5 : ตัวตนของเขา

1406 Words
“มีอะไร? ทำหน้าเหมือนตัวเองเสียผลประโยชน์” เจ้าของใบหน้าคมเข้มเอ่ยถามคนที่นั่งขมวดคิ้วมองกระดาษสีขาวในมือ ตอนนี้บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาที่ทั้งคู่นั่งอยู่มีเอกสารหลายแผ่นวางไว้ ซึ่งแต่ละแผ่นสโรชาอ่านมาแล้วทุกตัวอักษร “เรื่องเทคโอเวอร์กับรายละเอียดการจัดการบริษัทฉันเข้าใจค่ะ ไม่มีอะไรโต้แย้ง เรื่องที่คุณให้คนนัดวันเจรจาใหม่กับพ่อก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันต้องมีคนติดตามหรือบอดี้การ์ดด้วย” คิ้วเรียวย่นชนกันพร้อมเงยหน้าไปสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ “หรือคุณกลัวว่าฉันจะหนี” “ทำไมต้องกลัว” ริมฝีปากหนามีเคราอ่อน ๆ ปกคลุมเอ่ยพร้อมช้อนตามองสาวน้อยตรงหน้า “ยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้นอยู่ดี” ความมั่นใจในตัวเองของเขาทำสโรชาหมั่นไส้ แต่ก็ต้องทนไว้เพราะข้อตกลงของเขามันเป็นผลดีต่อกิจการของครอบครัว “ตอบให้ตรงคำถามสิคะ จู่ ๆ ก็มีใครไม่รู้มาติดตามทุกฝีก้าว คุณไม่คิดว่าพ่อแม่ฉันจะสงสัย หรือคนอื่นจะมองแปลก ๆ เหรอคะ” “งั้นจะให้ตามห่าง ๆ ก็แล้วกัน” “เหตุผลที่ฉันต้องมีบอดี้การ์ดส่วนตัวคืออะไรคะ” “คิดว่าเป็นผู้หญิงของฉันแล้วชีวิตเธอจะปลอดภัยหรือไง เธอไม่ได้เข้ามาคืนเดียวแล้วแยกย้ายเหมือนผู้หญิงคนอื่นนะ เราต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ก่อนจะเข้ามายื่นข้อเสนอให้ฉัน เธอไม่ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับฉันมาอย่างดีแล้วเหรอ” คำถามสุดท้ายทำสโรชาใจหายวาบ แต่นั่นไม่จริงเลย เธอพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาแล้วแต่ไม่เจออะไรเลยสักอย่าง ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อแล้วจะหาเจอได้ยังไง “แล้วใครคะที่คุณจะให้เป็นบอดี้การ์ดของฉัน” “คาริบจะเป็นคนดูแลเธอ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบสั้น ๆ พร้อมบุ้ยปากไปยังบานประตูที่เปิดออกพอดี ร่างสูงใหญ่กำยำในชุดสูทสีดำกำลังเดินเข้ามา “แต่คุณคาริบเป็นประธานบริษัทนะคะ” เสียงแหลมร้องท้วงด้วยความตกใจจนต้องรีบป้องปากไว้เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังเสียงดัง “ขอโทษค่ะ พอดีฉันตกใจน่ะ” สาวน้อยรีบเอ่ยก่อนจะเหลือบมองคนมาใหม่ที่นั่งลงบนโซฟาอีกตัว “ก่อนอื่นทั้งสองคนเซ็นสัญญาก่อนเถอะครับ” ท่านประธานบริษัทที่ต่อไปต้องทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย เขาเพิ่งประชุมเรื่องจะเดินหน้าเทคโอเวอร์จบไปหมาด ๆ แต่เจ้านายกลับบอกให้ยกเลิกเลยต้องรีบส่งข่าวบอกทีมงานและคณะกรรมการ ไหนจะต้องเตรียมการเรื่องเดินทางกลับประเทศอีก แล้วนี่จู่ ๆ เจ้านายเขาก็ให้ทำเอกสารสัญญาอะไรไม่รู้ขึ้นมา “ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนคิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้” คนพูดคลึงขมับไปด้วย “เรื่องนี้ว่าเจ้านายคุณเถอะค่ะ ฉันน่ะขอเจรจาดี ๆ แบบที่นักธุรกิจเขาทำกันแล้ว แต่เจ้านายคุณน่ะสิให้ฉันเอาตัวเข้าแลก” คนหน้ามุ่ยพูดขึ้นอย่างไม่อาย ใช่ว่าเธอจะรู้สึกดีที่ทำ แต่มันจำเป็นต่างหาก “อ่า ครับ… ก่อนอื่นคุณสโรชาต้องจำข้อมูลคร่าว ๆ ของท่านอาซิซให้ได้ครับ จะได้วางตัวและระวังเรื่องต่าง ๆ” คาริบยื่นไอแพดที่เปิดหน้าจอค้างไว้ให้สาวน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ “จากนั้นก็ช่วยศึกษาประเพณีและวัฒนธรรมของเราไว้สักหน่อยด้วยก็ดีครับ” “แล้วเจ้านายคุณล่ะคะ ต้องการข้อมูลของฉันไหม” ตาแป๋วมองสองหนุ่มอาหรับสลับกันไปมา แต่พอเห็นสีหน้าของทั้งคู่แล้วก็เดาคำตอบได้ไม่ยาก “อ้อ! รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉันอยู่แล้วสินะคะ” ศีรษะทุยพยักหน้าหงึกหงักเบา ๆ ขณะก้มมองข้อมูลบนหน้าจอไอแพด “มีอะไรเหรอครับ” เจ้าของไอแพดขมวดคิ้วมองเด็กสาวที่ชะงักไป “นามสกุลเจ้านายของคุณ…” ใบหน้าหวานมองหน้าอีกคนที่นั่งเอนหลังเงียบตั้งแต่คาริบเข้ามาด้วยความอึ้งปนตกใจแล้วพูดต่อ “นามสกุลคล้ายราชวงศ์เลยค่ะ…” น้ำเสียงของสโรชาเริ่มแผ่วลงเรื่อย จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมา ในหัวเริ่มประติดประต่อจิ๊กซอที่หายไปเข้าด้วยกัน หรือเพราะนามสกุลนี้กัน เธอจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับนายทุนตัวจริงไม่เจอ แม้แต่พ่อเธอที่พอมีอิทธิพลอยู่บ้างก็ยังสืบเรื่องเขาไม่ได้ “ถ้ารู้แล้วก็ดีครับ ทีนี้เรื่องบอดี้การ์ดส่วนตัวคงเข้าใจแล้วใช่ไหมครับ” ยิ่งคาริบยืนยัน ความชัดเจนนี้ก็ทำให้สโรชาเริ่มประหม่า นึกย้อนไปตอนโดนปืนจ่อหัวแล้วก็ใจหาย เกือบตายแล้วไหมล่ะ “…ค่ะ” เสียงแผ่วตอบรับขณะก้มหน้ามองจอไอแพดบนตัก พอเริ่มอ่านข้อมูลของบุคคลตรงหน้าไปได้สักพัก ก็เริ่มสรุปใจความได้ ว่าเขาคือ… ชีคอาซิซ บินอาเมียร์คาน อาลอัปซาล หรือชีคอาซิซ : เจ้าชายลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อัปซาล ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้ครองหนึ่งในเจ็ดรัฐ เจ้าของกิจการผลิตและส่งออกอาวุธ หนึ่งในผู้ถือครองบ่อน้ำมันของอาหรับ นายทุนกระเป๋าหนักที่นักธุรกิจต่างชาติอยากเข้าหา และความเข้าใจสุดท้ายของสโรชาหลังจากได้อ่านข้อมูลพวกนี้… เขาคืออูฐแก่ที่สาวน้อยสาวใหญ่ต่างหมายตา “มีข้อมูลของท่านประธานด้วยสินะคะ” สาวน้อยพึมพำขณะไล่ตามองอักษรบนหน้าจอ “ครับ เพราะผมเป็นคนที่ใกล้ชิดชีคอาซิซที่สุด การที่ได้รู้ข้อมูลกันและกันน่าจะทำให้คุณสบายใจขึ้น” คาริบ บินอาลี อาลบูลัต : ทายาทตระกูลบูลัต หนึ่งในตระกูลองครักษ์ประจำราชวงศ์อัปซาล มือขวาของชีคอาซิซ ประธานบริษัทฯ อาเมียร์คาน ซูเปอร์คาร์ เป็นผู้ครอบครองอสังหาฯ ลำดับ 7 ของอาหรับเอมิเรตส์ และข้อมูลสุดท้ายที่สโรชารู้มาจากพี่ ๆ ในแผนกที่เธอฝึกงานก็คือ คาริบเป็นผู้ชายที่มีคำขอนัดดูตัวมากที่สุดพอ ๆ กับเม็ดทรายในสะฮารา เขาคือเจ้าของฉายาสามีแห่งชาติ ทว่าสโรชาไม่รู้เรื่องนี้เพราะสเปคเธอคือหนุ่มฝรั่งหัวทอง เลยไม่ได้สนใจส่องหนุ่มฮอตของดินแดนอื่น “ถ้างั้น… ฉันต้องใช้ราชาศัพท์กับคุณไหมคะ” ดวงตากลมมองเจ้าของกรอบหน้าคมด้วยความประหม่า บรรยากาศน่าเกรงขามรอบตัวคนตรงหน้า ทำให้สโรชายิ่งทำตัวไม่ถูกหลังจากได้รู้ตัวตนของเขา “ไม่ต้อง” เสียงทุ้มตอบสั้น ๆ “ทีนี้ก็ไปได้แล้ว” คนที่หยัดกายลุกเอ่ยปากไล่ ฝ่ายคาริบได้ยินแล้วก็รีบออกไปเพราะเขาอยากพักเต็มที “แล้วคุณจะกลับมาเมืองไทยอีกเมื่อไรคะ” “ทำไม? กลัวฉันไม่รักษาสัญญาเหรอ” ชีคหนุ่มมองดวงหน้าน้อยที่เก็บความกังวลไม่อยู่ด้วยความรู้สึกสนุก “ประมาณนั้นค่ะ” “ฉันรักษาสัญญาเสมอ” ร่างกำยำเดินเข้ามาโน้มตัวลงแล้วกักขังร่างน้อยที่ยังนั่งอยู่เอาไว้ด้วยสองแขน “เธอเองก็รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี เพราะจากนี้ไปจนกว่าจะครบหนึ่งปี คนที่ทำตำหนิบนตัวเธอได้คือฉันคนเดียว” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็กจนร่างน้อยขนลุกซู่ “ฉันเองก็เป็นคนรักษาสัญญาเหมือนกันค่ะ” “ก็ดี” ชีคหนุ่มยืดกายตรงอีกครั้งแล้วหมุนตัวเดินออกไป ทว่าได้เพียงสองก้าวก็ต้องชะงักไว้เมื่อนึกบางอย่างออก “ตำหนิที่ว่าไม่ใช่แค่ตัว แต่หมายถึงหัวใจด้วยเข้าใจหรือเปล่า” “…เรื่องนี้ฉันรู้ค่ะ” เธอหลับนอนกับเขาแล้วจะให้คบหาชายอื่นได้ยังไง ทำแบบนั้นก็เหมือนนอกใจผู้ชายที่คบกับเธอน่ะสิ “ถ้ารู้แล้วก็เว้นระยะห่างจากพนักงานผู้ชายด้วย” “คะ?” “มีรายงานว่าเธอเนื้อหอม” ว่าจบก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้สโรชายืนอึ้งกับประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน นี่เพิ่งเจอกันวันแรกเขาก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอแล้ว “จะบ้าตาย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD