3 : เซ็นสัญญา

1242 Words
“ฉันจะยกเลิกการเทคโอเวอร์โรงแรม แล้วมาเทคโอเวอร์เธอแทน โอเคไหม” “…คะ?” สโรชาหน้าแดงก่ำ สองมือเล็กกำกันแน่นเมื่อได้ยินข้อเสนอของเขา ในใจสับสน ไม่รู้ว่าควรโกรธหรือต้องรู้สึกยังไง “ถ้าไม่สนใจก็กลับไปทำงานซะ วันนี้ฉันต้องเตรียมตัวออกไปข้างนอก” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ ร่างใหญ่เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้โซฟาตัวสีน้ำตาลเข้มตามเดิม สองตาคมจ้องมองมายังร่างน้อยที่ยืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงประตูดังขึ้นเรียกสติร่างน้อยให้กลับคืนมา สโรชาสบตากับเจ้าของร่างใหญ่อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไร เสียงคนที่เปิดประตูเข้ามาก็ดังขึ้น “ท่านอาซิซ เหมือนว่าเราต้องส่งตัวแทนไปแล้วล่ะ…” ภาษาอาหรับดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของคนมาใหม่ ร่างใหญ่เงียบลงแค่นั้นเมื่อเห็นคนแปลกหน้ายืนอยู่ในห้อง เขาจำได้ว่าเมื่อเช้าหญิงสาวที่เข้ามาดูแลเจ้านายไม่ใช่คนนี้ สองตาสีเข้มหันไปสบตากับเจ้านายราวกับต้องการคำตอบ “มีเรื่องอะไร” คนถูกถามด้วยสายตาไม่ยอมตอบแต่เอ่ยถามเรื่องอื่นแทน สโรชายืนมองสองหนุ่มด้วยความประหม่า เธอไม่รู้ว่าควรออกไปหรือต้องอยู่รอคุยกับเขาก่อนดี แต่ที่รู้ตอนนี้คือผู้ชายที่เข้ามาใหม่มีตำแหน่งประธานบริษัทฯ และเป็นคนที่ไปเจรจากับพ่อเธอรอบแรก “ท่านประธานาธิบดีมีเรื่องด่วนครับ” ผู้เป็นมือขวาเอ่ย “เราต้องบินคืนนี้เลย” ประโยคนี้ทำสโรชาตัวเย็นวาบเพราะฟังออก ถ้างั้นเขาก็ต้องกลับประเทศโดยที่ไม่ได้เจอพ่อเธอน่ะสิ “งั้นก็ส่งตัวแทนไป เรื่องอื่นก็ให้คุณหญิงจัดการ มันเป็นโรงงานเล็ก ๆ น่าจะไม่ยุ่งยาก” ร่างกำยำในชุดคลุมมิชลาฮ์สีดำหยัดกายลุก สองตาคมเหลือบมองร่างน้อยที่ยืนทำหน้าเป็นกังวลอยู่แล้วยิ้มมุมปากเบา ๆ เขารู้ว่าเธอฟังออก “ฉันต้องกลับบ้านแล้วสิ พ่อของเธอคงไม่ได้เจรจาใหม่แล้วล่ะ สโรชา” ประโยคสุดท้ายที่เอ่ยชื่อเธอทำให้กายบางชาวาบ “งั้นผมไปแจ้งกำหนดการอย่างอื่นให้คุณหญิงก่อนนะครับ” ผู้เป็นมือขวาเอ่ยพร้อมมองเจ้านายกับสาวน้อยแปลกหน้าสลับกันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก “เออ คาลิบ…” / “ขะ ขอฟังก่อนได้ไหมคะ” เสียงทุ้มเรียกมือขวาคนสนิทเมื่อนึกงานที่จะสั่งออก แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อเสียงตะกุกตะกักของสาวน้อยเบื้องหน้าดังแทรกขึ้นเสียก่อน “ครับ?” “ไม่มีอะไร ออกไปให้หมด ยกเว้นเธอ” เจ้านายหนุ่มโบกมือไล่ลูกน้องคนสนิทและบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนขนาบประตูก่อนจะหันไปกระตุกยิ้มร้ายใส่สาวน้อยตรงหน้า “เหมือนว่าวันนี้ท่านอาซิซจะยิ้มบ่อยนะครับ” ผู้เป็นมือขวาเอ่ยขณะปรายตามองหญิงสาวก่อนจะเดินออกจากห้องไป “ถึงจะเป็นรอยยิ้มร้าย ๆ ก็เถอะ” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วปิดประตูลง “ก็มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นนี่” เจ้านายหนุ่มเหยียดยิ้มขณะตอบคำถามของลูกน้องที่ปิดประตูหนีไปแล้ว “ใช่ไหมสโรชา” ประโยคถัดมาเอ่ยกับสาวน้อยเบื้องหน้า “…ที่คุณบอกน่ะค่ะ ว่าจะเจรจากับฉันแทนพ่อ ฉันขอฟังรายละเอียดก่อนได้ไหมคะ” แม้ในใจจะรู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร แต่สโรชาก็ต้องการความชัดเจน “เอาโรงแรมเธอคืนไป แล้วเอาตัวเธอมาให้ฉัน” คนถูกถามตอบสั้น ๆ แต่ความหมายนั้นชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้าพร้อมเชยคางมนขึ้นให้สบตาด้วย “เป็นไง? ง่ายใช่ไหม ข้อเสนอของฉัน” “…” เรียวปากสวยเม้มหนีนิ้วมือใหญ่ที่วาดวนและบดขยี้ลงมาเบา ๆ แรงกดจากปลายนิ้วเริ่มหนักขึ้นเมื่อคนถามยังไม่ได้คำตอบ สโรชายืนข่มความประหม่าเอาไว้เพราะร่างใหญ่เริ่มเดินเข้ามาใกล้จนลำตัวด้านหน้าแนบชิดกัน และนั่นทำให้ดวงหน้าน้อยร้อนวาบเพราะลมหายใจของคนที่ก้มมองเธอเป่ารดลงมา “ให้ทำเหมือนผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ” เชิดหน้าถามเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามในอก ทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น ทั้งประหม่ากับคำตอบ “ทำมากกว่านั้นสิ โรงแรมเธอมูลค่าไม่ใช่ถูก ๆ นะ” สองตาคมมองคนตรงหน้ายืนตัวสั่นระริกราวกับนกน้อยตกจากรัง มองริมฝีปากอิ่มที่เขาเกลี่ยเล่นจนบวมเป่งอย่างพึงพอใจ “ต้องนอนกับคุณนานแค่ไหนคะ” ตาแป๋วมองใบหน้าคมเข้มพร้อมกับเม้มปากเข้าหากันเมื่อเป็นอิสระจากมือใหญ่แล้ว “หนึ่งปี” “…เรียกร้องอย่างอื่นเพิ่มอีกได้ไหมคะ” “เอาสิ” ร่างใหญ่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะตวัดวงแขนแกร่งเข้าหาร่างน้อย คนถูกอุ้มกระเตงแบบไม่ทันตั้งตัวเผลอกรีดร้องออกมาแต่ก็ยอมอยู่นิ่ง ๆ เมื่อร่างใหญ่พามานั่งบนโต๊ะทำงาน “อยากได้อะไรล่ะ” เสียงทุ้มถามขณะโน้มตัวเข้าหาคนบนโต๊ะและกักขังเธอไว้ด้วยสองแขนแกร่ง “อย่าให้พ่อกับแม่รู้เรื่องนี้ได้ไหมคะ” “อือ ฉันเองก็ไม่ชอบความวุ่นวายเหมือนกัน” เสียงทุ้มตอบรับขณะเดินเข้าไปยืนแทรกกลางหว่างขาสาว “อ๊ะ!” พลันนั้นกระโปรงทรงเอตัวน้อยก็ร่นขึ้นจนเห็นแพนตี้สีชมพูอ่อนลายลูกไม้ มือเล็กรีบดึงชายกระโปรงลงทว่ามือใหญ่กว่ากลับปัดออก “อย่าสิ ฉันกำลังเช็กเอกสารอยู่” เขาว่าขณะหลุบตามองต้นขาขาวเนียนโดยไม่สนเลยว่าใบหน้าน้อยจะแดงก่ำเพราะความอาย “แค่นี้เหรอ” เสียงทุ้มถามต่อขณะช้อนตามองดวงหน้าน้อย “ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ ไว้ทยอยบอกได้ไหมคะ ฉันไม่เรียกร้องในสิ่งที่ทำให้คุณเดือดร้อนหรอก” “อือ งั้นก็เซ็นสัญเลยนะ” ว่าจบกลีบปากหนาก็โน้มเข้ามาใกล้แต่สโรชาไวกว่า สาวน้อยดันใบหน้าคมเอาไว้เสียก่อน “อะไรของเธอ?” “จะเริ่มวันนี้เลยเหรอคะ” “ก็ฉันต้องบินคืนนี้แล้ว ไม่ให้เริ่มตอนนี้แล้วจะเริ่มตอนไหน” เขาพูดถูก… “งั้นคุณไปอาบน้ำก่อนได้ไหม” “ทำไม?” “ก็คุณเพิ่งนอนกับผู้หญิงคนนั้นมานี่คะ” “ไม่ได้นอน แค่เรียกมาคุกเข่าเฉย ๆ” “งั้นก็ไปแปรงฟันก่อนค่ะ ฉันไม่อยากจูบต่อจากคนอื่น” “ไม่ได้จูบด้วย ฉันไม่จูบผู้หญิงที่ทาลิปสติก มันสกปรก” “แต่ฉันก็ทาลิปสติกนะคะ” สโรชาชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความไม่เข้าใจคนตรงหน้านัก “ฉันลบออกแล้ว” คราวนี้เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นให้เธอดู ปลายนิ้วใหญ่มีคราบลิปสติกสีชมพูอ่อนติดอยู่ “ทีนี้ก็เซ็นสัญญาได้สักทีนะ” มุมปากหนากระตุกยิ้มร้ายให้สาวน้อยตรงหน้าก่อนจะรั้งท้ายทอยบางเข้าหาแล้วทาบจูบหนัก ๆ ลง “อื้อ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD