ตอนที่ 4

3567 Words
เขมิกาไปรับเครื่องเพชรและแหวนที่เอาไปลดไซร์ให้คุณหญิงย่าที่ร้านประจำเสร็จหญิงสาวก็ตรงดิ่งกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะทำเครื่องเพชรของคุณย่าสูญหายเพราะมูลค่าของมันเธอคงไม่มีปัญญาชดใช้คืน รถคันเล็กสัญชาติญี่ปุ่นแล่นผ่านประตูรั้วเข้าไปในคฤหาสน์หลังงามใหญ่โตในรอบปีหากไม่จำเป็นเธอจะไม่เข้ามาที่นี่และคงเป็นฤกษ์ไม่ดีที่เธอเจอเข้ากับน้องสาวต่างพ่อที่กำลังจะออกไปกินข้าวกับเพื่อน “มาทำไม หรือมาประจบขออะไรคุณหญิงย่าอีกล่ะ” เสียงแหลมถามพี่สาวต่างแม่ที่เธอไม่เคยนับญาติหลังจากแม่เล่าให้ฟังสริดาก็ฝังใจเกลียดสองแม่ลูกที่ทำให้แม่ของเธอเสียใจและเจอกันทีไรก็จะพูดจาเสียดสีทุกครั้งและนี่เป็นครั้งที่สองในรอบปีที่เธอเจอเขมิกา “เปล่า เอาของมาให้ท่าน” คนเป็นพี่ไม่อยากมีปัญหาก็เบี่ยงตัวเดินหนีเมื่อพูดจบ “หยุดนะ,ฉันยังพูดไม่จบแกจะไปไหนไม่ได้” สริดาตวาดเสียงดังลั่นจนดนุพันธ์ สิริและกองทัพนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นได้ยินลุกออกมาดู “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ” เขมิกาหยุดเดินหันมาบอกน้องสาวที่แต่งตัวสวยเซ็กซี่แต่หน้าตาบูดบึ้งทำให้หมดสวยไปเลยทีเดียว “แล้วนั่นถุงอะไรเอามาให้ฉันดูก่อน” สริดายื่นมือไปจะดึงถุงกระดาษที่เขมิกาถือมาเพื่อดูว่ามีอะไรในนั้น “ไม่ได้ นี่ของคุณหญิงย่า ขอโทษนะฉันให้คุณดาด้าดูไม่ได้ขอตัว” เขมิกาพูดจบก็เดินไปอย่างไม่สนใจคนเป็นน้องหาเรื่อง “เดี๋ยว นี่แน่หวงดีนัก.” สริดาพูดจบก็กระชากถุงกระดาษขาด “โอ้ะ, ว้ายย!!..” ถุงกระดาษในมือของเขมิกาขาดออกจากกันจนกล่องเครื่องประดับราคาสามล้านกว่าและกล่องแหวนตกกระจาย “อะไรกัน ยัยดาด้า หนูขิม.” เสียงของดนุพันธ์ดังขึ้นเขาออกมาทันเห็นสริดากระชากถุงกระดาษจากมือของเขมิกาพอดีและสิริกับกองทัพก็เห็นเหมือนกันจนเครื่องเพชรตกกระจาย “ตายแล้วลูกดาด้า เครื่องเพชรนี่คะลูก เสียหายหมดแล้วมั้ง ทำไมเธอไม่ถือดีๆฮ๊า” สิริหันไปว่าให้เขมิกาที่นั่งลงเก็บเครื่องเพชรมือไม้สั่นด้วยความโกรธและกลัวคุณหญิงย่าว่าที่เธอทำของท่านเสียหายเจ็บใจจนพูดไม่ออกน้ำตาคลอเบ้าก่อนจะกระพริบตาเพื่อไม่ให้มันไหลออกมาให้คนพวกนี้เห็น “คุณแม่ครับ หนูขิมไม่ได้ทำสักหน่อย หากจะว่าคุณแม่ต้องวายัยดาด้าโน่นครับที่ไปกระชากถุงจากมือหนูขิมจนขาดน่ะ” กองทัพบอกแม่ทั้งที่ท่านก็เห็นแต่ยังไปลงที่เขมิการ่างสูงย่อตัวลงช่วยน้องสาวต่างแม่เก็บเครื่องเพชรและกล่องแหวน “นั่นสิคุณสิริ คุณก็อย่าเห็นผิดเป็นถูกสิ อย่างนี้ลูกถึงเอาแต่ใจเพราะแม่ให้ท้ายตลอดทำอะไรก็ถูกหมดจนแทบจะไม่เห็นหัวใครแล้ว” “ก็ใครล่ะคะที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” สิริหันไปว่าสามี “คุณพ่ออ เข้าข้างมัน ดาด้าแค่ขอดูแต่ยัยลูกเมียน้อย.” “สริดา” ดนุพันธ์ตวาดลูกสาวคนเล็กเสียงดังที่ว่าพี่สาวแล้วตวัดสายตาใส่สิริที่หน้าเสียเมื่อเห็นสายตากล่าวหาของสามีเพราะนังเด็กขิมนี่คนเดียว “ทำไมคะ ก็แม่มันเป็นเมียน้อยคุณพ่อ..” “ดาด้าพอเถอะลูก” สิริรีบเดินไปหาลูกสาวเพื่อให้หยุดพูดเพราะสามีกำลังโกรธหน้าแดงก่ำ “ทำไมคะคุณแม่ ดาด้าพูดความจริง.” “ยัยดาด้า แกขอโทษหนูขิมเดี๋ยวนะ” ดนุพันธ์โกรธลูกสาวแม้เขาจะผิดที่นอกใจสิริแต่เขาก็ยอมเลิกกับจันทราผู้หญิงที่เขารักเพื่อไม่ให้ครอบครัวมีปัญหาทั้งที่เขารักจันทราเต็มหัวใจและรู็สึกผิดมาจนทุกวันนี้แล้วสิริก็ไม่ได้ผิดอะไรถึงเขากับเธอแต่งงานกันเพราะความเหมาะสมทางสังคมพออยู่กันมานานก็กลายเป็นความผูกพันธ์ “ไม่ค่ะ ดาด้าจะไม่ขอโทษยัยลูกเมียน้อยนี่เด็ดขาด” สริดาพูดจบก็หมุนตัวเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว “ยัยดาด้ากลับมาก่อนนะ เห็นมั้ยคำพูดที่คุณพร่ำบอกลูกในสิ่งที่ผิดน่ะมันบ่งบอกถึงความเป็นผู้ดีหรือไพล่ได้ดีในสายตาคนอื่น ทัพพาน้องไปหาคุณย่าเถอะลูก” ดนุพันธ์บอกลูกสาวที่ยืนกำหมัดแน่นนัยตาวาววับคงจะโกรธมากขนาด “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวก็ยังยกมือไหว้พ่อกับเมียที่สะบัดหน้าหนีไม่รับไหว้ซึ่งเขมิกาก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะรู้อยู่แล้วจึงได้หลีกเลี่ยงมาตลอด “ไปครับหนูขิม” กองทัพหอบกล่องเครื่องเพชรแล้วใช้ไหล่สะกิดน้องสาวไห้ไปหาคุณหญิงย่าที่เอนหลังอยู่ที่ห้องนั่งเล่นส่วนตัวของท่าน “ค่ะ” เขมิกาเดินก้มหน้าตามหลังพี่ชายไปเงียบๆก่อนจะชนเข้ากับแผ่นหลังของพี่ชาย “อุ้ย, ขอโทษค่ะคุณทัพ” “อย่าคิดมากนะหนูขิม ยัยดาด้าก็ปากเสียเหมือนเดิมแหละ” กองทัพบอกน้องสาวที่เขาไม่เคยเกลียดเพราะสงสารมากกว่าสิ่งที่คุณย่าเล่าให้ฟังต่างจากที่แม่เล่าแต่เขารู้ว่าแม่เสียใจและเจ็บช้ำก็ไม่ต่างจากแม่ของเขมิกาถ้าจะโทษก็ต้องโทษพ่อที่หลายใจทำให้ผู้หญิงทั้งสองเจ็บช้ำ “ขิมไม่ชอบให้ดาด้าว่าแม่” “พี่เข้าใจครับ ไปครับคุณหญิงย่ารออยู่” กองทัพก็พูดไม่ออกยังไงทั้งสองก็เป็นน้องก่อจะเดินไปหาย่า “สวัสดีค่ะคุณหญิงย่า” สาวร่างเล็กบอบบางอรชรอ้อนแอ้นนั่งพับเพียบเรียบร้อยตรงหน้าคุณหญิงย่าแล้วกราบที่ตักท่าน “สวัสดีลูก แล้วนั่นทำไมหอบมาแบบนั้นล่ะพ่อทัพ” คุณหญิงเห็นกล่องเครื่องประดับอยู่ในอ้อมกอดของหลานชายคนรองก็ถามอย่างสงสัย “คือว่า.” “คุณหญิงย่าครับ พอดีเครื่องเพชรมันตกครับแต่ผมไม่รู้ว่ามันเสียหายหรือเปล่า แต่หนูขิมไม่ได้เป็นคนทำยัยดาด้ากระชากถุงขาดเครื่องเพชรของคุณหญิงย่าก็เลยตกครับ” กองทัพชิงพูดก่อนหากเขมิกาพูดก็คงยอมรับผิดเองแน่และเขาก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใครผิดก็ผิดใครถูกก็เป็นคนถูกเขารักน้องเท่ากันและไม่ได้ลำเอียง “แม่ขิมเจอแม่ดาด้าเขาเหรอลูก” “ค่ะ ขิมขอโทษนะคะคุณหญิงย่า ขิมผิดเองที่ไม่ระวังค่ะ” หญิงสาวยอมรับผิด “ไม่เป็นไรลูก ไหนตาทัพเอามาให้ย่าดูสิ” คุณหญิงบอกหลานชายเปิดกล่องเครื่องเพชรให้ท่านดูมือเหี่ยวย่นหยิบสร้อยเพชรน้ำงามที่ท่านคัดเลือกเองกับมือเพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดของเขมิกาอีกสองเดือนที่จะถึงนี้ด้วยความเสียดาย “อืมม. ตาทัพเอาไปให้ร้านเขาดูให้ย่าหน่อยนะ ว่ามันเสียหายหรือเปล่าแล้วขายให้ย่าด้วย” คุณหญิงบอกหลานชายและคิดว่าจะต้องสั่งทำใหม่ “ครับคุณหญิงย่า แต่แหวนไม่ได้ร่วงออกจากกล่องนะครับ”มือใหญ่เรียวยาวเปิดกล่องแหวนที่ยังอยู่ในตัวล็อคไม่หลุดและไม่ได้เสียหาย “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิแม่ขิม ไม่เป็นไรหรอกน่า” คุณหญิงลูบศรีษะของหลานสาวเบาๆอย่างเมตตา “ขิมขอโทษนะคะคุณหญิงย่า” เขมิกาไม่กล้าเงยหน้าเพราะตอนนี้น้ำตามันเอ่อออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ไม่เอาลูก แม่ขิมคนเก่งของย่าเข้มแข็งไว้ลูกอย่าเรื่องที่คนอื่นพูดไม่ดีมาคิดให้เปลืองสมองสู้เอาไว้คิดเรื่องการงานดีกว่าลูกบาง ถ้าเรายังคิดถึงมันจะทำให้ไม่มีความสุขหากแม่จันเห็นก็จะไม่มีความสุขไปด้วยนะลูก” คุณหญิงรู้ว่าหลานสาวรักและเป็นห่วงแม่มากจึงพูดถึงแม่ “ฮึก ค่ะคุณหญิงย่า” เขมิกาอยู่คุยกับย่าแป้บเดียวก็ขอตัวกลับ สาวร่างเล็กบอบบางเดินออกมาจากห้องของย่าทางด้านข้างบ้าน “หนูขิม” “คุณท่าน” “หนูขิมจะไม่เรียกพ่อให้พ่อชื่นใจบ้างเหรอลูก” เสียงแหบเครือของดนุพันธ์ถามลูกสาวที่ไม่เคยเรียกเขาว่าพ่อเลยตั้งแต่พูดได้ถึงแม้ไม่ค่อยได้เจอกันแต่เขาก็รู้ความเป็นอยู่ของผู้หญิงที่เขารักทั้งสองผ่านผู้เป็นแม่ที่รับหน้าที่จัดการเรื่องค่าเลี้ยงดูให้เขาที่ไม่มีใครรู้ว่าเงินที่คุณหญิงโอนเข้าบัญชีของจันทราทุกเดือนนั้นเป็นเงินของเขาและบางส่วนก็เป็นของคุณหญิงที่ให้หลานตั้งแต่เขมิกาเข้ามหาวิทยาลัยจันทราก็ไม่ได้ดูบัญชีอีกเลยเพราะเธอมีเงินเก็บจากทำขนมขายพอส่งเสียลูกสาวด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเก็บเงินส่วนนั้นไว้ให้ลูกสาวและไม่ได้สนใจว่าตอนนี้มีมากเท่าไหร่ “คุณท่านอย่าทำให้ขิมลำบากใจเลยค่ะ เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ ขิมขอตัวนะคะ” เขมิกายกมือไหว้พ่อแล้วเดินจากไปดนุพันธ์มองสายเลือดของตัวเองแล้วถอนหายใจ “พ่อขอโทษนะหนูขิมพ่อไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้” เสียงขอโทษของพ่อดังเบาๆอยู่ด้านหลังแต่หญิงสาวไม่หันไปมองเพราะอยากให้ทุกคนอยู่อย่างปกติสุข เธออยู่กับแม่แค่สองคนก็มีความสุขดีต่อไปเธอจะให้พี่เวียงเป็นตัวแทนเธอเข้าบ้านนี้ละกันก่อนจะขับรถออกไปจากคฤหาสน์หรูกลับบ้านของเธอที่ประตูอยู่ห่างกันไม่มาก เขมิกาจอดรถเสร็จก็เดินไปหาแม่ที่โรงครัวทำขนม “สวัสดีค่ะแม่ พี่เวียง” ร่างเล็กบอบบางนั่งอิงแม่อย่างออดอ้อน “เป็นอะไรลูก” จันทราละมือจากทำขนมมองหน้าลูกสาวแล้วจูบหน้าผากเบาๆ “ไม่เป็นไรค่ะ ขิมไปบ้านโน้นมาค่ะ เอาเครื่องเพชรไปให้คุณหญิงย่ามาค่ะ” “อ่อ, หิวหรือยังลูก” จันทราเลี่ยงไปถามลูกสาวเรื่องกินเพราะรู้แล้วว่าเขมิกาต้องไปเจออะไรมาถึงได้เป็นแบบนี้ “หิวมากค่ะ พี่เวียงขามีอะไรให้ขิมกินบ้างคะ” เสียงหวานหันไปอ้อนพี่เวียงที่เป็นเหมือนญาติคนในครอบครัวของเธอ “มีค่ะ เมื่อกี้คุณตี๋เล็กเอาออเดอร์มาส่งเขาเอาติ่มซำมาฝากชุดใหญ่เลยจ้ะ เดี๋ยวพี่ไปอุ่นให้นะคะ” เวียงบอกหลานสาวเจ้านาย “ไม่ต้องค่ะพี่เวียง ขิมไปอาบก่อนเดี๋ยวขิมมาช่วยนะคะแม่ จุ๊บ” สาวร่างเล็กบอบบางหอมแก้มแม่แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้านหลังเล็กที่มีสามห้องนอนห้องรับแขกห้องครัวที่อบอุ่นของเธอแล้วอาบน้ำก่อนจะไปช่วยแม่ทำอาหาร สริดาขับรถออกมาจากบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะเจอเขมิกาและยังทำให้พ่อว่าเธออีกยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดจนถึงร้านอาหารกึ่งผับที่รวมตัวของหนุ่มสาวคนดังไฮโซดาราหญิงสาวจึงยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม “แกเป็นอะไรดาด้า มาถึงก็ดื่มเอาดื่มเอาเดี๋ยวก็เมาหรอกแก” ทราย นัดดา ไฮโซสาวสกุลดังเก่าแก่ที่ร่ำรวยถามเพื่อนสาวที่ดื่มไม่หยุด “เบื่อๆน่ะ เสาร์นี้ไปภูเก็ตกันมั้ย” สริดาถามเพื่อนในกลุ่มที่มีแต่ลูกท่านหลานเธอที่ฐานะเท่าเทียมกันอยู่ในวงสังคมเดียวกัน “แจ๋วเลยดาด้า ป่านก็เบื่อที่บ้านเหมือนไปพักสมองหน่อยก็ดี” ป่าน ปานใจ สาวสวยลูกสาวเจ้าสัวร้านทองก็เบื่องานที่ร้านเพราะไม่ถูกกับพี่สะใภ้ที่จุ้นจ้านน่ารำคาญ “คริสคงไปไม่ได้พอดีมีงานถ่ายแบบปกหนังสือเอฟน่ะ” คริสนางแบบสาวจากครอบครัวธรรมดาแต่ไต่เต้ามาเป็นางแบบและมาอยู่ในสังคมไฮโซเพราะมีแฟนเป็นไฮโซถึงแม้จะเลิกกันไปแล้วแต่เธอก็ยังเป็นเพื่อนในกลุ่มนี้และยังเป็นนางแบบในโมเดลลิ้งของแอนนี่ “แด๊ดมาจากฝรั่งเศสแอนนี่ต้องไปรับท่านก่อน ไม่แน่นะแอนนี่กับแด๊ดอาจจะตามไปเที่ยวด้วยก็ได้” แอนนี่สาวลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสเจ้าของโมเดลลิ่งจัดหานางแบบและยังเป็นดารานางแบบ บอกเพื่อนๆ “ดาด้าเด็กเก่าเธอมา” คริสเห็นแฟนเก่าของสริดาเดินมากับสาวสวยจึงสะกิดบอก “ก็ช่างมันสิ.” ดาด้าเห็นปกรณ์ควงสาวมาจึงสะบัดหน้าหนีเธอรักเขามากและทำให้เธอเจ็บช้ำมากเมื่อเขาแอบคบกับไฮโซสาวที่ควงมาและประกาศหมั้นทั้งที่เป็นแฟนเธอ “เธออย่าดื่มมากสิดาด้า” แอนนี่เตือเพื่อนเมื่อสริดาดื่มไปหลายแก้ว “คืนนี้ดาด้าขอเมานะ แอนนี่พากลับด้วยนะ” สริดาพูดจบก็ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มก่อนจะตาลุกเมื่อเห็นนรบดีเดินเข้ามากับเพื่อนเดินเข้าไปนั่งมุมด้านในสุดที่เป็นส่วนตัวและมีเพื่อนนั่งรออีกคนหนึ่ง “โอโห้ วันนี้มีหนุ่มหล่อเพียบเลยอ่ะพวกเธอ” ทรายมองนรบดีกับจิรายุตาเยิ้ม “เฮ้ย,นั่นคุณร็อคกี้นี่นา” แอนนี่ที่รู้จักกับคธาวุธเพราะทำงานร่วมกันนางแบบในสังกัดของเธอไปเดินแบบงานเปิดตัวคอเล็คชั่นกระเป๋าเสื้อผ้าบ่อยๆที่ห้างหรูของเขาบ่อยฃ “ไปทักหน่อยมั้ยแอนนี่ ดาด้าก็รู้จักคุณนรบดี” สริดาบอกเพื่อนและลุกขึ้นเดินไปที่หนุ่มหล่อทั้งสามคนนั่งอยู่ นรบดีนั่งลงสั่งเครื่องดื่มแล้วคุยกับจิรายุ และ คธาวุธ ส่วนหิรัณย์กำลังข้าวใหม่ปลามันทำตัวติดเมียหนึบ ปรมัตก็ติดนัดครอบครัว “สวยว่ะ แกรู้จักเหรอไอ้ร็อค” ปรมัตถามเพื่อนเมื่อเห็นมันยิ้มให้สาวสวยทั้งสองที่เดินมาที่พวกเขานั่งอยู่ “รู้จักคนตามหลังทำงานร่วมกันอยู่ แกอยากรู้จักมั้ยล่ะแนะนำให้” คธาวุธหยักคิ้วให้เพื่อน “ไม่อ่ะ กูไม่อยากซ้ำรอยเดิมของมึงหรอกไอ้ร็อค” จิรายุตอบไปอย่างขำๆ “ยังๆ คนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานจริงๆ กูยังไม่ได้จิ้มหล่อนเลย” “จริงอ่ะ.” “จริงสิวะ กูแยกแยะได้นะไอ้ยุว่างานเป็นงาน เล่นเป็นเล่นโว้ย สวัสดีครับแอนนี่” คธาวุธพูดกับเพื่อนและทักทายสาวสวยที่รู้จัก “สวัสดีค่ะคุณร็อค ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่.” “นั่นสิครับโลกมันกลมจริงๆ พอดีเหงาๆก็เลยนัดเพื่อนมาดื่มกันครับ เชิญนั่งก่อนผมร็อคกี้ครับ คุณ.” “สริดาค่ะ เรียกดาด้าก็ได้ สวัสดีค่ะคุณนรบดี ดีใจที่ได้เจอคุณที่นะคะ” สริดาแนะนำตัวเองและทักทายนรบดีหนุ่มหล่อที่ทำให้เธอประทับใจและปักใจอยากใกล้ชิดเขา “สวัสดีครับ.” นรบดีพูดเสียงเรียบอย่างไม่ยินดียินร้ายที่สาวสวยมาทักทายและจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยช่วยสริดาไว้ “แกรู้จักคุณดาด้าด้วยเหรอวะดีน” จิรายุถามเพื่อนรักที่ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มทั้งที่สาวสวยนั่งอยู่ใกล้กลับไม่สนใจและส่ายหน้าว่าไม่ได้รู้จัก “คุณนรบดีช่วยดาด้าที่ร้านอาหารเมื่ออาทิตย์ก่อนไงคะ แหม ดาด้าคงสวยไม่พอที่คุณนรบดีจะจำได้สะ” สริดาตัดพ้อกระเง้ากระงอดใส่จริตเล็กน้อย “อ้อ, ขอโทษด้วยครับ พอดีผมงานเยอะเลยจำไม่ได้” “งั้นคืนนี้ให้ดาด้าเลี้ยงขอบคุณนะคะ.” “ไม่ได้ครับคุณดาด้า อย่างนี้พวกเราก็เสียสิที่ให้สาวๆเลี้ยง ยังไงเชิญเพื่อนๆมาดื่มด้วยกันดีกว่าครับพวกเราเลี้ยงเองครับ” คธาวุธพูดขึ้นให้ผู้หญิงเลี้ยงได้ยังไงเสียศักดิ์ศรีแย่สิ “ได้เลยค่ะคุณร็อคกี้” แอนนี่ก็กวักมือเรียกเพื่อนอีกสองคนมานั่งดื่มกับสามหนุ่มจากนั้นก็แนะนำตัวกันดื่มกินคุยกันจับคู่กัน สริดาก็เกาะติดนรบดี คริสก็นั่งลงข้างคธาวุธ และ ป่านและทรายนั่งประกบจิรายุหนุ่มหล่อจากสมุยหนุ่มทั้งสามโปรไฟล์เริ่ดทุกคนหน้าตาก็หล่อเหลาหุ่นสมาร์ท แอนนี่ที่นั่งระหว่างคธาวุธกับนรบดีและแอบเหล่หนุ่มหล่อเพื่อนของคธาวุธทั้งที่สริดากระแซะอยู่แต่เธอไม่เห็นนรบดีจะสนใจเพื่อนเลยสักนิด นรบดีมองสาวสวยทั้งห้าคนด้วยท่าทางเฉยเมยถึงเขาจะมีผู้หญิงข้างกายไม่ขาดแต่เขาก็เลือกเองไม่ใช่ป็นตัวเลือกของสาวๆก่อนจะมีดาราสาวลูกครึ่งคู่ควงคนล่าสุดของหนุ่มลูกเสี้ยว “สวัสดีค่ะ คุณดีน สวัสดีทุกคนค่ะ” มีน มีรยา ดาราสาวดวารุ่งที่กำลังดังจากละครผีที่กำลังออกอากาศอยู่มาหยุดยืนใกล้นรบดีชายหนุ่มก็ขยับตัวไปทางแอนนี่ที่ขยับที่ให้ดาราสาวนั่งลงแทนที่เธออย่างเสียดายแล้วมองสริดาที่หน้าง้ำลงด้วยความไม่พอใจ “มีนขอโทษด้วยนะคะ ที่มาช้าพอดีเพิ่งเสร็จงานค่ะ” มินเบียดร่างแนบชิดกับหนุ่มหล่อด้วยความหวงและเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเพราะสาวๆที่นั่งอยู่สวยๆทั้งนั้น “สวัสดีค่ะพี่แอนนี่ มีนขอโทษด้วยะคะที่ไม่ทันเห็น” ดาราสาวเจ้าบทบาททักทายรุ่นพี่ในวงการแต่ไม่ได้สนิทกัน “สวัสดีจ้ะน้องมีน นี่เพื่อนๆของพี่ค่ะ ดาด้า ป่าน ทราย คริส พอดีมากินอาหารกันแล้วเจอคุณร็อคกี้ชวนดื่มก็เลยมาร่วมวงกันนี่แหละค่ะ” แอนนี่ไม่แคร์อยู่แล้วเพราะหนุ่มๆของเธอมีเยอะแยะแต่ดูว่าเพื่อนของเธอจะไม่โอเค “ค่ะ พอดีมีนทำงานอยู่แล้วคุณดีนโทรหาพอเสร็จงานก็เลยรีบมากลัวคุณดีนจะโกรธค่ะ” ดาราสาวก็หันไปอ้อนหนุ่มหล่อ “ไม่โกรธครับ ผมรู้ว่ามีนติดงาน” นรบดีโอบกอดดาราสาวที่เอนตัวพิงเขาอย่างออดอ้อน ผู้หญิงก็แค่นี้แหละออดอ้อนเอาใจเพื่อมัดเขาให้อยู่มือทั้งที่การคบกันก็ตกลงกันแล้วว่าไปได้แค่ไหนแต่นรบดีไม่เก็บไว้เขาจะยุติความสัมพันธ์ทันที “คุณดีนครับ ไม่ต้องสวีทกันขนาดนั้หรอกครับเพื่อนอิจฉา” คธาวุธแซวเพื่อนที่ชี้หน้าฝากไว้ก่อนหนุ่มๆกลุ่มนี้เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือรักสนุกแต่ไม่ผูกพันธ์เพราะผู้หญิงที่เข้าหาพวกเขาก็หาผลประโยชน์จากพวกเขาและรักสนุกแลกเปลี่ยนความพอใจกันและกันเท่านั้น “นั่นสิแกทำให้คนไม่มีคู่อิจฉานะเว้ย” จิรายุขยิบตาใส่เพื่อน “ดื่มๆไปเถอะน่า มีนจะดื่มอะไรดี” “มีนขอน้ำส้มค่ะ” มีรยานั่งอิงแอบหนุ่มหล่อที่เธอหลงใหลรสสวาทของเขาอย่างโงหัวไม่ขึ้นผู้ชายที่ผ่านมาของเธอไม่มีใครเทียบนรบดีได้สักคนจึงยอมรับกฏของชายหนุ่มทุกอย่างแต่กว่าเธอจะผ่านเกณฑ์ของนรบดีต้องไปตรวจร่างกายและหนึ่งในกฏคือห้ามจูบปาก สริดาทนดูไม่ได้ก็ขอตัวเข้าห้องน้ำพร้อมกับแอนนี่ “ฉันเกลียดยัยดาราตอแหลนั่นจริงๆเลยแอนนี่ ทำหน้าใสซื่อออกทีวีแต่จริงๆแล้วก็แรดอยากได้ผู้ชายเหมือนกัน” สริดาพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อหนุ่มหล่อที่เธอหมายปองมีคู่ควงมาด้วย “มันก็เป็นเรื่องปกตินะดาด้า ชีวิตบางคนก็ไม่ได้สวยหรูก็ต้องใช้เต้าไต่เพื่อชื่อเสียงเงินทอง ยิ่งคบคนดังก็จะทำให้คนรู้จักเยอะเงินทองชื่อเสียงก็จะตามมา” แอนนี่พูดกับเพื่อนเพราะไม่มีใครเฟอร์เฟคหรอกหากเธอไม่มีชื่อเสียงเงินทองจะมีไฮโซคนดังมาคบไหมก็คงไม่ “กลับกันดีกว่ามั้ย ว่าแต่คืนนี้หนุ่มๆในสต็อกของแกมีว่างบ้างมั้ย ดาด้าจะได้ไปดื่มต่อที่คอนโดแกน่ะ” ในบรรดาเพื่อนในกลุ่มสริดาสนิทกับแอนนี่เพราะเรียนมาด้วยกันและรู้ไส้รู้พุงกันดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD