บทที่ 2 พบกันอีก

1479 Words
บทที่ 2 หลายปีผ่านไป ปีศาจน้อยทั้งสองเติบโตอายุได้สิบแปดปีย่างสิบเก้าปี ร่างกายก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตอนนี้ทั้งสามเผ่าสงบสุข เผ่าเทพจึงได้ก่อตั้งหอศึกษาขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานของทั้งเผ่าเทพและเผ่าปีศาจศึกษาวิชาต่าง ๆ สืบต่อไป ทางเผ่าเทพได้มีสารส่งมายังวังปีศาจ เรื่องส่งให้ปีศาจฝาแฝดน้อยทั้งสองไปเข้าหอศึกษายังเผ่าเทพ เพื่อสัมพันธ์ที่ของทั้งสองเผ่าราชาปีศาจเฉาเฟิงก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่จะส่งปีศาจน้อยทั้งสองไปร่ำเรียนแล้วขัดเกลา โดยเฉพาะ ลู่เอินองค์หญิงน้อยที่แสนจะเอาแต่ใจ กลัวว่านางจะไปก่อเรื่องที่เผ่าเทพ นางเป็นคนฉลาดและไม่ค่อยยอมใคร แต่กับลู่เฟยแล้วเขากับเบาใจ ที่ลู่เฟยนั้นแข็งแกร่งและฉลาดหลักแหลมอนาคตเขาจะเป็นราชาที่ดีต่อไปได้ "ท่านแม่ ทำไมต้องเป็นข้า" องค์หญิงปีศาจน้อยลู่เอิน บัดนี้โตเป็นสาวในย่างสิบเก้าปี รูปร่างและใบหน้านางงดงามไม่ต่างจากผู้เป็นมารดาเลย "เป็นเจ้าคนเดียวที่ไหน ข้าก็ต้องไปกับเจ้าด้วย" องค์ชายปีศาจ ลู่เฟย ชายหนุ่มรูปงามราวกับภาพสะท้านของบิดา "อาซ้อไม่จำเป็นต้องส่งพวกเขาไปเรียนที่เผ่าเทพหรอก ข้าสอนได้ทุกสิ่งทุกอย่าง" "เจ้าตามใจพวกเขาสิไม่ว่า ดูลู่เอินสิ เอาแต่ใจจนติดเป็นนิสัย" "ท่านอาช่วยพูดอีกสิเจ้าคะ" ลู่เอินเกาะแขนหลิงเฮ่ออ้อนอย่างเด็กเอาแต่ใจ ต่างจากลู่เฟย ที่สงบนิ่งเรียบร้อยเชื่อฟังทุกอย่าง "ลู่เอิน เชื่อฟังแม่เจ้าไปศึกษาวิชาที่เผ่าเทพ ขัดเกลานิสัยเอาแต่ใจของเจ้าบ้าง ส่วนเจ้า ลู่เฟยดูแลนางด้วยอย่างให้นางไปก่อเรื่องขายหน้าที่เผ่าเทพ" คำสั่งของราชาปีศาจเฉาเฟิง ซึ่งเด็ดขาดหน้าเกรงขาม "ขอรับท่านพ่อ" "เจ้าค่ะท่านพ่อ" "ท่านพี่จะพลากหลานไปจากจ้าหรือ" หลิงเฮ่อกล่าวอย่างดื้อดึงโดยมี ลู่เอินเกาะแขนยืนอยู่ข้าง ๆ "ท่านอา ข้าไปศึกษาวิชาเดี๋ยวก็กลับ ขอรับ" ลู่เฟยเอ่ยบอกผู้เป็นอา "โถ หลานอา" ลู่เฟยกล่าวเช่นนี้ อาอย่างหลิงเฮ่อถึงกับใจอ่อน "เจ้าสองคนไปเตรียมตัวได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทาง จะขัดคำสั่งพ่อเจ้าหรือ" ชีเหนียงเอ่ยบอกลูกทั้งสอง "เจ้าค่ะ" "ขอรับ" แล้วทั้งสองก็เดินออกไป "หลิงเฮ่อ เด็กทั้งสองโตแล้วเจ้าเลิกตามใจพวกเขาได้เเล้ว เจ้าอายุปูนนี้แล้วสมควรแต่งเมียได้แล้วนะ" "ท่านพี่ข้าพึ่งอายุแปดหมื่นกว่าปี เอาเถอะข้ายอมให้หลานข้าไปเรียนก็ได้" หลิงเฮ่อกล่าวจบก็เดินออกไป เผ่าเทพ ลู่เฟย เเละลู่เอิน ได้เดินทางมาศึกษาวิชาที่เผ่าเทพ อีกสองวันก็จะถึงวันที่ไปเรียนเเล้ว สองคนคนจึงพักอยู่ที่ตำหนักใกล้ ๆ หอศึษา "ลู่เอิน อีกสองวันต้องไปเรียนแล้ว เจ้าเตรียมข้าวของหรือยัง" "เดี๋ยวค่อยเตรียมก็ได้ อีกตั้งสองวันเจ้าจะตื่นเต้นไปใย เดี๋ยวข้ามานะ ข้าอยากไปเดินเล่นเเถวนี้" นางกล่าวจบก็เดินออกไปนอกตำหนักและบอกนางกำนัลไม่ต้องตาม ทิ้งให้ลู่เฟยนั่งถอนลมหายใจยาว "เจ้าอย่าไปไกลนะ อย่าก่อเรื่องด้วย" ลู่เฟยตระโกนไล่หลังนาง "เผ่าเทพนี้ก็สวยดีนะ แต่เงียบไปหน่อยไม่มีอะไรสนุก ๆ เล่นเลย" องค์หญิงน้อยลู่เอิน เดินทอดน่องมาเรื่อย ๆ นางบ่นไปเดินไปเรื่อย จนมาหยุดที่หน้าตำหนักหนึ่ง นางมองเข้าไปในนั้น พบว่ามีบ่อปลาเล็ก ๆ และกระเรียนทองอยู่คู่หนึ่ง ข้าง ๆ บ่อปลานั้น มีต้นท้อที่กำลังออกดอกเบ่งบานส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ลู่เอินมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงแอบเดินเข้าไป นางชื่นชมกับกระเรียนทองคู่นั้น เมื่อชมได้ที่แล้วนางจึงเดินมานั่งดูปลาใต้ต้นดอกท้อ แต่เเล้วนางเหลือกมองไปเห็นกาสุราตั้งอยู่ จึงได้หยิบมาชิมดู "อืม หอมละมุนลิ้นมากเลย" ลู่เอินถอดรองเท้าเเล้วเดินเล่นไปบนผืนหญ้าที่ขึ้นรอบ ๆ บ่อปลา พลางกระดกสุราดอกท้ออย่างอารมณ์ดี จนเริ่มเมาได้ที่ นางกระโดดลอยตัวขึ้นไปนอนอยู่บนกิ้งดอกท้อกิ่งใหญ่ นางนอนมองดูกระเรียนทองคู่นั้น คลอเคียงกันกระทั่งสายลมพัดผ่านเบา ๆ กับกลิ่นหอมอ่อน ๆ และฤทธิ์สุราที่ชวนเคลิ้ม จนนางหลับไป "ท่านเทพอีกสองวันหอศึกษาก็จะเปิดแล้วขอรับ ข้าได้ยินมาว่าปีนี้องค์ชายและองค์หญิงเผ่าปีศาจก็จะมาเรียนด้วยขอรับ" จางหมิงกล่าวกับเทพสงครามระหว่างที่กำลังเดินเข้าตำหนัก "ปีศาจน้อยฝาแฝดนั้นโตกันหมดแล้วรึ" เมื่อกล่าวจบซีฮ่าวยกมืขึ้นเชิงให้ จางหมิงเงียบเสียง และมองไปที่กระเรียนทอง "มีบางอย่างอยู่แถวนั้น" จางหมิงจึงค่อย ๆ เดินไปดูที่กระเรียนทองไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ซีฮาวจึงเดินมาที่ริมบ่อปลา จึงเหยียบเข้ากับรองเท้าของสตรีคู่หนึ่งจึงชี้ให้ จางหมิ่งดู แต่ทันใดนั้นเอง กาสุรากับล่วงลงมาตรงหน้าซีฮ่าว เขาใช้ความไวรับกาสุราไว้ได้ทัน และเงยหน้าขึ้นมองดู กับมีสตรีรูปร่างบอกบางคนหนึ่งล่วงลงมาจากกิ่งไม้ ด้วยความไวของซีฮ่าวเขารับร่างบางนั้นได้ทันในท่าเจ้าสาวพอดี ลู่เอินตกใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ ก็พลัดตกกิ่งไม้ลงมา ยังดีที่มีบุรุษหน้าตาหล่อเหลาสายตาดูอบอุ่นรับตัวนางได้ทัน ทั้งลู่เอิน และซีฮ่าวต่างจ้องมองกันและกัน (หญิงคนนี้เป็นคนเผ่าปีศาจ หรือว่าจะเป็นองค์หญิงปีศาจน้อย ลู่เอิน) ซีฮ่าวคิดในใจขณะที่ยังจ้องมองใบหน้าลู่เอินอยู่ "หล่อจังเลย" ลูเอินมองใบหน้าชายหนุ่มอย่างเคลิมเคลิ้ม ฉับพลันภาพในวัยเด็กกูพุดขึ้นมาในหัว สายตาที่อบอุ่นรอยยิ้มแบบนี้ แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องที่ใบหน้าชายหนุ่ม จนเป็นประกายชวนหลงไหล นางกระพรอบตาถี่ค่อย ๆ เอื้อมมือไปลูบใบหน้าหล่อนั้นอย่างลืมตัว (เขาคือคน ๆ เดียวกัน) นางคิดในใจ "นี้เจ้า เข้ามาในตำหนักข้าได้ยังไง" ซีฮ่าวกล่าวเสียงเข้มออกมา ทำให้ลู่เอินรู้สึกตัว ได้สติกลับมาจึงรู้ว่าตนได้ก่อเรื่องอีกแล้ว จึงพยายามดิ้นให้ซีฮ่าวปล่อยนางลง และลู่เอินนางก็วิ่งหนีไป โดยไม่ฟังเสียงเรียกให้หยุดไล่หลังมา "นี้เจ้า หยุดก่อน เจ้า" "มีอะไรหรือขอรับ" "นางลืมรองเท้าไว้" "นางคงกลัวเลยรีบหนีไป" ซีฮ่าวยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงท่าทางนางเมื่อครู่นี้ "นางเป็นใครหรือขอรับ" จางหมิงเอ่ยถาม "นางคือองค์หญิงปีศาจน้อย ลู่เอิน" "ข้าก็ว่านางดูคุ้นตา นางคล้ายแม่นางชีเหนียงนี้เอง" "เดี๋ยวได้เจอกันอีกแน่ๆ องค์หญิงปีศาจน้อย" ซีฮ่าวอมยิ้ทอดสายเหม่อมองไปตามทางที่ลู่เอินวิ่งหนีไป ลู่เอินวิ่งมาได้ระยะหนึ่งจึงหยุดพัก "บ้าจริงลืมรองเท้าได้ไง" นางกล่าวอย่างเหนือยหอบจากการวิ่งมา ระหว่างเดินกลับตำหนักที่พักก็คิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของชายผู้นั้นขึ้นมา "เขาคนนั้นที่ข้าเจอตอนเก็บบัว เขาเป็นใครกันนะ ทำไมหล่อจัง ถูกใจข้าจริง ๆ เลย หรือข้าจะไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่ ให้ข้าแต่งงานกับเขาดี ไม่ได้สิ ไม่ได้ ๆ ยังไม่รู้จักกันเลย แต่ข้ารู้จักที่อยู่เขาแล้วคงได้เจอกันอีกแน่ ข้าจะต้องไปทำความรู้จักกับเขา" "บ่นอะไรพึมพำคนเดียว" "โอ้ย!! ตกใจหมด ลู่เฟย" "เจ้าบ่นอะไร เห็นพูดคนเดียวมาตั้งแต่ทางเดินนู้นและ แล้วรองเท้าเจ้าไปไหนทำไมเดินเท้าเปล่าเยี่ยงนี้" "ลู่เฟย เจ้าหยุดถามได้แล้ว ข้าทำรองเท้าขาดเลยทิ้งไปแล้ว" ลู่เอินกล่าวแบบหลับสายตา "ไม่ได้ไปก่อเรื่อง" ลู่เฟยคาดคั้นคนตรงหน้า "ไม่ จริง ๆ" ลู่เอินยืนยันคำเดิม แม้จริง ๆ แล้วจะก่อเรื่องมาก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD