๘ ไม่ได้รู้สึกอะไร...จริงๆ นะ

1400 Words
๘ ไม่ได้รู้สึกอะไร...จริงๆ นะ ทีปกรตัดสายที่โทร.เข้ามารายงานความคืบหน้าด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ร่างสูงเด่นกำลังยืนนิ่งอยู่ที่ประตูระเบียงได้แต่ครุ่นคิดกลับไปกลับมา กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เขาถูกปฏิเสธจากผู้หญิงดื้อด้านคนนี้ ตีรณาปฏิเสธข้อเสนอของเขาโดยการขนข้าวของย้ายออกจากห้องพักเดิม ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ก่อนหน้านี้เขามีความรู้สึกผิดอยู่บ้างจึงอยากจะหาทางออกให้กับหล่อนโดยการเสนอที่พักที่ดีกว่าเดิม ตั้งใจหาคนไปอยู่เป็นเพื่อน อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง แต่เมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจแบบนี้เขาก็จะไม่ยุ่ง พลันรอยยิ้มเยือกเย็นไม่แยแสปรากฏ ช่างหัวหล่อนสิ ผู้หญิงอวดดี อยากทำอะไรก็ทำเลย ถือว่าเขาได้ตอบแทนไปแล้ว ไม่ได้ติดค้างอะไรกันทั้งนั้น ริมฝีปากได้รูปกระตุก ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าห้อง กวาดภาพผู้หญิงอวดดีพ้นทาง ในเมื่อหล่อนเลือกทางของหล่อนได้แล้ว เขาก็มีทางของเขาเองเช่นกัน และทางของเขาก็ไม่มีที่ให้หล่อนมาแต่แรก ตีรณาเดินทางมาถึงเพชรบูรณ์ในช่วงบ่าย หญิงสาวนั่งรอใครบางคนอยู่ที่ท่ารถ รออยู่เกือบชั่วโมงจึงมีรถเก๋งเคลื่อนเข้ามาช้าๆ แล้วจอดนิ่งสนิท ครู่ต่อมาร่างอวบของหญิงวัยประมาณห้าสิบเศษจึงเดินลงมา พลางชะเง้อมองหาใครบางคนสลับกับก้มลงมองภาพในมือ ขณะนั้นมีร่างบอบบางของสาวสวยคนหนึ่งก้าวมาหา หญิงวัยห้าสิบเศษคนเดิมชะงัก “คุณป้าอิ๋วใช่ไหมคะ หนูตี่ ตีรณาลูกพ่อโอ๋เองค่ะ” คนที่ถูกทักนิ่งงันไปหลายวินาที นัยน์ตาที่เหมือนกับนัยน์ตาของพ่อกำลังมองตรงมายังหญิงสาวร่างกลมกลึงตรงหน้านั้นมีรอยรื้นขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ายิ้ม “จ้ะ ป้าเอง ป้าอิ๋ว” ตีรณาน้ำตาคลอ พลางยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นป้าที่ไม่เคยพบหน้ากันเลยนับแต่พ่อพาหล่อนกับแม่ออกมาจากบ้านย่า กระทั่งท่านตายจาก ยังกำชับนักหนาว่าไม่ให้บอกใคร “มาเถอะลูกขึ้นรถ กลับบ้านเรา” คำว่า ‘กลับบ้านเรา’ ทำให้ตีรณาไม่อาจกักกั้นน้ำตาไหลพรูจนป้าอิ๋วตกใจ ขยับร่างเข้าหา แล้วยกมือขึ้นวางบนบ่าไหล่บอบบางที่สั่นสะท้าน ตีรณารีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แล้วฝืนยิ้มให้ผู้เป็นป้า “ตี่ขอโทษค่ะ” ป้าอิ๋วยิ้มอ่อน นัยน์ตามีหยาดน้ำคลอคลอง “ไม่เป็นไรลูก” นางกล่าว พลางเปิดประตูให้หลานสาวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งแต่อีกฝ่ายอายุได้เพียงสองขวบเศษ “หนูมีข้าวของมาแค่นี้หรือลูก” หันมามองหลานสาวเป็นคำถาม “ค่ะ พวกเครื่องใช้ตี่ขายเป็นของมือสองหมดแล้ว ก็เลือกเอามาแต่ที่จำเป็นจริงๆ ค่ะ” เพราะไม่อยากยุ่งยาก และอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่จริงๆ จึงเลือกทิ้งของเก่าๆ ไว้ข้างหลัง ส่วนของที่ระลึกมีเพียงสร้อยคอที่พ่อมอบให้ก่อนท่านเสียกับอัลบั้มรูปภาพที่ถ่ายคู่กันเท่านั้น รถเก๋งเคลื่อนตัวออกจากท่ารถไปได้สักพัก ป้าอิ๋วก็หันมามองหลานสาวที่นั่งเงียบ ดูท่าทางเจียมตัวและน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก หลานสาวของนางสวยน่ารัก รูปร่างสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวใส ที่สำคัญ ดวงตาและริมฝีปากเหมือนน้องชายของนางส่วนอื่นๆ ค่อนไปทางแม่มากกว่า เขาว่ากันว่า ลูกผู้หญิงที่เหมือนแม่นั้นจะอาภัพ ในข้อนี้เห็นทีว่าจริงในกรณีของตีรณา เพราะสุดท้ายไม่เหลือใครไม่ว่าพ่อหรือแม่... “ป้าดีใจนะ ที่หนูติดต่อป้ามา” ป้าอิ๋วยิ้มอ่อน ดวงตาของท่านฉายแววอบอุ่น ทำให้ตีรณารู้สึกตื้นตันใจ ก่อนหน้านี้ยังนึกหวั่นว่าจะเป็นเช่นไร ญาติพ่อจะยินดีต้อนรับหรือไม่ “ตี่ขอบคุณมากนะคะ ที่ยอมให้ตี่มาพักด้วย” หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อน พลางหลุบตาลงและมองไปข้างหน้า ป้าอิ๋วสังเกตว่าหลานสาวมีความในใจ ท่าทางเศร้าสร้อยนั้นสะดุดตานับแต่แรกพบ “ต้องยอมอยู่แล้ว ป้าดีใจแทบแย่ตอนที่ตี่โทร.มาหาป้า คิดว่าฝันไป” ป้าอิ๋วกล่าวยิ้มๆ ใบหน้าท่าทางสดใสกว่าเมื่อครู่ “ป้าเตรียมกับข้าวเอาไว้ให้ตี่ด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าตี่จะชอบไหม” ตีรณาหันมองป้าอิ๋ว ดวงตากลมโตมองท่านอย่างซึ้งใจ จนป้าอิ๋วยิ้มกว้าง “แต่ถ้าหนูชอบเหมือนที่พ่อเขาชอบ ก็คงจะชอบกับข้าวที่ป้าทำเอาไว้ให้อยู่บ้างหรอก” คำบอกเล่าของป้าอิ๋วทำให้คนที่นั่งข้างนิ่งงัน มีก้อนสะอื้นจุกค้างในลำคอ ก่อนจะยิ้มกว้างทว่าริมฝีปากสั่นระริก “ชอบค่ะ ตี่ชอบอาหารเหมือนคุณพ่อทุกอย่างเลยค่ะ” ป้าอิ๋วไม่ได้สบตาหลานสาว เพราะนัยน์ตาที่เหมือนกันกับน้องชายนั้นเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำเพราะความคิดถึง ไม่อยากร้องไห้ให้คนข้างๆ เห็นจึงเงียบกันไปอีกสักพัก ตีรณาจึงเอ่ยถามขึ้น “คุณย่าล่ะคะ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง” “ก็ตามประสาคนแก่นั่นแหละ เจ็บไข้ป่วยบ้าง แต่ตอนนี้สบายดี ย่ารอเจอหน้าหนูมาตลอดรู้ไหม” ป้าอิ๋วสบตาหลานสาว ด้วยมองคราวใดก็คิดว่ามองน้องชายทุกคราไป เสียอย่างเดียว ตีรณามีความคล้ายมารดามากไปนิด หากเหมือนอนุชามากกว่านี้ก็คงจะดี วารินมารดาของตีรณาเป็นคนสวย ชนิดที่หนุ่มๆ ตามจีบจนหัวกระไดบ้านไม่เคยแห้ง แต่สุดท้ายมาตกล่องปล่องชิ้นกับอนุชาที่เป็นหนุ่มหล่อมากในสมัยนั้น เรื่องราวควรจบลงที่อนุชาและวารินอยู่กินกันอย่างมีความสุข ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น ไม่มีใครชอบวาริน จึงเกิดความขัดแย้งไม่เว้นวัน ในที่สุดอนุชาจึงตัดสินใจพาภรรยาและลูกออกจากบ้านไป “หนูก็คิดถึงคุณย่าค่ะ แต่ว่า...” “อย่าไปคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนเลยนะ ตอนนี้อะไรก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ทุกคนดีใจที่จะได้เจอหนู” หญิงสาวยิ้มให้ป้าอิ๋ว หล่อนเองก็ดีใจ ทว่าความดีใจนั้นแฝงเอาไว้ด้วยความประหม่า หวาดหวั่น ไม่แน่ใจอะไรกับอนาคตข้างหน้า หนึ่งอาทิตย์หลังจากตีรณาลาออกจากร้าน กันยากับดุษิตาก็ขาดคนรู้ใจไปอีกหนึ่ง รู้สึกเหงาและเสียดายเพื่อนรุ่นน้องคนนี้นัก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตีรณาปรากฏชัดว่าลูกค้าอันธพาลคนนั้นเริ่มก่อน จึงถูกแบนจากร้านไม่มีโอกาสได้เข้ามาหาเรื่องใครได้อีก แต่ไม่มีใครล่วงรู้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน ลูกค้าคนดังกล่าวถูกนักเลงรุมสกรัมและขโมยทรัพย์สินไป จนต้องเข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่อาจจับตัวคนทำร้ายได้ ทว่าทั้งสองยังคงกังขาเรื่องราวคืนนั้น ว่าระหว่างทีปกรกับตีรณามีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ “คิดถึงไอ้ตี่ว่ะแก” ดุษิตาเปรยขึ้นขณะรอเครื่องดื่มเพื่อนำไปเสิร์ฟลูกค้า กันยาหันไปสบตาเพื่อนพลางไหวไหล่ “ดูเถอะ จะไปก็ไม่บอกกันสักคำ หายเงียบไปเลย เบอร์ทงเบอร์โทร.ก็ยกเลิก ติดต่อไม่ได้” กันยาบ่นอุบ “น่าเห็นใจนะ ตั้งแต่มาทำงานก็มีแต่เรื่อง แล้วแบบนี้ใครมันจะอยากไปอยู่” ดุษิตากล่าว “จะว่าไป ตี่มันมีบุคลิกออกหวานๆ เปรี้ยวๆ ผู้ชายคนไหนเห็นแล้วก็ชอบมันทั้งนั้น ตี่มันเซ็กซี่โดยไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ ก็เซ็กซี่ ฉันสังเกตตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆ ลูกค้ากี่คนๆ พอได้เห็นมันก็ชอบมองกันทั้งนั้น ถูกแซวทุกวัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าลวนลาม จนไอ้บ้านั่นมาทำให้เสียเรื่องนั่นแหละ แถมตี่ถูกคุณโยเรียกไปตำหนิทั้งที่ไม่ผิดอีก ใครจะอยากอยู่วะ เป็นฉันก็ขอลาว่ะ” กันยาบ่นอย่างมีอารมณ์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD