หลังจากที่เข้าฝึกงานกับฉันท์ทัตได้หนึ่งอาทิตย์เต็ม ทำให้มิ่งขวัญรับรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เพราะเขาจริงจังกับการทำงาน ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจไปเสียหมด จนบางครั้งหล่อนก็รู้สึกหงุดหงิดเพราะเนรมิตให้ไม่ทันใจพ่อเจ้าประคุณ!
และแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ชายหนุ่มก็ยังต้องออกนอกบ้าน เพราะมีนัดสำคัญกับดาราหนุ่มรุ่นน้อง ในงานเลี้ยงของคุณมาโนชที่เคยพูดคุยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จึงตกหนักมาถึงมิ่งขวัญที่ต้องติดสอยห้อยตามเขาไปด้วยดังประกาศิตของคนที่ทำตัวเป็นเจ้าชีวิตหล่อน…
“แต่งตัวสวยๆ นะ วันนี้เพื่อนนายเดชคงมากันเยอะ ผมไม่อยากให้ผู้หญิงของผมดูด้อยกว่าคนอื่น…” เขาเอ่ยเมื่อมาหยุดลงตรงหน้าคนในเสื้อคลุม เกี่ยวเอวหล่อนมาใกล้พลางเชยคางมนขึ้นแล้วจ้องตากับคนหน้าหวาน ก่อนจะก้มลงบดริมฝีปากกับปากอิ่มแรงๆ เหมือนแกล้ง แล้วถอยห่างเพราะไม่อยากจะช้าไปกว่านี้ คิดๆ ไป เขากับหล่อนแทบไม่มีเวลาใกล้ชิดกันจริงๆ สักที นอนกับหล่อนทุกคืนมาเป็นเวลาอาทิตย์กว่า แต่ยังไม่ได้แตะต้องหล่อนมากกว่าการกอดจูบลูบคลำ เอาไว้คืนนี้ก่อนเถอะ… เขาจะทวงสิทธิ์ให้ตัวเองอย่างเต็มรูปแบบเสียที
งานเลี้ยงเล็กๆ ถูกจัดขึ้นภายในเคหสถานของคุณมาโนช ผู้เป็นพี่ชายของบิดาและเป็นลุงของเขา ซึ่งวันนี้ฝ่ายนั้นทำการจัดงานขึ้นก็เพื่อรวมญาติ พบปะสังสรรค์ประจำปี ทั้งนี้ยังมีนักธุรกิจและนักการเมืองชื่อดังบางคนที่มีความรู้จักหรือเกี่ยวข้องถูกเชิญมาเพื่อเจรจากันในเรื่องธุรกิจที่กำลังตกลงใจร่วมกัน
มิ่งขวัญมองออกไปนอกตัวรถยนต์ที่คนขับรถพาเคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณหน้าคฤหาสน์หลังโต สถานที่จัดเลี้ยงอยู่บริเวณหน้าบ้าน มีบ่อน้ำพุตั้งตระหง่านอยู่ตรงส่วนกลางด้านหลัง มีแขกเหรื่อเดินไปมาพอสมควร
“ไปกันเถอะ ป่านนี้คุณลุงคงรอเราอยู่แล้ว…”
เมื่อทั้งสองออกมาจากรถยนต์ ชายหนุ่มสบตาคู่สวยที่ถูกตกแต่งเป็นอย่างดีพลางงอแขนขึ้น หญิงสาวมองอย่างชั่งใจ ก่อนจะสอดมือเข้าไปเกาะเอาไว้ แล้วตามกันเข้าไปภายในงาน…
ดนตรีภายในงานคลอด้วยจังหวะสบาย เด็กเล็กและเด็กรุ่นกำลังสนุกสนาน ญาติผู้ใหญ่บางท่านกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส แต่เมื่อร่างของฉันท์ทัตปรากฏขึ้นกลางงาน เสียงที่อื้ออึงก็คล้ายจะเบาลงในทันที พร้อมทั้งหันมาให้ความสนใจชายหนุ่มเป็นทิวแถว รวมทั้งคุณมาโนชเจ้าของงานซึ่งหันมาเห็นหลานชายเข้าพอดี
“อ้าว! มาแล้วหรือตาทัต มาๆ”
เสียงทักทายของคุณมาโนชเรียกความสนใจจากดนุเดชที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของสาวๆ ขณะที่ฉันท์ทัตทำความเคารพผู้เป็นลุงและญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆ
“สวัสดีครับคุณลุง ช่วงนี้สบายดีนะครับ”
“สบายดีหลานชาย” ท่านตอบพลางยิ้มแย้มและหยุดสายตาลงที่ร่างระหงของสาวสวยซึ่งเกาะแขนหลานชายอย่างสนใจ “ว่าแต่สาวน้อยคนนี้เป็นใครกันล่ะ”
ถามพลางสำรวจร่างบางด้วยแววตาเอ็นดู ฉันท์ทัตหลุบตามองคนตัวเล็กข้างกายพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
“เธอชื่อมิ่งขวัญครับ เป็นเลขาส่วนตัวผมเอง… คุณมิ่ง นี่คุณลุง มาโนชนะ” เขาตอบ ทว่ากับหลุบสายตาลงมองคนตัวเล็กด้วยสายตาที่ทำให้คนมองอย่างคุณมาโนชต้องหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิดขณะรับไหว้หญิงสาว ทว่าครู่เดียวก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเชื้อเชิญชายหนุ่มและหญิงสาวเข้าไปคุยกัน แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง คนที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของงานก็มองมาไม่คลาดสายตา
“พี่ทัตมาสักทีนะ ผมนึกว่าจะมาช้ากว่านี้เสียอีก” เสียงที่ทักขึ้นข้างตัวทำให้ฉันท์ทัตและมิ่งขวัญหันไปมอง ดนุเดชหลุบตามองสาวร่างบางข้างกายพี่ชายแล้วยิ้มให้
“ไม่หรอก ก็มาราวๆ นี้แหละ อ้อ นี่มิ่งขวัญ เลขาส่วนตัวของพี่เอง ส่วนนี่คือดนุเดช ผมว่าคุณคงรู้จัก…”
ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ ขณะที่ดนุเดชหลุบตามองสาวสวยข้างกายพี่ชายแล้วลอบถอนหายใจยาว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณมิ่งขวัญ”
“เช่นกันค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้อีกฝ่าย ทำให้คนมองตาพร่าไปกับรอยยิ้มนั้น พลางหลุบตามองมือเล็กที่คล้องแขนพี่ชายของตนเองอย่างรู้สึกเสียดายนิดๆ
“เดี๋ยวผมให้คนเอาเครื่องดื่มมาให้นะครับ ของพี่ทัตออนเดอะร็อคเหมือนเดิมนะครับ แต่ไม่ทราบว่าคุณมิ่งขวัญชอบดื่มอะไรหรือครับ” เขาถามอย่างใส่ใจ ขณะที่ฉันท์ทัตยืนอยู่ข้างๆ หญิงสาวขยับปากเตรียมบอก ทว่ากลับถูกชายหนุ่มฉวยตอบคำถามแทนหล่อน
“แค่ค็อกเทลก็พอ ฉันไม่อยากให้คนที่มีหน้าที่ดูแลฉันต้องกลายร่างเป็นเมรีขี้เมาเสียก่อน” เขาบอกยิ้มๆ ทำให้ดนุเดชเลิกคิ้วนิดๆ แต่ก็พยักหน้าตอบรับ ก่อนหันไปเรียกพนักงานมืออาชีพที่ถูกส่งตัวมาจากโรงแรม มิ่งขวัญเงยหน้ามองคนตัวโตที่สบตาลงมาแล้วเม้มปากนิดๆ เมื่ออีกฝ่ายบอกกลายๆ ว่าเขาเป็นคนตัดสินใจว่าหล่อนควรจะทำอะไรหรือไม่ ขณะที่มิ่งขวัญและฉันท์ทัตกำลังจ้องตากันอยู่นั้น เสียงของใครอีกคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“สวัสดีครับพี่ทัต…”
ทั้งฉันท์ทัต มิ่งขวัญและดนุเดชหันไปตามเสียงทันที ดนุเดชมองฝ่ายนั้นด้วยสายตาที่ไม่วางใจ ต่างจากฉันท์ทัตที่มองตรงๆ ด้วยแววตาเรียบลึก ทว่าริมฝีปากกลับยิ้มตอบ
“สวัสดี ไม่เจอกันเสียนาน สบายดีใช่ไหม”
“ผมก็เรื่อยๆ ครับ แต่ดูท่าพี่ทัตจะสบายมาก” จิรสินตอบพลางกวาดตามองเรือนร่างของสาวสวยข้างกายฉันท์ทัตด้วยสายตาโลมเลีย เสียมารยาทก่อนจะสบตาของอีกฝ่ายที่เป็นสีเข้มขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจ “แหม ผมล้อเล่นน่า ดูท่าพี่ทัตจะหวงคุณไม่ใช่น้อยเลยนะครับคุณ….”
“เธอชื่อมิ่งขวัญ เป็นเลขาส่วนตัวของฉันเอง” ฉันท์ทัตสบตาคนตรงหน้าแล้วเน้นคำอย่างหนักแน่น ฝ่ายนั้นกระตุกยิ้ม ไหล่กว้างไหวอย่างยียวนก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นมาตรงหน้าขณะสบตาหญิงสาว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณมิ่งขวัญ ผมจิรสินครับ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้านายของคุณ” เขาแนะนำตัวเองเสร็จสรรพเมื่อไม่มีทีท่าว่าฉันท์ทัตจะแนะนำเขาให้หล่อนได้รับรู้สถานะ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณจิรสิน” หญิงสาวตอบกลับไปตามมารยาท รับรู้ถึงความอึมครึมที่อยู่รอบตัว ขณะที่ดนุเดชมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเฉยชาไม่ต่างจากฉันท์ทัต เขารู้ดีว่าพี่ชายไม่พอใจ เพียงแต่ยังเก็บความรู้สึกไว้อย่างดี เขานึกชังน้ำหน้าลูกพี่ลูกน้องคนนี้ ก่อนจะหันไปเห็นใครเข้าอีกคน
“พี่ทัตครับ นั่นคุณพีรวัตร” ดนุเดชกล่าวถึงนักธุรกิจชื่อดังที่มีธุรกิจมากมายและเคยร่วมงานกับฉันท์ทัต ชายหนุ่มจึงหันไปตามสายตาของอีกฝ่ายเช่นเดียวกับจิรสินที่พอเห็นฝ่ายนั้นก็รีบเอ่ยปากขอตัว
“งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน ไว้ค่อยคุยกันอีกครั้งนะครับคุณ มิ่งขวัญ” เขายิ้มให้หญิงสาวพลางสบตาฉันท์ทัตก่อนเดินห่างไป ทำให้ดนุเดชส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ขณะที่ฉันท์ทัตมองตามอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งขรึม แล้วหลุบตามองหญิงสาว
“คุณนั่งเล่นอยู่แถวนี้ก่อนได้ไหม”
หญิงสาวสบตาเขาแล้วพยักหน้า
“ได้ค่ะ”
เวลาที่ทั้งสองสบตากันทำให้ดนุเดชหรี่ตามอง เขาสาบานได้ว่าเขาเห็นรอยยิ้มจากแววตาของพี่ชายที่ส่งให้สาวสวยนามว่ามิ่งขวัญ เป็นรอยยิ้มที่มันลึกซึ้งจนเขาต้องกะพริบตามองอีกครั้งให้แน่ใจ แต่มันก็จางหายไปพร้อมกับที่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ฝากคุณมิ่งด้วยนะเดช ขอตัวไปคุยธุระกับคุณพีรวัตรก่อน”
“ได้ครับ” เมื่อดนุเดชรับคำชายหนุ่มจึงแยกกับทั้งคู่แล้วตรงไปยังชายคนนั้น ปล่อยมิ่งขวัญให้อยู่ในความดูแลของดนุเดช
“เชิญทางนี้ดีกว่าครับคุณมิ่ง” ดนุเดชผายมือแล้วพาหญิงสาวไปยังเก้าอี้ว่าง “คุณมิ่งนั่งรอผมตรงนี้ก่อนนะครับ”
“ค่ะ…” มิ่งขวัญมองร่างสูงของดนุเดชที่ก้าวยาวๆ ไปยังโต๊ะอาหาร นึกชื่นชมอีกฝ่ายในใจว่าเห็นใกล้ๆ ดนุเดชดูดีกว่าในทีวีมากมายนัก ก่อนจะหันไปมองร่างสูงของฉันท์ทัตที่กำลังพูดคุยอยู่กับพีรวัตรแล้วเกิดข้อเปรียบเทียบโดยอัตโนมัติ พลางคิดว่าผู้ชายสองคนนี้ต่างกันที่นิสัยใจคอ ขณะที่ดนุเดชดูอารมณ์ดีแต่ฉันท์ทัตกลับดูเคร่งขรึม ยิ่งรูปร่างหน้าตาก็ยิ่งไม่คล้ายกันเลย แม้จะบอกว่าเป็นญาติก็ตามที เพราะดนุเดชดูสำอาง ใบหน้าของเขาสวยตามสไตล์พระเอกในนิยม แต่ฉันท์ทัตกลับดูกร้าวแกร่งและคมคายสมชายชาตรี แต่ไม่ว่าจะต่างกันอย่างไร ทั้งสองก็อยู่ในความสนใจของสาวและไม่สาวด้วยกันทั้งคู่
แต่น่าแปลก หล่อนกลับรู้สึกปลอดภัยยามเมื่อได้อยู่ใกล้ ฉันท์ทัต ทั้งที่เขาดูอันตรายกว่าใครแท้ๆ เชียว…