บทนำ

1922 Words
บทนำ ณ บ้านสวน ทุกๆ ปีครอบครัว เกตุวิชัยแสงมักจะกลับมาที่นี้เพื่อมาเยี่ยมคุณยายของเด็กแฝดคู่นี้ เด็กน้อยวัยใสที่น่ารักเหมือนกันหมดจดน้อยคนนักที่แยกเธอทั้งสองออกได้ ลมพัดผ่านช่วงเย็นของวันยิ่งทำให้ที่บ้านสวนแห่งนี้บรรยากาศดีมากกว่าเดิมสองสาวเดินมาเล่นที่สระบัวหลังบ้านรอยยิ้มน้อยๆ ของภาริตามองดูดอกบัวกำลังบานเต็มสระ “ตา อย่าเข้าไปใกล้นักสิมันอันตรายรู้รึเปล่า” เสียงเด็กอีกคนที่หน้าตาเหมือนบอกน้องสาวด้วยความเป็นห่วง “โธ่ พี่ภา ตาก็แค่อยากดูใกล้ๆ ไม่เป็นอะไรหรอกน่า” เด็กน้อยชะโงกหน้าก่อนจะยื่นมือน้อยๆ ไปหยิบดอกบัวที่ใกล้ที่สุด มือที่กำลังดึงดอกบัวดอกนั้นขึ้นมาแต่ ทว่าแรงน้อยอย่างภาริตากลับไม่มีแรงดึงมันขึ้นมาเธอเป็นคนขี้โรคอยู่แล้วด้วย ตูม!! เสียงร่างเด็กน้อยตกน้ำไป สองมือที่กำลังดิ้นร้องให้คนช่วย “ตา ไม่นะ ใครก็ได้ช่วยด้วย” ภาริณีที่ว่ายน้ำไม่เป็นพยายามร้องให้คนช่วย หญิงสาวร้องตกใจก่อนจะพยายามเอื้อมมือตัวเองคว้าน้องสาว แต่ก็เอื้อมไม่ถึงก่อนจะมีเด็กผู้ชายอีกคนกระโดนลงน้ำมาช่วยหญิงสาวไว้นายอัครราชได้ยินเสียงก็รีบมาดูพร้อมกับคุณหญิงรุจณียายของเธอ “พี่ภาจะฆ่าตา คุณพ่อขาพี่ภาใจร้าย ฮึกฮื่อออออ” เสียงภาริตาวัย 12 ขวบพูดพร้อมร้องไห้ออกมาภายในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ เนื้อตัวเปียกปอนไปหมด สายตาของนายอัครราชมองลูกสาวคนโตอย่างไม่พอใจ “แกทำน้องทำไม นังลูกไม่รักดีแกคงรู้สึกอิจฉาน้องมากใช่ไหมที่ใครๆ ต่างก็รักน้อง นังเด็กนิสัยไม่ดี” เสียงทรงอำนาจต่อว่าลูกสาวอีกคนที่หน้าตาคลายกับคนที่ร้องไห้อยู่ “ภาไม่ได้ทำนะคะคุณพ่อ ภาไม่ได้ทำ” ภาริณีร้องไห้ออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกบิดาต่อว่า “แกไม่ต้องมาโกหก นังลูกไม่รักดีไปตายที่ไหนก็ไป!” อัครราชชี้หน้าไล่ลูกสาว ก่อนจะกอดปลอบใจลูกสาวคนเล็กที่ร้องไห้ไม่หยุด สายตาของภาริณีจ้องมองอย่างเศร้าเสียใจ ใครๆ ก็รีบมาโอ้ภาริตาโดยไม่สนใจใยดีเธอแม้แต่น้อย นพกรคนที่ช่วยภาริตาขึ้นมาเขาไม่รู้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรเขาจึงอธิบายให้คนอื่นๆ ฟังได้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร “คุณพ่อ ภาไม่ได้ทำ ฮึกฮื่อออ คุณพ่ออย่าไล่ภา” เสียงหญิงสาววัย25 ปี ละเมอออกมาสีหน้าที่รู้สึกแย่บ่งบอกเห็นได้ชัด เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าทำให้ร่างบางที่นอนจมเหงื่ออยู่อย่างนั้นรู้สึกตัวขึ้นมา สีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมเอามือกุมขมับ “ฝันอีกแล้วหรอยัยภา เมื่อไหร่แกจะลืมเรื่องนี้ได้สักที” เช้าวันใหม่ลมอ่อนๆ พัดเข้ามากระทบร่างบางอ่อนแออย่างภาริตา หญิงสาวที่นอนแน่นิ่งก่อนจะได้สติลืมตาขึ้นมาช้าๆ เธอสูดอาการของวันใหม่อย่างชื้นใจก่อนจะเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ปัจจุบันหญิงสาวทำงานที่บริษัทของอัครราชผู้เป็นบิดาเธอเป็นคนที่ใครๆ ต่างรู้สึกดีเมื่ออยู่ใกล้เพราะเธอเป็นคนอ่อนหวานน่ารักใครบ้างละที่จะไม่ชอบเธอ “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อ” เสียงหวานของภาริตาเดินลงบันไดก่อนจะร้องทักทายผู้เป็นพ่อ “จ้า ลูกตาทานข้าวชะสิ” เสียงอัครราชบอกลูกสาว ก่อนสายตาจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นลูกสาวคนโตลงมา “พี่ภา อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เสียงใสบอกพี่สาว แต่ภาริณีกลับไม่ตอบโต้อะไรสักคำ อัครราชวางหนังสือพิมพ์ในมืออย่างไม่พอใจ “น้องทักไม่ได้ยินหรอ ยัยภา นิสัยไม่เคยเปลี่ยน” เสียงบิดาต่อว่าหญิงสาว ภาริณีชักสีหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา “แล้วคุณพ่อต้องให้ภาทำยังไงคะ ถึงคุณพ่อจะพอใจ” “ยัยภา ต่อปากต่อคำไม่เว้นแต่ละวัน ทำไมนะ ทำไมวันนั้นไม่ใช่แกที่ตายแต่กลับเป็นวิภา” นี่เป็นคำพูดที่เธอได้ยินนับไม่ถ้วนตั้งแต่แม่เธอตายเพราอุบัติเหตุในวันนั้นก็ทำให้อัครราชมองภาริณีเปลี่ยนไป เขาคิดว่าเพราะเธอที่อยากไปสวนสนุกจนทำให้วิภาต้องมาตาย “พอเถอะนะ ตาราชคิดว่าแม่ขอ” เสียงคุณหญิงอิรวดีบอกลูกชายที่ชอบพูดแต่เรื่องเก่าๆ “ภาลูก มาทานข้าวก่อนเถอะนะ เดี๋ยวจะสายเสียก่อน” เสียงอ่อนโยนบอกหญิงสาวที่ยืนชักสีหน้าอยู่ก่อนจะเปลี่ยนมายิ้มให้พร้อมนั่งข้างๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมีเพียงคุณย่าของเธอเท่านั้นที่รักและเป็นห่วงเธอ หญิงสาวรีบทานอาหารเช้าพร้อมจะรีบไปทำงาน ภาริณีไม่ได้ทำงานที่บริษัทของครอบครัวเธอไม่อยากให้อัครราชต่อว่าเธอทุกวันที่เห็นหน้าจึงมาทำงานอีกที่ ถึงเงินเดือนจะไม่มากเท่าไหร่แต่สำหรับเธอมันเกินพอ ตอนที่1 คนไม่น่าสงสาร เสียงรถหรูรุ่นใหม่ล่าสุดขับเลี้ยวเข้ามาในบ้านของอัครราช ก่อนจะจอดนิ่งพร้อมร่างสูงโปร่งสูงถึง185 พร้อมเปิดประตูให้กับผู้หญิงชราอีกคนทศวรรษพยุงหญิงชราเดินเข้ามาในบ้านอย่างสนิทเคยชิดเชื้อ “ธาม ไม่ต้องพยุงย่าก็ได้ย่าไม่ได้คนแก่ที่ไร้เรียวแรงเสียหน่อย” คุณหญิงพรแก้วบอกหลานชายก่อนจะยิ้มออกมาเพราะความเป็นห่วงของธาม หรือทศวรรษ หลานชายคนเดียวของคุณหญิงพรแก้ว “โธ่ คุณย่าครับก็ผมเป็นห่วงนิครับ” “ขอบใจหลานมากนะที่เป็นห่วงคนแก่อย่างย่า ตั้งแต่พ่อหลานจากไปก็มีแค่หลานที่ย่าจะพึงพาได้” คุณหญิงพรแก้วเป็นเพื่อนรักเพื่อนเก่าของคุณหญิงอิรวดี เธอมักให้หลานชายพามาเยี่ยมเพื่อนเสมอ สองมือชายหนุ่มยกไหว้อย่างอ่อนโยน แววตาเป็นประกายเมื่อเห็นภาริตานั่งรับประทานอาหารอยู่ ก่อนหญิงสาวจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง เช่นเดียวกับภาริณีที่ไหว้คุณหญิงพรแก้ว ยกเว้นเขาหญิงสาวมองอย่างไม่ชอบขี้หน้าชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด “อ้าว พรไหนบอกฉันว่าเธอจะมาตอนบ่าย ทำไมมาเช้าได้ละ” เสียงคุณหญิงอิรวดีถามเพื่อนด้วยรอยยิ้ม “ก็หลานชายตัวดีสิ อยากพามาส่งเลยมาแต่เช้าไม่รู้ว่าอยากมาเจอใครรึเปล่า” คุณหญิงพรแก้วรู้ดีว่าหลานชายของตนชอบพอภาริตาไม่น้อย “มาๆ ทานข้าวต้มก่อน ตาธามด้วยก่อนไปทำงานต้องเติมพลัง” หญิงชราบอกชายหนุ่มเขารีบไปนั่งทันที สองหญิงชราพูดคุยอย่างมีความสุข เว้นแต่ภาริณีที่ต้องทำหน้าเหมือนจะตายเมื่อต้องนั่งข้างชายหนุ่มที่เธอไม่ชอบ แต่ทศวรรษหาได้สนใจเธอไม่ ในสายตาเขามีเพียงภาริตาเท่านั้น หญิงสาวที่นั่งตรงข้ามมองใบหน้าชายหนุ่มพร้อมยิ้มออกมาอย่างเขินอาย “คุณย่าขา ภาไปทำงานก่อนนะคะ” เสียงภาริณีที่เวลาพูดกับคุณย่ากลับแตกต่างสิ้นดี “เอ้า ไม่รอไปพร้อมน้องหรอลูก จะได้ไม่ต้องเรียกรถแท็กชี่” เพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุภาริณีก็ไม่คิดจะเรียนขับรถเลย “ไม่ดีกว่าคะ” หญิงสาวตอบกลับก่อนจะมองหน้าน้องสาวที่ยิ้มให้ ภายใต้รอยยิ้มนั้นกลับทำเอาภาริณีเกลียดเข้ากระดูกดำ “พี่ภา ไปพร้อมตานะคะพี่ธามจะไปส่งพอดี” เสียงหวานพูดออกมาพร้อมทำหน้าเหมือนอ้อนวอนเธอ หึ! คิดอยากให้ฉันเป็นไม้กันหมาหรอไม่ทันแล้วมั้ง ภาริตายังไม่กล้าไปไหนมาไหนกับผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวสองต่อสองเธอเป็นคนรักนวลสงวนตัวนี้เป็นอีกข้อที่ทำให้ชายหนุ่มอย่างทศวรรษหลงใหลในความใส่สะอาดของเธอ “ฉันไปเองได้ ไม่ต้องให้ใครมารับมาส่ง” เสียงตอบกลับเรียบนิ่งทำเอาคนที่นั่งอยู่ต่างเงียบสนิท “แค่ทำตามที่น้องบอกจะตายรึไง ตาธามก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลอย่างเรื่องมากนักยัยภา” “นี่คุณพ่อจะให้ภาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำหรอค่ะ ก็ได้ในเมื่อมันคือคำบัญชาจากลูกสาวคนโปรดของคุณพ่อลูกนอกคอกอย่างภาคงไม่มีสิทธิต่อรองอะไร” “เข้าใจอย่างนั้นก็ดีเพราะคนอย่างแกต้องทำทุกอย่างที่น้องบอก! ตาลูกพ่อจะต้องไปคุยกับลูกค้าก่อนลูกไปทำงานก่อนเลยนะ” น้ำเสียงที่อัครคุยกับลูกสาวทั้งสองคนต่างกันอย่างชิ้นเชิง ภายในรถคันหรูของทศวรรษที่มีพี่สองฝาแฝดนั่งไปด้วย ภาริณีที่นั่งข้างหลังมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อหน่ายเธอเบื่อทุกครั้งที่ทศวรรษมาที่บ้านของเธอและเป็นเธอที่ต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจ “ตอนเที่ยงน้องตาว่างรึเปล่าครับ พี่อยากช่วยน้องตาทานอาหารเที่ยงด้วยกัน” “ได้ค่ะพี่ธาม กว่าคุณพ่อจะว่างมาทานข้าวเป็นเพื่อนตาคงเกินเที่ยงแน่นอน” “ดีใจจัง งั้นตอนเที่ยงพี่จะเข้าไปรับนะครับน้องตา” ชายหนุ่มพูดคุยกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนจะจอดหน้าบริษัทของเกตุวิชัยแสง ที่ทำงานของถาริตาถึงก่อนบริษัทที่ภาริณีทำงาน “พี่ภาค่ะ ตาไปก่อนนะคะ เจอกันที่บ้านนะคะ” “ก็เจอกันทุกวัน ล่ำลาเหมือนจะไปตาย” น้ำเสียงห้วนพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ใบหน้าหญิงสาวของภาริตาตอนนี้กลับหน้าเศร้าลง “พี่ภาทำไมพูดแบบนี้คะ ตารู้สึกไม่ดีเลยถ้าพี่ภาโกรธเรื่องตอนเช้าตาขอโทษนะคะ ตาไม่ได้ตั้งใจให้พี่ภาโดนคุณพ่อดุ” “เหอะ ตาไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก เพราะตั้งแต่เกิดมาตาก็ไม่เคยผิด จริงไหม?” สีหน้าภาริตาเศร้าลงจนทำให้ชายหนุ่มยิ่งไม่พอใจในคำพูดของภาริณี “พี่ธามค่ะ ตาไปก่อนนะคะฝากไปส่งพี่ภาด้วย บายๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้มก่อนจะลงจากรถไป ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะขับรถออกไปด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขามองกระจกหลังเห็นหญิงสาวที่ไม่ชอบขี้หน้านั่งมองหน้าต่างไม่พูดอะไร เขาเหมือนคนขับรถเธอไม่มีผิด “ทำไมพูดจาทำร้ายจิตใจน้องตาแบบนี้ เธอเป็นพี่สาวแบบไหนกัน” น้ำเสียงทุ้มถามคนในรถด้วยอารมณ์ “ฉันจะเป็นแบบไหนกับเกี่ยวอะไรกับคุณไม่ทราบ เลิกยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นสักทีคุณทศวรรษ” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาดังเฮือกก่อนจะเหยียบเบรกกะทันหันจนร่างบางของภาริณีไถไปโดนเบาะข้างหน้า “นี่นาย แกล้งฉันหรอ? ” น้ำเสียงหญิงสาวเริ่มมีน้ำโห “นี่แค่เตือนถ้าเธอยังทำให้น้องตาเสียใจอีก เจอดีกว่านี้แน่ ภาริณี” เสียงกัดฟันพูดออกมาอย่างคาดโทษ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD