จ๊วบ~
“อื้อ~” ฉันร้องทันทีที่เขาก้มลงมาดูดไซร้คออีกครั้ง มือที่เขาสอดเข้ามาประสานกับนิ้วมือของฉันทั้งสองข้าง เขากำมือฉันจนแน่นแล้วกดลงให้จมลงไปกับที่นอนจนฉันขยับไม่ได้แล้วปากก็เริ่มดูดคอฉันไม่หยุด
ยังไงดีมีนา นึกว่าฝันแต่ดันไม่ใช่ฝัน จะจบง่าย ๆ แค่เข้ามาแล้วออกไปเหมือนเมื่อคืนไหม? แต่ไม่อยากให้เป็นแบบเมื่อคืนแล้ว ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นระหว่างเราทั้งนั้น ไม่เอาเหตุการณ์แย่ ๆ แบบเมื่อคืนเข้ามาในชีวิตอีกได้ไหม
“คุณเกรย์ปล่อย~” ฉันเคลิ้มค้างมาจากในฝันแต่พอได้สติก็เริ่มต่อต้าน พยายามดิ้นทั้งที่อีกฝ่ายกำลังเบียดท่อนล่างเข้าหาร่างกาย
“อื้ม~” เสียงแผ่วเบาเหมือนรำคาญที่โดนขัดดังขึ้นแล้วเขาก็เริ่มดูดผิวฉันต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“อย่า~ อย่าทำแบบนี้กับมีนเลยคุณเกรย์”
“เธอยั่วเอง” เสียงเขาดังขึ้นทั้งที่ริมฝีปากแทบจะไม่ผละจากผิวของฉันเลย
จ๊วบ~
“มีนเปล่า อื้อ~ คุณเกรย์อย่าทำแบบนี้เลย~” ฉันพยายามขอร้อง แค่เมื่อคืนก็ไม่รู้ว่ามีรอยตรงไหนบ้างอย่าทำรอยเพิ่มเลย แรงที่ดูดตอนนี้ไม่ใช่แผ่วเบาเลยสักนิดดูหื่นกระหายตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่รู้ฉันกลัวว่าถ้าไม่หยุดตัวฉันคงแดงไปทั้งตัว
“อืม~” เขาไม่หยุดแถมยังส่งเสียงรำคาญมากกว่าเดิมแล้วก็เริ่มคุกคามฉันมากขึ้น ปากก็เริ่มขยับลงเรื่อย ๆ ถึงจะใส่เสื้อเชิ๊ตของเขาอยู่แต่ไอ้เสื้อแค่นี้มันปกป้องร่างกายไม่ได้หรอกฉันรู้ดี
จ๊วบ~
“พอสักทีมีนขอร้อง~” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเลย ทำไมเป็นคนแบบนี้ ทำไมทำเหมือนฉันจะไม่รู้สึกอะไรถ้าต้องมีอะไรกับแฟนของเพื่อนรัก!
“มีนจะบอกขิงนะคุณเกรย์ ปล่อย!” ฉันดึงน้ำขิงเข้ามาเพื่อให้เขามีสติและหยุดทำแบบนี้สักทีแต่เปล่าเลยเพราะทันทีที่ขู่จบเขาก็ขยับใบหน้าลงไปหาหน้าอกแล้วซุกไซร้ลงไป เสื้อเชิ้ตเขาใหญ่กว่าตัวฉันมากคอเสื้อเลยคว้านลึกลงไปถึงเนินอก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลยที่จะดูดลงไปที่เนินอกที่อีกนิดเดียวจะถึงยอดอกอยู่แล้ว
จ๊วบ~
“ปล่อย!”
จ๊วบ~
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ~
“ถ้าไม่หยุดมีนจะบอกคุณลุงนะคุณเกรย์!” ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีตะโกนขู่ด้วยคำนี้ออกไป เสี่ยงตายกัไปเลยแล้วกันในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว
“อยากตายเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้นมาช้า ๆ แล้วถามด้วยเสียงไม่สบอารมณ์
“...ถ้ามีอะไรกับคุณเกรย์ก็ไม่ต่างจากตกนรกทั้งเป็นเหมือนกัน”
“...”
“อยากทำก็ทำสิแต่บอกไว้ก่อนว่ามีนไม่ยอมแน่” ถ้ายอมครั้งนี้คิดเหรอว่ามันจะไม่มีครั้งต่อไป เป็นชู้กับแฟนเพื่อนแบบไม่ได้ตั้งใจเป็นเรื่องที่โคตรจะทุเรศเลยต่อให้ฉันจะแอบรู้สึกอะไรกับเขามานานแต่ถ้าฉันยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นเอามีดมาปาดคอฉันเลยดีกว่า
“คิดว่าฉันกลัวคำขู่ของเธอเหรอ?” คำถามจากเขาทำให้ฉันเริ่มหน้าเสีย ก็ไม่คิดว่าเขาจะกลัวคำขู่ของฉันหรอกแต่จะให้ทำยังไงล่ะก็ฉันไม่รู้จะเอาใครมาอ้างให้ตัวเองรอดแล้วนอกจากคุณลุง
“เปล่าค่ะ รู้ว่าคุณเกรย์ไม่สนใจคำพูดของมีนหรอกแต่ถ้าจะทำก็ทำเลย มีนห้ามคุณเกรย์ไม่ได้คุณเกรย์ก็ห้ามมีนไม่ได้เหมือนกัน" เก่งเข้าไว้มีนาถึงจะแค่เก่งแต่ปากก็ตาม ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องรอดเข้าใจไหม
เขาจ้องฉัน สายตามีแต่ความไม่พอใจแล้วเขาก็ก้มลงมาหาอีกครั้ง ช้า ๆ แต่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าชะตาขาด ฉันคงไม่รอดเลยทำได้แค่หลับตาปี๋รอรับความบัดซบเหมือนเมื่อคืน
“...อ่าส์! ถ้ายั่วอีกเธอจบไม่สวยแน่ยัยคนสวน!” ฉันที่กำลังหลับตาปี๋ค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ หลังจากที่ได้ยินคำพูดที่น้ำเสียงมีแต่ความหงุดหงิดของเขา พอลืมตาก็เห็นเขายังจ้องฉันด้วยสายตาเข่นเขี้ยวเลยทำได้แค่นอนเกร็งแล้วเม้มปากตัวเองแน่นเพราะยังไม่พ้นระยะอันตราย
“...น่าหงุดหงิด” เขาพูดออกมาเบา ๆ แล้วพลิกตัวนอนหันหลังให้ฉันด้วยความเร็ว
“...” เป็นบ้าอะไรของเขา แล้วที่เพิ่งขู่ฉันว่าถ้ายั่วอีกฉันจบไม่สวยแน่มันคืออะไร? ฉันไปยั่วเขาตอนไหนก็มีแต่เขานี่ล่ะที่ลวนลามตอนฉันหลับ แต่ช่างเถอะอย่าหาคำตอบที่มีแค่เขาที่รู้คนเดียวเลยแค่รอดก็พอแล้ว
ว่าแต่ตอนนี้จะเอายังไงต่อมีนา จะนอนอยู่บนเตียงต่อเหรอ? ไม่ดีมั้งอย่าเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้วแต่ออกไปข้างนอกดีกว่า อย่างน้อยไปนอนที่โซฟาก็น่าจะดีกว่า
“นอน” แค่ฉันลุกขึ้นนั่งกำลังจะลงจากเตียงเสียงเขาก็ดังขึ้นมา
“มีนตื่นแล้วคุณเกรย์”
“นอน ฉันง่วงแล้วเธอก็ต้องนอน ตื่นแล้วจะพากลับ”
“เดี๋ยวมีนออกไปนอนข้างนอก” ฉันไม่ยอมนอนเตียงเดียวกันกับเขาอีกครั้งเด็ดขาดพูดจบก็เลยลุกออกมาเลย โชคดีที่เขาไม่ได้พยายามเอาชนะต่อทุกอย่างเลยจบลงด้วยการที่ฉันออกมานอกห้องแล้วนอนที่โซฟา
มองออกไปข้างนอกบรรยากาศเพิ่งจะสว่างเองนะคะ อากาศดีมากจนอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกแต่สภาพของฉันเป็นแบบนี้แล้วตอนนี้ก็อยู่ที่ไหนไม่รู้จะใช่ชุมพรอย่างที่เขาบอกจริงรึเปล่าก็ไม่รู้เลย ที่สำคัญไม่มีโทรศัพท์ด้วยตอนมาถึงลืมหยิบโทรศัพท์ลงมาจากรถของเขามั้งคะ
“...เฮ้อ~” ทำไมชีวิตมีนาที่เป็นแค่เด็กกำพร้าธรรมดา ๆ คนหนึ่งถึงได้ถูกฟ้าเล่นตลกให้ต้องเจอกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้แบบนี้ด้วยนะ
...เหนื่อย
แค่ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะพาชีวิตไปทางไหนดีแล้วทำไมต้องเจอเรื่องที่มันหดหู่ความรู้สึกแบบนี้ด้วยวะมีนา
นอนเถอะ นอนเอาแรง ยิ่งอยู่คนเดียวยิ่งฟุ้งซ่าน
...ขอโทษนะขิง กูไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย
-เวลาต่อมา-
ก๊อก ๆ ๆ
“คุณเกรย์คะ”
ก๊อก ๆ ๆ
“คุณเกรย์”
ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้าน เสียงผู้หญิงมีอายุพอประมาณเรียกชื่อเขาแต่ฉันไม่กล้าออกไปเปิดให้หรอกปลุกเขามาเปิดประตูเองดีกว่า
ก๊อก ๆ ๆ
ฉันเคาะประตูเบา ๆ ตามมารยาทแล้วเปิดประตูเข้าไป
“คุณเกรย์”
“อืม~ มีไร” เสียงงัวเงียกับหน้าตาที่เพิ่งตื่นนอน...ดูดีเป็นบ้าเลย -///-
“มีคนมาเคาะประตูเรียกคุณเกรย์”
“ใคร?”
“มีนจะไปรู้เหรอ”
“อย่ากวนตีน ไม่รู้แล้วทำไมไม่ถาม” เออโดนด่าไปหนึ่งดอก
“ยังไม่ได้เปิดประตูออกไปถาม มีนมาบอกคุณเกรย์ก่อน”
“จะให้ฉันไปเปิดประตูงั้นสิ?”
“ค่ะ คุณเกรย์เป็นเจ้าของบ้านจะให้มีนไปเปิดได้ยัง... / แต่เธอเป็นคนสวนของบ้าน เธอก็เปิดได้ทำไมไม่เปิดวะ”
“ใครจะไปกล้าล่ะคุณเกรย์”
“คนไม่ใช่ผีกลัวอะไรของเธอ ไปเปิด”
“แต่... / ไป”
“เฮ้อ! โอเคค่ะ” ไอ้คุณชาย! ขอต่อท้ายหน่อยเถอะถึงจะในใจก็ตาม อัดอั้นตันใจว่ะ
ฉันเดินไปเปิดประตูบ้านที่ยังมีเสียงเคาะอยู่ถึงจะไม่ถี่เท่าตอนแรกแล้วก็ตาม
กริ๊ก!
“สวัสดีค่ะ” ฉันเปิดประตูออกไปก็ยกมือไหว้คุณป้าคนที่มาเคาะประตูทันที น่าจะเป็นคนดูแลที่นี่ให้ครอบครัวคุณลุงเหมือนที่ป้าสายของฉันก็ดูแลสวนกับบ้านพักตากอากาศให้มั้งคะ
“สวัสดีค่ะคุณ” คุณป้ามองฉันด้วยสายตาตะลึงทำเอาฉันรู้สึกแปลก ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงมองขนาดนี้แต่ที่แน่ ๆ สายตาที่เห็นไม่ใช่สายตาตะลึงความสวยแน่นอน
...มีอะไรแปลก ๆ ในร่างกายแกแน่นอนเลยมีนา
“คุณเกรย์ยังไม่ตื่นค่ะ พอดีหนูนอนอยู่ข้างนอกเลยมาเปิดประตูให้ก่อน คุณป้ามีอะไรรึเปล่าคะ” ไม่ว่าคุณป้าจะจ้องฉันด้วยความรู้สึกยังไงก็ตามแต่ฉันต้องรีบอธิบายก่อนว่าฉันไม่ได้นอนกับเขา
“อ่อค่ะ ๆ พอดีป้าจะมาถามว่าคุณ ๆ จะรับอาหารเช้าเลยไหมคะ”
“ไม่ต้องเรียกคุณหรอกค่ะป้า อาหารอยู่ตรงไหนคะเดี๋ยวหนูไปยกมาไว้เลยก็ได้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะเดี๋ยวป้ากับลุงยกมาให้ คุณจะรับตอนไหนก็บอกป้าเลยนะคะ หรือคุณจะทานก่อน” บอกไม่ให้เรียกคุณแต่คุณป้าก็ยังเรียกทางนี้ก็ไม่อยากเซ้าซี้เหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอกมั้งคะอยู่ไม่นานเดี๋ยวก็กลับ
“ไม่เป็นไรค่ะหนูรอคุณเกรย์ตื่นดีกว่า ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือไหว้คุณป้าแล้วคุณป้าก็รีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทันจากนั้นคุณป้าก็กลับไปแต่ก่อนไปก็ยังจ้องฉันด้วยสายตาแปลก ๆ พอปิดประตูบ้านได้ฉันก็รีบพุ่งไปหาห้องน้ำที่น่าจะอยู่ที่ไหนสักที่ทันที
“...” ภาพฉันที่อยู่ในกระจกทำเอาฉันขาสั่นยืนแทบไม่อยู่
มัน...แดงช้ำเป็นจุดเต็มคอไปหมด คำนวณด้วยสายตาน่าจะเกินสิบรอยด้วยซ้ำ!
ไอ้บ้าเกรย์!
สภาพแบบนี้แล้วฉันจะไปเรียนไปทำงานยังไง!
...งาน
จริงสิ! วันนี้ฉันยังมีงานอยู่นะคะ ตายห่าแล้วมีนเอ้ย~ งานเริ่มบ่ายสองตอนนี้กี่โมงก็ไม่รู้รู้แค่เป็นตอนเช้าแค่นั้นเอง เขาบอกอยู่ชุมพรจะกลับทันไหมแล้วที่สำคัญต่อให้กลับทันแล้วจะไปทำงานในสภาพนี้ได้ยังไง ขืนไปสภาพนี้ลูกค้าคิดว่ารับงานอื่นด้วยแน่นอน T^T
“คุณเกรย์” ฉันกลับเข้าไปในห้องนอนของเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้เคาะประตูสักแอะ ช่างมันตอนนี้ไม่สนใจอะไรเท่างานตัวเองแล้ว
“อ่าส์! อะไรนักหนาวะ!” เขาสะบัดผ้าห่มออกแล้วมองฉันด้วยความหงุดหงิด
“ขอกุญแจรถหน่อยมีนจะไปเอาโทรศัพท์”
“เอาไปทำไร”
“ก็เอาไปเอาโทรศัพท์ไง” ถามโง่ ๆ ทั้งที่หน้าตาไม่ได้มีจุดไหนบอกว่าโง่เลยสักนิดนอกจากความหล่อที่เยอะแยะเต็มไปหมด
“จะเอาโทรศัพท์ไปทำอะไร จะเอาไปโทรฟ้องพ่อรึไง”
“ไม่ใช่ซะหน่อย มีนจะโทรไปลางาน” ไปไม่ทันก็ต้องรีบบอกพี่ปิ๋มเดี๋ยวพี่เขาโดนลูกค้าเอาเรื่องขึ้นมาจะแย่ พอฉันบอกเขาก็จ้องเขม็งแล้วขยับตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง
“งานอะไร” จ้องแล้วมองเหยียดนี่หมายความว่ายังไง? ไอ้ที่ทำร้ายฉันเมื่อคืนยังไม่ชัดเจนพอรึไงว่างานของฉันมันไม่ใช่งานขายตัว!
“ไม่ใช่งานขายตัวก็แล้วกัน”
“อืม รู้...พิสูจน์มาแล้ว”
“คุณเกรย์!” เขาคิดว่าฉันไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของเขารึไง! มันคือแผลสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งเลยนะ จนถึงตอนนี้ฉันยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าฉันยังบริสุทธิ์อยู่รึเปล่า แต่ตะคอกให้คอแตกเขาก็ไม่สะทกสะท้านหรอก สายตาเขายังจ้องเขม็งมองเหยียดไม่ได้มีความรู้สึกผิดที่พูดจาแบบนั้นกับฉันเลยสักนิด
“ตกลงเธอทำงานอะไร รับงานเอนเตอร์เทน?”
“...” ฉันมองเขาแต่ไม่ได้ตอบอะไร ไม่ใช่จะไม่ตอบแต่กำลังเรียบเรียงคำตอบอยู่ว่าจะตอบยังไงให้เขาเข้าใจว่างานของฉันไม่ใช่งานเอนเตอร์เทนถึงแม้ว่ามันจะใกล้เคียงกันมากก็ตาม
“ตอบ” เสียงแข็งเอ่ยออกมาเพื่อกดดันแล้วฉันจะทำอะไรได้นอกจากตอบ เฮ้อ~
“ไม่เชิงเป็นงานเอนค่ะ ที่จริงก็ใกล้เคียงแต่มันไม่ใช่ แค่ไปเที่ยวไปกินข้าวกับลูกค้าฟิวแฟนเฉย ๆ”
“ฮึ! แล้วมันต่างอะไรจากงานเอนวะ มันก็เหมือนกันนั่นล่ะไม่ต้องพูดให้ดูดี สุดท้ายก็เด็กเอน”เขายิ้มเยาะมองไปทางอื่นแล้วส่ายหน้าเบา ๆ เป็นท่าทางเยาะเย้ยถากถางชัดเจนที่ทำให้หน้าชา
“ไม่ใช่...แต่ก็แล้วแต่จะทำความเข้าใจแล้วกันค่ะ” ตอนแรกก็ว่าจะปฏิเสธแต่ช่างเถอะเขาปักธงว่าเป็นแบบนั้นไปแล้วพูดให้ปากฉีกก็เปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้หรอก
“ฮึ! ไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าทำงานห่วยแตกพวกนั้นอีกเมื่อไหร่เธอตายคาเตียง จำใส่สมองกลวง ๆ ของเธอเอาไว้ก็พอ”