยห้ามเสียงสั่นสะท้านพลางเอนหลังหนี หากแต่เขาก็เคลื่อนใบหน้าตามมาแล้วพึมพำแนบชิดริมฝีปากเธอ
“ขอร้อง แค่จูบ” ว่าแล้วอคิณก็แนบริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่มสีชมพูระเรื่ออย่างอ่อนโยน
สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากร้อนผ่าวที่บดเบียดลงมาก่อให้เกิดกระแสอุ่นวาบวิ่งวนไปทั่วช่องท้องของอมลรดา หญิงสาวได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะอยู่ในอก ฝ่ามือเล็กที่ออกแรงดันแผงอกเปลือยในคราแรกผ่อนแรงลงเหลือเพียงวางประทับไว้เฉยๆ
“บ้าเอ๊ย!” อคิณถอนจูบออกแล้วสบถอย่างหัวเสียยิ่งกว่าครั้งแรก เขาได้จูบกับผู้หญิงที่เรียกได้ว่าสวยจัด รูปร่างเซ็กซี่ กลิ่นกายหอมละมุน ทว่าเขากลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
“จูบฉัน แล้วก็มาด่าฉันเนี่ยนะ เลว!!!” อมลรดายกมือฟาดหน้าอคิณอย่างแรง
“ผมไม่ได้ด่าคุณ” ชายหนุ่มรีบบอกพลางยกมือขึ้นลูบแก้มข้างที่ถูกตบจนขึ้นรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้นแสบยิบๆ สองครั้งแล้วที่เขาทำให้เธอเข้าใจผิด “คุณเอารถเข็นมาให้ผมหน่อย แล้วพาผมไปที่ห้องหมอด้วย”
“อะไรของคุณ จูบฉัน ด่าฉัน แล้วก็มาชี้นิ้วสั่งฉัน” หญิงสาวต่อว่าอย่างไม่พอใจ แล้วเดินหนีไปที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูออกไป ก็ได้ยินเสียงหล่นดัง ‘ตุ้บ’ จึงหันหลังกลับไปดู และพบว่า อคิณตกจากเตียงลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น “คุณอคิณ!”