เลี้ยงไก่ให้ตัว...

1147 Words
คุณหมอเทมส์ ในชีวิตตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้กับใครแล้วถูกผู้หญิงร้องไห้ใส่มาก่อน พอมาเจออย่างนี้กับผู้หญิงที่สะอื้นน้ำตาไหลพรากอาบแก้มอยู่ตรงหน้า ร่างสูงผุดลุกขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขยับไม่ถึงก้าวก็ถึงตัวคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม สองแขนเธอกอดตัวเองอย่างน่าสงสาร ไหล่บางไหวสะท้าน ชายหนุ่มยื่นมือไปหา ทว่าพอจะวางลงบนไหล่บางกลับชะงักค้างกลางอากาศ กลัวว่าถ้าเขาถูกเนื้อต้องตัวเธอจะยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่า “ฮึก ฮือ” แต่ต่อให้เขาไม่จับ เธอก็ยังร้องไห้หนักอยู่ดี โคตรรู้สึกผิด แล้วขาต้องทำยังไง สุดท้ายมือที่ค้างไว้กลางอากาศก็ตัดสินใจวางลงไหล่บางเพื่อปลอบใจ ลอบถอนหายใจที่เธอไม่ปล่อยโฮหนักกว่าเก่า “ฮึก” นัทธ์กมลพยายามกลั้นสะอื้น เธอรับรู้ ไม่ได้ตั้งใจให้เขารู้สึกแย่ แต่เธอก็แค่อยากร้องไห้ ระบายทุกอย่างที่รู้สึกออกมา มันช่วยได้มาก เป็นอีกครู่ใหญ่ที่มือหนาวางค้างไว้บนไหล่คนตัวเล็กอย่างนั้น ใช้ความเงียบเยียวยาเท่าที่มันจะพอทำได้ จนนัทธ์กมลยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แต่สภาพเธอตอนนี้มอมแมมน้อยกว่าเจ้ามอมของลุงยามเสียที่ไหน หญิงสาวก้มหน้าก้มตาบอกเขา “ถ้าอาจารย์กังวลเรื่องโรคจะตรวจเลือดก็ได้นะคะ” อาจารย์ของเธอส่ายหน้า “ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลย” เสียงทุ้มทอดอ่อน ก่อนถามกลับ “คุณล่ะ” เธอนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนพยักหน้า คิ้วเข้มเลิกขึ้น ไม่ไว้ใจเขา? แต่ก็สมควร ธีรกรถอนหายใจ ละมือจากไหล่บาง เดินไปหยิบกระดาษทิชชู่ยื่นส่งไปให้ นัทธ์กมลก้มหน้าคว้ามันมาซับน้ำตาเช็ดน้ำมูก แล้วก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง พอเงยหน้าขึ้นมา เธอเห็นร่างสูงนั่งชันเข่าอยู่ตรงหน้า “เดี๋ยวผมไปตรวจเลือดให้” เขาบอก มือบางรีบยกห้ามตอนเขาเอื้อมมือมาจะถอดแมสให้ แต่ไม่ทัน เธอเลยยกมือขึ้นปิดครึ่งหน้า ไม่อยากให้เขาเห็นหน้าเลอะน้ำตาเปื้อนน้ำมูก ธีรกรจับมือเรียวลงมา ไล่เช็ดน้ำตาให้แทน “อย่าร้องไห้อีกเลยนะ ผมผิดเองจริงๆ” ชายหนุ่มก้มหน้า ก่อนเงยขึ้นมาสบตา นัทธ์กมลมองสบสายตาคมที่ตอนนี้อยู่ระดับเดียวกัน “อาจารย์จะไม่คิดว่าหนูจับอาจารย์ใช่มั้ยคะ” ความเข้มข้นของความรู้สึกบางอย่างที่ไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่ฉายอยู่ในแววตาคม ทำให้เธอกล้าย้ำความกังวลบอกเขา กลัวว่าเขาจะเข้าใจว่าเธอจงใจเข้าห้องผิด ธีรกรฟังแล้วถอนหายใจ “กรุ้งกริ้ง… ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าคุณจะจับผม” “…” “ถ้าผมเชื่ออย่างนั้นจะตามคุณกลับมาอีกทำไม” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม “ผมตางหากที่เป็นฝ่ายอยากเจอคุณ” “ถ้าผมเชื่ออย่างนั้นจะตามคุณกลับมาอีกทำไม” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม “ผมตางหากที่เป็นฝ่ายอยากเจอคุณ” “…” “ส่วนเรื่องอนาคต ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง แต่ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง” ตาคมมองสบตรงๆ ไม่หลบสายตา เขาบอกหนักแน่น เป็นความตรงไปตรงมาที่พาให้หัวใจทั้งรู้สึกอบอุ่นและเต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะรู้ “แล้วก็ขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บ” แก้มเนียนใสร้อนผะผ่าว เช่นเดียวกับตาคมที่มองไม่หลบมาโดยตลอดครั้งนี้เขาเฉมองไปทางอื่น กระดากที่จะพูดคำนี้ แต่เขาก็ผิดเต็มๆ คนรับคำขอโทษพยักหน้างุด เพราะก็เขินอายเหมือนกัน มันทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน ทำลงไปได้ ตอนแรกก็นึกว่าซวย “งั้นก็ไม่ซวยแล้วสิ อุตส่าห์ทำบุญเอาไก่ให้ตัวเหี้ยกิน” คนพ้นเคราะห์พ้นโศกพึมพำไม่รู้ตัว แต่เดี๋ยวนะ!! นี่เธอเห็นเขาเป็นตัวเหี้ยเหรอ!! “นัทธ์กมล อยู่ๆ อยากเอกสารสำคัญหายมั้ย” ร่างสูงลุกขึ้น เสียงเย็นยะเยือกถามอย่างอดกลั้น ตาดุๆ ที่มองเธอด้วย … นัทธ์กมลกระพริบตาปริบ พอเหมือนนึกได้ เธอคิดว่าพูดในใจ ที่ไหนได้พูดออกมา!! “หนูไม่ได้หมายถึงอาจารย์นะคะ!!” ดวงตาช้ำเบิกกว้าง โบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่ยักษ์ปักหลั่นตรงหน้าเธอก็ยังกอดอกหรี่ตามองอย่างจับผิด “หนูแค่คิดว่าตัวเองซวย ก็เลยอยากสะเดาเคราะห์เฉยๆ ค่ะ” กัดฟันกรอดด้วย เหมือนสันกรามจะนูนขึ้นมามั้ยนะ บีบคอเธอได้คงบีบไปแล้วมั้ง หญิงสาวนึกโทษตัวเอง นอกจากชอบนอนละเมอ ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นมาอีกเหรอเนี่ย แล้วต้องทำยังไงล่ะทีนี้ มองหน้ายักษ์แล้วเธอหวั่นความปลอดภัยของตัวเอง หวั่นความปลอดภัยของใบจบตัวเองที่ยังอยู่กับเขาด้วย “ไม่ได้คิดว่าอาจารย์เป็นตัวเหี้ยสักหน่อย” เสียงแผ่วแก้ แต่ไม่ด่าแน่นะ ทำไมเขาเหมือนโดนด่า เหี้ยสองรอบแล้ว “มูอ่ะค่ะ มูเตลูอ่ะค่ะ” เธอขยายความให้เข้าใจง่ายๆ แต่หมออย่างเขาคงไม่เข้าใจหรอก คนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ทำหน้าฉงน “ด้วยการซื้อไก่ให้ตัวเหี้ยกินเนี่ยนะ!!” คนตัวเล็กพยักหน้าเนิบๆ เหลือบตามองก็ยังเห็นแววตาดุจ้องกันไม่ลดละก็เลยอุบอิบต่อ “ก็ตัวเงินตัวทองเป็นตัวแทนของความซวยนี่คะ ถ้าเราเมตตามัน เราก็อาจจะไม่ซวย” เหตุผลอะไรของเธอ ช่างคิดมาได้ คุณหมอฟังแล้วส่ายหน้า แทบอยากยกมือกุมขมับถ้าไม่กลัวคนตัวเล็กจะร้องไห้ใส่เขาอีกรอบ ถ้าร้องไห้เพราะตัวเหี้ยรอบนี้มีหวังเขาได้ไมเกรนขึ้นแน่ ชายหนุ่มมองคนที่คราวนี้ทำมาเป็นทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม เขาเดินออกไปนอกห้อง ไม่นานก็ได้ยากับน้ำเอากลับมายื่นให้เธอ นัทธ์กมลรับมากินอย่างว่าง่าย “ตอนแรกผมว่าจะพาออกไปซื้อข้างนอก แต่จะสี่ทุ่มแล้ว เลยขอให้พยาบาลช่วยเอามาให้ กินที่นี่เลยดีกว่า แล้วเดี๋ยวผมไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะ รถไฟฟ้ายังไม่หมด หนูกลับเองได้ค่ะ” “ไม่ต้อง ดึกแล้ว ผมไปส่ง” อาจารย์จอมเผด็จการสรุป เขาเดินกลับมาหยิบกุญแจรถกับไอแพด ใช้สายตาสั่งให้เธอลุกตาม “เราพักอยู่ที่ไหน” นัทธ์กมลยังไม่ทันตอบ เพราะพอเธอลุกขึ้นยืนเรื่องก็เกิด โรคกระเพาะเจ้ากรรม มากำเริบอะไรตอนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD