โรงแรมเอสซีจี
“วันนี้พาเมียมาเปิดตัวเหรอวะ”
“นี่แมทธิวเจ้าของงานประมูล” ไม่ตอบเพื่อนแต่หันไปแนะนำเจ้าของงานให้คนที่มาด้วยได้รู้จักแทน
“นี่มาทิลด้า”
“ตระกูลมัตชิเตโอจะมีใครบ้างที่ไม่รู้จัก ยินดีที่ได้พบนะครับคุณมาทิลด้า” ชายหนุ่มเจ้าของงานเอ่ยทักทายพร้อมกับส่งรอยยิ้มสุภาพมาให้
“ยินดีเช่นกันค่ะ” มาทิลด้ากำลังจะยื่นมือไปจับทักทายตอบ แต่ลูคัสกลับดันมือเธอออกแล้วจับแทน
“แหม แค่จับมือไอ้ห่า”
“กูเข้าไปลงทะเบียนก่อนเดี๋ยวออกมา” พูดจบก็จูงมือคนเป็นเมียเข้าไปด้านในพร้อมกับลูกน้องที่เดินถือของประมูลตามหลังไป
“อยากกินอะไรเดี๋ยวไปหยิบมาให้”
“เดี๋ยวมิลไปหยิบกินเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปหยิบมาให้”
“งั้นหยิบอะไรมาก็ได้” พูดจบชายหนุ่มสูทสีน้ำตาลก็เดินตรงไปยังโซนอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนจะหยิบของกินเล่นและน้ำผลไม้มาให้กับเธอ
“นั่งกินรออยู่ตรงนี้แป๊บหนึ่งนะ”
“อื้ม” สิ้นเสียงหวาน มาเฟียหนุ่มก็เดินออกไปด้านนอกก่อนจะเจอเข้ากับมาเฟียเจ้าของเกาะเอลบา
“ไอ้ลุค”
“มึงมาประมูลเอาอะไร แล้วนี่มึงมากับใคร”
“แม่บ้าน”
“มึงเอาแม่บ้านมาออกงาน?” มองเพื่อนสนิทด้วยสายตาจับพิรุธ
“ไม่เสือกสิลุค”
“ไอ้เวร แล้วไม่คิดจะแนะนำ?”
“นี่ไมร่า”
“นี่ลูคัสเพื่อนฉัน” ทั้งสองยื่นมือจับกันตามมารยาท แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยกัน เพื่อนที่สนิทอีกกลุ่มก็เดินเข้ามาทักทายทั้งสองเสียก่อน
“เป็นไงกันบ้างวะพวกมึง”
“อืม ก็ดี”
“แล้วไหนเมียมึงอะ ได้ยินว่าจะเอาเมียมาออกงานด้วย”
“เอามา แต่รออยู่ข้างใน”
“ไม่พามารู้จักวะ”
“รู้จักกับพวกมึง? ไม่จำเป็น”
“ไอ้ห่า หวงเมียฉิบหาย”
“…”
“แล้วเมื่อไหร่จะแต่ง พวกกูรอการ์ดเชิญไปงานแต่งมึงอยู่เนี่ย” ชายหนุ่มสูทสีเบอกันดีถามขึ้น
“เออ อยู่กันนานฉิบหาย ไม่แต่งสักที ไม่รู้รอห่าอะไร”
“ยังไม่อยากแต่ง”
มาทิลด้าเดินออกมาหวังจะมาเข้าห้องน้ำ ต้องมาหยุดชะงักเมื่อบังเอิญได้ยินบทสนทนาของลูคัสกับเพื่อน ๆ ความน้อยใจผุดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเพิ่งกลับมารู้สึกดีกับความสัมพันธ์ได้ไม่กี่เดือน สุดท้ายเธอเลือกม้วนหลังกลับไปยังทางที่เดินเข้ามา ก่อนจะเดินออกไปจากงานเงียบ ๆ
“ทำไมวะ”
“กูว่าจะรอมีลูกก่อน อยากให้ลูกอยู่ในงานแต่งด้วย เดินกับลูกแล้วเท่ดี”
“นี่มึงมีมุมนี้กับเขาด้วยเหรอวะ”
“…”
“ระวังเขาจะหนีไปก่อนลูกจะเดินได้เถอะมึง เห็นว่าพักหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ตามหึงหวงเหมือนแรก ๆ ด้วย” มาร์โค่เอ่ยเตือน
“อย่าว่าแต่ไอ้ลุค มึงน่ะ เอาใครมาด้วย” ชายสูทสีม่วงหันไปถามมาเฟียหนุ่มผู้มีรอยบากที่ตาพร้อมกับมองไปยังสาวสวยที่ยืนใบหน้าไม่รับแขกข้าง ๆ เพื่อน
“เสือกอะไรเรื่องของกู” พูดจบมาร์โค่ก็เดินจูงมือแม่บ้านส่วนตัวออกไปจากกลุ่มเพื่อนทันทีโดยไม่คิดแนะนำ หรือกล่าวคำลาแต่อย่างใด
“จะได้เวลาเริ่มประมูลแล้ว เดี๋ยวกูเข้าไปหาเมียก่อน”
“เออ เจอกันข้างใน” ลูคัสเดินย้อนกลับเข้าไปด้านใน ดวงตาน้ำตาลเข้มกวาดมองหาคนที่มาด้วยแต่แล้วก็ไม่พบ
Calling…
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!! มีเพียงเสียงรอสายเท่านั้นที่ดังขึ้น
ReadApp | Matilda
Lucas : อยู่ไหน
Lucas : พี่กลับเข้ามาในงานแล้ว
ห้านาทีผ่านไป
Calling…
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!!
“หายไปไหนวะ” งานประมูลได้เริ่มขึ้นเป็นที่เรียบร้อย แต่มาเฟียหนุ่มยังคงเดินตามหาหญิงสาวคนที่มาด้วยจนทั่วงานแต่ก็ไม่พบ
“หาอะไรอยู่วะไอ้ลุค”
“เมียกูหาย”
“กูเห็นนั่งอยู่ข้างนอกโน้น” ลูคัสรีบเดินออกไปตามสถานที่ ตามที่เพื่อนบอกทันที
เมื่อเดินออกมาก็เห็นมาทิลด้านั่งอยู่กับความเงียบในมุมมืดเพียงลำพัง เขาค่อย ๆ ย่างกรายเข้าไปหาก่อนจะถอดสูทคลุมให้กับเธอ
“ทำไมออกมานั่งข้างนอก”
“แค่อยากออกมานั่งสูดอากาศหน่อยน่ะ”
“แล้วโทรมาทำไมไม่รับสาย”
“โทรศัพท์ปิดเสียงไว้”
“งานประมูลเริ่มแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“นายเข้าไปก่อนเลย ขอนั่งตรงนี้แป๊บหนึ่ง” คิ้วเข้มพลันขมวดแน่น เมื่อได้น้ำเสียงเหินห่าง
“เป็นอะไรหรือเปล่ามิลด้า”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”
“อยากกลับไหม”
“แล้วงานประมูลเพื่อนนายล่ะ”
“ช่างมัน ไม่เป็นไรหรอก”
“เกรงใจเพื่อนนาย นายเข้าไปก่อนเถอะ”
“เธอเป็นอะไรมิลด้า” รู้สึกถึงบรรยากาศไม่ปกติ
“…”
“ถ้าเธอไม่อยากเข้าไป งั้นก็กลับ” เผลอพูดเสียงแข็งใส่
“หงุดหงิดมิลเหรอ”
“เปล่า ไม่ได้หงุดหงิด”
“…”
“ถ้าเบื่อก็จะพากลับ”
“ลุคเข้าไปประมูลเถอะ เดี๋ยวมิลนั่งรอข้างนอก” เมื่อเห็นว่าอีกคนมีท่าทีเหมือนไม่อยากที่จะอยู่ต่อ ลูคัสจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ออกให้คนขับรถมารับทันที
เพนต์เฮาส์
เมื่อกลับมาถึงเพนต์เฮาส์มาทิลด้าก็เดินตรงขึ้นไปยังห้องนอนโดยไม่สนใจคนที่เดินตามเข้ามา ก่อนจะปลดชุดเดรสสีเงินออก แล้วก้าวขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างหมดแรง
“เธอเป็นอะไร” ลูคัสปลดเนกไทหลวม ๆ แล้วเดินมานั่งลงบนปลายเตียง มือหนาสัมผัสกับเท้าเรียวเล็กของคนที่นอนอย่างเบามือ
“มิลแค่รู้สึกปวดหัวน่ะ”
“หิวไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า”
“มิลกินจากงานมาแล้ว อยากนอนมากกว่า” น้ำเสียงเรียบนิ่งของอีกคนทำให้เขารับรู้ได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันผิดปกติจริง ๆ
“พี่เผลอทำอะไรให้เธอโกรธหรือเปล่า”
“เปล่ามิลแค่รู้สึกเหนื่อย ๆ เดี๋ยวนอนพักก็คงหาย” น้ำตาแห่งความน้อยใจไหลลงจากหางตา เมื่อหวนนึกถึงคำพูดที่บังเอิญได้ยินก่อนหน้านี้ แต่จะให้เธอไปอาละวาดอะไรใส่เขาตอนนี้คงไม่มีแรงที่จะทำ
“อืม งั้นก็นอนเถอะ” ลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดคนที่นอนตะแคงหันหลังให้
วันต่อมา...
เวลา 12:00 น.
แสงแดดจ้ายามบ่ายที่สาดส่องเข้ามาไม่สามารถปลุกคนที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาได้เลย มาทิลด้ายังคงหลับใหลอยู่ในห้วงความฝัน จนคนที่เดินเข้ามารู้สึกแปลกใจ ปกติเธอเป็นคนตื่นเช้า แต่พักหลัง ๆ มาทิลด้ามักจะตื่นสายทุกวัน
“มิล มิลด้า ตื่นมากินข้าวก่อน”
“อื้ออ ยังง่วงอยู่เลย”
“เที่ยงแล้วนะ” เปลือกตาที่ปิดสนิท เปิดกว้างขึ้นเดี๋ยวนั้น
“เที่ยงจริงเหรอ”
“อืม ลุกมากินข้าวก่อน หายปวดหัวหรือยัง”
“แล้วนายไม่ไปทำงานเหรอ”
“ว่าจะเข้าไปดูโกดังหน่อย อยากไปด้วยกันหรือเปล่า”
“รู้สึกเพลีย ๆ อะ”
“ไม่เป็นไรงั้นก็พักผ่อนเถอะ”
“แล้วจะไปกี่โมง”
“บ่ายโมง”
“ไปนานหรือเปล่า”
“ไม่นานหรอกแวะเข้าไปเช็กของแป๊บเดียว”
“…”
“วันนี้มีเข้าไปคุยกับเล็กซ์ซัสที่ผับด้วย อาจจะกลับดึกหน่อย คุณแอนนาก็มา อยากไปด้วยกันหรือเปล่า”
“งั้นเดี๋ยวมิลไปเจอที่ผับเลยก็ได้”
“เดี๋ยววนเข้ามารับ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวมิลให้ครูซพาไป จะได้ไม่ต้องเสียเวลาวนไปวนมา”
“อืม ตามใจแล้วกัน แต่ถ้าอยากให้มารับก็โทรบอก”
“อื้ม”
“ลุกไปล้างหน้า จะได้ไปกินข้าว เดี๋ยวปวดท้อง” ดวงตาน้ำตาลเข้มมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนเขาจะนั่งลงปลายเตียง ลูบใบหน้าตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าตนเองเผลอไปทำอะไรผิดแบบลืมตัวอีกหรือเปล่า แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก กระทั่งประตูห้องน้ำเปิดออก
“มีอะไรหรือเปล่า” มาทิลด้าหันมาถามขณะจะเดินผ่านคนที่นั่งนิ่งมองเธออยู่
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ถามคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบแน่ชัดจากเมื่อคืน
“…”
“เมื่อคืนเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ทำไมเหรอ”
“เปล่าหรอก แค่ถามดูเฉย ๆ”
“มิลแค่รู้สึกเหนื่อย ๆ น่ะ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวมิลจะกลับไปหาป๊ากับลูก้าสักอาทิตย์หนึ่งนะ”
“ทำไมกลับไปนาน”
“อยากไปช่วยงานป๊าด้วย ช่วงนี้เรือถูกปล้นบ่อย”
“อืม” สิ้นเสียงทุ้ม มาทิลด้าก็เดินลงไปด้านล่างเพื่อหาอะไรกิน
“ครูซเตรียมไว้ให้เหรอ”
“ทำไมถึงคิดว่าเป็นมัน” เธอมองอาหารตรงหน้า ทุกเมนูถูกจัดวางเหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิด
“…”
“ถามว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นมัน” ยืนพิงตู้เย็นเปิดขวดน้ำกระดกดื่มขณะรอฟังคำตอบ
“เพราะลุคคงไม่มานั่งทำอะไรแบบนี้หรอก”
“เธอคงลืมไปว่าที่นี่มีแค่ฉันกับเธอที่เข้าออกได้” สรรพนามแทนตัวเปลี่ยนไป ก่อนคนที่มีสีหน้าขุ่นเคืองจะเดินถือขวดน้ำออกไป
“แค่พูดตรง ๆ ว่าเป็นคนทำมันยากนักหรือไง” มาทิลด้ามองตามคนตัวสูงที่เดินเปลือยท่อนบนออกไป ก่อนจะตักอาหารใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย
เวลา 13:30 น.
ลูคัสแต่งตัวเสร็จ ก็รีบลงมาด้านล่างเพื่อที่จะออกไปตรวจสินค้าเพื่อปล่อยออกตามตลาดมืด เมื่อเดินมาที่โซฟาก็พบว่าอีกคนได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเป็นที่เรียบร้อย
มือหนาหยิบรีโมตทีวีมากดลดเสียงลง แล้วปรับแอร์ให้อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย ก่อนเขาจะมานั่งจ้องหน้าของคนที่หลับอยู่
“เธอกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า รู้ตัวหรือเปล่ามิลด้า” พูดเสียงเบาก่อนจะก้มลงไปประทับริมฝีปากของคนที่หลับอยู่