EP.12 #ข้อต่อรอง

1095 Words
“เพราะผู้ชายผมสีควันบุหรี่ที่หายตัวไปนั่นน่ะ… เขาคือหนึ่งในสมาชิกสภานักศึกษาของเราไงล่ะ” ผมถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของอากฤษ ผมพอจะรู้เรื่องไอ้คณะสภานักศึกษาบ้า ๆ นี่ผ่านหูมาบ้างจากพวกเพื่อน ๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขำมากเลยล่ะที่มีการจัดตั้งคณะบ้าบอนั่นขึ้นในมหาวิทยาลัยแบบนั้น แถมยังมีโค้ดเนมกับตำแหน่งอะไรอีกเยอะแยะก็ไม่รู้... น่าขำชะมัด! “ผู้ชายคนนั้นชื่อรัม และนอกจากเขาจะเป็นหนึ่งในสมาชิกสภานักศึกษาแล้ว เขายังครองตำแหน่งรัฟเฟียนมาสามปีแล้วด้วย ซึ่งนี่อาจจะเป็นเบาะแสอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคดีนี้” “รัฟเฟียน?” ผมทวนคำอีกรอบ Ruffian ที่แปลว่า คนพาล น่ะเหรอ? มันมีตำแหน่งเวร ๆ นี่ด้วยหรือไงกันวะ? “ใช่ หลานจะต้องเข้าไปรับตำแหน่งนี้แทนเขา และจะต้องอยู่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของคณะสภาด้วย เพื่อสืบหาหลักฐานหรือเบาะแสเกี่ยวกับการหายตัวไปของรัมรวมถึงตามหาฆาตกรตัวจริงด้วย” “ไม่! ผมไม่ยอมเข้าสภาบ้า ๆ นั่นเด็ดขาด!” ให้ตายก็ไม่เอา! “แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะไอ้น่าน!” “พ่อ…” ผมชักสีหน้าไม่พอใจใส่พ่ออีกรอบ ยืนเงียบต่อไปก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ ทำไมชอบพูดจาทำร้ายจิตใจผมนักวะ! “ถ้าไม่อยากกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย แกก็ต้องทำคดีนี้ให้จบ! และถ้าแกสามารถปิดคดีนี้ได้…ใบปริญญาจะเป็นของแก!” “ว่าไงนะ?” ผมขมวดคิ้วอีกรอบ นี่พ่อคิดจะเอาใบปริญญามาเป็นข้อต่อรองกับผมเหรอ? “ปิดคดีนี้แลกกับใบปริญญาของแก… เข้าใจไหม!” “...” ผมนั่งเงียบอย่างครุ่นคิด ความจริงไม่จำเป็นต้องคิดอะไรหรอก เพราะยังไงผมก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธตั้งแต่แรกแล้วจริง ๆ นั่นแหละ! อยู่ดี ๆ ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมหมู่ แถมยังต้องตามสืบคดีเวร ๆ นี่อีกด้วย ทำไมชีวิตผมวุ่นวายขนาดนี้วะ! ไม่น่าเข้าไปเสือกตั้งแต่แรกเลยกู! “และตั้งแต่นี้ต่อไปโค้ดเนมของหลานก็คือ…” “...” “ซีเคร็ท…” Secret…. ความลับน่ะเหรอ… . . . [บทบรรยาย จินโทนิค] Rrr... เสียงเรียกเข้าดังท่ามกลางความเงียบสงัดภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ฉันขยับตัวอย่างนึกรำคาญที่โดนก่อกวนตอนดึกดื่นขนาดนี้ ฉันเพิ่งจะหลับไปได้ชั่วโมงเดียวด้วยซ้ำมั้ง เพราะมัวแต่นั่งเขียนแบบที่อาจารย์สั่งเมื่อเช้า “... อืม” [จิน! ฮึก... จิน] สองตาที่กำลังปิดสนิทลืมโพล่งขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้นจากปลายสาย ฉันรีบยันตัวลุกขึ้นนั่งพลางเสยผมลวก ๆ แล้วเอื้อมมือเปิดโคมไฟ “เกิดอะไรขึ้นซิน?” [ฮือ... ระ... รัม] “ไอ้รัมทำไม?” ความรู้สึกใจหายแล่นวาบเข้ามาภายในจิตใจ สิ่งที่ฉันกังวลมันคงไม่ได้เกิดขึ้นจริง ๆ หรอกใช่ไหม? [รัมตายแล้ว... จิน... ฮือออ รัมตายแล้ว!] ไม่จริงน่ะ... หมอนั่น... “บ้าน่า เธอเอาอะไรมาพูดวะ ไอ้บ้านั่นถึกอย่างกับอะไร...” แม้จะพูดไปแบบนั้น หากทว่าจิตใจมันกลับร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก [ฉะ... ฉันไม่รู้... ฮึก! ตะ... แต่เมื่อกี้ฉันโทรเข้ามือถือรัม แล้วตำรวจรับสาย ฮือ... เขาบอกว่าเกิดการฆาตกรรมหมู่ขึ้นและโทรศัพท์เครื่องนั้นตกอยู่ในที่เกิดเหตุ... ฮึก... รัมตายแล้ว... ตายแล้วจริง ๆ ฮืออ] ซินเทียร์เล่าด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ฉันไม่เคยเห็นมันร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่จริงน่า... ฆาตกรรมหมู่บ้าบออะไรกันวะ! “เดี๋ยวฉันไปรับที่บ้าน! แล้วไปสถานีตำรวจกัน!” ฉันตัดสายทิ้งแล้วรีบลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันไม่เชื่อหรอก... ถ้าไม่ได้เห็นศพหมอนั่นด้วยตาตัวเอง ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าไอ้บ้ารัฟเฟียนนั่นน่ะตายแล้ว!! . . . สถานีตำรวจ “หมายความว่ายังไงคะคุณตำรวจ? จะบอกว่ามีการฆาตกรรมหมู่กว่าสิบศพ แต่ไม่พบศพของเจ้าของโทรศัพท์เลยเหรอคะ?” ซินเทียร์ลุกขึ้นยืนพลางใช้สองมือยันโต๊ะเอาไว้ ท่าทางมันตอนนี้ดูสับสนอย่างเห็นได้ชัด มันก็สมควรอยู่หรอกนะ เพราะหลังจากสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับทำคดีนี้ก็พบว่ามีการฆาตกรรมหมู่เกิดขึ้นจริง ๆ แต่ทั้งสิบศพนั้นกลับไม่พบว่าเป็นรัม “ครับ จากรูปที่คุณให้ผมดูแล้ว ไม่มีคนคนนี้ในกลุ่มผู้เสียชีวิตนะครับ” “แล้วเขาหายไปไหนละคะ? ทำไมโทรศัพท์ของเขาถึงไปตกอยู่ตรงนั้นได้?” “จากคำบอกเล่าของพยานในเหตุการณ์ เขาบอกว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่งโดนกลุ่มผู้เสียชีวิตรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่น่าแปลกที่ในเวลาต่อมากลุ่มคนเหล่านั้นกลับถูกฆ่าตายด้วยความสยดสยอง ฝีมือของฆาตกรไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ แถมร่างของผู้ชายที่พยานบอกว่าบาดเจ็บสาหัสก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือทิ้งไว้เพียงคราบเลือดเท่านั้น” “พยาน? ใครคือพยาน?” ฉันที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ฉันว่าคดีนี้มันมีบางอย่างผิดปกติหลายจุดนะ และเชื่อว่าทางตำรวจเองก็คงจะสงสัยไม่แพ้กัน “ผมคงบอกพวกคุณมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะครับ” ตำรวจนายนั้นตอบยิ้ม ๆ “ทำไมล่ะคะ? แฟนฉันหายตัวไปทั้งคนนะคะ! แถมยังบาดเจ็บสาหัสอีกต่างหาก! ฉันต้องการพบกับพยานค่ะ!” ซินเทียร์โวยวายเสียงดัง ดวงตากลมบวมเป่งจากการร้องไห้อย่างหนัก “ขอโทษด้วยนะครับ แต่มันเกินหน้าที่ผมจริง ๆ เพราะหากเจ้าของโทรศัพท์ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ เขาจะต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างแน่นอนครับ” “แต่...” “เอาน่ายัยซิน อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีหวังว่าไอ้รัมมันยังไม่ตาย” ฉันดึงแขนมันเพื่อเตือนสติ “แต่รัมบาดเจ็บนะจิน! ฉันเป็นห่วงเขา ฮึก!” ซินเทียร์ทิ้งตัวนั่งลงที่เดิมแล้วยกสองมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้ ฉันตบไหล่ปลอบใจมันเบา ๆ โดยไม่พูดอะไรต่อ ฉันจะต้องตามหาหมอนั่นให้พบ คดีนี้มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ และฉันมั่นใจว่ารัมไม่ใช่ฆาตกร! ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครคือฆาตกรตัวจริงกันแน่!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD