ตีรณาตวัดตามองแวบหนึ่ง หล่อนจำได้ว่ารัฐมนตรีเหล่านี้ล้วนมีครอบครัวกันทั้งหมด อย่างนายเลิศลักษณ์เพิ่งแต่งงานครั้งที่สองไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ตอนนี้กลับนั่งกอดสาวงามหยาดเยิ้มเบอร์หนึ่งของเลานจ์จนแทบกลายเป็นเนื้อเดียว
หญิงสาวรินเหล้าใส่แก้วให้คุณไทม์ เมื่อวางแก้วลงบนโต๊ะตรงหน้ายังไม่ทันชักมือกลับมือของเขาก็คว้าลงมาบนแก้วหรูใบนั้น ทำให้ปลายนิ้วเรียวยาวแตะลงบนหลังมือหล่อน มือข้างนั้นกระตุกราวกับมีไฟฟ้าชอร์ตปราดลงมา ก่อนจะค่อยๆ ซ่านสะท้านไปยังกึ่งกลางใจ ตีรณาชะงักลงเล็กน้อยรีบชักมือกลับ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่กล้าสบตาคมกริบของใครเลย แล้วสาวสวยนามว่านลินที่มองอยู่แล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ
“แหม ที่นี่คัดพนักงานทุกระดับประทับใจจริงๆ นะคะ ขนาดพนักงานเสิร์ฟยังต้องสวยขนาดนี้”
คำพูดนั้นไม่ใช่คำชม แต่เป็นคำพูดแขวะแฝงด้วยอาการหมิ่นแคลนชัดเจน ทำให้คนในนั้นหันมามองพนักงานเสิร์ฟสาวเป็นตาเดียวแล้วก็เห็นด้วยกับคำพูดของนลิน นั่นคือทุกคนล้วนน่ารักจิ้มลิ้ม โดยเฉพาะตีรณาที่เมื่อสบตาสาวสวยผู้นั้นก็ใจหายเพราะเจ้าหล่อนมองมาอย่างเจาะจงราวจะกินเลือดกินเนื้อ ดูก็รู้ว่าหวงคุณไทม์มากแค่ไหน
“แน่นอนครับ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการบริการที่จะนำไปสู่ความประทับใจของลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน” ริมฝีปากได้รูปของคุณไทม์ผุดยิ้ม แต่กลับทำให้น้องสาวของท่านรัฐมนตรีคนดังถึงกับค้อนขวับ
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจหล่อนนัก แต่ตวัดสายตามองพนักงานของตนพลางพยักหน้าให้ออกไป ก่อนที่จะเสียบรรยากาศไปมากกว่านี้ ทั้งสามจึงกลับออกไปอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว
“อื้อหือ ฉันละอยากจะจิกหัวแม่นั่นออกมาตบสักที คิดว่าตัวเองเลิศเลอเพอร์เฟกต์มากหรือไง ถึงมาพูดดูถูกกันได้ง่ายๆ น่ะ” ดุษิตากล่าวออกมาอย่างโมโห ไม่ต่างกับกันยาที่ใบหน้างอง้ำ
“จริงด้วย หมั่นไส้ฉิบหาย” พูดจบก็หันไปมองตีรณา “ยัยนั่นดูท่าจะเขม่นตี่นะ”
ตีรณาใจหายอีกรอบก่อนจะยิ้มแหย หล่อนเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพียงไม่นาน จึงไม่อยากมีเรื่องกับใครเลยให้ตายสิ
“ตี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ทำไมเขาต้องเขม่นตี่ด้วย”
ดุษิตาหัวเราะหึๆ พลางมองสาวรุ่นน้องด้วยสายตารู้ทัน
“พี่เห็นมือคุณไทม์ชนมือตี่ตอนชงเหล้าให้ ยัยนั่นมองตาเขียววับ คงจะหวงจัด โธ่เอ๊ย ไม่รู้จักคุณไทม์ดีซะแล้ว พ่อฟันดะไม่เว้นลูกท่านหลานเธอ แต่ไม่มีใครจับคุณเขาได้เลยสักคนเดียว นั่นน่ะโคตรพ่อปลาไหลเลยเชียวนะ เรื่องลื่นไม่มีใครเทียบ ต่อให้ใบข่อยก็เอาไม่อยู่!”
ดุษิตากล่าวอย่างโกรธๆ ทำเอากันยานึกภาพตามแล้วหัวเราะพรืด ขณะที่ตีรณาถอนหายใจก่อนส่ายหน้ายิ้ม อดขำกับคำเปรียบเทียบของสาวรุ่นพี่ไม่ได้เหมือนกัน
“แต่ตี่ไม่ได้ตั้งใจนะพี่ดุษ ชักมือออกไม่ทันก็เลยชนกันนิดหน่อยเอง ไม่น่าจะโกรธขนาดนี้” ยังจำแววตาที่นลินมองมาได้ไม่ลืม
“เพราะรู้ไงว่าไม่มีใครคุมคุณไทม์ได้ ก็เลยหันมาคุมสาวๆ ที่จะเข้าหาคุณเขาแทน” กันยาเปรย
ตีรณาได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ อย่างอ่อนใจ ขณะเตรียมเครื่องดื่มชุดใหม่เอาไว้รอเรียกเข้าไปเสิร์ฟครั้งที่สอง
“คุณคนนั้นคิดมากไป ตี่ไม่มีวันทำแบบนั้น อีกอย่างคุณไทม์เขาไม่ยุ่งกับสาวเสิร์ฟอย่างพวกเราอยู่แล้ว ตี่ไม่เคยเห็นเขายุ่งกับพนักงานคนไหนเลย” ที่ผ่านมามีแต่ดารานางแบบไม่ก็พวกลูกท่านหลานเธออย่างที่ดุษิตากล่าวที่เขายอมคบหาด้วย
“มันก็ไม่แน่นะ นี่ถ้าคุณไทม์ได้สบตาพี่สักครั้งพี่จะอ่อยให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น” กันยาเอ่ยพลางทำท่าทางยั่วยวนอย่างแม่เสือสาว ทำให้อีกสองสาวหัวเราะขัน
“เอาเถอะ ฉันเป็นกำลังใจให้ ถ้าคุณไทม์ไม่ถีบหล่อนออกมาซะก่อนนะ”
กันยาค้อนขวับ ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสาว ส่วนตีรณาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กำลังคิดถึงสัมผัสร้อนวูบนั้น โดยเฉพาะสายตาคมกริบที่มองมา แม้เพียงแวบเดียวกลับทำให้ใจของหล่อนกระตุก นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้มีร่องรอยกรุ้มกริ่มสักนิด ทว่ามีอิทธิพลแฝงทำให้หญิงสาวลืมหายใจไปชั่วขณะ แต่รู้ดีว่าคนอย่างเขาไม่ลดตัวลงมาสุงสิงกับพนักงานอย่างหล่อนแน่นอน
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง ตีรณาบอกลาเพื่อนๆ แล้วเตรียมตัวกลับห้องพัก แต่ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากเลานจ์นึกได้ว่าลืมของ จึงกลับเข้าไปอีกครั้ง ระหว่างนั้นเองกลับมีมือของใครคนหนึ่งคว้าหมับลงมาที่ต้นแขนกลมกลึง
“ว้าย!” เสียงร้องเงียบหายลงพร้อมอาการเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าคนชนเต็มตา “เอ่อ คุณไทม์”
“โทษที รบกวนหน่อย”
ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ราวกับว่าเขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะเปล่งเสียงพูดออกมา ดวงตาคมกริบที่เคยพราวระยับยามนี้ดูลึกลับน่าหวั่นเกรง ทำให้หญิงสาวมองเขาอย่างนึกกลัว
“จะให้ตี่ช่วยอะไรหรือคะ” เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจว่าคนอย่างหล่อนจะไปช่วยอะไรเขาได้ ทว่าท่าทางของเขาดูไม่ดีนัก คงต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
“มากับผม” พูดจบเขาก็ดึงหล่อนให้เดินตามกลับเข้าไปด้านในอีกครั้ง คราวนี้เขาพาไปยังห้องพักผ่อนส่วนตัว นั่นทำให้คนที่เดินตามรู้สึกใจไม่ดี เริ่มขืนร่างหนีเมื่อเขาหยุดอยู่หน้าห้องมองเขากดรหัสประตู
“เอ่อ คุณไทม์ คือว่าตี่” ยังไม่ทันพูดจบประโยค หล่อนก็ถูกผลักเข้าไปด้านในพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวตามมา ประตูถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เมื่อหันกลับไปพบกับร่างสูงสง่าที่สามารถบดบังหล่อนได้มิด หญิงสาวถอยร่นแต่ยังช้ากว่ามือใหญ่ที่ตะครุบไหล่ทั้งสองข้างของหล่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับก้าวเข้าประชิด โน้มใบหน้าคมคาย หล่อเหลาลงมาและหยุดด้วยระยะห่างเพียงไม่ถึงเซนติเมตร
“ช่วยผม แล้วผมจะตอบแทนคุณ”
ทันทีที่สิ้นเสียงแหบดังจนแทบจะเป็นกระเส่า ริมฝีปากสีอ่อนหยักลึกก็ซุกลงมากับซอกคอหอมกรุ่น หัวใจดวงน้อยกระตุกวาบ กรีดร้องด้วยความตกใจ ยกมือขึ้นผลักอกกว้างที่ตึงแน่นเป็นมัดทันควัน สะเปะสะปะผลักไส แต่ก็ยังช้ากว่าท่อนแขนแกร่งที่กอดรัดหล่อนเอาไว้ทั้งสองข้าง แน่นแนบเหมือนกับงูที่กำลังรัดเหยื่อ
หัวใจดวงน้อยเต้นรัว พยายามส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ แต่เสียงร้องไม่เคยเล็ดลอดออกไปจากห้องแห่งนี้ เพราะมันเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดีทีเดียว จึงพยายามสะบัดหน้าหนีและขัดขืนเต็มแรงสุดกำลัง แต่ท้ายที่สุดแรงของผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวหรือจะสู้คนตัวใหญ่ราวยักษ์ปักหลั่น ที่มีแรงกายมหาศาลพร้อมด้วยพลังเร้นลึกที่ปะทุจากภายใน ซึ่งหยุดไม่ได้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์ดำฤษณา
ทุกอย่างดำเนินต่อไปท่ามกลางอารมณ์ร้อนแรงราวพายุคลั่ง จุดจบครั้งนี้สำหรับเขาคือความสุขสมเมื่อได้รับการปลดปล่อย แต่กับใครบางคนที่ไร้หนทางต่อต้านกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาได้สร้างบาดแผลที่ไม่มีวันหายขาด ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะลืม