ยอมเป็นของตาย

1224 Words
เวลา 02:05 น. เพียะ!! ฝ่ามือเล็กตบเข้าที่ใบหน้าของคนที่เดินเข้ามาในห้องเต็มแรง ลูคัสยกมือขึ้นปาดเลือดออกจากมุมปากขณะเหลือบตามามองหญิงสาวตรงหน้า “เมื่อไหร่จะพอสักที” “แล้วเมื่อไหร่จะออกไปจากชีวิตฉันสักที” เขามองเธอด้วยแววตาเย็นชาก่อนจะเดินชนบ่ามนเล็กเข้าไปด้านใน “อ๊ะ!” ร่างเล็กเซไปตามแรงชนจนเผลอลงน้ำหนักที่เท้าขวา “ถ้าอยากมากนัก ทำไมไม่มาทำกับฉัน” ชายหนุ่มเดินปลดกระดุมเสื้อหายเข้าไปในห้องแต่งตัว ไม่แม้แต่จะหยุดฟังเสียงของคนที่ถาม ก่อนจะเดินออกมาด้วยเรือนร่างที่เปลือยเปล่าแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ ทำราวกับเธอไม่มีตัวตนสำหรับเขา มาทิลด้าทิ้งตัวนั่งลงบนปลายเตียงได้แต่มองไปทางห้องน้ำด้วยความรู้สึกเจ็บหน่วงกับการกระทำของอีกคน ติ๊ง!! Message | Pappa Pappa : เป็นยังไงบ้างมิลด้า ไม่กลับบ้านมาหาป๊าเลย มิลสบายดีค่ะป๊า : Matilda Pappa : ลูก้าบ่นคิดถึงใหญ่แล้ว มิล ก็คิดถึงลูก้าค่ะ : Matilda Pappa : แล้วลูกจะกลับมาเมื่อไหร่ เดี๋ยวมิลขอคิดก่อนนะคะ : Matilda Pappa : ถ้าเหนื่อยก็กลับมาหาป๊านะลูก เพียงแค่อ่านข้อความประโยคนั้น หยาดน้ำใสก็หยดเผาะลงร่องแก้มทันที แต่แล้วก็ต้องรีบปาดออกเมื่อเห็นคนที่เข้าไปอาบน้ำเดินออกมาแล้วตรงมาทางฉัน ก่อนเขาจะแย่งโทรศัพท์มือถือจากมือแล้วเหวี่ยงมันทิ้งไปบนหัวนอน “อื้อ ลุค” “ฉันอยาก” เขาถอนจูบแล้วเอ่ยแค่เพียงคำสั้น ๆ เพียงคำสั้น ๆ คำเดียวเท่านั้น ฉันกลับพร้อมที่จะให้เขาทั้งหมดอย่างง่ายดาย เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นและฉันก็ได้แต่หวัง หวังว่าเขาจะทำมันแค่กับฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น เช้าวันต่อมา... ปลายนิ้วชี้เรียวสวยเขี่ยเส้นผมสีควันบุหรี่ที่ปรกลงมาบดบังใบหน้าหล่อของคนที่หลับอยู่ออกเบา ๆ ก่อนจะนอนตะแคงหนุนมือตัวเอง มองเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก “เมื่อไหร่จะมองเห็นกันสักทีลุค” เอ่ยขึ้นเสียงเบาราวกับกระซิบ แววตาเจือความเศร้าลงเล็กน้อย ใบหน้าสะสวยเลื่อนเข้าไปหอมแก้มนุ่ม ๆ ของคนที่หลับ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อไปเตรียมอาหารมื้อเช้าให้กับเขา ดวงตาน้ำตาลเข้มลืมขึ้นมองไปยังแผ่นหลังของคนที่เดินขากะเผลกออกไป ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง เวลา 09:00 น. “ไม่กินอาหารเช้าก่อนเหรอลุค” ถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเดินผ่านโต๊ะอาหารไป “ไม่ทันแล้ว วันนี้มีนัดลูกค้า” “แต่ฉันทำให้แล้ว เอาไปกินบนรถไหม” “ไม่อะ เธอกินเถอะ” พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที ฉันได้แต่มองอาหารตรงหน้าด้วยความรู้สึกเศร้าหมองก่อนจะยกมันไปเททิ้งลงถังขยะ เราใช้เวลาร่วมกันแค่เพียงบนเตียงเท่านั้น เท่านั้นจริง ๆ เขาไม่เคยพาฉันออกไปเดินห้างฯ ดูหนัง กินข้าวนอกบ้านเลยสักครั้ง แม้กระทั่งวันเกิดของฉันก็ไม่เคยจำมันได้เลยด้วยซ้ำ Rrrrr Rrrr (“เปิดประตูให้ผมหน่อยครับ”) แอ๊ด!! “นายจะพาฉันไปไหน” “นั่งก่อนครับผมจะประคบเท้าแล้วทายาให้ครับ” “ทำไมมันบวมกว่าเมื่อวาน ผมว่าไปหาหมอกันดีกว่าครับ” “ไม่อะ ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็หาย” มาทิลด้าบอกอย่างไม่ใส่ใจ มือหนาของบอดีการ์ดหนุ่มยังคงทายาคลายกล้ามเนื้อให้กับเธออย่างเบามือ ก่อนจะพันข้อเท้าด้วยผ้าพันเคล็ดเพื่อพยุงอาการปวดกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการเจ็บ “ขอบใจนายมากนะครูซ” “ช่วงนี้อย่าลงน้ำหนักที่ข้อเท้ามากนะครับ” “อืม” “แล้วกินข้าวหรือยังครับ” “…” “คุณมิลด้าครับ” “ฉันไม่หิว” “ไม่หิวก็ต้องกินครับ เดี๋ยวโรคกระเพาะจะกลับมาอีก” “นี่ฉันหนีป๊าแล้วยังมาเจอนายอีกหรือไง” “นายใหญ่ให้ผมดูแลคุณมิลด้านี่ครับ” “…” “อยากกินอะไรครับเดี๋ยวผมไปซื้อให้” “ตอนเย็นค่อยกิน” “ไม่ได้ครับอาการมันจะกำเริบขึ้นมาแล้วก็จะปวดท้...” “โอ๊ยยย รู้แล้ว ๆ กินก็ได้” “กินอะไรดีครับ” ยืนกุมมือไว้กลางเป้า มองเจ้านายสาวเพื่อรอคำตอบ “ซื้อมาเถอะ กินได้หมดแหละ” “ครับ” เมื่อครูซออกไปฉันก็เดินกะเผลกขามานั่งลงที่โซฟาห้องรับแขก เพนต์เฮาส์นี้เป็นของลูคัส ฉันย้ายเข้ามาอยู่กับเขาได้สองปีแล้ว สองปีที่ฉันจมอยู่กับความเหงา ความโดดเดี่ยว สองปีที่ฉันพยายามยอม พยายามที่จะทำให้เขารัก และสองปีที่ฉันตามตบตีกับผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับชีวิตเขา เหนื่อยนะ บางทีก็อยากหยุด แต่อีกใจก็ยังอยากสู้ให้มันเจ็บเสียให้พอ หลังจากกินข้าวที่ครูซซื้อมาให้เสร็จ ฉันก็ถูกบังคับให้กินยาจากนั้นก็หลับยาว ตื่นมาอีกทีก็มืดแล้ว เมื่อขยับเท้าจะลงจากเตียงก็พบว่าข้อเท้าถูกเปลี่ยนผ้าพันเคล็ดเป็นผืนใหม่และรู้สึกว่าอาการเจ็บที่ข้อเท้าจะบรรเทาลงด้วย ฉันโดนบังคับกินยานอนหลับเข้าไปคงไม่แปลกที่จะไม่รู้สึกเวลาครูซมาเปลี่ยนผ้าพันเคล็ดให้ “แต่เอ๊ะ!! ครูซเข้ามาได้ยังไงนะ” ยังไม่ทันได้คลายความสงสัย คนที่อาศัยอยู่ร่วมห้องเดียวกันก็เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ “กลับมาตั้งแต่เมื่อไร” // “ตื่นแล้วเหรอ” เราพูดขึ้นพร้อมกัน “คืนนี้ไม่มีนัดคุยกับลูกค้าเหรอ” “จะหาเรื่องทำไม” “เปล่าหาเรื่อง แค่ถาม” “ถามหรือจ้องจะหาเรื่อง” “…” ได้แต่มองเขาเดินผ่านไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด ก่อนฉันจะตัดสินใจลุกจากเตียงเดินตามออกไป “อ๊ะ!!” “แล้วจะเดินตามมาทำไม” “แล้วจะไปไหน ดึกแล้ว” “ถามไม่ดูสภาพ ถอดเสื้อ เช็ดผมแบบนี้ จะให้ออกไปไหนได้” “แล้วกินข้าวมาหรือยัง” “กินแล้ว” “แล้วจะไปไหน ขาเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง” “ไปกินข้าว หิวข้าว” “อืม” คิดว่าจะช่วยอุ้มลงไปแต่เปล่าเลย สุดท้ายก็ต้องเดินเกาะราวบันไดลงไปเรื่อย ๆ ตรงไปยังห้องครัวขนาดใหญ่สไตล์ยุโรป กะว่าจะทำกับข้าวกินแต่พอมองไปบนโต๊ะ ก็พบว่ามีอาหารถูกเทใส่จานวางรอไว้อยู่แล้ว ครูซคงเตรียมไว้ให้ ถ้าไม่มีครูซ ชีวิตฉันก็แทบไม่มีเพื่อนเลยบนเกาะแห่งนี้ เมื่อหย่อนก้นนั่งลงกินข้าว เขาก็เดินลงมาจากชั้นบนก่อนจะตรงมาที่ตู้เย็น “ถุงยางหมด ออกไปข้างนอกอย่าลืมซื้อเข้ามาให้ด้วย” “อืม” เพิ่งตักข้าวกินได้เพียงสองคำแต่กลับรู้สึกอิ่มราวกับกินหมดไปแล้วหนึ่งจาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD