บทที่ 3 - อยากล่า ก็ต้องใจกล้าหน่อยนะ (อยากลองไหมล่ะ) (จบตอน)

1848 Words
“พี่ไม่เชื่อ” ชานนส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อและไม่มีวันเชื่อ เขารู้จักหยาดน้ำค้างมาสิบปีเต็ม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นคนเช่นไร เธอไม่ใช่ผู้หญิงรักใครง่ายๆ กว่าเขาจะพิชิตใจจนได้เธอเป็นแฟนต้องใช้เวลานานกว่าสองปี แล้วจะยอมคบหากับผู้ชายที่เจอกันเพียงชั่วข้ามคืนอย่างธนภพน่ะหรือ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! “ไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ ฉันไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบาย” หยาดน้ำค้างเบ้ปากใส่ แสดงให้รู้ว่าเธอหมดเยื่อใยต่อเขาแล้ว “น้ำโกหก มากับพี่เดี๋ยวนี้” ทว่าอดีตแฟนหนุ่มไม่ยอมแพ้ พยายามจะดึงแขนลากร่างบางกลับไปกับตน “ผู้หญิงเขาเลือกกู มึงหยุดบ้าได้แล้วไอ้นน!” “อย่าเสือก!” ผลั๊วะ! ธนภพประเคนหมัดหนักหน่วงใส่หน้าชานน เขาเกลียดคนแบบมันที่สุด รักพี่เสียดายน้อง จับปลาสองมือ ชายก็จะเอาหญิงก็จะเลือก คนประเภทนี้มันต้องโดนสั่งสอนสักที “ไอ้มาร์ค มึง…” “หยุดนะ!” เห็นท่าไม่ดีหยาดน้ำค้างจึงเสี่ยงเอาตัวมาบังตรงกลางเพื่อไม่ให้สองหนุ่มปะทะกัน หญิงสาวหวิดถูกชานนต่อยหน้าดีที่เขาชะงักมือไว้ทันการ “น้ำปกป้องมัน” ชานนเจ็บปวดที่เห็นหญิงสาวปกป้องชายอื่น “กลับไปซะ ระหว่างฉันกับคุณเราจบกันแล้ว” “พี่รู้ว่าน้ำโกรธที่พี่บอกเลิกน้ำ พี่สำนึกผิดแล้ว ตอนนั้นพี่แค่สับสน พี่…” ชานนพยายามอธิบายแต่เธอไม่ต้องการจะฟัง “คุณจะสับสนหรือไม่ฉันไม่สนใจ ฉันถือว่าฉันกับคุณเราจบกันแล้ว ต่อไปนี้คุณกับฉันก็เป็นแค่คนอื่น ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ออกไปได้แล้ว ฉันอยากใช้เวลาอยู่กับแฟนตามลำพัง” “พี่ไม่เชื่อว่าน้ำจะคบกับมัน” ชานนยืนยันคำเดิม หยาดน้ำค้างเริ่มโกรธ และความโกรธบวกกับความอยากเอาคืนที่เขาทำให้เธอเสียใจก็ผลักดันให้กระทำบางสิ่งบางอย่างลงไป มือเรียวคว้าใบหน้าหล่อเหลาของธนภพตรึงเข้าหาตัวแล้วเขย่งปลายเท้าให้สูงขึ้นอีกระดับเพื่อมอบจุมพิตแสนหวานแนบลงบนกลีบปากหยักลึก ดวงตาคู่คมเบิกกว้าง คนถูกจูบโดยไม่ทันตั้งตัวอึ้ง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะถูกผู้หญิงจู่โจมก่อน ธนภพไม่ปล่อยให้ความสงสัยทำลายนาทีทอง เขายกมือรั้งเอวเล็กคอดแนบอกแกร่งแล้วสอดชิวหาเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างละเมียดละไม จูบแสนหวานทำให้หยาดน้ำค้างเคลิบเคลิ้ม หลงลืมไปว่ามีผู้ชายอีกคนกำลังยืนมองภาพบาดตาบาดใจอย่างเจ็บปวด “ชัดพอไหม” ถอนจูบออกแล้วหันมายิ้มเยาะใส่อดีตแฟนหนุ่ม ชานนกำหมัดแน่น “ไสหัวออกไปจากบ้านกู ก่อนที่กูจะหมดความอดทนแล้วเรียกตำรวจให้มาลากคอมึงออกไป!” ธนภพชี้นิ้วไล่ไม่ไว้หน้า “มึงอย่าคิดว่ามึงจะแย่งน้ำไปจากกูได้ง่ายๆ!” ชานนทิ้งท้ายก่อนเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกจากบ้านไป หยาดน้ำค้างรอจนแน่ใจว่ารถของเขาขับเคลื่อนออกไปแล้วจึงผละตัวออกห่างจากธนภพ “ปล่อยค่ะ” ก้มมองมือหนาที่ยังโอบเอวเธออยู่ ธนภพไม่ปล่อย เขารั้งคนตัวเล็กเข้าหาตัวแล้วโน้มใบหน้าชิดแก้มใส “นะ นี่คุณ จะทำอะไร” ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดพานให้เลือดในกายร้อนรุ่ม “แฟนกัน ทำอะไรบ้างล่ะ” นัยน์ตากรุ้มกริ่มเอ่ยถาม ร่างบางสั่นสะท้าน ริมฝีปากทรงเสน่ห์บรรจงจูบเบาๆ ที่ขมับข้างซ้าย “ฉันก็แค่ประชดเขา ปล่อยนะ!” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้น แต่ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆ “รู้อะไรไหมคนสวย ผมไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงคนไหน ท้าทายอำนาจมืดมาก่อน ถ้าคุณคิดจะล่า คุณก็ต้องล่าให้สุด” ล่า… เขาหมายความว่าอย่างไร เธอไม่ได้คิดจะล่าเขาเสียหน่อย ที่ตัดสินใจทำเรื่องบ้าๆ ลงไปก็เพื่อต้องการแก้เผ็ดชานนเท่านั้น “จูบเมื่อกี้ของคุณทำให้ผมเครื่องร้อน และคุณต้องรับผิดชอบ” ชานนขับรถกลับมาที่คอนโดฯ เพื่อสงบสติอารมณ์ ภาพที่หยาดน้ำค้างจูบกับลูกพี่ลูกน้องสร้างความเดือดดาลให้เขาร้อนรนถึงขั้นสุด ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องได้ก็เหวี่ยงกุญแจรถอัดกำแพง “โว๊ย!” เสียงคำรามแสดงให้เห็นถึงระดับความโกรธเกรี้ยว มือหนาดึงทึ้งเส้นผมหงุดหงิด อยากฆ่าคนที่มันกล้ายุ่งกับผู้หญิงของเขา เกลียดตัวเองที่พลาดบอกเลิกเธอ ถ้าตอนนั้นฉุกใจคิดสักนิดเขาคงไม่ต้องทนปวดใจอย่างทุกวันนี้ “หงุดหงิดอะไรมาหรือนน” ชยกฤต เดินออกมาจากห้องนอนเห็นชานนแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดก็อดสงสัยไม่ได้ ในมือของเขาถือแก้วไวน์ที่ดื่มไปเพียงเล็กน้อย สายตาจับผิดมองแฟนหนุ่มไม่วาง “มาทำไม” ชานนไม่พอใจที่เห็นชยกฤตอยู่ที่คอนโดฯ ของเขา “ทำไมจะมาไม่ได้ กฤตก็เข้าออกห้องนี้บ่อยๆ” ชยกฤตเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางบางอย่าง เขาวางแก้วทรงสูงลงบนโต๊ะก่อนเดินไปลูบไล้แผงอกกำยำ “นนเป็นอะไร หรือว่าเครียดเรื่องงาน” แม้จะคิดมากเรื่องแฟนเก่าของชายหนุ่มแต่เขาก็ต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ ไม่อยากทำตัวงี่เง่าให้ชานนรำคาญใจ “เปล่า” ชานนสะบัดหน้าหนีห่าง ภาพที่หยาดน้ำค้างทำตัวสนิทสนมกับธนภพยังติดตาไม่หาย พานให้เขาหงุดหงิดจนเบื่อหน้าแฟนหนุ่มไปโดยปริยาย “แล้วไม่มีบินหรือไง” ชยกฤตมีอาชีพเป็นสจ๊วต ณ สายการบินชื่อดังระดับประเทศแห่งหนึ่ง สถานที่ที่ทำให้เขาทั้งสองได้พบกันก็คือบนเครื่องบิน และชานนก็เป็นฝ่ายจีบชยกฤตก่อน แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจสานสัมพันธ์โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดให้วุ่นวาย เนื่องด้วยหลงเสน่ห์ของหนุ่มนักธุรกิจตั้งแต่แรกพบ “แลกไฟต์กับเพื่อน เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบสามปีของเราสองคน” มือหนานุ่มตามประชาผู้ชายที่ดูแลตัวเองเป็นพิเศษพยายามปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของแฟนหนุ่มออก “อย่าน่า ไม่มีอารมณ์” ชานนสะบัดมือชยกฤตทิ้ง “เป็นอะไรกันแน่ กลับมาก็ทำหน้าบึ้ง ไปอารมณ์เสียเรื่องอะไรมา” หางเสียงเริ่มไม่พอใจ ปกติชานนไม่เคยทำท่าทีหมางเมินเขาแบบนี้มาก่อน “หรือว่าแอบคิดถึงนังชะนีน่าโง่นั่น” “อย่าเรียกน้ำแบบนั้นนะ!” สรรพนามไร้มารยาททำให้ชานนของขึ้น เขาชี้หน้าคนปากเสียพลางทำสายตาดุดัน “นนยังรักมันอยู่ใช่ไหม” ชยกฤตถาม อาการแบบนี้มันแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย “กลับไปได้แล้วไป อยากอยู่คนเดียว” เขาไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนี ชยกฤตไม่ยอมทำตามคำสั่ง เขาเดินมาดักหน้าร่างสูงไม่ให้หนีปัญหาเข้าห้องน้ำ “นนยังรักมัน” “อย่างี่เง่าได้ไหมกฤต กลับไป!” คราวนี้ชานนตวาดเสียงกร้าว เขาชี้นิ้วไปที่ประตูไล่ไม่ไว้หน้า ชยกฤตอึ้งเพราะตั้งแต่คบหากันมาไม่เคยถูกไล่อย่างหมูอย่างหมา แม้แต่จะขึ้นเสียงเขาก็ไม่เคย แต่วันนี้… ทำไม “บอกให้ไปไง!!!” ทว่าคนกำลังอารมณ์เสียเรื่องอดีตแฟนสาวไม่มีเวลามานั่งคิดถนอมน้ำใจใคร ชานนตะคอกซ้ำหวังให้ตัวน่ารำคาญออกไปจากห้องของเขาไวๆ ชยกฤตจ้องหน้าแฟนหนุ่มด้วยความปวดร้าว เขากระแทกประตูปิดดังสะเทือนไปทั้งห้อง ชานนยกมือกุมขมับพลางกัดริมฝีปากระบายความหงุดหงิด “บ้าเอ๊ย” “กรี๊ด! คุณทำบ้าอะไรเนี่ย” หยาดน้ำค้างกรีดร้องหลังถูกธนภพอุ้มตัวปลิวพาขึ้นห้อง ชายหนุ่มวางร่างระหงลงยืนกับพื้น ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่สามารถดับแรงปรารถนาอันร้อนรุ่มในใจได้ ดวงตาคมเหยี่ยวมองสาวเจ้าหื่นกระหาย เพียงจูบเดียวที่ได้สัมผัสก็ทำให้เขาอยากสวมบทบาทเป็นโจรปล้นสวาทกักขังร่างอ้อนแอ้นให้อยู่ในอ้อมแขน ผิดกับเดือนดาราที่คบหากันมาสองปีแต่ไม่เคยทำให้เขา ‘กระหาย’ ได้เท่านี้มาก่อน ความรู้สึกบ้าๆ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรนะ “คะ คุณมาร์ด ทำไมมองฉันแบบนั้น คุณจะทำอะไร” หยาดน้ำค้างมองซ้ายแลขวาก็พานใจเสีย ห้องกว้างใหญ่ประตูถูกปิดตาย คนตัวโตยืนจังก้าขวางทางรอดไม่ขยับเขยื้อน มีเพียงเธอที่พยายามมองหาลู่ทางแห่งการหลุดพ้น เท้าเล็กๆ เดินวนรอบห้อง “อย่าเข้ามานะ!” ชี้หน้าขู่เสียงฟ่อเมื่อชายหนุ่มขยับเท้าไล่ตาม “สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือการถูกใช้เป็นเครื่องมือ” เขาพูดนิ่งๆ แต่แววตาแฝงความนัยบางอย่าง “คุณพูดเรื่องอะไร ใครใช้คุณเป็นเครื่องมือ” หยาดน้ำค้างย้อนถาม “คุณไง” “ฉันใช้คุณเป็นเครื่องมือตอนไหนไม่ทราบ” ผู้ชายคนนี้เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ “ก็ตอนที่คุณดึงผมเข้าไปจูบไง” ชายหนุ่มเฉลย แก้มนวลแดงซ่าน เพราะความขาดสติล้วนๆ ถึงส่งผลให้เธอทำแบบนั้น “ก็ ฉันแค่ ฉันแค่ไม่อยากให้พี่ เอ่อ ให้” “ไม่อยากให้ไอ้นนรู้ว่าคุณกับผมไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่างนั้นใช่ไหม” ธนภพแค่นยิ้ม หยาดน้ำค้างไม่เถียงเพราะเธอต้องการให้ชานนเข้าใจว่าเธอกับธนภพกำลังคบหาดูใจกันอยู่จริงๆ “นั่นแหละคือการใช้ผมเป็นเครื่องมือ” “เอาเป็นว่าฉันขอโทษค่ะ” หยาดน้ำค้างยอมรับผิดแต่โดยดี “แต่เดี๋ยวนะ ฉันว่าฉันเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่าคุณนะ จูบนั้นมันเป็น…” เสียงหวานชะงักคำพูดไว้ “จูบแรกของคุณใช่ไหม” เขาอมยิ้ม ก่อนเอ่ยต่อ “จูบไม่ได้เรื่องของคุณแสดงให้เห็นว่าตลอดเวลาที่คุณคบหากับไอ้นน มันไม่เคยแตะต้องคุณเลยใช่ไหม” ความคิดของธนภพสวนทางกับคำพูด คนอย่างชานนน่ะหรือจะปล่อยดอกไม้แสนหวานให้หลุดรอดมือ แต่ที่มันต้องพลาดเนื้อกวางสาวคงเพราะหยาดน้ำค้างไม่ยอมมันมากกว่า เขาคิดว่าเขาเดาไม่ผิด “จูบไม่ได้เรื่องงั้นหรือ” คนถูกสบประมาทหัวเราะเสียงสูง ดูพูดเข้า ทำเป็นมาว่าเธอจูบไม่ได้เรื่องแต่ก็เคลิบเคลิ้มจนแทบไม่อยากปล่อย “ถ้าฉันจูบไม่ได้เรื่องปากคุณก็ห่วยแตกเหมือนกัน” คนโมโหเชิดหน้าต่อว่า “อย่าเพิ่งรีบตัดสินถ้ายังไม่รู้จักผมดีพอ” ธนภพสืบเท้าแกร่งไล่ต้อนร่างบาง นัยน์ตาเสือร้ายทอประกายวาววับ “ปากของผมทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD