เช้าวันรุ่งขึ้นเลอมานกับโศรดาก็ออกเดินทางไปกาญจนบุรีกันตอนแปดโมงเช้าทั้งที่ตั้งใจจะไปตอนสิบโมงแต่พี่ชายโทรมา บอกว่าจะมีทัวร์ต่างชาติลงกลุ่มใหญ่สี่สิบคนจะมาถึงตอนเที่ยงและรับไม่ไหวเพราะเขามีไกด์มาแค่คนเดียวคนดูแลไม่ทั่วถึงจึงขอให้ทางรีสอร์ทช่วย และเป็นทัวร์จาก บุษบา แทรเวิลฯ ของบูรณินและไกด์ก็รู้จักกันดีช่วยเหลือกันมาตลอดเลอมานจึงตัดสินใจกลับตอนเจ็ดโมงเช้า
“ทัวร์แกเข้าทุกวันเลยนะแพม รีสอร์ทของฉันก็พอมีแขกมาพักนะแต่สู้ของแกไม่ได้เลย” โศรดาชื่นชมเพื่อนและลูกพี่ลูกน้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันและทำงานร่วมกันได้ดีส่วนครอบครัวของเธอน่ะเหรอมีแต่ใช้เงินกันเก่งๆทั้งนั้นจ้องจะเอาแต่สวนแบ่งพอขาดทุนไม่เห็นมีใครมาช่วยก็พ่อของเธอดันเป็นพี่คนโตนี่เลยปวดหัวจนบ่นจะขายทิ้งและไม่ได้อิจฉาเลอมานที่ได้งานกับบูรณินหากไม่ดีจริงก็อยู่ไม่ได้แต่นี่มีแขกเข้าพักเต็มทุกวัน
“แกก็โปรโมตสิโศ ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัด เสนอขายโปรให้บริษัททัวร์โรงแรมไม่งั้นแกก็ลงเวปทั้งหลายแหล่เก็บรวบรวมภาพเหมือนจริงลงโปรโมตรับรองว่าไปได้สวย ลูกค้าบางคนก็จองผ่านเวปช่วงนี้ลูกค้าทางแอปจะเยอะขึ้น ปกติห้องพักที่รีสอร์ทจะแบ่งให้โรงแรมยี่สิบเปอร์เซ็น จองผ่านแอปยี่สิบเปอร์เซ็น สำรองไว้สิบเปอร์เซ็น จองตรงกับรีสอร์ทว็อคอินเข้ามาห้าสิบเปอร์เซ็น แกลองทำแบบนี้ก่อนสิ เดี๋ยวค่อยคุยกับพี่ธานรายนั้นเขาโปรโมทเก่ง.” เลอมานบอกเพื่อน
ปกติโศรดาไม่เคยปรึกษาเรื่องงานหลังจากเพื่อเข้าไปช่วยงานของพ่อเต็มตัวทำให้รู้ว่าขืนยังทำระบบเดิมก็จะไปต่อไม่ได้ทำให้เธอคิดถึงเพื่อนและมาเห็นที่ ริมแคว รีสอร์ท แอนด์ จังเกิล ปาร์ค จึงอยากลองทำ
“พี่แกจะไม่กัดฉันเหรอนังแพม” โศรดาคิดถึงหนุ่มหล่อหน้าดุผิวเข้มรูปร่างบึกบึนพี่ชายของเพื่อนรักแล้วทำหน้าสยองคนอะไรดุเป็นบ้าแค่เธอเผลอไปแตะดอกกล้วยไม้นิดเดียวเองก็เอ็ดตะโรเธอดังลั่นสวนหลังจากวันนั้นโศรดามาหาเพื่อนทีไรก็พยายามหลีกเลี่ยงวิธานมาตลอด
“นี่นังโศ พี่ธานไม่ใช่แมวนะยะถึงจะกัดแก” เลอมานขำเพื่อนที่ยังจำฝังใจเรื่องพี่ชายเอ็ดตะโรใส่ที่ไปยุ่งกับดอกกล้วยไม้แสนรักแสนหวงของเขาที่กำลังออกดอกหลังจากรอมาถึงห้าปี
“คนอะไรพูดแต่ละทีเสียงดังยังกะฟ้าผ่า แกทนได้ยังไงอ่ะแพม”
“อันนั้นเขาเรียกว่าเอ็ด ใช่พูดที่ไหนกันล่ะแก ปกติพี่ธานก็ไม่ได้พูดเสียงดังนี่นาแกคิดไปเองน่ะสิ” สองสาวคุยกันไปจนถึงรีสอร์ทเวลาสิบโมงยังมีเวลาเตรียมตัวรอรับคณะทัวร์ฝรั่งที่จะมาพักสองคืนสามวัน
รถกระบะสี่ประตูแล่นเข้าไปจอดที่โรงรถข้างบ้านของเลอมานที่เป็นบ้านไม้กึ่งปูนชั้นบนมีสี่ห้องนอนตรงกลางเป็นห้องโถงโล่งๆทะลุมีระเบียงยื่นออกไปด้านหลังมองเห็สวนกล้วยไม้มีโซฟารับแขกหนึ่งชุดและตั่งอีกสองตัวตั้งชิดผนังห้องนอนที่อยู่ฝั่งละสองห้องมีห้องน้ำอยู่ในตัวทุกห้องมีตู้เย็นและบาร์เครื่องดื่มเล็กสำหรับน้ำชากาแฟ ชั้นล่างก็มีห้องนอนสองห้องห้องรับแขกห้องกินข้าวห้องครัวอยู่ด้านหลังซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานเพราะอาหารจะมาจกครัวบ้างใหญ่และด้านนอกก็มีโต้ะเก้าอี้ไม่สองชุดตั้งอยู่หน้าบ้านและใกล้บันไดที่มีนำตกจำลองสูงหนึ่งเมตรมีร่มกางคลุมกันแดดกันฝน ห่างไปแปดสิบเมตรก็เป็นบ้านใหญ่ที่คุณย่ากับลุงนิคและครอบครัวฝั่งขวาของบ้านใหญ่ก็เป็นบ้านของลุงคมที่ติดสวนกล้วยไม้ ตอนเด็กๆเธออยู่บ้านใหญ่พอโตขึ้นก็อยากมาอยู่บ้านของตัวเองและมาอยู่จริงๆก็ตอนเรียนจบกลับมาทำงานที่บ้าน ฝั่งซ้ายบ้านของเธอก็อยู่ติดเขตของรีสอร์ทและห้องนอนของเธอก็ขยายออกไปอีกเท่าตัวและเป็นห้องกระจกหากเปิดผ้าม่านก็จะเห็นรีสอร์ทชัดเจนอีกฝั่งหลังบ้านก็เห็นสวนกล้วยไม้และเธอชอบมาก
“ไปไหว้คุณย่ากันก่อนนะโศ จะได้กินข้าวที่บ้านใหญ่เลยเดี๋ยวแขกมาเราจะไม่มีเวลากินเพราะแกต้องไปทดลองงานกับแพม” หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จเลอมานก็ชวนเพื่อไปไหว้ย่า
“ค่ะเจ้านาย จะใช้งานอะไรดิฉันก็บอกมาได้เลยค่ะ” โศรดาล้อเพื่อนแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินไปบ้านทรงไทยหลังใหญ่ที่ใหญ่จริงเป็นบ้านทรงไทยโบราณ ขึ้นบันไดไปก็เป็นชานโล่งตรงกลางสองฝั่งมีหลังคาและมีโซฟารับแขกทันสมัยอีกฝั่งก็จะเป็นแบบไทยๆมีตั่งใหญ่และตั่งตัวเล็กหลายตัวสำหรับแขกและมีหมอนสามเหลี่ยมวางอยู่เดินตรงไปก็บาร์เครื่องดื่มอยู่ฝั่งหนึ่งและตู้เย็นใหญ่ และทีวีขนาดหกสิบนิ้ว มีเบาะรองนั่งและเก้าอี้โยกสี่ห้าตัววางเรียงกันมีประตูใหญ่ที่เปิดเข้าไปเป็นห้องนอนของคนในบ้านถึงหกห้องนอนหากคนไม่รู้ก็คิดว่ามีแค่นี้หลังจากวิธานรีโนเวทใหม่ก็กลายเป็นบ้านทรงไทยประยุกต์ทันสมัย ด้านล่างก็มีทั้งห้องรับแขกห้องนั่งเล่นห้องครัวที่อยู่ด้านหลังและเรือนหลังเล็กอีกสามหลังของคนเก่าแก่ที่อยู่กันมานานจนเหมือนญาติทั้งแม่ครัวแม่บ้านคนขับรถที่ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณย่า ป้าชุ” สองสาวเดินเข้าไปไหว้คุณแพรไหมย่าของเลอมานที่นั่งดูทีวีกับป้าชุ
“สวัสดีจ้ะหนูโศ สบายดีนะลูก” คุณย่าถามเพื่อนหลานสาวที่ไม่เจอกันมาสองสามเดือน
“โศสบายดีค่ะ คุณย่าแพรกับป้าชุสบายดีนะคะ”
“ก็ตามประสาคนแก่น่ะลูก แล้วเจอพี่เขาหรือยังล่ะยัยแพม”
“ย่าแพรขา แพมนึกว่าลืมหลานซะแล้วสิคะ เห็นถามแต่ยัยโศน่ะ” เสียงใสกระเซ้าย่าที่คุยกับเพื่อนของเธอ
“เอ้ะ,ไอ้หลานคนนี้นี่ไม่กวนย่าสักวันจะนอนหลับไหมฮึ้เรา” คุณแพรไหมพูดกับหลานสาวแล้วยิ้มมือเหี่ยวย่นลูบศรีษะไปมาเบาๆอย่างรักใคร่และคิดถึงลูกชายกับลูกสะใภ้ที่ไม่ทันได้เห็นความสำเร็จของลูก
“ไม่หลับหรอกค่ะย่า จุ๊บๆ ป้าชุขามีอะไรให้หลานสาวสุดที่รักกินบ้างคะ เดี๋ยวไม่มีแรงไปทำงานค่ะ” เสียงหวานใสอ้อนป้าสะใภ้ที่รักหลานสามีราวกับลูกตัวเองต่างจากป้าสะใภ้อีกคนที่ชอบค่อนคอดเธอเพราะคิดว่าแม่สามีลำเอียงรักหลานสาวไม่เท่ากันทั้งที่คุณแพรไหมจะให้อะไรลูกหลานก็จะให้เท่ากันเพียงแต่เลอมานจะได้ทั้งส่วนของพ่อและของตัวเองก็ดูเหมือนว่าจะได้เยอะทำให้วีนาอดอิจฉาหลานสามีไม่ได้แต่ไม่ถึงกับเกลียดแค่หมั่นไส้บางครั้งก็อดเอ็นดูสงสารไม่ได้
“หมายกลางวันนี้มีอะไรให้หลานสาวฉันกับหนูโศกินบ้างจ้ะ” คุณชุถามแม่บ้านที่ยกน้ำเย็นมาต้อนรับแขกของเจ้านายสาวน้อย
“ก็มีน้ำพริกกะปิ ไข่เจียวชะอม ต้มยำไก่บ้านใบมะขามอ่อน หมูทอดกระเทียมจ้ะคุณชุ เดี๋ยวพี่จะไปจัดโต้ะให้น้องแพมกับน้องโศนะคะ” หมายบอกรายการอาหารทำให้คนหิวยิ้มกว้างอย่างพอใจ
“ให้ไวเลยค่ะพี่หมาย ขอบคุณค่ะ” เลอมานขอบคุณพี่เลี้ยงที่รู้ใจเธอที่สุดเพราะหมายคอยดูแลเธอมาตั้งแต่เด็กเวลาย่าลุงป้าไปทำงานจึงสนิทกันมากพอเธอโตจึงควบตำแหน่งแม่บ้านและหมายก็พักอยู่ที่บ้านของเลอมาน
สองสาวไปกินอาหารกันอิ่มแล้วก็เดินไปที่รีสอร์ทเพื่อไปเตรียมตัวต้อนรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่จะมาถึงตอนเที่ยง
“สวัสดีค่ะคุณแพม คุณโศ” พิมพาทักทายเจ้านายสาวที่มารับงานต่อจากพี่สาวที่ท้องและไปทำบัญชีของรีสอร์ทกับสวนกล้วยไม้ให้น้องสาวลงมาลุยงานแทนและเธอก็ทำได้ดีพอกับลมิตาและจัดโปรโมชั่นใหม่ๆติดต่อบริษัททัวร์และติดต่อโรงแรมทำโบชัวร์ไปนำเสนอให้ส่วนลดหากพาแขกมาพักแค่ระยะเวลาหกเดือน รีสอร์ทก็มีลูกค้าเข้ามาพักเรื่อยๆและมาแบบเป็นกรุ๊ปทัวร์ของราชการบ้างและนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เยอะ ปกติจะมีไกด์มาดูและแต่ครั้งนี้ฉุกเฉินจริงจึงขอให้ทางรีสอร์ช่วย
“สวัสดีค่ะพี่พิม พี่หนิง” สองสาวยกมือไหว้พนักงานต้อนรับของรีสอร์ทที่อายุเยอะกว่าและทำงานมาหลายปี
“โชดดีจังเลยค่ะที่คุณแพมกับคุณโศมาช่วยไม่งั้นพี่สองคนแย่แน่ค่ะ เจอฝรั่งเกือบครึ่งร้อยนี่พี่ไม่สู้ค่ะ” ผานิต หรือ หนิงบอกเจ้านายสาวอายุน้อยเพราะทริปนี้มาจากบริษัทของเพื่อนเจ้านายที่มีนักท่องเที่ยวขาลุยชายหญิงมาพร้อมกันสองกลุ่มอีกสองกลุ่มก็จะมาเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำนอนแพล่องแพชมธรรมชาติ
“พี่ธานอยู่ไหนคะ” แพถามหาพี่ชาย
“สั่งงานเสร็จก็เข้าไปในห้องทำงานค่ะ”
“ขอบคุณค่ะพี่หนิง แพมไปหาพี่ธานก่อนนะคะจะได้คุยเรื่องานจะได้ไม่ผิดพลาด ไปเถอะยัยโศ” เลอมานเดินนำเพื่อนเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่ด้านหลังมีพนักงานนับสิบกำลังทำหน้าที่ของตัวเองและห้องในสุดก็มีโต้ะทำงานของสามพี่น้องตั้งอยู่สามมุม
“หวัดดีพี่ธาน/ สวัสดีค่ะ” สองสาวไหว้หนุ่มหล่อหน้าตาคมเข้มคร้ามแดดรูปร่างบึกบึนสมกับใช้แรงกายดูแลกิจกรรมแอดเวนเจอร์ของรีสอร์ท
“สวัสดี นั่งก่อนสิ นี่เอาไปอ่านดูแพมกับเธอช่วยคุณหน่องดูแลนักท่องเที่ยวสองกลุ่มนี้นะเดี๋ยวพี่จะดูกลุ่มขาลุยเอง” วิธานยื่นกระดาษเอสี่ให้สองสาวเพื่อดูรายละเอียดของลูกค้าที่ทางไกด์แจ้งมาว่าแต่ละคนต้องการอะไรบ้างและใครมีปัญหาเรื่องอาหารการกินหรือเปล่า
“เค้ามีชื่อนะเรียกเธออยู่ได้” โศรดาบ่นเบาๆเมื่อพี่ชายเพื่อนหน้าดุไม่เรียกชื่อเธอทั้งที่รู้จักกัน
“ได้ยินนะ” วิธานพูดขึ้นมาทำให้สองสาวเงยหน้ามองแต่ชายหนุ่มจ้องโศรดาเขม็ง
“ได้ยินอะไรพี่ธาน”
“เพื่อนแพมว่าพี่”
“โศไม่ได้ว่านะ”
“แล้วใครพูดเมื่อกี้ว่าชื่อก็มีทำไมไม่เรียก ทีตัวเองล่ะจำชื่อพี่ไม่ได้หรือไง” วิธานพูดกับเพื่อนน้องสาวที่ทำให้เขาหงุดหงิดหัวใจทุกครั้งที่เจอกันตั้งตั้งครั้งโน้นที่เขาเอ็ดตะโรใส่โสรดาที่มาจับกล้วยไม้แสนหวงของเขาที่เฝ้ารอมันออกดอกมานานหลายปี
“ต้องเรียกชื่อด้วยเหรอคะพี่ธาน” โศรดาเน้นเสียงตรงชื่อของวิธานและจ้องตาไม่หลบ
“จ้องกันขนาดนี้กะจะให้ท้องเลยว่างั้นเถอะ” เลอมานมองเพื่อนสลับพี่ชายและรู้ว่าสองคนนี่จะเถียงกันไปทำไมแค่คุยกันดีๆก็จบ
“โศไม่ใช่ปลากัดนะ/พี่ไม่ใช่ปลากัดนะ”
“ขนาดพูดยังเหมือนกันเลยใจตรงกันอย่างนี้ แพมว่าตกลงคบกันเถอะ.”
“ไม่/”ไม่”
“คริๆ ตกลงคบกันแล้วนะ ทีนี้ก็มาทำงานกันก่อนเสร็จงานแล้วค่อยจ้องตากัน.”
“นังแพม/ยัยแพม.”
“เฮ้อ” เลอมานแกล้งถอนหายใจแล้วยิ้มให้เพื่อนที่หน้าแดงเรื่อกับพี่ชายที่หูแดงไม่บอกก็รู้ว่าเขินกันจึงหลุบตาลงไปอ่านรายละเอียดของแขกต่อ
“พี่ว่า/ โศว่า..”
“คริ คริๆ” เลอมานหัวเราะออกมาด้วยความขำเมื่อพี่ชายกับเพื่อนเงยหน้าขึ้นพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“โศพูดก่อน” วิธานมองเพื่อนน้องสาวแล้วยิ้ม
“ยิ้มก็เป็นนี่แต่ทำไมชอบทำหน้าดุจัง”
“ให้พูดเรื่องงานไม่ได้ให้วิจารณ์พี่ เรื่องนี้เดี๋ยวเราค่อยคุยกันสองคนดีมั้ย.”
“คริๆๆ ดีๆค่ะ แกจะพูดอะไรโศ” เลอมานขำพี่ชายกับเพื่อนสงสัยเธอจะมีพี่สะใภ้แล้วละมั้งทุกทีเห็นแต่พี่ชายแค่มองๆไม่เห็นจะกล้าพูดกล้าคุยเหมือนตอนนี้เลย
“บ้า ใครอยากไปคุยกับพี่ธานสองคนล่ะ” โศรดาพูดแล้วค้อนวิธานทำไมครั้งนี้ถึงได้พูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับน้องสาวนะ “โศลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไรพี่ธานพูดก่อนเถอะ” ก็คนมันเขินอ่ะดิจึงลืมไปว่าจะพูดอะไรหมดน่ะสิยัยแพมก็มองแล้วยิ้มล้อเลียนเธออีกจึงยื่นมือไปหยิกเอวของเพื่อน
“อุ้ย, แพมว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แพมดูแลไหวมีพี่หน่องช่วยอีกคนให้ยัยโศไปช่วยพี่ธานจะได้เรียนรู้รับมือกับลูกค้าได้เวลามีปัญหา” เลมานมองเพื่อนแล้วยิ้มขำ
“จะไหวไหมเนี่ย ที่บ้านไม่มีผู้ชายเหรอ เรื่องลุยๆโศดูแลไม่ไหวหรอก” วิธานมองร่างเล็กอรชรอ้อนแอ้นของโศรดาแล้วส่ายหน้าไปมาบอกว่าไม่ไหว
“ตอนนี้โศมาดูงานคร่าวๆก่อนพอโศทำจริงแล้วจะให้พนักงานมาฝึกงานที่นี่ก่อนจะเปิดอย่างเป็นทางการค่ะ อีกอย่างญาติผู้ชายก็มีค่ะแต่เขาไม่ชอบลุยแต่โศทำได้ค่ะ” โศรดาตอบชายหนุ่มหน้าดุที่ดูถูกเธอเห็นตัวเล็กแบบนี้เธอก็สู้นะขนาดที่ลูกพี่ลูกน้องผู้ชายอายกันเลยทีเดียว
“งั้นลองดูจะได้รู้ว่ามันไม่ง่าย” วิธานขู่เพื่อนน้องสาว
“พี่ธานแค่ขู่น่ะโศ มันไม่อยากหรอกแพมยังทำได้เลย ถ้าโศทำจริงแพมจะให้ยืมตัวพี่ธานไปช่วยเทรนงานให้สามเดือนเลย เอ้า.” คนเป็นน้องพูดอย่างใจป้ำให้เพื่อนยืมพี่ชายไปใช้งาน
“เฮ้,ยัยแพมแกถามพี่ก่อนมั้ยว่าอยากไปหรือเปล่า ดีไม่ดีถูกแฟนโศเป่าดับไม่ได้กลับกาญเลยนะ” วิธานพูดแล้วมองเพื่อนน้องสาวดูว่าเธอจะแก้ยังไง
“โศก็กลัวสาวๆของพี่ธานตามไปแหกอกถึงสุโขทัยมากกว่าค่ะ”
“ตกลงกันเองนะ แพมไปล่ะจีบกันรอทัวร์ลงละกัน” เลอมานพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปทันที
“แพม แพมรอโศด้วยสิ”
“จะไม่ฝึกงานแล้วเหรอ” วิธานรั้งโศรดาด้วยคำพูด
“ก็ ค่ะ” ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
“อยากทำจริงๆเหรอ การท่องเที่ยวแบบผจญภัยมันต้องมีสถานที่ๆมันเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ เราอาจจะสร้างขึ้นมาบ้างแต่ยังคงธรรมชาติไว้ให้ได้มากที่สุด มีรูปถ่ายที่รีสอร์ทบ้างมั้ยเอามาให้พี่ดูก่อนเดี๋ยวโศมาดูงานแล้วไม่ได้ทำมันจะเสียเวลา” วิธานพูดเป็นการเป็นงานเพราะไม่ใช่ว่าอยากทำแล้วทำเลยหากสถานที่ไม่เหมาะที่จะทำก็จะได้ไม่เสียเวลาเปล่าเท่าที่เขาศึกษามามีเยอะที่อยากทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่มีสถานที่เพียงพอในการจัดสรรพื้นที่แต่ละโซนว่าเหมาะจะทำอะไรและพื้นที่ของ ริมแคว รีสอร์ท แอนด์ จังเกิล ปาร์ค ที่มีสี่สิบไร่แล้วสวนกล้วยไม้อีกแปดสิบกว่าไร่ติดกันแต่แบ่งโซนไว้ให้นักท่องเที่ยวขับรถเอวีตะลุยทะลุไปชมสวยกล้วยไม้และมีขี่ช้าง โหนเชือก ไต่เชือก ปั่นจักยาน พาเรือ ล่องแพ และมีกิจกรรมปีนเขาจำลองของเด็กๆอีก
“รีสอร์ทของโศติดแม่น้ำยม มีสามสิบกว่าไร่แต่เป็นสวนมะม่วงและลำไย พื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่เป็นเนินเขาแค่ติดแม่น้ำยมค่ะ” โศรดาบอกชายหนุ่มผู้ริเริ่มการท่องเที่ยวผจญภัยของรีสอร์ทชื่อดังติดอันดับสิบของเมืองกาญ
“พี่ต้องเห็นพื้นที่รีสอร์ทของโศก่อนถึงจะบอกได้ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากช่วยนะแต่กลัวจะเสียเวลาหากไม่ได้ทำ.”
“โศเข้าใจค่ะ ช่วงนี้ที่รีสอร์ทนักท่องเที่ยวน้อยโสก็อยากทำอะไรเพิ่มเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวค่ะ ถ้ายังเป็นแบบนี้อีกไม่นานรีสอร์ทคงปิดตัวลงแล้วโศไม่อยากให้เป็นแบบนั้น” โศรดาพูดตรงๆเพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้าพักน้อยต่างจาก ริมแคว รีสอร์ท แอนด์ จังเกิล ปาร์ค ที่มีนักท่องเที่ยวมาพักกันทุกวันไม่ขาด
“โอเคงั้นวันนี้ลองไปเป็นผู้ช่วยพี่ก่อนละกัน แล้วเรื่องที่โศอยากทำเราค่อยมาคุยกัน”
“ขอบคุณพี่ธานมากนะคะที่ให้คำแนะนำโศ” โศรดายกมือไหว้พี่ชายเพื่อนที่ให้คำปรึกษาเธอทำให้รู้สึกดีกับชายหนุ่มหน้าดุขึ้นมาอีกเท่าตัว
“ไม่เป็นไร อันไหนช่วยได้พี่ก็อยากช่วย.”
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ”
“จีบกันเสร็จหรือยังคะพี่หน่องโทรมาแจ้งว่ารถกำลังเลี้ยวเข้าหน้ารีสอร์ทค่ะ” เลอมานแง้มประตูโผล่แค่หน้าเข้ามาถามเพื่อนกับพี่ชายที่มองหน้ากันอย่างเคอะเขิน
“คุยกันเรื่องานไม่ได้จีบ”
“ใช่ พี่ธานให้คำปรึกษาโศน่ะ”
“โอเค้ ไม่จีบก็ไม่จีบงั้นแพมไปนะ” เลอมานปิดประตูแล้วเดินออกไปยืนรอที่ใต้ต้นไม้หน้าสำนักงานต้อนรับแขกมีที่จอดรถกว้างขวางทั้งรถบัสและรถของนักท่องเที่ยวที่มากับครอบครับคนรักและเพื่อนมีหลังคากันแดดให้เรียบร้อย มองไปรอบๆรีสอร์ทด้วยความภูมิใจที่เธอและพี่ๆสามารถทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงและมีนักท่องเที่ยวมาพักไม่ขาดทำให้มีรายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนถึงแม้จะเป็นหนี้จากที่กู้ธนาคารมาสิบล้านเพื่อปรับปรุงรีสอร์ทและเรือนแพและเพิ่มส่วนแอดเวนเจอร์ออกไปก็ยังไปได้ดีสามารถผ่อนธนาคารไปได้เกือบครึ่งของเงินที่กู้มาแม้จะเหนื่อยแต่เธอก็มีความสุขที่ได้สานงานต่อจากพ่อ
เมื่อรถตู้วีไอพีขนาดแปดที่นั่งขับตามกันมาห้าคันจอดลงตรงหน้าสำนักงานหนึ่งหนุ่มหล่อสองสาวสวยก็ไปต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและเชิญไปที่ซุ้มอาหารที่อยู่ห่างไปยี่สิเมตรสร้างด้วยโครงเหล็กแข็งแรงกว้างใหญ่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้มากว่าร้อยคนและมีโต้ะตั้งอยู่ถึงห้าสิบโต้ะและมีอาหารบุฟเฟ่ต์ปรุงร้อนๆให้นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารกลางวัน
“พี่ต้องขอขอบคุณน้องแพม น้องโศ และคุณธานด้วยนะคะ พอดีเพื่อนพี่มันเกิดท้องเสียกระทันหันค่ะแล้วไกด์ไม่มีใครว่างเลย น้องนินก็ต้องออกดูแลทริปฮ่องกงเองเพราะมีแต่ไฮโซ คุณนนท์ต้องเฝ้าออฟฟิตเพื่อประสานงานค่ะ” หน่องหนุ่มหล่อใจหญิงจีบปากบอกเพื่อนเจ้านายสาวที่ธนนท์บอกให้เขาขอความช่วยเหลือแล้วเจ้านายก็โทรมาหาพิธานอีกครั้งเพื่อขอให้ช่วย
“ไม่เป็นไรค่ะพี่หน่อง มีอะไรก็บอกแพมได้ค่ะ ช่วยๆกันแค่ทัวร์ยัยนินมาลงแพมก็ขอบคุณมากค่ะ”
“ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวชอบเที่ยวแบบลุยๆกันเยอะ น้องโศไม่ลองทำโบชัวร์โปรโมตเหมือนน้องแพมละคะ จัดทริปกิจกรรมอะไรสักอย่างดึงดูดใจนักท่องเที่ยว” หน่องบอกเพื่อนเจ้านายเพราะรู้ว่าที่บ้านของโศรดาก็มีรีสอร์ท