“รัฟเฟียนคนใหม่…” ฉันพูดขณะจ้องหน้าเขานิ่ง มาตินี่พยักหน้าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างหันไปหยิบแฟ้มเอกสารสีดำมาถือไว้ในมือ เขาส่งยิ้มน่ารักให้ฉันอีกรอบหากทว่าครั้งนี้มันกลับดูเจ้าเล่ห์แปลก ๆ
“สงสัยหมอนั่นเหรอ?”
“อะไร?”
“อ่ะ… ก็เธอสงสัยว่าหมอนั่นอาจจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของรัฟเฟียนคนเก่าใช่ไหมล่ะ?” มาตินี่ยิ้มถามยิ้มขณะวางแฟ้มเอกสารนั่นลงบนโต๊ะแล้วหมุนมันมาหยุดตรงหน้าฉัน “ฉันช่วยเธอได้นะจิน”
“นายหมายความว่ายังไง?” ฉันถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา ฉันไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร ทำไมเขาถึงคิดว่าฉันกำลังสงสัยในเรื่องอะไรอยู่ หรือว่าฉันแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไป? ก็ไม่นะ…
“เรื่องของรัมไง หมอนั่นเป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ? มันหายตัวไปแบบนี้ เธอกับเพื่อนของเธอที่เป็นแฟนมันคงจะกังวลน่าดูเลยล่ะสิ” มาตินี่พูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย ฉันพยายามจับผิดสีหน้าและน้ำเสียงของเขาตามนิสัยผู้คุมกฎที่ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของทุกคน ทว่ากลับถูกเขายิ้มอย่างรู้ทัน “หึ… กำลังจับผิดฉันอยู่หรือไง?”
“นายรู้มามากแค่ไหน? นี่กำลังตามกลุ่มพวกฉันอยู่หรือไง?”
ฉันถามออกมาตรง ๆ ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมมาตินี่ถึงรู้ลึกและรู้จริงขนาดนี้ ก็หมอนี่อยู่ฝ่ายสืบสวนนี่นะ! ถ้าพวกเขาคิดจะตามสืบพฤติกรรมของนักศึกษาคนไหนมันย่อมง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปากอยู่แล้ว เพราะอย่างนี้ไงล่ะ! ฉันถึงมาที่นี่เพื่อต้องการข้อมูลเกี่ยวกับรัฟเฟียนคนใหม่นั่น!
“อย่าระแวงฉันสิ ฉันไม่คิดร้ายกับเธอหรอกนะ และไม่มีทางคิดด้วย” เสียงของเขาอ่อนลงจนฉันเดาทางไม่ถูก สรุปแล้วผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ เขาทำเหมือนว่าจะช่วยฉัน แต่คำพูดและการกระทำของเขามันกลับไม่น่าไว้ใจ หรือว่าฉันเป็นประเภทไว้ใจคนยากอยู่แล้วด้วยนะ
“นายจะช่วยฉันเหรอ?” ฉันถามกลับเสียงเรียบ มันคือเรื่องจริงที่ฉันกำลังสงสัยในตัวของรัฟเฟียนคนใหม่ เพราะจู่ ๆ เขาเข้ามารับตำแหน่งโดยไม่มีที่มาที่ไป แถมยังย้ายเข้ามาเรียนแบบกะทันหันอีกต่างหาก มันไม่น่าแปลกไปหน่อยเหรอ… และถ้าหากได้คนของฝ่ายสืบสวนฯ มาช่วยตามสืบด้วยอีกแรง อะไร ๆ มันคงจะง่ายกว่านี้ขึ้นเยอะ
“ถ้าเธอต้องการ ฉันเต็มใจช่วยเธอเสมอนะเพลง…”
ตึง!
“อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้น!!” ฉันลุกขึ้นยืนแล้วผลักเก้าอี้ด้านข้างล้มลงเสียงดัง มาตินี่รีบลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว เขาเข้ามาขวางทางออกที่ฉันกำลังจะเดินออกไป
ทุกคนรู้ดีว่าฉันไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อจริงของฉัน ‘เพลงพิณ’ คือชื่อที่คนในครอบครัวของฉันเรียกเท่านั้น ตั้งแต่ฉันใช้โค้ดเนมจินโทนิค ทุกคนต่างก็เรียกขานฉันด้วยชื่อนี้ทั้งนั้น จะมีเพียงคุณตาคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเรียกฉันว่าเพลงพิณ
“เดี๋ยว… ฉันขอโทษ… ฉัน…” มาตินี่ทำหน้าลังเลบางอย่าง ดวงตาเขาวูบไหวก่อนจะกลับมาฝืนยิ้ม “เอาเป็นว่าฉันขอโทษแล้วกันนะ ฉันยินดีจะช่วยเธอเต็มที่นะจินโทนิค”
“...”
“นั่งลงก่อนไหม? เอกสารนั่นคือประวัติคร่าว ๆ ของรัฟเฟียนคนใหม่ เธอน่าจะลองอ่านมันดู”
ฉันจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าเย็นชาตามนิสัยตัวเอง ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยได้คุยกับมาตินี่มาก แต่ก็พอรู้จักนิสัยของผู้ชายคนนี้ดีว่าเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร และคงไม่มีเจตนาร้ายอะไรกับฉันจริง ๆ แต่ฉันยังไม่วางใจง่าย ๆ หรอกนะ!
ขึ้นชื่อว่าผู้ชายน่ะ…มันก็ร้ายเหมือนกันหมด!
.
.
ชื่อ น่านฟ้า นามสกุล ภัครนารายณ์
โค้ดเนม ซีเคร็ท สังกัดฝ่ายสืบสวนสอบสวน
เกิดวันที่ 21 มกราคม xxxx อายุปัจจุบัน 23 ปี
.
.
ฉันเลื่อนสายตาอ่านประวัติคร่าว ๆ ของรัฟเฟียนคนใหม่เรื่อย ๆ จนสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างจึงเลื่อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่ยังนั่งมองกันไม่ยอมละสายตาไปไหน มาตินี่รีบหลบสายตาพลางกระแอมกระไอ เพื่อกลบเกลื่อน
นี่เขากำลังคิดไม่ซื่อกับฉันอยู่หรือเปล่า? เหอะ! คงไม่กลัวตายสินะ!
“หมอนี่เคยมีเรื่องกับน้องชายไอ้ซันด้วยเหรอ?”
“อะ… อืม เคยมีเรื่องกันจนพลั้งมือกระทืบน้องชายไอ้ซันปางตายเลยน่ะ เป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนั่นโดนไล่ออกจากมหาลัยเก่านั่นแหละ”
“ตอนนี้พวกไอ้ซันมันตายหมดแล้ว…” ฉันพึมพำแผ่วเบาพลางนึกถึงสาเหตุการตายปริศนาของกลุ่มไอ้ซัน พวกนั้นรุมทำร้ายรัมก่อนที่จะตาย หลังจากนั้นรัมที่กำลังบาดเจ็บก็หายตัวไป “ในที่เกิดเหตุก็เหลือพยานแค่คนเดียว…”
“ก็หมอนั่นไง”
“ว่าไงนะ?” ฉันเงยหน้าขึ้นมองมาตินี่อีกรอบเมื่อเขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“รัฟเฟียนคนใหม่นั่นแหละคือพยานคนนั้น”
“นายรู้ได้ยังไง?”
“หมอนั่นถูกส่งให้มารับตำแหน่งแทนรัม แถมยังได้เข้ามาอยู่ในฝ่ายสืบสวนฯ อีกด้วย เธอไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ ฉันตามสืบเรื่องนี้มาหลายวันแล้วน่ะ เพราะการจะรับสมาชิกเข้ามาในฝ่ายนี้ พวกเราจะต้องทำการสืบประวัติอย่างละเอียดอยู่แล้ว”
มาตินี่เป็นหัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวน เขาจึงต้องสืบประวัติของทุกคนในฝ่ายให้ขาวสะอาดที่สุด แน่นอนว่าการได้รับความช่วยเหลือโดยตรงจากเขานั้นถือเป็นเรื่องดีมาก ๆ เพราะมันจะทำให้การตามสืบเรื่องการหายตัวไปของรัมง่ายขึ้น
“งั้นฉันควรไปถามความจริงจากหมอนั่น…”
“ไม่ได้!”