๑๐ พ่อหมากับลูกหมา

1527 Words
๑๐ พ่อหมากับลูกหมา ทีปกรไม่มีความเคลื่อนไหวใดหลังจากได้รับรู้เรื่องของตีรณาจากผู้จัดการหนุ่ม เขาทำตัวตามปกติ ยังคงมาทำงานและดูแลได้อย่างดีเยี่ยม และยังคงเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจหญิงสาวทุกวัยดังเดิม และในเมื่อไม่มีคำถามใดหลุดจากปากของเจ้านายอีก ผู้จัดการหนุ่มจึงหุบปากลงแค่นั้น แม้ลึกๆ เขาจะรู้สึกผิดหวังในตัวเจ้านายและรู้สึกผิดต่อตีรณาขึ้นมาอีก “พ่อคุณหายดีแล้วเหรอ ถึงรีบกลับมา” ทีปกรเอ่ยถามเมื่อผู้จัดการหนุ่มเข้ามาทักทายทันทีที่มาถึง “ท่านไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ” เขาตอบแค่นั้น ในใจรอให้อีกฝ่ายถามเรื่องอื่น ทว่าเมื่อทีปกรก็ไม่ได้ถามอะไรอีกจึงเอ่ยขอตัว ทว่าคนที่รู้สึกผิดต่อตีรณามาตลอดยังไม่ยอมแพ้ เขาทำการส่งรูปภาพของหญิงสาวกับลูกไปให้ทีปกรผ่านไลน์ส่วนตัว จากนั้นจึงผ่อนลมหายใจยาวด้วยความรู้สึกสบายใจ ต่อให้เขาถูกตำหนิเขาก็ไม่หวั่นอะไรทั้งนั้น ทีปกรควรจะต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาควรมีส่วนรับผิดชอบ... ตึ๊ง! เสียงเตือนบอกว่ามีข้อความใหม่เข้ามา ทีปกรที่นั่งอยู่หน้าบาร์หลุบมองหน้าจอมือถือของตนเอง เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความจากผู้จัดการร้านจึงเปิดดู ทันทีที่เห็นภาพ หัวใจของเขาก็ไหววูบรุนแรง มันดิ่งวาบลงไปกองอยู่แทบเท้าเมื่อได้เห็นหญิงสาวกำลังอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน สมองอันพร่าเบลอของเขาประมวลผลทันทีว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นระยะเวลานานเท่าใดแล้ว พลันหัวใจของเขาก็กระตุกซ้ำไปซ้ำมา เมื่อวันเวลาฟ้องชัดว่าก็พอๆ กับจำนวนวันที่หล่อนบอกว่าตั้งท้องกับเขานั่นเอง ตึ๊ง! ชายหนุ่มเลื่อนดูภาพต่อไปแล้วต้องขมวดคิ้ว แต่ไม่นานข้อความตัวอักษรก็ถูกส่งตามมา ‘รถคันนั้นเป็นรถที่มารับคุณตี่กลับบ้าน ผมส่งให้ดูเผื่อคุณไทม์อยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน จะได้ตามได้จากทะเบียนรถครับ’ เขาอ่านข้อความนั้นเงียบๆ นึกเดือดไอ้คนรู้ดีปุดๆ แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้าเบาๆ ยอมให้อภัยกับความรอบคอบของมัน คิ้วหนากระตุก แล้วรีบบอกตนเองว่าเขาไม่ได้อยากรู้เรื่องของหล่อนเสียหน่อย ในเมื่อปีกกล้าขาแข็งตัดสินใจทำแบบนั้นลงไปแล้วก็เอาตัวให้รอดด้วยสิ จากที่เห็นก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนักนี่ คงดูแลกันได้หรอกน่า ทีปกรบอกกับตนเองเช่นนั้น แต่ทำไมตอนนี้เขาจึงรู้สึกร้อนรน ขายาวภายใต้สแล็กเนื้อดีสีเทาเข้มเขย่ารัว แล้วเคาะนิ้วกับบาร์ตรงหน้าถี่ๆ ราวกับคนเป็นโรคพาร์กินสัน จนต้องเรียกหาวิสกี้เพียวๆ ดับอารมณ์อีกแก้ว แล้วบอกกับตนเองว่าสำหรับเรื่องนี้ เขาจะไม่ยุ่ง... รถเอสยูวีคันหรูสีเทาเข้มคืบคลานไปตามซอยเข้าหมู่บ้าน ทีปกรหลุบตามองแผนที่ตามจีพีเอสที่ตั้งค่าเอาไว้ไม่คลาด เพราะกลัวว่าจะพลาดจุดสำคัญ ก่อนชะลอรถจอดที่หน้าร้านอาหารตามสั่ง แม่ค้าปากแดงชะเง้อมองรถหรูด้วยความยินดี เพราะคิดว่าเป็นลูกค้า กระทั่งร่างสูงใหญ่ก้าวลงมาด้วยมาดเตะตาก็ทำปากจู๋ร้องอู้หู โอ้โห “โอ้โห หล่อมาก” แม่ค้าขายข้าววาดปากบอกลูกค้าประจำสาวที่นั่งหันหลังให้ ฝ่ายนั้นรีบหันไปมองแล้วชะงักกึก มองร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาตาค้างกระทั่งชายหนุ่มเดินมาถึง “ขอโทษนะครับ บ้านคุณอัจฉรา วงศ์วัชระ ไปทางไหนครับ” แม่ค้าปากแดงนิ่วหน้านึกทวนชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นมาในใจ แต่ยังไม่ทันนึกออกลูกค้าสาวก็ร้องบอกออกมาเมื่อนึกได้ “อ๋อ คุณคงหมายถึงครูอิ๋วใช่ไหมล่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จักครูอิ๋วหรอก “จริงด้วย!” แม่ค้าข้าวตามสั่งคนเดิมร้องออกมาอย่างเพิ่งจะนึกได้ พลางยิ้มหวานให้พ่อหนุ่มหน้าหล่อเหมือนอปป้าตรงหน้า “อัจฉราคือชื่อจริงของครูอิ๋ว นี่นะคุณ ขับรถตรงไปอีกนิด แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าไปในซอยอีกประมาณร้อยเมตร จะเจอบ้านครูอิ๋วอยู่ซ้ายมือเลยนะ รั้วสีน้ำตาลนั่นแหละ” เมื่อได้คำตอบจากแม่ค้าวัยประมาณสี่สิบเศษ ชายหนุ่มก็เอ่ยขอบคุณก่อนกลับขึ้นรถ พอลับหลังหนุ่มรูปหล่อแม่ค้ากับลูกค้าก็เมาท์มอยกันทันที “พี่เจี๊ยบว่าหนุ่มหล่อเขามาหาใคร” ลูกค้าสาวร้องถาม ส่วนแม่ค้าทำตาเบิกกว้างพลางบอก “ต้องมาหาหลานครูอิ๋วแน่ ไอ้ตี่ไง แล้วนี่เพิ่งคลอดลูกด้วย ฉันว่าต้องใช่แน่ๆ เพราะอย่างครูอิ๋วคงไม่มีปัญญาหาผัวได้หล่อคราวหลานแบบนี้แน่ ยังไงก็ต้องเป็นหลาน ผัวหลานชัวร์” ทีปกรไม่คิดเลยว่าตนเองจะมายืนอยู่หน้าบ้านคนอื่นด้วยอาการขบคิดไม่แตก ทั้งที่บอกตนเองนักหนาว่าจะไม่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะทางไหน แต่ไม่รู้อะไรพาเขามาถึงจุดหมายในเวลานี้ วันนี้เป็นวันหยุด ป้าอิ๋วจึงอยู่บ้านไม่ไปไหน ยิ่งหลานเพิ่งคลอดลูกก็ยิ่งไม่อยากออกจากบ้านไปที่อื่นไกล เพราะหลงหลานตัวน้อยเสียแล้ว “ใครมาจอดรถหน้าบ้าน” ป้าอิ๋วพึมพำกับตนเอง นั่งชะเง้อมองอยู่ที่เก้าอี้หินอ่อนภายใต้ชายคาบ้าน กระทั่งร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินพับแขน กางเกงชิโนขายาวสีครีมตบท้ายด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวออกมายืนชะเง้อมองเข้ามาในบ้าน ป้าอิ๋วที่หรี่ตามองรีบหยิบแว่นออกมาสวมแล้วผุดลุกยืนเต็มความสูงหนึ่งร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เมื่อฝ่ายที่อยู่นอกบ้านเห็นว่ามีคนอยู่จึงขยับเข้ามายืนติดขอบรั้วแล้วเอ่ยถามอย่างไม่ยอมเสียเวลา “สวัสดีครับ ที่นี่ใช่บ้านคุณอัจฉรา วงศ์วัชระหรือเปล่าครับ” คนที่ถูกถามถึงกับนิ่งงันไปสามวินาที งุนงงสงสัยว่าชายคนนี้รู้จักชื่อตนได้อย่างไร เป็นใครมาจากไหน หรือจะเป็นเซลส์ขายประกันอีก เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจพรืด ต่อให้หน้าหล่อเหลาแค่ไหนนางก็ไม่เอ็นดูหรอกนะ “สวัสดีค่ะ คุณมาพบเรื่องอะไรหรือคะ” ทีปกรมองหญิงวัยกลางคนตรงหน้า แล้วเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้งว่าใช่ เพราะเขาไม่อยากเสียเวลาคุยกับคนที่ไม่ใช่เป้าหมายแท้จริง “ผมมีเรื่องสำคัญมากต้องการพบคุณอัจฉรา ช่วยตามเธอมาพบผมได้ไหม” ป้าอิ๋วคิ้วกระตุก ไอ้หนุ่มนี่ท่าทีจองหอง ดูเผินๆ เหมือนคนที่ชอบแสดงอำนาจจนเคยชิน “ฉันนี่แหละ คุณอัจฉรา วงศ์วัชระ” เมื่อได้ยินดังนั้นทีปกรก็นิ่งงันไปอึดใจ ก่อนจะยกมือไหว้อีกฝ่าย ท่าทางแข็งๆ หยิ่งยโสของพ่อหนุ่มตรงหน้ากลายเป็นอ่อนน้อมลงทันทีจนป้าอิ๋วรับไหว้แทบไม่ทัน กวาดตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาเพ่งพิจารณาถี่ถ้วน “คุณมีธุระอะไรกับดิฉันหรือคะ ถ้ามาขายประกันฉันบอกก่อนเลยว่าไม่ทำ เพราะทำจนไม่มีเงินจะจ่ายอยู่แล้วละค่ะ” คำตอบของหญิงตรงหน้าทำให้คนมาเยือนกะพริบตาปริบๆ ริมฝีปากได้รูปขยับราวจะยิ้มครึ่งไม่ยิ้มครึ่ง ก่อนกระแอมเบาๆ เมื่อคุณอัจฉรากำลังมองเขาอย่างหวาดระแวง “ผมไม่ใช่คนขายประกัน แต่ที่มาวันนี้เพราะต้องการมาพบคุณตีรณาครับ” ป้าอิ๋วนิ่งอึ้ง มองชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาอย่างกับลูกครึ่งตรงหน้าด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ยิ่งกว่าเดิม พลันใจก็กระตุกไหวตามลางสังหรณ์ หรือว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะเป็น... “ป้าอิ๋ว เที่ยงนี้กินอะไรดีคะ ตี่กับย่าอยากกินข้าวผัดกุ้ง ว่าจะออกไปซื้อที่ร้านป้าไหม” สิ้นเสียงหวานๆ ร่างอวบอิ่มสวมใส่เดรสยาวสีเขียวอ่อนลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋ม เป็นเดรสสำหรับคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ความยาวคลุมเข่า ดูน่ารักในสายตาของป้าอิ๋ว และท่านเป็นคนเลือกซื้อชุดนี้ให้หล่อนด้วยตนเอง ปรากฏต่อสายตาของผู้มาเยือน “มีอะไรคะป้า ทำไมมองหน้าตี่แบบนี้ล่ะ” หญิงสาวเอ่ยถาม เมื่อป้าอิ๋วทำหน้าเหมือนมีอะไรมาติดคอ “คุณตีรณา” เสียงทุ้มที่ติดเย่อหยิ่งคุ้นหูดังแทรกขึ้นมา ทำให้หัวใจดวงน้อยที่เต้นในจังหวะนุ่มนวลเปลี่ยนเป็นกระตุกรัว เมื่อหันไปยังที่มาของเสียงคุ้นเคยดวงตากลมโตก็เบิกกว้าง “คุณไทม์”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD