ตอนที่ 17 เกือบพลั้งใจ

2179 Words
“ถอดรองเท้าเธอออกด้วย” เจ้าของใบหน้าคมคายสั่งกำชับเรนที่เข้ามาพร้อมบอดี้การ์ดฝาแฝดที่เป็นคนแบกณิชาขึ้นมา หลังพบว่าเจ้าตัวดื่มหนักจนเริ่มไม่มีสติ พอถอดรองเท้าส้นสูงเสร็จ คนที่สติเหลือน้อยนิดก็สะบัดข้อเท้าไปมาคล้ายว่าหงุดหงิดที่มีคนมาแตะต้องตัวเธอ ก่อนอัคคีราห์จะตัดรำคาญด้วยการตรงปรี่เข้าไปอุ้มช้อนเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง “ออกไปได้แล้ว” เขาเพยิดหน้าไปที่ประตู ก่อนทั้งสามคนจะค้อมศีรษะรับคำสั่งทันที “ค่ะนาย” “ครับนาย” แน่นอนว่าสิ่งที่อัคคีราห์คาดคิดไว้ไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย ว่าที่เจ้าสาวจำเป็นอย่างณิชาเมาจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ เธออาละวาดใส่ลูกน้องของเขาทันทีที่เจอหน้า เพราะไม่ใช่ตัวบอสอย่างอัคคีราห์ลงไปรับด้วยตัวเอง สุดท้ายเมื่อในห้องเหลือแค่เขาและเธอเรื่องราวก็จบตรงที่อัคคีราห์โยนร่างบางลงบนเตียง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายนอนคุดคู้ในสภาพกลิ่นเหล้าหึ่งไปทั้งตัว ซ้ำใบหน้ายังแดงก่ำมากอีกต่างหาก “เอาไงต่อดีวะ” อัคคีราห์ยกมือขึ้นกุมขมับ ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เขาก็เลยไม่รู้ว่าต้องรับมือกับเหตุการณ์นี้ยังไง ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้กับเขาแค่นั้นเอง “อื้อ” ณิชาส่งเสียงครางอือในลำคอก่อนจะปรือตาขึ้นมอง แต่ภาพที่เห็นพร่าเบลอจนต้องหลับตาลงเพื่อปรับโฟกัสอีกครั้ง “ตายอดตายอยากมาจากไหน” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยด้วยความอยากรู้ มือก็ยกขึ้นเสยผมอย่างหัวเสีย “อือ..” “เฮ้อ ยัยหนูท่อนี่” นอกจากเธอจะกลายเป็นภาระที่อัคคีราห์ต้องรับผิดชอบแล้ว ใบเสร็จค่าเหล้ายังยืนยันว่าเธอนั่งดื่มหนักในเวลาไม่ถึงชั่วโมงอีกต่างหาก อัคคีราห์ไม่ได้ซีเรียสเรื่องตัวเลขบนบิลค่าใช้จ่าย แต่เขาแค่อยากรู้ว่าอะไรดลใจให้อีกฝ่ายดื่มเหล้าดับกระหายแทนน้ำเปล่าขนาดนั้น “เฮ้อ” อัคคีราห์ลอบถอนหายใจอย่างเอือมระอา พลางกดสายตามองร่างอรชรในชุดเปิดเนื้อหนัง ชวนให้สายตาเผลอจับจ้องมองอย่างลืมตัว จะปฏิเสธยังไงว่าเธอในชุดวาบหวิวนี้ไม่สะกิดใจชายหนุ่มวัยอย่างเขาให้รู้สึก.. “อัคคีราห์คนเลว” ริมฝีปากสีระเรื่อพึมพำประโยคด่า แม้ว่าตาจะปิดอยู่ก็ตาม “ไม่มีคำพูดอื่นแล้วหรือไง” อัคคีราห์หรี่ตาอย่างพิจารณา สายตาไล่สำรวจอย่างถือวิสาสะบนเรือนกายที่ไม่ใช่ของตน นัยน์ตาคู่คมเป็นประกายวาบหวามเพียงเสี้ยววินาที กับภาพเบื้องหน้าที่พาให้วูบวาบหน้าท้องไปหมด ก่อนจะแสร้งกระแอมไอกลบเกลื่อนเมื่อได้ยินเสียงณิชาพึมพำขึ้นมา “ชีวิตบัดซบ” “เหอะ” “เพราะนายคนเดียวอัคคี.. พังหมดเลย” ร่างสูงสง่าสวมเสื้อเชิ้ตคอวีแหวกลึกถึงกลางอกยืนมองหญิงสาวไม่ละสายตาไปไหน ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นแต่เป็นเพราะขณะที่ณิชาพ่นคำสบถออกมา เจ้าตัวก็ปรือตาขึ้นสบมองราวกับเคียดแค้นเขามาแต่ชาติปางก่อน “ฉันเนี่ยนะทำชีวิตเธอพัง” อัคคีราห์กอดอกตอบโต้กับคนเมา หลังจากดูนาฬิกาบนข้อมือแล้วพบว่ามีเวลาเหลือเฟือเลยที่จะเล่นกับเธอ เจ้าของใบหน้าสวยสดค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ในสภาพที่หัวโอนเอนไปมาคล้ายว่าสติยังกลับมาไม่ครบถ้วน แต่ยังรู้ตัวอยู่ว่าตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับใคร ก่อนจ้องอัคคีราห์เขม็งหลังเห็นว่าเขาใช้สายตาแบบไหนมองกัน สายตาเกลียดชังแบบนั้นไง.. “นายนั่นแหละ.. พอเข้ามาทุกอย่างก็พังหมดเลย” ณิชาพูดพลางเบะริมฝีปากคล้ายคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ แต่ก็สะกดกลั้นเอาไว้ภายใต้ใบหน้าแดงระเรื่อ แอลกอฮอล์ที่แทรกซึมเข้าไปในร่างกาย ทำให้สติสัมปชัญญะในการยับยั้งช่างใจของเธอต่ำลง ยิ่งเรื่องราวที่ต้องเผชิญมันเลวร้ายแค่ไหน เธอก็อยากจะปัดความรู้สึกผิดนี้ให้อัคคีราห์รับผิดชอบ ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่เลี่ยงไม่ได้ ..เธอรู้ดี “ไม่ใช่ว่าชีวิตเธอพังก่อนที่ฉันจะเข้ามาหรือไง” “ไม่ใช่..” “งั้นเหรอ” สายตาคมกริบเลื่อนขึ้นสบประสานกับดวงตาคู่สวยที่วูบไหวไปมา ก่อนณิชาจะยกมือขึ้นปิดใบหน้าแล้วส่งเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิดใจ อัคคีราห์ปากร้ายชะมัดเลย “แล้วเมาแบบนี้จะเซ็นสัญญาถูกรึไง” หลังอัคคีราห์พูดคำว่าสัญญาออกมา คนที่อยู่ในอาการมึนเมาชั่วขณะก็รีบสะบัดหน้าเรียกสติตัวเอง “สัญญา อ่า จริงด้วย.. ฉันมาเพื่อเซ็นสัญญาข้อตกลงระหว่างเรานี่” มือบางตบเบาๆ ที่สองแก้มของตัวเอง พลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผ่อนปรนออกมาพร้อมกับคลานเข่าเข้าหาอัคคีราห์ที่ยืนอยู่ปลายเตียง ท่าทางคล้ายลูกแมวตัวน้อยกำลังคลานเข่าเข้ามาออดอ้อน สะโพกผายเคลื่อนย้ายดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในท่วงท่าล่อแหลม แต่ทว่าสายตากลับซุกซนเมื่อนั่งอยู่ตรงหน้าอัคคีราห์แล้วเขาตีหน้านิ่งไร้ซึ่งอารมณ์ใส่ ในขณะที่ชายคนอื่นพยายามจะเข้ามาทำความรู้จัก แต่อัคคีราห์กลับแสดงออกด้วยสีหน้าตายด้านใส่ มันยิ่งทำให้ณิชาหงุดหงิดใจ จะไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไงกัน “จะเอาอะไร” อัคคีราห์กดเสียงต่ำแล้วเลิกคิ้วใส่ ก่อนเผลอลอบกลั้นหายใจชั่วขณะกับท่าทางยั่วยวนอย่างเป็นธรรมชาติ ที่อีกฝ่ายแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว “เอกสาร” เธอแบมือไปตรงหน้าอัคคีราห์ ดวงตาหวานเยิ้มผลจากน้ำเมาที่ดื่มเข้าไป “เมาขนาดนี้จะเซ็นได้เหรอ” “แล้วจะเอามาให้เซ็นหรือเปล่าล่ะ..” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดส่งผลให้ใจใครบางคนอ่อนไหวครู่หนึ่ง สายตาสบมองใบหน้าสวยดูออดอ้อนขณะที่บิดตัวไปมาเล็กน้อย “จะให้เซ็นมั้ยเนี่ย” ณิชาเริ่มขึ้นเสียงใส่เพราะถูกขัดใจจากคนหน้านิ่ง แต่มันเหมือนลูกแมวที่กำลังขู่มากกว่า ไม่ได้น่ากลัวสำหรับอัคคีราห์เลยแม้แต่นิดเดียว “ไม่” เขาตอบตัดบทแบบไม่เหลือเยื่อใย ไม่ให้ความหวังด้วย “คนโกหก” เธอเบะริมฝีปากแล้วกอดอกใส่อย่างแง่งอน “ไหนบอกว่าถ้ามาจะให้เซ็นไง..” ใบหน้าคมคายมุ่นเรียวคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เพราะเธอดันโน้มตัวมาข้างหน้าทำให้เขาที่ยืนสูงกว่าเห็นเนินหน้าอกขาว “บอกว่าถ้ามาจะให้เซ็น ไม่ใช่ถ้าเมา.. แล้วจะให้เซ็น” อัคคีราห์เน้นย้ำเสียงเข้ม “งั้นก็เอามาสิ ฉันจะเซ็นให้สวยๆ เลย” “ตั้งสติให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ย” “อ่า” ณิชาก้าวขาลงจากเตียงไปยืนตรงหน้าอัคคีราห์ด้วยสองขาที่ไม่ค่อยมั่นคง จนอีกคนต้องรีบคว้าเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้นเสียก่อน “ภาระ” น้ำเสียงเชิงประชดพูดขึ้น หลังเห็นว่าต้องคอยช่วยเหลือเธอตลอด แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายออกจากอ้อมแขน แม้ว่าเธอจะทรงตัวได้แล้วก็ตาม “นายจะโกงฉันใช่มั้ยอัคคีราห์” ณิชาพูดพลางทิ้งหัวที่หนักอึ้งซุกอกเขา ก่อนจะผละออกเพื่อดึงสติแล้วจดจ่อกับสิ่งที่พาให้เธอมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้ “เปล่า” “โกงเห็นๆ” อัคคีราห์ลอบถอนหายใจหนัก “เอกสารล่ะ” ใบหน้าขาวแดงก่ำเลิกคิ้วถาม ก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีโต้ตอบอะไร “พรุ่งนี้ค่อยคุย” พูดจบเขาก็จับตัวเธอคล้ายว่าจะผละออก แต่ทว่าณิชากลับเป็นฝ่ายปฏิเสธการกระทำนั้นแทน “ไม่อาว.. จาคุยวันเน้” “นี่” อัคคีราห์ใช้โทนเสียงดังขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายที่เข้ามากอดเขาได้สติ แต่กลับกลายเป็นว่าณิชาทำหน้าเง้าหน้างอ คว่ำริมฝีปากเหมือนเด็กน้อยที่ตั้งท่าจะร้องไห้ สิ่งเดียวที่พ่อหนุ่มมาเฟียไปต่อไม่ถูก คือการดุแล้วหญิงสาวมีปฏิกิริยาแบบนี้ตอบกลับมา ถึงเขาจะชอบเด็กมากแค่ไหน แต่วิธีการรับมือเวลาเด็กร้องไห้อัคคีราห์เป็นศูนย์ทั้งหมดเลย แล้วเธอจะร้องไห้มั้ยวะ.. เป็นคำถามที่ผุดขึ้นในหัวอัคคีราห์ตลอดที่ก้มหน้าสบตาเธอ แต่ก็เหมือนว่าณิชาจะเปลี่ยนอารมณ์เป็นไม่ตอบโต้อะไร แถมยังยืนมองเขาตาปริบๆ อีกต่างหาก “ที่สอนไปวันนั้นไม่เข้าสมองเลยหรือไง” “.....” “อย่าอยู่ใกล้ผู้ชายแบบมัน.. รวมถึงฉันด้วย” ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน.. ความรู้สึกที่เหมือนมีผีเสื้อนับล้านพร้อมใจกันขยับปีก ทำเอาวูบวาบหน้าท้องทุกครั้งที่สบมองกันและกัน ณิชาที่เป็นควรจะปัดป้องกลับยืนนิ่งให้เขากอด ส่งผลให้เผลอมองเจ้าของใบหน้าคมคายนานหลายวินาที นานจนกระทั่งรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ความนุ่มหยุ่นทาบทามลงมาบนเรียวปากซะแล้ว “อึก” ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย หลังปลายจมูกโด่งสันทัดฝังลงบนแก้วขาว ขณะเดียวกันก็เริ่มขยับริมฝีปากขึ้นลง จนเธอที่ตัวแข็งทื่อเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้เล็กน้อย ทว่ามันไม่ใชการปฏิเสธ.. ใบหน้าสวยที่เห่อร้อนด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หลับตาลงแล้วผ่อนคลายร่างกายให้ไปตามอารมณ์ เธอเชิดดวงหน้าขึ้นจูบตอบอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ประสีประสานัก แต่มันกลับทำให้อัคคีราห์ใจเต้นแรงขึ้นมา การบดเบียดของร่างกายทำให้กลางกายที่เคยนอนนิ่งเริ่มแข็งตัวขึ้นมา ก่อนมือไวจะเลื่อนผ่านสะโพกผายลงไปบีบคลึงก้นกลมอย่างถือวิสาสะ “อื้อ” ณิชาส่งเสียงประห้วงในลำคอ ปลายเท้าเล็กก็เขย่งไปตามฝ่ามือของอัคคีราห์ที่ล็อคท้ายทอยเธอเอาไว้ พร้อมกับมอบจูบที่แสนดูดดื่มจนเรียวปากสีระเรื่อบวมเจ่อขึ้นมาเล็กๆ หายไปไหนแล้วคนที่บอกว่าไม่ได้พิศวาสเลยสักนิดเดียว.. ร่างสูงประคองเอวคอดกิ่วพร้อมกับเดินถอยหลังมาที่โซฟา ทรุดตัวนั่งลงโดยที่จับคนตัวเล็กให้นั่งเกยบนตัก ก่อนผละริมฝีปากออกจากกันเพื่อเว้นช่วงจังหวะให้ณิชาได้หายใจ แต่ไม่ทันไรริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากันอีกครั้ง ทว่าคราวนี้รสจูบมันยิ่งน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม เมื่อณิชาเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปจูบอัคคีราห์ก่อน ถึงจะเป็นเพียงแค่การคลึงเรียวปากอย่างไร้เดียงสา แต่อัคคีราห์ก็จัดการไล่ต้อนเธอจนคนตัวเล็กปล่อยใจให้เขาครอบครองพื้นที่บนร่างกายทั้งหมด “อึก” ณิชาผละใบหน้าออกคล้ายว่าพะอืดพะอม ในจังหวะที่มือหนาเลื่อนขึ้นบีบคลึงหน้าอกพอดี “อย่าอ้วกออกมานะณิชา” อัคคีราห์รีบยกมือทำท่าห้ามด้วยสีหน้าตกใจ มองใบหน้าสวยที่มีน้ำตารื้นคลอเบ้าแล้วตัวค้างแข็งไปชั่วขณะ เมื่อคนตรงหน้าทิ้งตัวแล้วอาเจียนลงบนไหล่ขวาเจ้าตัว “แหวะ..” “อ่า” “อึก เสียดายเหล้า” เสียงขัดใจในลำคอดังขึ้นพร้อมกับอัคคีราห์ที่ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว รีบดึงเสื้อเธอที่เปิดเผยเนื้อหนังช่วงหน้าอกเกินไปทันที แต่เหมือนว่าณิชาจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างและพร้อมทิ้งตัวนอนแล้วเรียบร้อย “ดึงเสื้อขึ้น” “อื้อ” “อยากเปิดให้คนอื่นดูหรือไงวะ” สิ้นประโยคนั้นเขาก็ใช้วิธีการเบนสายตาไปอีกทาง ก่อนที่หญิงสาวบนตักจะทิ้งตัวลงบนอกเขาแล้วเงียบไป อัคคีราห์ทิ้งตัวอย่างหมดสภาพกับการปล่อยให้หญิงสาวอาเจียนใส่ตน ทั้งที่กำลังจะเริ่มต้นเลยเถิดไปไกลมากกว่าการจูบกัน ไม่เชิงเสียดายแค่ขัดใจ.. ขัดอารมณ์ แต่พอได้สติเขาก็ถึงกับระบายลมหายใจอย่างโล่งอก เพราะไม่ชอบมีเซ็กซ์กับคนเมาที่สติไม่ครบถ้วนแบบนี้ ขืนตื่นมาได้อาละวาดจนหูขาดไปข้างแน่นอน “ตัวซวยชะมัดเลยว่ะ” เธอกลายเป็นตัวซวยที่ทำให้ใบหน้านิ่งเรียบเผยรอยยิ้มเล็กๆ บนมุมปากออกมา เมื่อกดสายตาแล้วพบว่าณิชากำลังนอนหลับปุ๋ย ผ่อนปรนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้ใบหน้าสวยนั่นดูไร้พิษภัย ตัวซวยสำหรับอัคคีราห์เลย..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD