Prologue [2]
“ทำไมเลิกกันเร็วนักล่ะ วันก่อนยังเห็นควงกันไปดูหนังอยู่เลย”
เฮ้อ เข้าใจรึยังว่าทำไมฉันถึงเกลียด
“สะ...อุ้บส์”
“ซาหริ่ม ยัยเพิร์ลมันจะเรียกยัยซาหริ่มน่ะ” ป้าคะน้าหันมาตะครุบปากฉันเอาไว้ก่อนจะแก้ต่างออกไป แต่ฉันไม่ได้จะเรียกยัยซาหริ่มสักหน่อย ฉันจะไปเรียกมันทำไม ฉันตั้งใจจะด่ายัยพลอยต่างหาก
“แปลว่าเรื่องที่ฉันได้ยินมาก็จริงสินะเนี่ย”
“เธอได้ยินอะไรมา” ยัยตังเมรีบถาม (แทน)
“เรื่องพี่พอร์ชกับพี่แจมน่ะ ตอนแรกฉันยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไร แต่เห็นเพิร์ลเมาเหมือนหมาแบบนี้ก็คิดว่าชัวร์แหละเนอะ แย่หน่อยนะเพิร์ล ตัวจริงเขาสวยกว่า เราก็ต้องยอม”
“อี...” ฉันขยับจะอ้าปากด่าอีกรอบ แต่ก็ยังไม่วายถูกป้าคะน้าห้ามเอาไว้อยู่ดี สรุปว่ายัยนี่อยู่ข้างใครกันแน่
“เธอคงจะมีดวงพิฆาตของรักแบบที่ฉันได้ยินมาจริงๆ สินะ ทางที่ดีฉันว่าเธอควรรีบหาทางแก้เคล็ดหน่อยจะดีกว่า นี่ก็เรียนใกล้จบแล้ว ขืนชักช้ากว่านี้มีหวัง ขึ้น-คาน แหงๆ” ยัยพลอยแสยะยิ้มได้หน้าลุกไปถีบสักที
คำว่าขึ้นคานที่ยัยนั่นตั้งใจเน้นทำฉันหัวร้อน จากที่มึนๆ ก็แทบจะสร่างเมาทันที ในอกนี่เดือดปุดๆ เหมือนถูกดูด่าว่าขี้เหร่ไม่มีผิด
“ถ้ามีแล้วโดนซ้อม ฉันว่านั่งสวยๆ อยู่บนคานมันก็สบายดีนะพลอย” ฉันขยี้ปมกลับไปบ้าง พูดจบก็เห็นว่าใบหน้าสวยหวานของยัยพลอยเรียบตึงขึ้นมาภายในเสี้ยววินาที เห็นแล้วอยากจะขำ นี่ฉันกำลังช่วยยัยนั่นประหยัดค่าโบท็อกซ์เลยนะ เห็นความดีความชอบกันหน่อยเถอะ
ยัยคะน้ากับยัยตังเมพากันกระตุกแขนฉันไม่หยุด แต่ใครใช้ให้ยัยนั่นมาหาเรื่องฉันก่อนล่ะ ต่างคนต่างอยู่ดีๆ ทำไม่เป็นหรือไง ตัวเองปาก้อนหินใส่คนอื่นแล้วคิดว่าคนอื่นเขาจะยื่นช่อดอกไม้ให้หรือไง ฉันไม่ใช่คนใจดีอย่างยัยคะน้าหรอกนะ
“อี...”
“ฉันชื่อเพิร์ล เรียกให้ถูกด้วยนะ...อีพลอย!” ฉันยื่นหน้ายื่นตาใส่ ดึงมือป้าคะน้าที่คอยแต่จะรั้งฉันไว้เพราะกลัวฉันจะก่อเรื่องออก
พอสะบัดมือยัยคะน้าพ้นตัวแล้วก็รีบลุกขึ้นยืน ใช้สายตามองเหยียดใส่ยัยพลอยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ซึ่งยัยนั่นก็คงหน้าชาไปตั้งแต่ถูกฉันพูดจี้ปมเรื่องมังกรไปแล้วนั่นแหละ แต่บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม ถ้ายัยนี่ไม่หันมากัดฉันก่อน มันก็ไม่มีเรื่องหรอก แต่นี่เหมือนตั้งใจจะเดินมาหาเรื่องฉัน แล้วจะมาตีหน้าเศร้า รับบทเหยื่อใส่ฉันทำไม
“อีเพิร์ล”
“มีอะไร อีพลอย”
“อี...”
“พลอยอย่า ไปเหอะน่า ไปๆๆ”
สุดท้ายพอเพื่อนของยัยพลอยเห็นว่าท่าไม่ดี หรือก็คือมีแนวโน้มว่าจะแพ้ ก็รีบพากันลากตัวออกไป
บ้าฉิบ! เดินมาหาเรื่องเขาก็แล้วเผ่นไปง่ายๆ ปอดแหกชะมัด เมื่อครู่ถ้าไม่ถูกป้าคะน้าคอยห้าม ฉันคงกรี๊ดใส่หน้าตั้งแต่ที่กล้าบอกว่าฉันจะขึ้นคานแล้ว
หลังจากที่ยัยพลอยถูกเพื่อนลากกลับไป ก็ได้เวลาที่ฉันจะกลับมาคิดบัญชีกับพวกมันทีละคน ไม่รู้ว่าใครตัวไหนมันกล้าเอาเรื่องที่ฉันมีดวงพิฆาตของรักไปพูด เรื่องนี้ไม่น่าจะมีคนอื่นรู้นอกจากพวกมัน
“ฉันเอง”
“ยัยป้าคะน้า!”
มันอีกแล้ว!!!
“ฉันด้วยๆ อย่าไปโทษยัยคะน้าคนเดียว วันก่อนฉันคุยกับมันในห้องน้ำแล้วยัยพลอยดันได้ยินเข้าน่ะ” ยัยซาหริ่มรับสารภาพเสียงอ่อย บ้าเอ๊ย นี่พวกมันเอาเรื่องที่หมอดูทักว่าฉันมีดวงพิฆาตของรักไปพูดในที่สาธารณะได้ยังไง
เรื่องของเรื่องก็คือก่อนหน้านี้พวกเราไปดูดวงกันมาน่ะ สำนักนี้ยัยซาหริ่มเป็นคนเช็กรีวิวและเอาหัวเป็นประกันว่าแม่นมากๆ จองคิวและรอนานเกือบสองเดือนกว่าจะได้ดู ซึ่งปกติแล้วฉันเป็นคนไม่เชื่อเรื่องดวงสักเท่าไร แต่เพราะถูกพวกมันลากไปก็เลยตกกระไดพลอยโจน และก็เหมือนจะถึงคราวซวยเมื่อฉันดันเป็นคนเดียวที่ถูกทักว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดีโดยเฉพาะเรื่องความรัก
จำได้ว่าวันนั้นหมอดูทักว่าฉันเกิดมาพร้อมกับดวงพิฆาตของรัก ไม่ว่าจะแอบชอบใคร ถ้าไม่ถูกเขาปฏิเสธก็จะมีอันต้องผลัดพรากจากกันก่อนเสมอ หรือถ้าจะได้คบใคร คนคนนั้นก็จะไม่จริงใจกับฉัน ซึ่งอย่างที่บอกว่าปกติแล้วฉันไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่พอเจอกับตัวหลายๆ ครั้งเข้ามันก็อดจะคิดไม่ได้
“เพราะพวกแก ยัยพลอยมันถึงได้แช่งให้ฉันขึ้นคาน พวกแกต้องรับผิดชอบ” ฉันยืนยันจะเอาเรื่อง โกรธจนอยากจะพาลใส่พวกมันเรียงตัว หัวร้อนไปหมด
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แกจะให้ฉันรับผิดชอบยังไงวะ”
“ไม่รู้แหละ แต่แค้นนี้ต้องชำระ” ฉันยังโวยวายอย่างคนเมาแล้วพาล คำว่าขึ้นคานของยัยพลอยทำฉันเสียหน้า และคนอย่างเพิร์ล เสียเงินไม่ว่า แต่จะเสียหน้าไม่ได้!
“หยุดๆๆ พวกแกหยุดทะเลาะกันก่อน”
“อะไรยัยตังเม แกก็ด้วยใช่ไหม”
“เปล่า ดูนั่นดิ ฉันว่าเมื่อกี้นี้ยัยพลอยมันไม่ได้ตั้งใจลุกขึ้นมาหาเรื่องแกหรอกยัยเพิร์ล” ยัยตังเมยกมือขึ้นมาป้องปากทำทีกระซิบกระซาบ แต่ปลายนิ้วอีกข้างแอบชี้ไปอีกด้านหนึ่งของร้าน
และไม่ใช่แค่พวกเราที่กำลังมองไปที่ผู้ชายตัวสูงๆ คนนั้น เพราะเขากำลังกลายเป็นจุดสนใจของคนเกือบทั้งร้าน ความสูงและผิวขาวๆ ของเขาสะดุดสายตาฉันตั้งแต่แวบแรกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเขาตัวเป็นๆ หล่อมากแบบที่หากเดินสวนกัน ฉันต้องหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองเขาแน่นอน สายตาของเขาดูหยิ่ง ท่าทางดูนิ่งๆ ที่เดินเข้ามาโดยไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไรนั่นทำให้เขาดูเหมือนตัวร้ายที่ทั้งฉลาดและรวยในซีรีส์ไม่มีผิด
ถ้าหากไม่รู้จักชื่อเสียงของเขามาก่อน ฉันคงเผลอใจ แต่เพราะรู้จักเขามาบ้างนิดหน่อย จึงต้องรีบบอกตัวเองว่าอย่าให้ค่ากับผู้ชายคนนั้น เพราะเขาคือมังกร แฟนเก่าของยัยพลอย ผู้ชายในคลิปที่โด่งดังไปทั่วมหา’ลัย
“บอกตรงๆ ว่าถ้าฉันไม่เห็นคลิปนั้นกับตาตัวเอง ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเป็นเรื่องจริง”
“นั่นสิ คนเรานี่มันรู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ”
ยัยซาหริ่มทำหน้าตาเสียดาย ส่วนป้าคะน้าทิ้งท้ายด้วยสัจธรรมนำทางชีวิต
“น่าเสียดายเนอะ หล่อก็หล่อ รวยก็รวย ไม่น่าเลวเลย นี่ถ้าไม่ติดตรงที่ซ้อมผู้หญิงฉันจะยุให้ยัยเพิร์ลเดินไปจีบมาเย้ยยัยพลอยสักหน่อย” ยัยตังเมพูดเสริม ซึ่งพอมันพูดจบ ฉันก็เริ่มคิดตาม แล้วแวบหนึ่งก็ดันรู้สึกว่าความคิดมันเข้าท่า
“พวกแกว่าถ้าฉันเดินไปจีบมังกรจริงๆ จะเป็นยังไงวะ” ฉันแกล้งถามพลางกระดกแก้วเหล้ากรอกปากย้อมใจ
“เป็นบ้าน่ะสิ อยู่ดีไม่ว่าดี แกอย่าหาเรื่องได้ไหมยัยเพิร์ล” ยัยซาหริ่มรีบหันมาเตือน
“อกหักจนเพ้อ หรือว่าเหล้ามันกินสมองแกไปหมดแล้วล่ะ” ป้าคะน้าได้ทีเลยทีนี้
“ฉันว่ามันไม่มีสมองแต่แรกต่างหาก คนสติดีที่ไหนจะบูชาเวอร์จิ้นตัวเองวะ ถามจริงเถอะนะยัยเพิร์ล หยากไย่ขึ้นยัง แกรู้ยังว่ามันใช้ยังไง” ยัยตังเมก็เอาด้วยอีกคน
“ฮ่าๆๆ อันนี้ขำจริงว่ะ”
ทุกคนพากันซ้ำเติมฉันกันไม่หยุดเลย
นี่คงเป็นอีกเรื่องที่ฉันไม่น่าเล่าให้พวกมันฟัง แต่ฉันยังเวอร์จิ้นแล้วไงล่ะ ไม่ได้หัวโบราณแต่ยังไม่เจอคนที่ใช่และคู่ควร ขนาดคนที่คิดว่าใช่แล้วก็ยังทิ้งกันไปหน้าตาเฉยเลย
“ของของฉัน ฉันจะใช้เมื่อไร จะใช้กับใครก็ได้ทั้งนั้นโว้ย” ฉันโวยวายเสียงดังกลบเกลื่อนเสียงหัวเราะของพวกมัน กระดกเหล้าไปอีกหนึ่งแก้วเพื่อเรียกความกล้าในตัวเอง จากนั้นก็มองกลับไปที่เป้าหมายอีกครั้งแล้วลุกขึ้นยืน
“แกจะไปไหนยัยเพิร์ล”
“ไปจีบมังกร”
“หยุด แกนั่งลงเดี๋ยวนี้เลยนะ คนนี้ไม่ได้”
“ได้สิ ฉันยังโสดยังซิง ส่วนเขาเพิ่งเลิกกับยัยพลอยก็แปลว่าโสดเหมือนกัน”
“ก็บอกว่าคนนี้ไม่ได้ แกจะบ้าไปแล้วรึไง”
“แค่เมา ไม่ได้บ้า ไม่เอาน่าป้าคะน้า ไม่บ่นสักเรื่องแกจะจำบทสวดไม่ได้รึไง” ฉันแกะมือของป้าคะน้าออกอีกรอบแล้วรีบก้าวเท้าออกมายืนด้านนอกเพื่อตั้งหลัก มีอาการเซบ้างนิดหน่อยแต่เชื่อมือเพิร์ลเถอะว่าเรื่องแค่นี้เพิร์ลเอาอยู่
“เดี๋ยวยัยเพิร์ล”
“หยุด! พวกแกไม่ต้องห้าม ลืมไปแล้วเหรอว่าหมอดูบอกว่าฉันมีดวงพิฆาตความรัก เพราะฉะนั้นเพศตรงข้ามทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
“แกหมายถึงดวงกินผัวน่ะเหรอ”
ฉันอุตส่าห์เลี่ยงคำนั้นแล้วแท้ๆ ตบปากยัยซาหริ่มก่อนไปสักทีดีมั้ยนะ
“จะอะไรก็ช่าง แต่งานนี้ฉันจะแพ้ยัยพลอยไม่ได้ เข้าใจมั้ยว่าแพ้ไม่ได้”
“แล้วถ้าเกิดแกโดนมังกรซ้อมก่อนจะชนะยัยพลอย แกจะทำยังไง”
“ไม่มีทาง” ฉันยิ้มมุมปากด้วยความมั่นใจ “งานนี้ฉันเทก่อนแน่นอน”
เกมนี้เน้นความสะใจล้วนๆ ไม่ได้คิดว่าจะคบนานหรือรอจนโดนไอ้หมอนั่นทำร้ายร่างกายหรอก
“บ้าเอ๊ย! เพราะแกเลยยัยตังเม”
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“เมื่อกี้แกพูดเรื่องนี้ออกมาทำไม”
“ก็บอกแล้วไงว่าถ้าไม่ติดตรงที่ซ้อมผู้หญิง แต่มันติดไง แกเข้าใจมั้ย ยัยเพิร์ล เดี๋ยว ยัยเพิร์ล”
ฉันเดินออกมาพร้อมกับเหล้าหนึ่งแก้วในมือ นาทีนี้ไม่ว่าใครเรียกฉันก็จะไม่หันกลับไปสนใจทั้งนั้นเพราะเป้าหมายของฉันในคืนนี้คือมังกรเท่านั้น ฉันจะเอาเขา และฉันต้องได้
ดวงพิฆาตของรักแล้วยังไง ไม่มีดวงจะเจอเนื้อคู่แล้วคิดว่าฉันกลัวเหรอ
คอยดูแล้วกัน ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ เพิร์ลคนนี้จะเปย์ด้วยเงิน ได้ไม่ได้ก็ให้มันรู้กันไปเลย!