นายแพทย์ธรรกร ภัควัฒน์ วันนี้เข้าห้องไม่ผิดแล้ว

1208 Words
ถึงแล้วให้โทรหา เขาสั่งว่าอย่างนั้น เป็นโรงพยาบาลเอกชนราคาแพงลิบที่ต้องนั่งบีทีเอสต่อไปอีกหลายสถานี อย่างนี้ก็ไม่น่ามีใครเจอเราแน่ ที่เดินสวนกันก็ชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยด้วยกัน เดินเข้าไปข้างในให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนโรงแรมมากกว่าโรงพยาบาล นัทธ์กมลเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ ได้ความก็เดินตามไป ระหว่างนั้นเธอโทรหาเขา จนขึ้นบันไดเลื่อนไปถึงแผนกอายุรกรรม ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากางเกงสแลคโทนสีไปทางเดียวกันแต่เข้มกว่ามากก็เปิดประตูออกมาพอดี เขายกโทรศัพท์แนบหู มองซ้ายมองขวา สวมหน้ากากอนามัย มีหูฟังคล้องอยู่ที่คอ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดหน่อยตอนหันมองมาทางเธอ คงเพราะเธอก็สวมหน้ากากอนามัยปิดไว้ครึ่งหน้าเหมือนกันเขาก็เลยจำไม่ได้ ทว่าพอแน่ใจว่าเป็นใคร ร่างสูงก็เดินตรงเข้ามาหา นัทธ์กมลยกมือไหว้ เขาพยักหน้ารับไหว้ “นักศึกษาผมเอง จะมาปรึกษาเรื่อง mental health* ขอความเป็นส่วนตัวนะครับ” *mental health ปัญหาสุขภาพจิต คุณหมอหันไปบอกพยาบาล จากนั้นจึงมองมาทางเธอแล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้เดินตามเข้าไป ทำตัวเป็นปกติตรงข้ามกับเธอที่แค่สบแววตาคมแม้แค่แว็บเดียวเรื่องเมื่อคืนกลับฉายชัดขึ้นมาเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นพาให้หน้าร้อนผะผ่าว ตากลมเหลือบมองป้ายชื่อที่อยู่หน้าห้องระหว่างเดินตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างเข้าไป ‘นายแพทย์ธีรกร ภควัฒน์ M.D., Ph.D.’ วันนี้เข้าห้องไม่ผิดแน่ๆ “นั่งสิ” พอประตูปิดลง เสียงทุ้มก็บอก เท่ากับว่าตอนนี้ในห้องมีแค่เธอและเขาเพียงลำพังสองคน นัทธ์กมลปลดกระเป๋าสะพายลงจากไหล่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอพึมพำขอบคุณเบาๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือเปล่า ร่างสูงเดินไปล้างมือ ก่อนกลับมาที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งฝั่งตรงข้าม เขานั่งลง เอาหูฟังที่คล้องคอวางลงบนโต๊ะ “ทานข้าวมาหรือยัง” “ทานแล้วค่ะ” ธีรกรพยักหน้ารับ พอเห็นอย่างนี้ก็พอสบายใจที่อย่างน้อยเธอก็กล้าสบตา มิหนำซ้ำ… คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างแปลกใจไม่น้อย แทนที่เขาจะถาม เธอกลับเป็นเริ่มถามเขาก่อน “เรื่องเมื่อคืนอาจารย์รู้ได้ยังไงคะว่าเป็นหนู” ดวงตาเหนือแมสไม่ละไปไหนอย่างรอคอยคำตอบ ชายหนุ่มเปิดลิ้นชัก กระดาษใบหนึ่งถูกหยิบขึ้นมาแล้วเลื่อนไปให้ ทว่าเพียงเขาโน้มตัวมาเพียงนิด เธอก็เกือบขยับหนีโดยอัตโนมัติ ดีที่มือจับเก้าอี้ยึดเป็นหลักไว้ได้ทัน หมดกัน กำลังใจที่ปลุกปั้นตั้งแต่รู้ว่าต้องมาหาเขาหมดลงทั้งที่เพิ่งเริ่มยังคุยกันได้ไม่กี่ประโยคเลยด้วยซ้ำ เธอนี่มันอ่อนด้อยจริงๆ “เราลืมเอาไว้ใต้หมอน” เสียงทุ้มเฉลย หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำกับคำเรียกแทนตัวเธอที่เขาไม่เคยเรียก ดีที่มีแมสช่วยไว้ไม่อย่างนั้นเขาคงได้เห็นริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน นัทธ์กมลเหลือบตาขึ้นมอง ในใจสรุปแล้วว่าอาจารย์ธีรกรขี้อ่อยจริงๆ เพราะวันนี้เขาก็ยังปลดกระดุมสองเม็ด หญิงสาวก้มลงมองหลักฐานมัดตัวที่อยู่ตรงหน้า เมื่อคืนจำไม่ได้เลยว่าจิตตกหวงกับแค่กระดาษแผ่นเดียวหนักถึงขั้นช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนั้นยังอุตส่าห์เอาไปซ่อนไว้ตอนไหน “หวงจริงๆ เลยนะ” คนตรงหน้าแซว เขากลั้วหัวเราะส่ายหน้า ถ้าไม่ใช่อาจารย์เธอคงถลึงตาใส่ ยังมีอารมณ์มาขำ “ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอก แค่สงสัยว่าทำไมต้องหนีไป เอ่อ ผมต้องเล่าก่อนว่าเมื่อคืนผมไปสังสรรค์กับเพื่อน…” เมาไปหน่อย เพื่อนอ๊อฟเด็กไว้ให้ เขานึกว่าเธอเป็นเด็กที่เพื่อนหาไว้ให้ก็เลย… “ขอโทษครับ ผมผิดเอง ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นเรา” น้ำเสียงและแววตาเขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ ในเมื่อเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น ไม่ได้ขาย ไม่ได้ตั้งใจมาเพื่อเสียซิง เขาก็ควรทำอะไรสักอย่าง สองมือแข็งแรงประสาน ธีรกรมองคนที่ฟังแล้วเอาแต่ก้มหน้า เป็นชั่วอึดใจที่ทั้งห้องมีแต่ความเงียบ แต่ชายหนุ่มก็อดทนรอจนเธอเงยหน้าขึ้นมา นัทธ์กมลส่ายหน้า ดวงตายิ้มแต่เขาก็รู้ว่าเธอกำลังฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ หนูเองก็มีส่วนผิดเหมือนกัน” เธอบอก แค่นี้ก็รักษาน้ำใจกันมากแล้ว ขนาดเรื่องที่เธอเข้าห้องผิด เขายังไม่โทษไม่พูดถึงเลย พอฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว ในใจหญิงสาวนึกต่อว่าตัวเอง แต่อีกใจก็คิดว่าควรทำอะไรเพื่อเขาบ้าง “แต่อาจารย์ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะไม่สร้างปัญหา” คนตรงหน้าคุณหมอสูดหายใจลึก บอกต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่ต้องห่วงค่ะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น หนูจะไม่บอกใคร ไม่ให้เสื่อมเสีย ไม่ให้รู้ไปถึงเมียของอาจารย์เด็ดขาด” “อะไรนะ” เป็นประโยคหนักแน่นที่ทำเอาคนฟังคิ้วขมวด นัทธ์กมลกระพริบตาปริบ หรือเธอพูดอะไรผิดไป หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจจากหน้าตาเขาน้องยักษ์ดีๆ ของเขา “ก็ เอ่อ ภรรยาอาจารย์ไงคะ” เสียงแผ่วตะกุกตะกักแก้ คนฟังฟังแล้วถอนหายใจหนัก “นัทธ์กมล ผมยังไม่มีเมีย” เสียงเนือยย้ำคำช้าๆ และชัดเจน อ่าว… “ขะ…ขอโทษค่ะ คือ… เห็นอาจารย์คบกับแฟนนานแล้ว หนูเลยคิดว่าอาจารย์แต่งงานแล้ว” …ก็ควงกันออกหน้าออกตาขนาดนั้น เธอจะไปรู้ได้ยังไง “แต่ยังไงก็แล้วแต่ เอาเป็นว่า หนูจะไม่บอกใคร ไม่ให้รู้ไปถึงหูแฟนอาจารย์เด็ดขาดค่ะ” คนตัวเล็กสรุปอีกครั้ง ให้คำมั่นสัญญาหนักแน่น แต่เป็นความหนักแน่นที่ทำเอาคุณหมอหนุ่มส่ายหน้า คราวนี้ถึงกับถอดแมส บอกให้เธอฟังช้าๆ ชัดๆ “นัทธ์กมล แฟนผมก็ไม่มีครับ” นี่เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายยังไง มีแฟนแล้ว แต่ยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น “อ่าว… แล้ว…” เอ๋อจริงๆ สิ่งที่ได้ยินทำให้คนฟังถึงกับอึ้งไป ธีรกรมองสบนัยน์ตากลม เขาก็หมายความตามที่พูด “ผมเพิ่งเลิกกับกริ๊งไปเมื่อปีที่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นหรอกครับ” คุณหมอลอบถอนหายใจ เรื่องส่วนตัวแบบนี้นอกจากคนสนิทเขาก็ไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟัง คำอธิบายเสียงเข้มของเขา ความจริงเธอควรโล่งใจผสมรู้สึกผิด แต่ตอนนี้กลับสับสนกับอย่างอื่นมากกว่า “กริ๊ง?” “อือ ชื่อเหมือนเราเลย” แผ่นหลังกว้างทิ้งลงพิงพนักเก้าอี้ ท่าทีของเขาผ่อนคลายลง ทว่าเธอนี่สิ แค่ชื่อแฟนเก่าเขาที่ดันมาตรงกับเธอ อยู่ๆ แก้มใสก็ซับสีเลือด “ผมเรียกเราชื่อเล่นได้มั้ยล่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD