bc

ผู้หญิงของมาเฟียเมียอัคคีราห์

book_age18+
5.7K
FOLLOW
48.8K
READ
revenge
HE
badboy
boss
mafia
drama
bxg
brilliant
campus
like
intro-logo
Blurb

อัคคีราห์บอกว่าเกลียดชังณิชายิ่งกว่าหนูในท่อน้ำทิ้ง เขามองเธอเป็นเพียงแค่ภาระที่ต้องรับผิดชอบเพราะคำสั่งเสียของปู่ที่มีต่อ ครอบครัวอีกฝ่าย จำยอมต้องแต่งงานโดยที่ทั้งสองไม่ได้เต็มใจ ทำให้คู่รักจำเป็นในคราบข้าวใหม่ปลามันต้องมาอยู่ชายคาเดียวกัน ก่อนเรื่องราวความรักของพวกเขาที่ทั้งรักทั้งเกลียดจะเริ่มต้นขึ้น

“ถ้านายเกลียดฉันก็อย่ามาจูบ อย่ามากอด.. ไม่ต้องมาเข้าใกล้กัน”

“ทำไม”

“เพราะคนเกลียดกันเขาไม่ทำแบบนั้นไง”

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 การเจอกันครั้งแรก
บางครั้งโชคชะตาของชีวิตก็บีบให้เราไม่มีทางเลือกมากนัก.. กับบางคนอาจมองเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่กับอีกคนดันเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยาก เหมือนกับการพูดคุยเรื่องการแต่งงานระหว่างสองตระกูลอย่างเซียหลงและชีเฟิ่ง เพียงแค่เกริ่นเรื่องว่าจะต้องแต่งงานเข้าตระกูลเซียหลง ณิชาหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานปานน้ำผึ้งก็สติขาดผึ่งรีบคัดค้านหัวชนฝาทันที “หนูไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่งค่ะ” ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกจากริมฝีปากสีระเรื่อ ดวงตาคู่คมที่ดูไม่ค่อยแสดงออกทางอารมณ์ก็เปรยสายตาขึ้นมอง ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปากด้วยท่าทางน่าเกรงกลัว ในสายตาของอัคคีราห์ชายหนุ่มรูปงามวัยเพียงยี่สิบห้าปี แต่ภายในไม่ต่างอะไรจากเจ้าชายอสูรอย่างเขา มองเธอเป็นเพียงแค่สิ่งของที่ไร้ประโยชน์ในการทำธุรกิจ แต่ไม่รู้ทำไมปู่ของเขาถึงอยากให้ปกป้องผู้หญิงนี้นักหนา ไร้ค่า ไร้ราคา ไม่สมกับเขาเลยสักนิด ทว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนี้นึกคิดไม่ได้แสดงออกไป ทำเพียงแค่ยิ้มอย่างนอบน้อมให้พ่อแม่ของหญิงสาว ก่อนจะเปรยสายตามองเธอแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กๆ “ณิชานั่งลงก่อนลูก” เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยบอกกับลูกสาวที่ลุกพรวดพราดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ทำไมไม่มีใครบอกหนูก่อนเลยว่าจะคุยเรื่องนี้กัน การแต่งงานสำหรับหนูมันเรื่องใหญ่นะ.. ทำไมพ่อกับแม่ถึงทำแบบนี้ล่ะคะ” ณิชาส่ายหน้าเชิงอ้อนวอนว่าเธอจะไม่มีทางแต่งงานกับตระกูลเซียหลงเด็ดขาด “แม่เขาบอกให้นั่ง ทำไมยังยืนค้ำหัวผู้ใหญ่อยู่ได้” ประมุขของบ้านเอ่ยเชิงดุ พลางส่งสายตาให้ณิชานั่งลง “ซวยชะมัด” อัคคีราห์ขยับรูปปากเป็นประโยคให้เพียงหญิงสาวที่มองเขาเห็น เล่นเอาเธอถึงกับเบิกตาโต หันไปฟ้องพ่อกับแม่ที่ดันไม่เห็นภาพเมื่อครู่นี้เลยสักคน “ว่าไงนะ ซวยเหรอ ฉันต่างหากที่ซวย” เธอเถียงอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังต่อกรอยู่กับใคร “ณิชาเราจะหยาบคายเกินไปแล้วนะลูก” ผู้เป็นพ่อรีบปราม พลางยิ้มติดเกรงใจอัคคีราห์ที่ส่ายหน้าเชิงว่าเขาไม่ถือสาอะไร แต่เขานั่นแหละที่ร้ายสุด.. “เมื่อกี้เขาว่าหนูก่อนนะคะพ่อ” “แต่พ่อยังไม่เห็นเขาพูดอะไรเลย” บอดี้การ์ดในชุดดำด้านหลังทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วกลั้นยิ้ม จนณิชาที่เห็นก็พลอยมองขวางพวกเขาไปด้วย “นั่นน่ะสิครับ” อัคคีราห์สมทบกับพ่อของณิชา “แต่คงเป็นเพราะเธอยังเด็ก อาจจะตีความว่าการแต่งงานเป็นเหมือนหนูตกถังข้าวสารได้” “เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ” ณิชาขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจ “หนูตกถังข้าวสาร” เขาพูดเพียงสั้นๆ พลางเลิกคิ้วกวนประสาทกลับ “คิดว่าฉันอยากได้เงินงั้นเหรอ เหอะ ฉันไม่ได้ต้องการเลยสักนิด ไม่อยากเป็นหนูหรือแมวตกถังข้าวสารของนายด้วย” ณิชายืนกรานเสียงแข็ง และนั่นทำเอาชายหนุ่มถึงกับแค่นหัวเราะเสียงดังเฮอะในลำคอ ช่างกล้าดีอะไรขนาดนี้ “ฉันไม่ได้หมายความแบบที่เธอคิดเลยนะ” อัคคีราห์ส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะหันไปพูดกับท่านสาธิต “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะครับคุณอา” “นี่นาย” “หรือจะลองให้ผมคุยกับเธอก่อนดีครับ บางทีอาจจะดีกว่าก็ได้” “ไม่มีทาง” ใบหน้าคมคายที่มักจะสบถหยาบเป็นประจำ ช้อนสายตาขึ้นมองร่างเล็กที่ขมวดคิ้วแล้วแสดงทีท่าไม่พอใจออกมา เขาทำท่าเหมือนจะไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังคงแย้มยิ้มให้ชายอาวุโสและหญิงภรรยาที่เคยเป็นคู่ค้าติดต่อกันมานานอย่างนอบน้อม “พ่อว่าเรานั่งลงก่อน แล้วคุยกันให้รู้เรื่อง นี่ยังคุยกันไม่ได้ความเราก็โหวกเหวกโวยวายซะแล้ว” “หนูไม่คุยแล้วค่ะ” เธอรีบตัดบทเพราะไม่อยากทนมองสายตาของอัคคีราห์ที่มองมาคล้ายว่าดูถูกดูแคลนกัน แน่นอนว่าอัคคีราห์ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เขาแค่แสยะยิ้มมุมปากมองหญิงสาวที่ถือดีพ่นคำด่าใส่ ก่อนจะขยับสายตาเย็นเยียบมองผู้เป็นพ่อแม่ของเธอแทน “ถ้าเธอไม่อยากแต่ง ผมก็คิดว่าไม่ควรบังคับใครครับ” เขากล่าวเสียงต่ำแล้วตีหน้าเศร้า “อัคคี.. อาเคยบอกกับเราแล้วนี่ว่าอาอยากให้ใครสักคนคอยดูแลลูกสาว ถ้าไม่ใช่เรา อาก็ไม่รู้จะไว้ใจใครได้อีก” ท่านสาธิตพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด “ไว้ใจเขาเหรอคะพ่อ” “ณิชาอย่าขัดพ่อได้มั้ย” “แต่พ่อคะ..” ตระกูลชีเฟิ่งต้องการคนหนุนหลังในการทำธุรกิจ อีกทั้งเพื่อเป็นใบเบิกทางไม่ให้ใครมากดขี่ข่มเหงได้โดยง่าย แม้ว่าจะมีอำนาจมากแต่ถ้าเทียบกับตระกูลเซียหลงแล้วก็คนละชั้นเลย มีคนมากมายที่จ้องพยายามจะทำลายตระกูลชีเฟิ่ง รวมถึงเข้าหาเพราะผลประโยชน์จากการเป็นเจ้าของโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยที่พ่อกับแม่ของณิชาต้องการบารมีของตระกูลเซียหลงในการปกป้องดูแลลูกสาว รวมถึงขยายอำนาจทางธุรกิจร่วมกันอีกด้วย “คนอะไรหน้าไหว้หลังหลอก” ณิชามุ่นคิ้วมองชายหนุ่มที่ต่อหน้าพ่อแม่เธอยิ้มแย้มเหมือนเป็นมิตร ทว่ามองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าเป็นแค่ฉากหน้าบังตาเท่านั้น “ดูเหมือนว่าเธอจะทำให้เชื่อฟังยากจังเลยครับ แล้วผมก็ไม่ค่อยถนัดปราบเด็กดื้อด้วยสิ” อัคคีราห์แสร้งทำหน้ากังวลใจแล้วมองคุณหญิงพลอยไพลิน ก่อนจะขยับมองท่านสาธิตด้วยเช่นกัน “ณิชาลูก” คุณหญิงพลอยไพลินส่งสายตาอ้อนวอนให้ณิชานั่งลง หญิงสาวที่หัวแข็งไม่ยอมเชื่อฟังใครส่ายหน้าปฏิเสธ ภายในใจร้อนรนเพราะต้องแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รัก “อ่า เรื่องลงทุนที่เคยเปรยไว้.. คุณอาสาธิตยังอยากลงทุนกับผมอยู่มั้ยครับ” อัคคีราห์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า “เรื่องนั้นอายังอยากให้เราสองตระกูลร่วมงานกันอยู่นะ มันเป็นพื้นที่สร้างรายได้ใหญ่ อาคิดว่าคนมีอิทธิพลน่าจะแย่งกันเยอะ ถ้าเราได้..มันก็เป็นผลดีไม่ใช่เหรอ” ท่านสาธิตทำหน้าอ่อนใจ ถึงแม้ว่าลูกสาวจะแสดงออกว่าห้าวหาญเกินหญิง แต่ผู้เป็นพ่อย่อมรู้ดีว่าณิชายังอ่อนต่อโลกมากนัก เพราะงั้นควรมีใครสักคนที่จะคอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอได้อย่างเต็มที่ “แต่ถ้าเซียหลงไม่เข้าร่วม คุณอาจะไหวเหรอครับ” “เห้อ เรื่องนี้อาถึงหนักใจ” “ทำไมเราต้องทำเหมือนกลัวเขาด้วยคะ คนที่ไม่ให้เกียรติคนอื่น ก็ไม่สมควรได้รับการให้เกียรติเหมือนกัน” ณิชาเชิดปลายจมูกอย่างไม่เกรงกลัว แม้ว่าด้านหลังของอัคคีราห์จะมีบอดี้การ์ดที่เหน็บกระบอกปืนไว้ข้างเอวก็ตาม “เธอควรรู้บ้างว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ไม่งั้นฉันจะสั่งสอนเธอเอง” ใบหน้าคมคายเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทำให้บรรยากาศตึงเครียดในฉับพลัน “พ่อกับแม่ฉันสอนมาดี แล้วนายล่ะ พ่อแม่สอนมาแบบไหนถึงใช้สายตากับน้ำเสียงเหยียดคนอื่นแบบนั้น” ณิชาเถียงกลับทันควัน หนำซ้ำยังไม่ยอมนั่งลงตามคำสั่งอย่างว่าง่าย อัคคีราห์ขบกรามกรอดจนสติเกือบขาดผึ่ง พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้แสดงความก้าวร้าวออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่ท่าน “ในอนาคตเราต้องแต่งงานกัน.. แบบเลี่ยงไม่ได้ ฉันว่าเราควรประนีประนอมกันมากกว่าไม่ใช่เหรอ หืม” อัคคีราห์ยื่นข้อเสนอด้วยสีหน้าเฉยชา ไม่มีความเมตตาปรากฏในแววตาสักนิดเดียว “ฉันไม่มีทางแต่งงานกับผู้ชายอย่างนาย ไม่มีทาง” “ทำไงดีครับ ลูกสาวคุณอา.. ดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆ ซะด้วยหรือเราจะลองคุยกับคุณปู่ผมดูใหม่ดีครับ” เมื่อเห็นทีท่าพยศอย่างทะนงในศักดิ์ศรีตน คนอย่างอัคคีราห์ก็อยากจะเอาชนะขึ้นมา สั่งสอนให้เธอได้รู้ว่าใครกล้าต่อปากต่อคำกับเขาแบบนั้นจะต้องเจอกับอะไร ท่านสาธิตส่ายหน้าว่าไม่เปลี่ยนใจ“ณิชาพ่อบอกให้นั่งลงไง” “หนูไม่แต่งนะคะ ไม่แต่งกับเขาแน่นอนอ่ะ” “ดื้อชะมัด” “นายว่าไงนะ” “ฉันบอกว่าดื้อ” ไม่พูดเปล่าอัคคีราห์ยังไล่สายตามองณิชาตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหายใจฮืดฮาดด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากยืนกำหมัดแน่น วินาทีที่ณิชาไม่ยอมหลบแววตาคู่คม อัคคีราห์ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้เห็นเลยว่าขนาดตัวของเขากับเธอต่างกันลิบลับ อัคคีราห์ร่างสูงสง่า ดวงตาคมคายสีรัตติกาลดูลึกล้ำและอำมหิตในคราเดียวกัน แววตามาดหมายคล้ายสังหารคนที่ทำเอาณิชาเผลอก้าวเท้าถอยหลังเล็กๆ ด้วยความรู้สึกสั่นประหม่าขึ้นมา “ผมขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวได้มั้ยครับ ขอแค่สักครู่เดียวครับคุณอา” อัคคีราห์กล่าวอย่างสุภาพเชิงขออนุญาตพ่อกับแม่เธอ พลางหุบยิ้มร้ายนั่นแล้วเปรยสายตามองเธออย่างคาดโทษ ทั้งสองสามีภรรรยามองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าพร้อมกันแล้วทำตามที่อัคคีราห์ขอไว้ “ยังไงก็เอ็นดูน้องด้วยนะอัค น้องยังเด็กคงไม่รู้ประสีประสาอะไร” ท่านสาธิตเอ่ยบอก “ณิชายังเด็ก.. ยังไงก็คุยกันดีๆ นะอัคคี” ภรรยาท่านสาธิตเองสมทบ แล้วหันไปพยักหน้าให้ณิชายอมอ่อนข้อแต่โดยง่ายดีกว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมถือคติที่ว่าของสวยงามต้องไม่เป็นรอย” เขาพูดก่อนจะโน้มใบหน้ากระซิบข้างใบหูเธอ ที่มีแค่ณิชาที่ได้ยิน “แต่เหมือนจะเป็นได้แค่ของประดับ.. แค่นั้น” “ไอ้..” “ชู่ว” คนตัวสูงส่งเสียงให้เธอเงียบ ก่อนจะหันไปทางผู้ใหญ่ท่านแล้วค้อมศีรษะด้วยสีหน้านอบน้อม หลังจากท่านสาธิตกับคุณหญิงพลอยไพลินพากันเดินออกจากห้อง คนที่ปั้นหน้ายิ้มแย้มอย่างอัคคีราห์ก็แสดงตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาทันทีที่เหลือแค่เขาและเธอ “น่าสนใจดี” “อะไรของนาย” “พวกที่ปากดี.. มีแค่ลูกปืนกับอัคคีน้อยเท่านั้นแหละที่จะทำให้มันเงียบปากได้” พูดจบปลายนิ้วเรียวก็เชยคางคนตัวเล็กอย่างยั่วยวนกวนโมโห และเหมือนว่ามันจะได้ผลดีมากเสียด้วย เพราะณิชาปัดมือเขาออกในทันทีที่เขาแตะตัวเธอ “หวงตัวซะด้วย” “เหอะ” อัคคีราห์คลี่รอยยิ้มบนใบหน้าแต่แววตาแข็งก้าว ก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจมากนัก “ฉันไม่ใช่สิ่งของ” พูดจบเธอก็ฟาดฟันเขาผ่านสายตาอย่างไม่ลดละ “อย่ามาแตะต้องตามอำเภอใจ” “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ต่อให้เราได้แต่งงานกัน.. เธอก็เป็นได้เพียงแค่ของประดับตระกูลเท่านั้น” อัคคีราห์แสยะยิ้มเหยียด และแน่นอนว่าณิชาไม่มีทีท่าว่าจะยอมเขา พร้อมกับโต้กลับทันควันอย่างไม่ยอมตกเป็นรองอีกฝ่าย “งั้นฉันก็จะเป็นของประดับที่นายทำได้แค่เชยชม ไม่มีวันได้ครอบครอง”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
5.4K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.1K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.9K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook