ตอนที่3 ของคู่กัน

1570 Words
ตอนที่3 ของคู่กัน ภาริณีเดินออกมามองหาแท็กซี่สถานที่เที่ยวอย่างนี้กลับไม่มีรถแท็กซี่สักคน หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะเดินไปเรื่อยๆ ด้วยความเหนื่อยล้าบ้างครั้งภายนอกที่เข้มแข็งอย่างเธอก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน ปรี๊ด! เสียงบีบแตรรถของทศวรรษที่ขับมาทางด้านเธอดังขึ้น ภาริณีไม่สนใจก่อนจะเดินไปเรื่อยๆ “นี่ จะเดินกลับบ้านรึไง มันดึกขนาดนี้ไม่กลัวหรอ!” “ไม่ ก็ยังดีกว่าไปกับนาย” “อ้อ นี่จะบอกว่าโดนข่มขืนขึ้นหน้าหนึ่งก็ยังดีกว่าให้ฉันไปส่งใช่ไหม”น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างกวนอามรณ์ของอีกฝ่าย “ปากเสีย มาแช่งฉันแบบนี้สงสัยทุกวันนายคงอยากให้มันเกิดขึ้นกับฉันจริงสินะ” ชายหนุ่มเห็นเธอไม่ยอมมากับตนสักทีเขาจึงขับไปจอดข้างหน้าก่อนจะเดินลงจากรถตรงมาหาหญิงสาว “ไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงความรู้สึกน้องตาบาง” หญิงสาวถอนหายใจออกมานี้คงเป็นเหตุผลเดียวสินะที่ทำให้เขามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเธอ “หลีกไป ไม่ต้องมาทำดีกับคนอย่างฉัน ฉันไม่ต้องการ”ใช่เธอไม่ต้องการแววตาน่าสมเพชนั้นที่ส่งมาที่เธอ “เธอท่าทางจะป่วยนะ มีแต่อคติในใจมีความสุขมากรึไงกลับการที่ใช้ชีวิตแบบนี้ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอแม้แต่น้อยถ้าไม่เห็นว่าเธอเป็นพี่สาวของน้องตาฉันก็คงไม่ยุ่งหรอก”ชายหนุ่มส่ายหน้าให้กับความดื้อดึงของอีกฝ่าย “เก็บเอาคำพูดนี้ไปใช้กับตัวเองเถอะ ผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมาไม่น้อยคบไม่เลือกจู่ๆ มาขอยัยตาแต่งงานคิดสิท่าว่าคงหาคนโง่ๆ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้วไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือนอกบ้านก็ไม่มีใครจับได้ ฉันเกลียดที่สุดก็คือคนอย่างนายแสร้งทำเป็นดีไม่ต้องแสดงเพราะฉันไม่ได้โง่” ชายหนุ่มกัดกรามดังลั่น ทำไมปากคอเธอร้ายขนาดนี้ เมื่อก่อนเขาเป็นอย่างนั้นจริงแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว “ถ้าเธอเห็นว่าฉันมันเป็นผู้ชายมักมาก แล้วรู้ไหมพวกผู้ชายพวกนี้ชอบทำอะไรกับคนอย่างเธอ” ชายหนุ่มก้าวเท้ามาใกล้ภาริณีมองคนตรงหน้าก่อนจะเริ่มเดินถอยหลัง สายตาที่มองเธอมานั้นมันบ่งบอกว่าไม่เป็นมิตร เพี๊ยะ! ทศวรรษยังไม่ทันได้ทำอะไรฝ่ามือน้อยๆ ของภาริณีที่ฟาดเขาที่หน้าชายหนุ่มทันที ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงมือหญิงสาวแววตาตกใจเพราะไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขาสักคน แววตาของทศวรรษหันกลับมามองด้วยความโมโหก่อนจะเดินประชิดตัวพร้อมบีบคางแน่น “ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ โถ่เว้ยปล่อยเดี๋ยวนี้” เธอร้องสั่งเขาแต่กลับไม่เป็นผลสักนิด หน้าภาริณีเริ่มแสดงสีหน้าเจ็บอย่างเห็นได้ชัด “อย่าเก่งให้มันมาก กลับบ้านได้แล้วก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนเป็นปล่อยให้เธอเดินกลับบ้านเอง” ทศวรรษเปิดประตูรถพร้อมผลักเธอเข้าจนไม่สนใจว่าภาริณีจะเจ็บแค่ไหน ตลอดทางทั้งสองคนไม่ได้พูดสนทนากันแม้แต่น้อยไม่นานนักรถของชายหนุ่มก็มาจอดหน้าบ้านของเธอ ภาริณีเปิดประตูออกไปก่อนจะรีบวิ่งเข้าบ้าน ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาก่อนจะเลี้ยวรถออกไปนี้ก็ดึกมากแล้วเขาไม่อยากเข้าไปรบกวน ภาริณีเดินเข้ามาในห้องนอนจะวางกระเป๋าสองมือกำแน่นเธอจับใบหน้าตัวเองด้วยความเจ็บมีรอยนิ้วมือของเขาอย่างเห็นได้ชัด ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ภาริณีไปเปิดก่อนจะเห็นน้องสาวตัวเองยืนอยู่ “พี่ภา ตาขอเข้าไปหน่อยได้ไหม” หญิงสาวพูดเหมือนขอแต่เธอยังไม่ตอบภาริตาก็เดินเข้ามาในห้องนอนของเธอเสียแล้ว ก่อนเจ้าหล่อนตรงหน้าจะมองไปรอบๆ สายตาของภารกิจณีมองน้องสาวนิ่งเมื่อเห็นท่าทางแฝดผู้น้องทำแบบนี้ ภาริตาเดินเข้าก่อนจะตรงไปจับตุ๊กตาหมีที่แม่เป็นคนชื้อให้ทั้งสองคนพี่น้อง ทุกอย่างที่แม่ชื้อให้เหมือนกันหมดรอยยิ้มน้อยๆ ของภาริตาเผยออกมา “คิดถึงคุณแม่จัง พี่จำได้รึเปล่าเมื่อก่อนเวลาที่แม่กับพ่อชื้อของให้เรา มักจะเหมือนกันเสมอเพราะตาชอบของที่เหมือนของพี่ภา ทั้งตุ๊กตาตัวนี้หรือสิ่งต่างๆ ภายในห้องนี้ก็เหมือนกัน” ภาริณีนั่งปลายเตียงเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่น้องสาวเธอจะบอก “แต่นั้นมันก็แค่ตอนเด็ก พอโตขึ้นเราสองคนต่างไม่เหมือนกันไม่มีอะไรที่จะชอบเหมือนกัน ใช่ไหมค่ะ?” ภาริตาหันหน้ามาถามพี่สาวนั่งอยู่ “เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ใช่พี่สาวที่แสนดีเหมือนใคร ฉันอาจจะชอบทุกอย่างที่เธอชอบก็ได้” ตอนนี้ภาริณีเข้าใจในสิ่งที่น้องสาวพยายามจะสื่อแล้ว “พี่ไม่มีทางได้ในสิ่งที่พี่อยากได้ เพราะทุกอย่างมันเป็นของฉันคนเดียว” “ฉันแปลกใจนะภาริตา ในสายตาคนอื่นทำไมเธอแสนอ่อนหวานหัวอ่อน บอบบางแต่ทำไมในสายตาฉันเธอถึงเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุดคำพูดโกหกของเธอทำให้ฉันต้องทุกข์เสียใจอย่าหวังว่าชาตินี้ฉันจะให้อภัยคนอย่างเธอ” “นี่พี่ยังไม่ลืมเรื่องนั้นไปอีกหรอ ตอนนั้นฉันยังเด็กไม่เข้าใจอะไรมากหรอก” “หึ เด็ก เด็กมีปัญหาละสิไม่ว่าขาดความรักไงเพราะแม่รักฉันมากกว่าเธอ เธอถึงมีนิสัยแบบนี้” “งั้นแม่ก็คงภูมิใจมากสินะที่ได้ตายเพราะพี่” “ยัยตา เพี๊ยะ!” ภาริณีตบหน้าน้องสาวจนหันไปตามแรงมือ เธอทนไม่ได้ที่ภาริตามาพูดถึงแม่อย่างนี้ น้ำตาของภาริตาไหลออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไป เสียงถอนหายใจของภาริณีดังลั่น เสียงร้องไห้ของภาริตาทำให้นายอัครราชผู้เป็นบิดาเดินออกมาจากห้องนอนด้วยแววตาแปลกใจหญิงสาวแสร้งเอามือรีบเช็ดน้ำตาไม่อยากให้ผู้เป็นพ่อเห็น “ตา เป็นอะไรไปลูกใครทำอะไรไหนบอกพ่อสิ” “เปล่าค่ะพ่อ ตาไม่เป็นอะไร” เธอบอกปฏิเสธแต่พออัครราชเห็นรอยฝ่ามือบนใบหน้าของลูกสาวคนโปรดก็เลือดขึ้นหน้าก่อนจะตรงไปที่ห้องลูกสาวคนโต “คุณพ่อขา ตาไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ” “นังภา เปิดประตูเดี๋ยวนี้ก่อนฉันจะพังมันลง” เสียงโวยวายดังลั่นบ้าน จนคุณหญิงอิรวดีออกมาดู ภาริณีเปิดประตูออกมาพร้อมสายตาแข็งกร้าวมองบิดาอย่างไม่เกรงกลัว เพี๊ยะ! ฝ่ามือหนาของอัครราชตบใบหน้าลูกสาวจนเจ้าหล่อนเซล้มไป แต่ภาริณีกลับไม่ร้องออกมาสักนิดมีเพียงใบหน้าเรียบนิ่งเท่านั้นที่เผยออกมา “ตายแล้ว หยุดนะทำอะไรลงไปทำไมต้องทำร้ายลูกตัวเองแบบนี้” “คุณแม่ก็ดูมันทำร้ายน้องสิ สมควรแล้วที่โดนสั่งสอน” “ภาลูก เจ็บตรงไหนรึเปล่า” “แม่เลิกโอ๋มันสักที ยิ่งเป็นแบบนี้ไงมันถึงมีนิสัยแบบนี้ คนเลวๆ แบบมันไม่รู้จะอยู่ให้รกหูรกตาทำไม”คำพูดด่าทอยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ “คุณพ่อ อย่าตีพี่ภาเลยนะคะ ตาผิดเองที่เข้าไปหาพี่ภา พี่ภาอาจจะเหนื่อยเลยโมโห”เสียงหวานรีบพูดขึ้น คำพูดของภาริตายิ่งทำให้ภารณีเจ็บใจมากกว่าเดิม “เหนื่อยหรอ กลิ่นเหล้าแรงออกขนาดนั้น เที่ยวกลางคืนเหมือนผู้หญิงส่ำสอนคงมั่วกับผู้ชายไปทั่วถ้าท้องขึ้นมานะฉันจะถือว่ามันไม่ใช่เกตุวิชัยแสง” “คุณพ่อคงอยากให้ภาทำอย่างที่คุณพ่อบอกสินะคะ เห็นพูดจังเลย ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคนอย่างภาถ้าจะเลวจะมั่วไม่ต้องให้คุณพ่อมาสอนหรอก” “อีลูกเวร ไปไหนก็ไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”ชายชราได้ยินคำเถียงไม่ตกฝากของลูกชังก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม “พอแล้ว พอสักทีตาอัครแม่ขอ หนูภาหลานเข้าไปพักผ่อนเถอะนะไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นยังไงหลานก็เกตุวิชัยแสงทั้งคนย่าไม่ให้ใครหน้าไหนมาไล่หลานไปเด็ดขาด” ภาริณีทำตามที่คุณย่าบอกเธอเข้าไปในห้องพร้อมปิดประตู หญิงสาวยืนนิ่งก่อนที่น้ำตาหยดใสๆ จะไหลออกมา สีหน้าเรียบนิ่งปาดน้ำตาอย่างเย็นชาเธอเจอเหตุการณ์แบบนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมามันชาจนชินไปเสียแล้วมันเจ็บ แต่ความเจ็บนั้นมันฝังลึกไปเสียแล้ว #คอมเม้นให้กำลังใจได้นะคะอิอิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD