[3] - ของแลกเปลี่ยน

1725 Words
                                                                                             [3]    ฉันลองตบหน้าตัวเอง คิดว่านี่คงจะเป็นความฝันเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้น แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน? แถมพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้วนี่ จอห์นส่งยิ้มให้ฉันและหันไปหาแม่อีกครั้ง แม่โดนเขาสะกดจิตอยู่รึเปล่านะ หรือว่าเขาไปพูดเป่าหูอะไรแม่ถึงเข้ามาในบ้านได้    "เรื่องลูกสาวคุณ ผมบอกได้แค่ว่าเราลองทดลองกับคนที่เป็นโรคนี้โดยการใช้ยา ตอนแรกลูกสาวคุณก็ไม่เชื่อผมหรอก ใช่มั้ยอเลสซ่า?"    ทั้งหมดมันเป็นเรื่องโกหก ฉันรู้...แต่ถ้าฉันบอกแม่ว่าเขาเป็นแวมไพร์และช่วยฉันโดยการใช้เลือดของเขา แม่คงบอกว่าฉันบ้า ฉันเลือกที่จะพยักหน้าเออออตามคำพูดเขา ส่วนแมทที่ลงมาจากห้องนอนก็มองเราทั้งสามคน โดยเฉพาะจอห์นที่น้องชายฉันจ้องตาไม่กระพริบ    "คุณเป็นแฟนพี่อเลสซ่าหรอ?"    ฉันส่ายหน้า ดีที่แม่ช่วยพาแมทไปที่ห้องครัวก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรมากกว่านี้ ฉันและจอห์นยืนอยู่ลำพัง แบบสองต่อสอง แต่อยู่ในบ้านเขาคงจะทำอะไรฉันมากไม่ได้หรอก    "ฉันทำได้มากกว่าที่เธอคิดนะอเลสซ่า อย่าสบประมาทฉันล่ะ"    "นาย...ได้ยินฉัน?" ฉันแปลกใจ แต่ไม่ถึงขั้นตกใจ ฉันก็พอรู้ล่ะว่าแวมไพร์สามารถอ่านใจมนุษย์ได้ แต่สิ่งที่แวมไพร์ผมน้ำตาลคนนั้นทำกับฉันแล้วล้มเหลว ฉันเลยคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ได้ซะอีก    "เลือดเธออยู่ในตัวฉัน และเลือดฉันก็อยู่ในตัวเธอ ฉันสามารถรับรู้ความรู้สึกของเธอ...ความต้องการ หรือแม้กระทั่งเข้าฝันก็ยังทำได้"    เข้าฝันได้? งั้นเขาก็เป็นยัดเยียดเรื่องน่ากลัวนั่นมาไว้ในหัวฉันน่ะสิ    "นายรู้มั้ยว่านายทำฉันกลัวขนาดไหน?"    "ฉันนึกว่าเธอจะชอบซะอีก" สีหน้าจอห์นเรียบเฉย "อย่างน้อยที่ฉันกัดเธอมันก็ไม่ใช่ความจริงซักหน่อย นี่แค่ระยะแรกเองนะ"    "หมายความว่าไงที่ว่าระยะแรก?"    "ให้เธอเจอเองดีกว่า...ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยแฮะ"    จอห์นพูดแต่เรื่องที่ฉันไม่เข้าใจ สมองฉันตึ้บไปหมด ฉันหวังว่าเขาคงจะบอกอะไรฉันได้บ้างอย่างเรื่องที่ว่าเลือดของเขาทำให้ฉันหายจากอาการแพ้แดดได้ยังไง นั่นคือประเด็นหลักที่ฉันอยากรู้    "เราไปเดินเล่นข้างนอกมั้ย? แดดตอนเช้าเหมาะกับการเดินเล่นนะ"    "นาย...แบบว่าพวกแวมไพร์ไม่ได้โดดแดดแล้วตายหรอกหรอ?"    "ฉันอยากออกไปรับแสงแดดน่ะ แค่แป๊บเดียวคงไม่เป็นอะไร"    แต่ฉันทำไม่ได้น่ะสิ...แค่เห็นแดดฉันก็จะเป็นลมแล้ว แน่นอนว่าจอห์นคงไม่รู้ว่าฉันเป็นโรคนี้    "ฉันออกไปไม่ได้"    "หืม? เธอก็เป็นคนธรรมดานี่" จอห์นยักคิ้ว "ไม่ชอบแสงแดดงั้นหรอ?"    "เปล่า...ถ้าโดดแดด ฉันก็จะมีแผลไหม้พวกนั้นอย่างที่นายเห็นนั่นแหละ ฉันเหมือนพวกนาย แต่ว่าไม่ได้มีเขี้ยวหรืออะไรแบบนั้นหรอก"    "งั้นทำไมเราไม่ลองอะไรซักหน่อยล่ะ?"    ฉันถูกแวมไพร์หนุ่มลากออกมา แสงแดด...แสงของมันจ้าจนฉันหลับตาปี๋ด้วยความกลัวและยอมรับความแสบร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มันกลายเป็นสัมผัสอันอบอุ่น...ฉันลืมตาขึ้น มองต้นไม้และต้นหญ้าที่พัดพริ้วไสวไปตามแรงลม ฉันมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า สดใสเหลือเกิน    แต่แล้วกลิ่นแปลกๆ ที่เหมือนเนื้อไหม้ก็ลอยปะทะจมูกของฉัน ฉันเบิกตาโพลงและยกมือขึ้นหาแผลไหม้...มันไม่ได้มาจากฉัน ทันใดนั้นจอห์นที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ทรุดตัวลง ฉันมองผิวเนียนประกายของเขาเริ่มลอกออกเป็นแผ่น เหมือนคนที่ถูกไฟไหม้ เขามองที่บ้านและพาฉันวาร์ปไปที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว    "ผิวนายไหม้นี่!"    "ฉันนึกว่าเลือดจากคนพิเศษอย่างเธอจะช่วยได้ซะอีก" จอห์นพูด แผลของเขากลับมาสมานอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงของเหลวจากเนื้อเยื่อที่ติดเสื้ออยู่เท่านั้น "แต่เลือดเธอช่วยเพิ่มกำลังให้ฉันได้นะ" เขาพูดเจ้าเล่ห์    "ไม่ใช่ตอนนี้...แม่กับน้องฉันยังอยู่ในบ้าน ฉันยังไม่อยากให้อาหารเช้าของพวกเขาขย้อนออกมาหรอกนะ นายเข้ามาก่อนเถอะ"    ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาและชะโงกหน้ามองแมทกับแม่ยังนั่งกินข้าวเช้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหาร ฉันบอกให้จอห์นรีบขึ้นไปหลบอยู่ในห้องน้ำชั้นสองก่อนแล้วค่อยรอแม่กับน้องออกไปพร้อมกัน หลังจากที่จอห์นวาร์ปหายไป ฉันลูบแขนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าพลังนี้ยังคงอยู่ในตัวฉัน และฉันก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าฉันต้องการเลือดของจอห์นมาก และฉันอาจจะยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา จนผ่านไปซักพักแม่และน้องชายก็เดินออกจากห้อง    "อ้าว หมอจอห์นไปไหนแล้วล่ะลูก?"    "ขึ้นไปใช้ห้องน้ำข้างบนน่ะค่ะ แม่จะไปแล้วหรอคะ"    "วันนี้หมอเกรย์เรียกแม่ไปแต่เช้าเลย รักหนูมากนะ"    แม่จุ๊บแก้มทั้งสองข้างของฉันก่อนจะเดินออกไปพร้อมแมทที่มองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ปล่อยให้มันสงสัยอย่างนั้นแหละ แล้วทั้งแม่และแมทก็ขับรถหายไป    "จอห์น! ลงมาได้แล้ว"    เขาวาร์ปมาและคว้าหมับที่คอฉันเต็มแรง ฉันหายใจไม่ออกและรู้ว่าเขาควบคุมความเป็นแวมไพร์ที่เขามีอยู่ไม่ได้ จมูกโด่งเป็นสันสูดกลิ่นเข้าไปเต็มฟอด จอห์นมองฉันอย่างพิจารณา    "อืม…กลิ่นเธอมันหอมหวาน ยั่วยวน ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด คราวนี้อย่าฝืนอีกล่ะ"    แวมไพร์รูปงามทิ้งคำเตือนไว้ก่อนจะแยกเขี้ยวออกมา ฉันถูกเขากัดเป็นครั้งที่สองจนได้ กะจะเกลี้ยกล่อมอยู่แล้วเชียว จอห์นพยายามไม่ฝังเขี้ยวลงไปลึกกว่านี้เพราะรู้ว่าฉันคงเจ็บ แน่นอนว่าฉันร้องลั่น แต่ก็พยายามเก็บเสียงไว้ไม่ให้คุณนายแอนเดอร์สันบ้านข้างๆ ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนี้    สิ่งที่ฉันรู้สึกผ่านไปเหมือนเป็นชั่วโมง แต่อาจจะเพียงแค่ห้านาทีหรือสิบนาทีที่ยาวนานเท่านั้น จอห์นพาเขี้ยวทั้งสองข้างออกมาจากซอกคอฉันก่อนจะใช้ลิ้นของเขาเป็นตัวสมานแผลกัด ฉันนอนหมดแรงอยู่ตรงนั้น    "เธออยากดื่มเลือดฉัน...เจ้าเล่ห์ใช่ย่อยนี่"    จอห์นที่ได้ยินความคิดฉันพูดขึ้นก่อนจะอุ้มฉันไปที่โซฟา เขากัดข้อมือตัวเองอีกครั้งก่อนจะปล่อยให้ฉันดื่มเลือด เขาดูไม่ป่าเถื่อนเหมือนแวมไพร์ที่ฉันเจอเมื่อวานเลย เขาสุภาพกับคนอื่นหรือว่าแค่ฉันคนเดียวนะ?    "มากไปแล้วสาวน้อย"    จอห์นดึงมือกลับ ฉันลุกขึ้นหลังจากรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว กระดูกสันหลังและไหล่กว้างของเขามันช่างสวยงาม เหมือนแกะสลักมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ แถมกระดูกกรามนั่นอีก...ฉันชักจะอิจฉาความเป็นนิรันดร์ของพวกเขาแล้วสิ    "ฉันมีคนที่อยากรู้จักเธอ เขาอยากจะคุยด้วย"    "จริงหรอ?"    "จริงสิ เขาอยากเจอเธอจริงๆ"    "ฉันหมายถึง...คุยแบบไม่มีการดูดเลือดใช่มั้ย?"    "อันนี้ก็ไม่รู้สิ" จอห์นยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่ถึงเธอจะไม่ยอมฉันก็จะลากเธอไปอยู่ดี"    ฉันถอนหายใจและไม่กล้าพูดอะไรต่อ และไม่กล้าคิดในใจด้วยซ้ำ จอห์นไล่ให้ฉันไปเตรียมตัวและรออยู่ด้านล่าง ฉันไม่ได้ทำอะไรกับตัวเองมาก แค่เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงขายาว ฉันมองตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะเดินลงไปหาจอห์นด้านล่าง สายตาเขาดูไม่ค่อยปลื้มกับการแต่งกายของฉันเท่าไหร่    "ไปเปลี่ยน" เขาพูดเสียงดุและขมวดคิ้ว    "ทำไมล่ะ? นี่ชุดประจำของฉันเลยนะ"    "มันไม่เหมาะกับเธอ"    จากนั้นจอหน์ก็วาร์ปไปที่ชั้นสอง ฉันได้ยินเสียงเขารื้อของออกจากตู้ รุนแรงและป่าเถื่อน...แล้วเขาวาร์ปกลับมาพร้อมกับชุดเดรสสีเหลืองอ่อน ฉันแทบจำมันไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ มันเป็นชุดที่ฉันเคยใส่ตอนที่ไปงานแต่งของน้าเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ฉันก็ไม่ค่อยถูกกับกระโปรงนักหรอก    "ใส่ซะ"    "นายทำบ้าอะไรกับตู้เสื้อผ้าฉันเนี่ย?" ฉันถามและรับชุดมา    "แค่ค้นเฉยๆ"    จอห์นพูดและยิ้มเหมือนกลั้นขำ ฉันถอนหายใจ สิบห้านาทีต่อมาฉันก็ลงมายังด้านล่างพร้อมชุดเดรสที่จอห์นต้องการให้ฉันใส่ คราวนี้เขายิ้มแป้น และเขาก็ลุกจากโซฟาพร้อมทำท่าจะเดินออกจากบ้าน ฉันรีบคว้าหมับที่มือเขา    "อะไร?"    "กรุณาช่วยฉันเก็บตู้เสื้อผ้าด้วยนะคะ คุณแวมไพร์"    จอห์นวาร์ปไปอีกครั้ง ฉันไม่เคยรู้สึกชินกับอะไรที่มันเคลื่อนไหวเร็วๆ หรอก มันทำให้ฉันมึนหัวแล้วอยากจะอ้วก จอห์นไม่ใช่แค่จัดตู้เสื้อผ้า แต่ตอนนี้เขาวาร์ปไปวาร์ปมาทั่วบ้าน ของที่ห้องครัวสะอาด...เหมือนเขากำลังประชดฉันอยู่ยังไงก็ไม่รู้    "สะอาดแล้วนะ"    "ฉันเกลียดนายชะมัดเลย"    จอห์นแยกเขี้ยวขู่ เขาส่งใบบางอย่างให้ฉันก่อนจะเปิดประตูบ้าน...เตรียมโดนแดด ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรบ้าๆ อยู่ถึงได้มาที่นี่แต่ไก่โห่แบบนี้ หาเรื่องเจ็บตัวให้ตัวเองทำไมกัน?    "ตามมาด้วยล่ะ ฉันจะไปรอที่นั่น" พูดจบเขาก็หายไปซะแล้ว    "ไอ้แวมไพร์เฮงซวย!" [To Be Continued...]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD