“ฉัน…” หญิงสาวอ้ำอึ้ง พลางคิดถึงจำนวนเงินที่รับจากเขาไปแล้ว และตอนนี้ก็เหลือไม่เท่าไรอีกด้วย เพราะทยอยใช้หนี้ไปบ้างบางส่วน “แค่…”
“คุณแค่ทำหน้าที่ของคุณก็พอมิ่งขวัญ อย่าถาม อย่าขออะไรที่ผมไม่คิดจะให้” เขาตอบพลางยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มเนียนแผ่วๆ “ก็แค่ทำตาม แค่นั้นมันจะยากอะไรนักหนา จริงไหม?”
มิ่งขวัญสบตาของคนพูดอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่มีหัวใจเลยหรือไง เขาไม่สนด้วยซ้ำว่าใครจะรู้สึกอย่างไรกับการกระทำของเขา เท่าที่เห็น เขาอยากทำร้ายคนบางคนโดยใช้หล่อนเป็นเครื่องมือ…
ทำไม…
ความคิดของหญิงสาวสะดุดลง เมื่อสายตาคมกริบตวัดมองไปยังมุมหนึ่ง เสียงคนเคลื่อนไหวกุกกักแล้วเงียบไป ชายหนุ่มจึงผ่อนลมหายใจยาวๆ รู้ว่าคงไม่มีใครนอกเสียจากคนของมารดา
“หิวหรือยัง” เขาเปลี่ยนเรื่อง หญิงสาวส่ายหน้า ไม่อยากพูดกับเขาอีก คนเอาแต่ใจ ไร้เหตุผล ไม่รับฟังใคร... “แต่ผมหิว ไปนั่งเป็นเพื่อนหน่อย”
เขาพูดเองเออเอง รวบร่างบางด้วยการเกี่ยวเอวกลมเข้าแนบข้าง แล้วรั้งให้หล่อนเดินตามโดยไม่มีสิทธิ์โต้เถียงหรือขัดขืน
ชายหนุ่มและหญิงสาวเดินกลับเข้าบ้านและได้พบกับแป๋วซึ่งเพิ่งจะกลับเข้ามาหลังจากพาดนุเดชไปพบคุณฉัตรฉายเหมือนกัน อีกฝ่ายจึงรีบเรียนให้เจ้านายของตนทราบทันทีและไม่วายลอบมองมิ่งขวัญด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“คุณทัตคะ คุณเดชมาค่ะ ตอนนี้เข้าไปพบกับคุณท่านที่ซุ้มปั้นหยา”
ฉันท์ทัตหลุบมองคนหน้างอแล้วพยักหน้าให้แป๋ว พลางบอกออกไป
“ขอบใจ ถ้าคุณเดชคุยกับคุณแม่เสร็จแล้ว เชิญมาพบฉันที่ห้องนั่งเล่นด้วย”
“ค่ะคุณทัต…”
ชายหนุ่มพาร่างบางเดินผ่านหน้าสาวใช้ตรงไปยังห้องอาหาร ซึ่งถูกเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย ทำให้อีกฝ่ายมองตามไปจนลับสายตาแล้วอดยิ้มนิดๆ เสียไม่ได้
“เด็กใหม่คุณทัตน่ารักไม่หยอกเลย” บ่นเบาๆ ก่อนจะกลับเข้าครัว รีบนำข่าวดีกลับไปบอกกับแม่ครัวหัวป่าสุดซี้…
สาวใช้ที่คอยดูแลเจ้านายถูกไล่ให้ออกไปจากห้องรับประทานอาหาร เหลือเพียงมิ่งขวัญที่ชายหนุ่มต้องการให้อยู่ด้วยและดูแลเขาเป็นพิเศษ ส่วนตัวหล่อนเองได้แต่นั่งเขี่ยอาหารในจาน จนเขาต้องเอ่ยออกมาเพราะขัดนัยน์ตาเหลือเกิน
“ไม่กินใช่ไหมข้าว ถ้าไม่กินก็ขึ้นห้องกัน ไปต่อที่ค้าง ทำอะไรที่มันได้ความกว่านี้…”
คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะค่อยๆ แดงเรื่อขึ้นทีละนิด เมื่อถูกสายตาคมกริบกวาดมองอย่างมีความหมาย…
คนกลัวถูกพาขึ้นไปต่อเรื่อง ‘ได้ความ’ รีบตักข้าวใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ท่าทางเอร็ดอร่อย ทำให้คนที่ตั้งตนเป็นจ้าวชีวิตต้องผ่อนลมหายใจยาวๆ กินข้าวพร้อมจับตามองลูกจ้างของตนไปพลาง ระหว่างนั้นเขานึกถึงพรนภา แต่เพียงวูบเดียวก็ไล่เงาจางๆ ของฝ่ายนั้นออกไปจากความคิด แล้วกลับมาสนใจคนตรงหน้าตามเดิม…
เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อย เขาจึงปล่อยให้หญิงสาวกลับห้อง ปล่อยให้อยู่ตามลำพังโดยไม่วุ่นวายเหมือนที่หล่อนนึกกลัว ส่วนเขาออกไปต้อนรับใครสักคนที่สาวใช้เข้ามารายงานให้ทราบ หลังจากนั้นไม่นานสาวใช้คนเดิมก็มาตามหล่อนที่ห้องนอนของฉันท์ทัต
“คุณทัตบอกให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณมิ่งค่ะ…”
มิ่งขวัญมองคนที่นั่งลงบนพื้นห้องซึ่งต่างจากหล่อนที่ยืนริมหน้าต่างก่อนจะหันมายังอีกฝ่าย
“พี่ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดีกว่านะคะ อย่านั่งบนพื้นเลย” คำชวนของ มิ่งขวัญทำให้แป๋วยิ้ม แต่ก็เลือกที่จะส่ายหน้า
“ไม่ได้หรอกค่ะ เกิดคุณทัตเข้ามาเห็นพี่จะถูกเอ็ด”
มิ่งขวัญเม้มปากนิดๆ สบตาอีกฝ่ายแล้วถอนใจ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินมานั่งลงบนพื้นเสียเอง ทำให้ฝ่ายนั้นขยับตัวอย่างอึดอัด
“คุณอย่าทำแบบนี้สิคะ เกิดคุณทัตมาเห็นจะโดนทั้งคู่”
“มิ่งไม่กลัวหรอกค่ะ ว่าแต่พี่แป๋วทำงานที่นี่มานานหรือยังคะ” ถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างถูกชะตา หล่อนอยากมีใครสักคนที่เป็นเพื่อน และพูดคุยกับหล่อนได้หลายเรื่อง
“นานแล้วค่ะ พี่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน แต่ว่างๆ ก็จะไปช่วยป้าไก่ทำกับข้าว ป้าไก่เป็นแม่ครัวมือหนึ่งของที่นี่ คุณมิ่งก็ได้ลองชิมฝีมือไปแล้วนี่คะ” บอกพลางยิ้มให้สาวสวยร่างเย้ายวนตรงหน้า
“ทานแล้วค่ะ อร่อยมากเลย ว่างๆ พามิ่งไปรู้จักกับป้าไก่ได้หรือเปล่าคะ”
แป๋วพยักหน้ายิ้ม
“ได้สิคะ ถ้าคุณมิ่งอยากไป วันนี้เย็นๆ เลยก็ได้ ป้าไก่น่ะ ใจดี…”
มิ่งขวัญค่อยยิ้มได้มากขึ้นเมื่อได้คุยกับอีกฝ่าย เช่นเดียวกับแป๋วที่มองหญิงสาวอย่างชื่นชม มิ่งขวัญน่ารัก ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งน่ารัก ผิวพรรณชวนพิศไปหมด โดยเฉพาะรูปหน้าไม่ว่าจะเป็นปาก จมูก คิ้ว คาง ช่างรับกันเหมาะเจาะ และคงสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นคุณฉันท์ทัตคงไม่พาเข้ามาอยู่ในบ้าน มิหนำซ้ำยังพาเข้ามาอยู่ในห้องส่วนตัว ห้องซึ่งเขาไม่เคยพาใครเข้ามาอยู่ ดีไม่ดี คนตรงหน้าหล่อนนี้อาจจะเป็นว่าที่นายหญิงคนต่อไปของอภิลักษณ์ก็ได้…
สายตาซอกแซกของแป๋วทำให้มิ่งขวัญต้องเอ่ยถาม
“พี่แป๋วมีอะไรหรือเปล่าคะ”
แป๋วรู้สึกตัวว่ามองเสียมารยาทเลยยิ้มให้หญิงสาว
“แหะๆ เปล่าค่ะ พอดีพี่แป๋วกำลังมองคนน่ารักน่ะค่ะ คุณมิ่งน่ารักนะคะ สวยแบบน่ารัก ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูกรู้แต่ว่ามองเท่าไรก็ไม่เบื่อ ยิ่งมองยิ่งน่ารัก…” บอกพลางคิดว่าฉันท์ทัตเองก็คงจะเห็นเช่นเดียวกับที่หล่อนเห็น มิ่งขวัญได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงก่ำพลางกล่าวเบาๆ
“พี่แป๋วมายอกันเองแบบนี้มิ่งเขินนะคะ” หญิงสาวตอบยิ้มๆ
“จริงๆ นะคะ คุณทัตก็คงเห็นเหมือนพี่แน่ ไม่งั้นคุณมิ่งคงไม่ได้ขึ้นมาอยู่กับคุณทัตแบบนี้หรอก” พูดไปแล้วก็ยกมือปิดปากราวกับเพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรพูด ก่อนยิ้มแหยเมื่อมิ่งขวัญขมวดคิ้วมุ่น
“แสดงว่าคุณทัตเคยพาสาวๆ เข้ามาอยู่ที่นี่บ่อยๆ ใช่ไหมคะ”
อีกฝ่ายทำตาโตพลางส่ายหน้ารัว
“เปล่าค่ะ ไม่ใช่ ปกติคุณทัตเธอไม่ค่อยพาสาวๆ ที่ไหนมาบ้านหรอกค่ะนอกเสียจากเอ่อ…”
มิ่งขวัญหรี่ตาลงพลางเอ่ยถามอย่างอยากรู้
“นอกเสียจากใครคะ”
แต่คราวนี้แป๋วไม่ตอบ แต่เสชวนคุยเรื่องอื่น...
“เอ่อ... พี่ว่าเราอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะคะ”
มิ่งขวัญถอนใจ มองหน้ายิ้มๆ ของแป๋วแล้วส่ายหน้า ขณะที่อีกฝ่ายชวนคุยเรื่องทั่วไป เว้นไว้เพียงเรื่องของคนในบ้านนี้…
เวลาเดียวกัน ฉันท์ทัตต้อนรับดนุเดชอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เขากับดนุเดชสนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เคยวิ่งเล่นกันบ่อยๆ จนกระทั่งเติบโต ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ห่างหายไปไหน เมื่อเว้นว่างจากหน้าที่จึงนัดพบหรือเยี่ยมเยือนกันเสมอ
“งานที่โน่นเรียบร้อยดีแล้วเหรอเดช”
ดนุเดชยิ้มกว้าง
“ครับ ก็ไม่มีอะไรมาก ถ่ายทำกันไม่กี่ฉาก แล้วก็กลับ มีเที่ยวบ้างนิดหน่อย”
“อืม…” ชายหนุ่มพยักหน้า พลางเอ่ยถามเรื่องราวความรักของรุ่นน้องหนุ่มหล่อ “ว่าแต่ข่าวที่ออกมาจริงหรือเปล่า”
ดนุเดชยิ้มขัน เอนตัวไปกับพนักโซฟาหนังหนานุ่มพลางวาดท่อนแขนทั้งสองข้างวางไว้บนนั้น
“ข่าวน่ะครับพี่ โปรโมตละครเรื่องหน้า”
“แสดงว่าไม่จริง” ฉันท์ทัตสรุป แต่ไม่ได้แปลกใจอะไรแม้จะรู้ว่าดนุเดชเนื้อหอม สาวๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง ทั้งนางเอกนางร้ายตัวประกอบหรือแม้แต่แฟนคลับ แต่สำหรับผู้ชายด้วยกันเขารู้เหตุผลของคนตรงหน้าดี ผู้ชายอย่างเขากับดนุเดชถ้าไม่พบเจอคนที่ใช่จริงๆ ต่อให้สวยหยาดฟ้ามาดินก็ไม่มีทางลงเอย…