ในขณะที่ร่างนุ่มค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงจนแทบยืนไม่อยู่นั้น ฉันท์ทัตถอนจุมพิตออกจากหญิงสาวอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีเข้มกวาดมองดวงหน้าหวานที่เป็นสีชาด เขาจ้องมองจนกระทั่งเจ้าของเปลือกตาคู่สวยค่อยๆ เปิด และเมื่อตาสบตา ชายหนุ่มก็กระตุกยิ้ม บอกคนที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์หวามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มว่า…
“ไปกันเถอะ…” สิ้นเสียงสั่งของเขาหญิงสาวก็เดินตามอีกฝ่ายไปราวกับถูกสะกด…
ทั้งสองผ่านห้องโถงขึ้นไปยังด้านบนของตึกใหญ่ ทำให้คุณ ฉัตรฉายที่นั่งมองอยู่บนรถเข็นที่หน้าตึกกำมือแน่น ดวงตาวาววับมองตามร่างของทั้งคู่ด้วยความโกรธ ครึ่งหนึ่งคือความเกรี้ยวกราดไม่พอใจ อีกครึ่งคือความรังเกียจ…
“แม่ต่าย คอยจับตาดูแม่นั่นเอาไว้ อย่าให้มันจองหองลำพองตัวได้เด็ดขาด”
มัลลิกาตามคนทั้งคู่ที่หายลับขึ้นไปยังตึกใหญ่ พลางรับคำผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงพินอบพิเทา
“ได้ค่ะคุณท่าน”
คุณฉัตรฉายแสยะยิ้ม
“ขอบใจมาก...”
นัยน์ตาของผู้ที่อยู่บนรถเข็นวาววับ บอกตนเองว่าจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาอิทธิพลกับคนที่ท่านรักได้อีกแล้ว…
เวลาเดียวกัน เพียงแค่ประตูเปิดกว้าง มิ่งขวัญก็รู้สึกเย็นยะเยือก ภายในห้องกว้างถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ทว่ามันไม่อบอุ่นเหมือนโทนสีที่ใช้ ตรงข้ามกลับให้ความรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ ทำให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ฉันท์ทัตจึงหลุบตามองแล้วเอ่ยเบาๆ
“เข้าไปสิ…”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูดแล้วใจเต้นแรง อยากกลับลงไปข้างล่าง ไปอยู่ในที่ที่หล่อนควรอยู่ ซึ่งไม่ควรจะเป็นที่นี่ แต่ทว่า...เมื่อก้าวเข้ามาแล้ว หล่อนหันหลังกลับไปไม่ได้อีก
เมื่อบอกกับตนเองเช่นนั้น จึงก้าวเข้าไปเงียบๆ ด้วยแรงดันจากด้านหลัง ทันทีที่ประตูปิดลงดังกึก หญิงสาวก็ใจกระตุกวาบ รับรู้ถึงอิสรภาพที่หมดลง ประตูกรงทองที่เปิดรอรับให้หล่อนก้าวเข้ามาปิดแล้ว และไม่มีวันรู้เลยว่ามันจะเปิดให้หล่อนเดินออกไปได้อีกครั้งเมื่อไร…
“มานี่สิ…” เขาบอกพลางจูงมือเล็กให้เดินไปรอบห้อง “ตรงนั้นเป็นห้องน้ำ”
เขาบอกเมื่อพาหล่อนผ่านชุดโซฟานั่งเล่นซึ่งมีทีวีจอใหญ่ติดผนัง หญิงสาวมองไปรอบๆ อย่างนึกทึ่ง ห้องของเขาเป็นเหมือนกับบ้านหลังเล็กกะทัดรัดอีกหลังที่อยู่ภายใต้คฤหาสน์หลังใหญ่ มีครบทุกอย่างโดยไม่จำเป็นต้องออกไปไหนเลยก็ได้...
“นี่คือห้องนอน…” เขาบอก ทำให้หญิงสาวต้องหยุดชะงักอยู่แค่นั้น อันที่จริงมันถูกกั้นจากส่วนที่เอาไว้นั่งเล่นจนดูเหมือนเป็นอีกห้องหนึ่ง ดวงตากลมโตมองที่เตียงนอนขนาดใหญ่ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง พลันพวงแก้มก็ร้อนวูบวาบ เตียงหลังนั้นถูกจัดไว้เรียบร้อยสวยงาม ผ้าปูที่นอนขึงตึงถูกทับด้วยผ้าคลุมเตียงสีขรึม หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกดันหลังให้เดินเข้าไป หัวใจดวงน้อยสั่นสะท้าน รู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวกับจะเป็นไข้ อยากวิ่งหนีไปหลบที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ ฉันท์ทัตรับรู้ถึงอาการหวาดหวั่นและต่อต้านของหญิงสาว เขายิ้มนิดๆ พลางบอก
“ตั้งแต่นี้ไป ห้องนี้จะมีคุณมาอยู่ด้วย”
หญิงสาวสบตาเขาด้วยอาการนิ่งงัน
“ความจริงผมไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่มย่ามในห้องของผม แต่สำหรับคุณ ยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษ” เขาบอกพลางยกมือเรียวสะอาดขึ้นไล้ดวงหน้าเรียวของมิ่งขวัญแผ่วๆ พร้อมหัวเราะเบาๆ “ตั้งแต่นี้ไปคุณมีหน้าที่ดูผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ไม่เว้นแม้แต่เรื่องหลับนอน…”
เขาบอกพลางรั้งเอวคอดเข้าไปกอด แต่ยังไม่ทันที่ริมฝีปากอิ่มจะถูกเขาบดขยี้อีกครั้งประตูห้องก็ถูกเคาะ มิ่งขวัญพยายามผลักเขาออกห่าง ทว่าชายหนุ่มกลับรัดหล่อนไว้เช่นนั้น
“เข้ามา!”
สิ้นเสียงสั่งสาวใช้ทั้งสองนางก็เข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของมิ่งขวัญ เขารั้งร่างบางของหญิงสาวหลบไปอีกทางเพื่อให้สาวใช้นำเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเก็บเข้าที่ หญิงสาวมองของของตนเองถูกลำเลียงเข้าตู้และโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก เพียงสิบนาทีหลังจากนั้นสองสาวก็ออกไปจากห้อง ทิ้งให้หล่อนอยู่กับเขาตามลำพัง…
“ต่อไปนี้คุณต้องอยู่กับผม ผมไปไหน คุณไปนั่น ผมนอนไหนคุณก็ต้องนอนข้างๆ ผมเสมอ เข้าใจไหมมิ่งขวัญ อยู่ดูแลผม อย่าให้คลาดสายตา”
เขาบอกพลางจ้องตาคู่สวยลึกลงไป ทำให้คนที่คิดต่อต้านเพราะความโกรธที่มีต่อมารดาของเขาต้องหวั่นไหวเพราะแววตาลึกซึ้งและคำสั่งเมื่อครู่ ตลอดเวลาที่ผ่านมามิ่งขวัญไม่เคยยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ ความรักความใคร่ไม่เคยอยู่ในความคิดของหล่อน หน้าที่คือตั้งใจเรียน เรียนจบก็ตั้งใจทำงาน จึงไม่เคยชายตามองใคร ไม่เคยปล่อยใจให้ใครแม้จะมีผู้ชายหลายต่อหลายคนเข้ามาแสดงความสนใจต่อหล่อนอย่างเปิดเผยก็ตามที แต่เวลานี้จะยินยอมหรือไม่ยินยอมมิ่งขวัญก็ไม่อาจปฏิเสธ…
“ผมอยากอาบน้ำ จัดการผสมน้ำให้ที…” เขาผละห่างจากคนตัวบางที่ยืนแข็งเป็นหินในอ้อมแขนยิ้มๆ ส่วนตัวเขาก็เดินปลดกระดุมออกจากรังและไปยืนรอหญิงสาวหน้าห้องน้ำ มิ่งขวัญสลัดความคิดมากมายทิ้ง ก่อนจะสืบเท้าเร็วๆ ผ่านหน้าชายหนุ่มเข้าไปจัดการผสมน้ำ ทันทีที่หญิงสาวผ่านพ้นประตู ฉันท์ทัตก็ตามเข้าไปเช่นกัน เขาถอดเสื้อออกแล้วพาดไว้กับราวด้านข้างแล้วกลับมาถอดกางเกงโดยที่มิ่งขวัญไม่ทันได้สังเกตเพราะคิดแต่ว่าควรจะรีบทำแล้วรีบออกไปจากที่นี่ ทว่าเมื่อหันกลับไปหญิงสาวก็ต้องอุทานด้วยความตกใจ…
“ว้าย!!” หญิงสาวหมุนตัวหันหลังให้ร่างสูงที่บัดนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของเขาเหลือเพียงแค่ซับในสีขาวเกาะติดสะโพก
“หึๆ” เจ้าของเสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน เดินไปหาคนตัวเล็กที่หันหลังให้ เข้าประชิดตัวและสอดลำแขนกอดเอวเล็กเอาไว้แน่น ทำให้คนที่ยืนอับอายสะดุ้งพร้อมกับปัดมือเขาออกเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายเปลือยเกือบทั้งตัว ที่สำคัญ สัญลักษณ์บางอย่างที่บ่งบอกความเป็นชายก็แนบชิดอยู่กับสะโพกของหล่อนอีกด้วย!
“ปล่อยค่ะคุณฉันท์ทัต ฉะ...ฉันผสมน้ำให้คุณเสร็จแล้วขอตัวออกไปรอข้างนอกนะคะ” หญิงสาวพยายามแกะมือใหญ่ที่กอดหล่อนออก แต่มือของเขากลับยุ่มย่ามอยู่กับกระดุมเสื้อของหญิงสาวเสียนี่
“ใครอนุญาตให้ออกไปข้างนอก”