หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…
“พรีมไปแล้วนะคะ ต่อไปแม่กับพ่อไม่ต้องรอกินมื้อเย็นแล้วนะ ช่วงนี้ที่ออฟฟิศเตรียมเปิดตัวซูเปอร์คาร์ใหม่ พรีมอาจกลับช้าเพราะต้องอยู่ช่วยเตรียมงาน” เสียงหวานเอ่ยกับแม่ที่ออกมายืนส่งหน้าบ้าน ส่วนพ่อออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว
“จ้ะ ต่อไปพ่อกับแม่เองก็จะยุ่งมากขึ้นเหมือนกัน น่าจะไม่มีเวลาให้พรีมด้วยเพราะบริษัทฯ อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง พรีมต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก”
“รับทราบค่ะ แม่กับพ่อไม่ต้องห่วงพรีมนะ แล้วก็ต่อไปไม่ต้องให้คนขับรถไปรับไปส่งแล้วนะคะ พรีมอยากลองใช้ชีวิตแบบพนักงานออฟฟิศดูค่ะ ว่าจะเริ่มตั้งแต่เย็นนี้เลย” สาวน้อยส่งยิ้มให้แม่ก่อนจะเดินขึ้นรถที่คนขับเปิดประตูรออยู่
“ลองใช้ชีวิตพนักงานอะไรล่ะ ลุงอูฐคนนั้นให้บอดี้การ์ดมาคอยตามประกบต่างหาก” ร่างน้อยเอนตัวลงเบาะอย่างคนหมดแรง ดีหน่อยที่ลีมูซีนคันงามมีกระจกกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร คนขับรถเลยไม่เห็นท่าทางของคุณหนูในตอนนี้
“ชีวิตพนักงานออฟฟิศมันมีอะไรให้น่าทดลองกัน แม่ก็ไม่เอะใจเลย สงสัยคงจินตนาการว่าลูกสาวกำลังโตแล้วแน่เลย ฮือ” สองขาเรียวชูขึ้นเหนืออากาศแล้วถีบทึ้งไปมาราวกับเด็กน้อยเมื่อนึกถึงข้อความที่ได้รับจากเบอร์ปริศนาเมื่อเช้านี้
‘ฉันถึงไทยแล้ว ต่อไปคนของฉันจะเริ่มทำหน้าที่ดูแลเธอ ส่วนเธอก็เริ่มทำหน้าที่ดูแลฉันด้วย’
“อีตาอูฐแก่โรคจิต!” ใบหน้าหวานบูดบึ้งอย่างอารมณ์เสีย ยิ่งนึกถึงวันแรกที่เจอเขาและถูกรุกล้ำพื้นที่สงวนแล้วก็ยิ่งโมโห พอคิดว่าวันนี้ต้องเจอเรื่องแบบนั้นอีกก็ใจคอไม่ดี “ถ้าหล่อจะไม่ว่าเลย อย่างน้อยก็ต้องหล่อและตรงสเปคด้วยสิถึงจะมีอารมณ์ร่วม แต่นี่…” เขาไม่ใช่สเปคเธอ คนหล่อสำหรับเธอคือคนที่ตรงสเปคเท่านั้น
@บริษัท อาเมียร์คาน ยูเออี ซูเปอร์คาร์ จำกัด
“เด็กฝึกงานบริษัทเรานี่รวยใช่เล่นเลยนะ นั่งลีมูซีนมาทำงานทุกวัน” เสียงคุยกันแบบไม่สนว่าคนถูกเอ่ยถึงจะได้ยินหรือไม่ดังขึ้นขณะสโรชาเดินเข้าไปประจำที่นั่ง
“รวยไม่รวยไม่รู้ แต่ส้นสูงที่ใส่กับกระเป๋าที่สะพายก็หลายแสนเลย” สาวออฟฟิศนางหนึ่งปรายตามองสโรชาแล้วก็หันไปคุยกับเพื่อนต่อ พวกเธอกำลังนั่งเติมแป้งและแต่งหน้ากันอยู่ที่โต๊ะตัวเอง
“แต่เดี๋ยวนี้คนไม่รวยก็ใช้ของแพง ๆ แบบนั้นได้นะ ถ้ามีคนเลี้ยงน่ะ” ประโยคค่อนแคะกระแนะกระแหนจากกลุ่มพนักงานสาวที่ไม่ค่อยยินดีเวลามีเด็กฝึกงานสวย ๆ เข้ามายังดังไม่เลิก ส่วนคนถูกพูดถึงน่ะเหรอ
ก็จริง… ถ้าจะใช้ของพวกนี้ก็ต้องรวย ถ้าไม่รวยก็ต้องมีกำลังซื้อประมาณหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องมีคนเลี้ยง เพราะเธอเองก็มีพ่อแม่คอยเลี้ยงดูเหมือนกัน สาวน้อยนั่งเขี่ยโทรศัพท์มือถือรองานจากรุ่นพี่ในแผนกเงียบ ๆ ไม่ได้สนใจอะไร
“น้องพรีมเปลี่ยนกระเป๋าอีกแล้วเหรอ” เสียงหวานของพี่หญิงดังขึ้นพร้อมร่างอรชรเดินหอบเอกสารปึกหนาเดินมาหาเธอ
“อ้าว พี่หญิงสวัสดีค่ะ” สโรชารีบลุกขึ้นทักทายพี่คนสวย พี่หญิงคือพนักงานไม่กี่คนที่ใจดีกับเธอ เพราะส่วนมากเด็กฝึกงานจะไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนัก “ค่ะ พอดีเห็นว่าเพิ่งออกใหม่ พรีมก็เลยรีบไปสอยมา” ความภูมิใจของผู้หญิงก็คือการได้อวดอะไรแบบนี้และมีคนชมว่าของที่เรามีมันสวยมันจึ้งนี่แหละ คนหนึ่งชอบแต่ไม่มีกำลังซื้อ อีกคนชอบแต่มีกำลังซื้อเลยคุยกันถูกปากเหมือนแชร์ประสบการณ์กัน
“แต่สวยจริงนะ พี่ชอบ ถ้าราคาไม่แรงก็น่าจัดสักใบอยู่”
“พี่หญิงเป็นถึงผู้ช่วยเลขาของบริษัทซูเปอร์คาร์เลยนะ ราคาแค่นี้จิ๊บ ๆ อยู่แล้ว แหม” หนึ่งในพนักงานสาวกลุ่มเดิมเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของสโรชาคุยกัน
“ใช่ ๆ เด็กฝึกงานอย่างน้องพรีมยังสอยได้เลย พี่หญิงก็อย่าน้อยหน้าสิ”
“แต่ก็แปลกอยู่น้า น้องพรีมยังไม่ทำงานเลยแต่ค่าครองชีพสูงเวอร์ มีคนเลี้ยงปะเนี่ย” คำถามทีเล่นทีจริงแต่แฝงไปด้วยความอยากเผือกเรื่องชาวบ้านทำให้สาว ๆ ทั้งแผนกหูผึ่ง ยิ่งผังโต๊ะทำงานเป็นแบบเรียงแถวตรงและหันหน้าเข้ากันแล้วก็ยิ่งง่ายต่อการฟังเรื่องชาวบ้าน
“ใช่ค่ะ” คนถูกถามพยักหน้ารับอย่างไม่อาย ทำคนทั้งแผนกเหวอกันเป็นแถบ “ตอนนี้พรีมให้พ่อกับแม่เลี้ยงอยู่ค่ะ ถ้าเริ่มทำงานแล้วจะเลี้ยงพ่อกับแม่คืน” ประโยคถัดมาทำพนักงานในแผนกถอนหายใจพร้อมกันดังพรืด พวกเขาก็คิดเป็นตุเป็นตะไปอีกอย่าง แต่พี่สาวกลุ่มเดิมก็ยังถามไม่เลิก
“พี่ขอถามได้ไหมคะว่าพ่อแม่น้องพรีมทำงานอะไร เผื่อพี่จะไปทำบ้าง อยากลองใช้ชีวิตแบบค่าครองชีพสูง ๆ ดู”
“พ่อทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ ส่วนแม่เมื่อก่อนเป็นผู้ช่วยพ่อ แต่ตอนนี้อยู่บ้านเฉย ๆ แล้วค่ะ”
“หืม ธุรกิจส่วนตัวนี่อะไรคะ บ้านพี่ก็ทำนะแต่ไม่เห็นรวยเลยอะ พ่อเป็นได้แค่เสี่ยระดับตำบลเฉย ๆ”
“อืม…” ใบหน้าหวานครุ่นคิดขณะนิ้วชี้เรียวจิ้มแก้มตัวเองจนบุ๋มลงแล้วเอ่ยต่ออย่างอารมณ์ดี “พี่ทรายลองให้พ่อทำธุรกิจเหมือนพ่อพรีมดูก็ได้ค่ะ ลองมาเปิดโรงแรมกับทำอสังหาฯ ดูสิคะ พ่อพรีมเคยบอกว่าลงทุนครั้งแรกแค่สี่สิบกว่าล้าน ตอนนี้ต่อยอดได้กำไรหลักพันล้านเลยค่ะ” ถ้าผู้ถือหุ้นไม่หักหลังกับไม่มีคู่แข่งมาขัดขาก็ไม่มีปัญหาอะไร ประโยคสุดท้ายสาวน้อยนึกในใจไม่กล้าเอ่ยออกมา กว่าจะมีวันนี้ได้พ่อกับแม่ของเธอใช้เวลาสร้างร่วมยี่สิบปี แค่คิดว่าจะถูกขโมยทุกอย่างไปก็หัวร้อนแล้ว
“เดี๋ยวนะ นี่น้องพรีมมีธุรกิจโรงแรมด้วยเหรอคะ พี่หญิงเพิ่งรู้เลยนะเนี่ย” ผู้ช่วยเลขายังไม่ไปไหน การจับกลุ่มเมาส์ก่อนเริ่มงานถือเป็นอาหารจานหลักยามเช้าของสาวออฟฟิศ หญิงสาวเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าจะมีลูกคุณหนูมาฝึกงานในบริษัทฯ ที่ตัวเองทำงานอยู่ ปกติแล้วลูกหลานนักธุรกิจจะฝึกงานในบริษัทฯ ตัวเองกัน
“ค่ะ โรงแรมกับธุรกิจอสังหาฯ ที่อยู่ในเครือกาดีร์ เป็นของครอบครัวพรีมเองค่ะ”
“…” สรุปก็คือ โรงแรมดังหลายแห่งในกรุงเทพฯ ที่ค่าห้องคืนละหลายแสน เดือนละหลายล้าน เป็นของพรีมเองค่ะ นี่คือสิ่งที่ทุกคนในแผนกแปลได้จากคำตอบของสาวน้อย
เมื่อข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าครองชีพของเด็กฝึกงานหายไป บรรยากาศในแผนกก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง บวกกับถึงเวลาเข้างานแล้วเลยแยกย้ายกันไปประจำที่
อีกด้านหนึ่ง...
“เหมือนจะไม่รู้ว่าถูกคนอื่นหมั่นไส้นะครับ ไม่รู้ด้วยว่าโดนแขวะ” คาริบพูดกับเจ้านายขณะยืนกอดอกมองหน้าจอขนาดใหญ่ที่กำลังฉายภาพโซนหนึ่งของออฟฟิศ
“ก็นายบอกเองนี่ ว่าเด็กคนนี้เหมือนโตมาในทุ่งลาเวนเดอร์ มองอะไรก็คงเห็นเป็นดอกไม้นั่นแหละ” ชีคหนุ่มกระตุกยิ้มเบา ๆ ขณะมองภาพสาวน้อยบนหน้าจอ “หรือไม่ก็อาจจะรู้แต่แสร้งไม่รู้แล้วหาทางตลบหลังอยู่ก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยต่อขณะดวงตาคมจับจ้องไปที่ต้นขาขาวเนียนของคนที่นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าเล่น
“งั้นก็หายห่วงนะครับ เพราะต่อไปคุณสโรชาคงมีข่าวลือแปลก ๆ กับท่านอาซิซ” แค่หญิงสาวที่เข้ามาดูแลเจ้านายเขาแบบชั่วครั้งชั่วคราวยังโดนมองด้วยสายตาแปลก ๆ และถูกพูดถึงด้วยเรื่องเสื่อมเสียมากมาย แล้วสโรชาที่เป็นเด็กฝึกงานในบริษัทฯ ล่ะจะเหลืออะไร
“ว่าแต่ท่านอาซิซให้คนเตรียมโต๊ะทำงานในนี้ทำไมครับ” องครักษ์หนุ่มหันไปมองมุมหนึ่งของห้องแล้วก็สงสัย ทันทีที่เดินทางกลับถึงเมืองไทย นายเหนือหัวของเขาก็ให้จัดโต๊ะทำงานในห้องเพิ่มอีกตัว
“เอาไว้ให้เด็กฝึกงาน”
“ห๊ะ เด็กฝึกงานจะมาทำอะไรในห้องนี้ครับ”
“ก็ฝึกงานน่ะสิ หนุ่มพรหมจรรย์อย่างนายจะไปรู้อะไร”
“…” คิ้วเข้มขององครักษ์หนุ่มเลิกขึ้นเมื่อเริ่มนึกอะไรออก “เรื่องสิบแปดบวกเหรอพะยะค่ะ”
“อย่าใช้ราชาศัทพ์ได้ไหม มันคันหู”
“ถ้างั้นผมไปทำงานต่อนะครับ ท่านอาซิซก็อย่าออกไปไหนโดยไม่แจ้งผมล่ะ”
“วันนี้เราไม่ออกไปไหนหรอก แล้วก็อย่าให้ใครเข้ามาด้วย” มุมปากหนากระตุกยิ้มร้ายเบา ๆ ขณะดวงตาคมยังจับจ้องไปที่ร่างน้อยบนหน้าจอ “ออกไปแล้วให้คนไปตามเด็กฝึกงานมาหาเราด้วยนะ ต่อไปนี้ที่ประจำของเธอคนนั้นคือตรงนี้ ฝากบอกด้วย”
“ครับ”