EP.25 #คมเขี้ยว

1140 Words
ผมหยิบกล่องพยาบาลมาวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนด้านข้างจินโทนิคแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเธอไว้หลวม ๆ อีกมือก็ยกขึ้นเกลี่ยปอยผมออกจากหน้าผากสวยเพื่อเปิดดูรอยแผลตรงหัวคิ้วที่ตอนนี้เลือดหยุดไหลแล้ว เห็นแล้วก็นึกโมโหชะมัด! ยัยบ้านี่อวดเก่งสุด ๆ คิดว่าผู้หญิงคนเดียวจะสู้ผู้ชายนับสิบคนได้เหรอวะ? โคตรจะมั่นหน้าเลย! ความจริงผมเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเลยแหละ ไม่สิ… ต้องบอกว่าผมสะกดรอยตามจินโทนิคตั้งแต่เธอออกจากมหาวิทยาลัยเลยดีกว่า ผมสะกดรอยตามเธอจนได้รู้ว่ายังมีคนอื่นที่แอบตามเธอเหมือนกับผม แต่จุดประสงค์ของคนพวกนั้นเหมือนคอยตามคุ้มครองเธออยู่ห่าง ๆ มากกว่า ผมจึงต้องระวังตัวเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้คนพวกนั้นและจินโทนิคจับสังเกตได้ “หายแล้ว…ฟู่” กึก… เดี๋ยวนะ… นี่กูทำอะไรลงไปวะ?! ผมชะงักตัวเองที่เผลอเป่าลมลงบนบาดแผลตรงหัวคิ้วของจินโทนิคด้วยความลืมตัวหลังจากจัดการทำแผลให้เธอเสร็จ แถมยังแตะริมฝีปากลงบนหน้าผากของเธอด้วยความอ่อนโยนอีกต่างหาก ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลยว่ะ! ทำไมอยู่ ๆ ผมต้องมาทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้กับยัยนี่ด้วยวะ? ปกติผมไม่เคยทำแบบนี้กับใครนี่หว่า นอกจาก… เวรเอ๊ย! มึงมันบ้าไปแล้วไอ้น่าน! ทำไมจู่ ๆ ถึงเผลอคิดว่ายัยโหดนี่คือเด็กคนนั้นวะ! เชี่ยเอ๊ย! กูต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ! . . . [บทบรรยาย จินโทนิค] ดวงตาทั้งสองข้างปรือขึ้นท่ามกลางความมืดมิดภายในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำ ฉันจำเหตุการณ์ก่อนหน้าจะหมดสติได้ทั้งหมด แต่ยังไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่ที่ไหน พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็อดโมโหไม่ได้ ถ้าฉันไม่พลาดท่าเผลอสูดกลิ่นยาสลบเวร ๆ นั่นเข้าไป ป่านนี้ฉันคงได้กลับห้องตัวเองไปแล้ว “…” เสียงเคลื่อนไหวจากใครบางคนข้างเตียงทำให้ฉันรีบหลับตาลงอีกรอบ สองหูพยายามจับการเคลื่อนไหวของคนคนนั้นอย่างระมัดระวังตัว ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นใคร แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่ ๆ หมับ! พรึ่บ! “เฮ้ย! ทำบ้าอะไรของเธอวะ?!” น้ำเสียงตื่นตระหนกของคนใต้ร่างร้องถามขึ้นเสียงดังเมื่อฉันลุกขึ้นกระชากคอเสื้อเขาล้มลงมาบนที่นอนแล้วจับพลิกให้ตัวเองขึ้นไปนั่งทับร่างหนานั่น มือข้างหนึ่งบีบลำคอของเขาค้างเอาไว้ สองขาก็คร่อมกดสะโพกหนาเพื่อป้องกันการต่อสู้ “นาย…” และพอได้เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ฉันก็ชะงักมือที่กำลังกดเส้นเสียงตรงช่วงลำคอเพื่อหวังจะทำร้ายเขาในทันที “นี่เธอจะฆ่าหรือจะปล้ำฉันกันแน่วะ?” ซีเคร็ททิ้งตัวนอนราบบนที่นอนโดยมีฉันนั่งคร่อมทับร่างกายท่อนล่างของเขาอยู่ ฉันจึงเพิ่มน้ำหนักที่ฝ่ามือเพื่อกดเส้นเสียงของเขาให้หนักกว่าเดิม “เวรเอ๊ย ฉันหายใจไม่ออกนะยัยบ้า!” “พามาที่นี่ทำไม?” “ก็เธอสลบ ฉันไม่รู้จักห้องเธอนี่หว่า เลยพามาที่คอนโดฉันแทน ปล่อยได้ยัง?” ซีเคร็ทเลิกคิ้วถาม สีหน้าเขาไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังทรมานสักนิดทั้งที่ฉันออกแรงกดเส้นเสียงเขาขนาดนี้ “สารเลว…” ฉันก่นด่าก่อนจะคลายมือออกจากลำคอของซีเคร็ท แต่ในจังหวะที่กำลังถอยตัวลงจากร่างกายของเขา จู่ ๆ ร่างสูงก็คว้าไหล่ฉันแล้วจับพลิกจนร่างของฉันกับเขาสลับตำแหน่งกันด้วยความรวดเร็ว “จะทำเหี้ยอะไร?!” “เธอนี่แม่ง… โคตรปากดีเลยว่ะ คำก็เหี้ยสองคำก็สารเลว ไม่ห้าวเป้งเกินไปหน่อยไง?” ซีเคร็ทก้มหน้าลงมาใกล้ ฉันจึงทิ้งตัวนอนราบบนที่นอนเพื่อเว้นระยะห่างจากเขา หมอนั่นคร่อมอยู่บนตัวฉันเกือบจะทุกส่วน เขาใช้เข่ากดทับหน้าขาของฉันเอาไว้ราวกับกลัวว่าฉันจะถีบ สองมือก็ถูกมือหนาล็อกเอาไว้ข้างตัวจนแทบขยับเขยื้อนไม่ได้ ให้ตายดิ! ทำไมไอ้เวรนี่มันแรงควายขนาดนี้วะ!! “อย่ามาใกล้ฉัน!” “ทำไม? กลัว?” “ออกไป…” ฉันเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากชั่ว ๆ ที่จงใจก้มลงมาชิดข้างแก้ม รู้สึกขนลุกไปทุกส่วนจนอยากจะกัดลิ้นตาย ถ้าหลุดไปได้ฉันจะกระทืบไอ้สารเลวนี่ให้ตายคาตีนเลย! “สู้ดิ? ต่อต้านดิ๊? ก็ไหนว่าโหดนักโหดหนา? เธอกล้าถีบฉันมาตั้งกี่รอบแล้ววะ? พอเจอของจริงเข้าหน่อยถึงกับนิ่งเลยไง?” “ไอ้เหี้ย…” ฉันกดเสียงต่ำด่าแล้วหันกลับมาจ้องตาเขาอย่างดุดัน ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่เผลอชะล่าใจล่ะก็ ไอ้เวรนี่ไม่มีทางได้ล็อกตัวฉันแบบนี้หรอก! สารเลวเอ๊ย!! “ด่าเข้าไป… ลองแลกลิ้นกับเหี้ยสักหน่อยดีไหม? เผื่อจะติดใจ?” มันไม่ได้ถามอย่างเดียว แต่มันเสือกก้มหน้าลงมาจนชิดเลยไงประเด็น! เวรเอ๊ย! ทำไมดิ้นไม่หลุดเลยวะ!! “ไอ้สารเลว… เหี้ย… สั… อื้อ!” คำด่าของฉันหายไปพร้อมกับริมฝีปากร้อนที่ประกบลงมารวดเร็ว ฉันเม้มปากแน่นพยายามเบี่ยงหน้าหนีสัมผัสชั่วช้าของไอ้สารเลวซีเคร็ท มันกล้าดียังไงถึงล่วงเกินฉัน! ไอ้เวรนี่! ฉันไม่ปล่อยมันแน่ ๆ! “s**t! อื้อ!” ฉันสบถออกมาดังลั่นเมื่อรู้สึกถึงคมเขี้ยวที่ฝังลงบนเนื้อริมฝีปากของตัวเอง เขาบังคับให้ฉันเปิดปากด้วยวิธีสารเลว! มือหนาลากข้อมือทั้งสองข้างของฉันขึ้นไปล็อกไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างบีบปลายคางเพื่อบังคับให้ยอมเปิดปากในที่สุด ฉันพยายามจะกัดลิ้นร้อนน่าขยะแขยงของเขาที่ดูดดึงอยู่ภายในปากตัวเองด้วยความรังเกียจ แต่เพราะถูกมือหนาบีบกรามเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถขยับปากได้เลยสักนิด ต้องปล่อยให้เขาจูบกักขฬะต่อไป “อื้อ! อื้อ!” ฉันยังร้องประท้วงและขัดขืนอย่างไม่ล่าถอย แม้จะโดนจูบกระชากวิญญาณนั่นปั่นป่วนไม่น้อยก็ตาม ซีเคร็ทช่ำชองในเรื่องนี้ฉันรู้ดี! แต่เขาไม่มีทางทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มได้แน่นอน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD