เวลา 02:05 น.
เพียะ!!
ฝ่ามือเล็กตบเข้าที่ใบหน้าของคนที่เดินเข้ามาในห้องเต็มแรง ลูคัสยกมือขึ้นปาดเลือดออกจากมุมปากขณะเหลือบตามามองหญิงสาวตรงหน้า
“เมื่อไหร่จะพอสักที”
“แล้วเมื่อไหร่จะออกไปจากชีวิตฉันสักที” เขามองเธอด้วยแววตาเย็นชาก่อนจะเดินชนบ่ามนเล็กเข้าไปด้านใน “อ๊ะ!” ร่างเล็กเซไปตามแรงชนจนเผลอลงน้ำหนักที่เท้าขวา
“ถ้าอยากมากนัก ทำไมไม่มาทำกับฉัน” ชายหนุ่มเดินปลดกระดุมเสื้อหายเข้าไปในห้องแต่งตัว ไม่แม้แต่จะหยุดฟังเสียงของคนที่ถาม ก่อนจะเดินออกมาด้วยเรือนร่างที่เปลือยเปล่าแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ ทำราวกับเธอไม่มีตัวตนสำหรับเขา มาทิลด้าทิ้งตัวนั่งลงบนปลายเตียงได้แต่มองไปทางห้องน้ำด้วยความรู้สึกเจ็บหน่วงกับการกระทำของอีกคน
ติ๊ง!!
Message | Pappa
Pappa : เป็นยังไงบ้างมิลด้า ไม่กลับบ้านมาหาป๊าเลย
มิลสบายดีค่ะป๊า : Matilda
Pappa : ลูก้าบ่นคิดถึงใหญ่แล้ว
มิล ก็คิดถึงลูก้าค่ะ : Matilda
Pappa : แล้วลูกจะกลับมาเมื่อไหร่
เดี๋ยวมิลขอคิดก่อนนะคะ : Matilda
Pappa : ถ้าเหนื่อยก็กลับมาหาป๊านะลูก
เพียงแค่อ่านข้อความประโยคนั้น หยาดน้ำใสก็หยดเผาะลงร่องแก้มทันที แต่แล้วก็ต้องรีบปาดออกเมื่อเห็นคนที่เข้าไปอาบน้ำเดินออกมาแล้วตรงมาทางฉัน ก่อนเขาจะแย่งโทรศัพท์มือถือจากมือแล้วเหวี่ยงมันทิ้งไปบนหัวนอน
“อื้อ ลุค”
“ฉันอยาก” เขาถอนจูบแล้วเอ่ยแค่เพียงคำสั้น ๆ
เพียงคำสั้น ๆ คำเดียวเท่านั้น ฉันกลับพร้อมที่จะให้เขาทั้งหมดอย่างง่ายดาย เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นและฉันก็ได้แต่หวัง หวังว่าเขาจะทำมันแค่กับฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น
เช้าวันต่อมา...
ปลายนิ้วชี้เรียวสวยเขี่ยเส้นผมสีควันบุหรี่ที่ปรกลงมาบดบังใบหน้าหล่อของคนที่หลับอยู่ออกเบา ๆ ก่อนจะนอนตะแคงหนุนมือตัวเอง มองเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
“เมื่อไหร่จะมองเห็นกันสักทีลุค” เอ่ยขึ้นเสียงเบาราวกับกระซิบ แววตาเจือความเศร้าลงเล็กน้อย ใบหน้าสะสวยเลื่อนเข้าไปหอมแก้มนุ่ม ๆ ของคนที่หลับ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อไปเตรียมอาหารมื้อเช้าให้กับเขา
ดวงตาน้ำตาลเข้มลืมขึ้นมองไปยังแผ่นหลังของคนที่เดินขากะเผลกออกไป ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง
เวลา 09:00 น.
“ไม่กินอาหารเช้าก่อนเหรอลุค” ถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเดินผ่านโต๊ะอาหารไป
“ไม่ทันแล้ว วันนี้มีนัดลูกค้า”
“แต่ฉันทำให้แล้ว เอาไปกินบนรถไหม”
“ไม่อะ เธอกินเถอะ” พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที ฉันได้แต่มองอาหารตรงหน้าด้วยความรู้สึกเศร้าหมองก่อนจะยกมันไปเททิ้งลงถังขยะ
เราใช้เวลาร่วมกันแค่เพียงบนเตียงเท่านั้น เท่านั้นจริง ๆ เขาไม่เคยพาฉันออกไปเดินห้างฯ ดูหนัง กินข้าวนอกบ้านเลยสักครั้ง แม้กระทั่งวันเกิดของฉันก็ไม่เคยจำมันได้เลยด้วยซ้ำ
Rrrrr Rrrr
(“เปิดประตูให้ผมหน่อยครับ”)
แอ๊ด!!
“นายจะพาฉันไปไหน”
“นั่งก่อนครับผมจะประคบเท้าแล้วทายาให้ครับ”
“ทำไมมันบวมกว่าเมื่อวาน ผมว่าไปหาหมอกันดีกว่าครับ”
“ไม่อะ ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็หาย” มาทิลด้าบอกอย่างไม่ใส่ใจ มือหนาของบอดีการ์ดหนุ่มยังคงทายาคลายกล้ามเนื้อให้กับเธออย่างเบามือ ก่อนจะพันข้อเท้าด้วยผ้าพันเคล็ดเพื่อพยุงอาการปวดกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการเจ็บ
“ขอบใจนายมากนะครูซ”
“ช่วงนี้อย่าลงน้ำหนักที่ข้อเท้ามากนะครับ”
“อืม”
“แล้วกินข้าวหรือยังครับ”
“…”
“คุณมิลด้าครับ”
“ฉันไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกินครับ เดี๋ยวโรคกระเพาะจะกลับมาอีก”
“นี่ฉันหนีป๊าแล้วยังมาเจอนายอีกหรือไง”
“นายใหญ่ให้ผมดูแลคุณมิลด้านี่ครับ”
“…”
“อยากกินอะไรครับเดี๋ยวผมไปซื้อให้”
“ตอนเย็นค่อยกิน”
“ไม่ได้ครับอาการมันจะกำเริบขึ้นมาแล้วก็จะปวดท้...”
“โอ๊ยยย รู้แล้ว ๆ กินก็ได้”
“กินอะไรดีครับ” ยืนกุมมือไว้กลางเป้า มองเจ้านายสาวเพื่อรอคำตอบ
“ซื้อมาเถอะ กินได้หมดแหละ”
“ครับ” เมื่อครูซออกไปฉันก็เดินกะเผลกขามานั่งลงที่โซฟาห้องรับแขก
เพนต์เฮาส์นี้เป็นของลูคัส ฉันย้ายเข้ามาอยู่กับเขาได้สองปีแล้ว สองปีที่ฉันจมอยู่กับความเหงา ความโดดเดี่ยว สองปีที่ฉันพยายามยอม พยายามที่จะทำให้เขารัก และสองปีที่ฉันตามตบตีกับผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับชีวิตเขา เหนื่อยนะ บางทีก็อยากหยุด แต่อีกใจก็ยังอยากสู้ให้มันเจ็บเสียให้พอ
หลังจากกินข้าวที่ครูซซื้อมาให้เสร็จ ฉันก็ถูกบังคับให้กินยาจากนั้นก็หลับยาว ตื่นมาอีกทีก็มืดแล้ว เมื่อขยับเท้าจะลงจากเตียงก็พบว่าข้อเท้าถูกเปลี่ยนผ้าพันเคล็ดเป็นผืนใหม่และรู้สึกว่าอาการเจ็บที่ข้อเท้าจะบรรเทาลงด้วย ฉันโดนบังคับกินยานอนหลับเข้าไปคงไม่แปลกที่จะไม่รู้สึกเวลาครูซมาเปลี่ยนผ้าพันเคล็ดให้
“แต่เอ๊ะ!! ครูซเข้ามาได้ยังไงนะ” ยังไม่ทันได้คลายความสงสัย คนที่อาศัยอยู่ร่วมห้องเดียวกันก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไร” // “ตื่นแล้วเหรอ” เราพูดขึ้นพร้อมกัน
“คืนนี้ไม่มีนัดคุยกับลูกค้าเหรอ”
“จะหาเรื่องทำไม”
“เปล่าหาเรื่อง แค่ถาม”
“ถามหรือจ้องจะหาเรื่อง”
“…” ได้แต่มองเขาเดินผ่านไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด ก่อนฉันจะตัดสินใจลุกจากเตียงเดินตามออกไป
“อ๊ะ!!”
“แล้วจะเดินตามมาทำไม”
“แล้วจะไปไหน ดึกแล้ว”
“ถามไม่ดูสภาพ ถอดเสื้อ เช็ดผมแบบนี้ จะให้ออกไปไหนได้”
“แล้วกินข้าวมาหรือยัง”
“กินแล้ว”
“แล้วจะไปไหน ขาเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง”
“ไปกินข้าว หิวข้าว”
“อืม” คิดว่าจะช่วยอุ้มลงไปแต่เปล่าเลย สุดท้ายก็ต้องเดินเกาะราวบันไดลงไปเรื่อย ๆ ตรงไปยังห้องครัวขนาดใหญ่สไตล์ยุโรป กะว่าจะทำกับข้าวกินแต่พอมองไปบนโต๊ะ ก็พบว่ามีอาหารถูกเทใส่จานวางรอไว้อยู่แล้ว ครูซคงเตรียมไว้ให้ ถ้าไม่มีครูซ ชีวิตฉันก็แทบไม่มีเพื่อนเลยบนเกาะแห่งนี้
เมื่อหย่อนก้นนั่งลงกินข้าว เขาก็เดินลงมาจากชั้นบนก่อนจะตรงมาที่ตู้เย็น
“ถุงยางหมด ออกไปข้างนอกอย่าลืมซื้อเข้ามาให้ด้วย”
“อืม” เพิ่งตักข้าวกินได้เพียงสองคำแต่กลับรู้สึกอิ่มราวกับกินหมดไปแล้วหนึ่งจาน