ตอนที่ 4
อย่าทำแบบนี้กับใคร
"คืนนี้ผมค้างที่นี่นะครับ"
เลขาหนุ่มกระซิบข้างหูของเธอ ขณะที่ใบหน้าสวยยังคงหลับตาพริ้ม หลังบทรักที่ร้อนแรงจบลง
"อื้อ ตามใจ แต่พรุ่งนี้เธอออกไปก่อนฉันก็แล้วกันนะ! เวลาเข้าออฟฟิศจะได้ไม่มีใครสังเกต"
หัวคิ้วของ ภูริช กระตุกขึ้น รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจขึ้นมา
"รู้แล้วครับบอส เพราะพรุ่งนี้ทีมครีเอทีฟมีประชุมแต่เช้า ซึ่งยังไงผมก็ต้องไปถึงออฟฟิศก่อนเก้าโมงอยู่แล้วครับ"
"อือ แต่ช่วงเช้าฉันไม่ได้เข้านะ"
"ครับ"
ถึงเขาจะเป็น Art director หนึ่งในทีมครีเอทีฟของบริษัท แต่เขาก็ทำงานในตำแหน่งเลขาของกรรมการผู้จัดการซีดีเอเยนซี่ด้วย จึงพอทราบเกี่ยวกับตารางงานของเจ้านายสาวเป็นอย่างดี กระนั้นก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
"แน่ใจเหรอครับว่าจะเสร็จภายในช่วงเช้า ตอนบ่ายจะให้ผมไปรับไหม?"
เขาทราบว่าพรุ่งนี้เธอมีนัดคุยธุระที่บ้านเจ้าสัวฮ้ง อลงเกียรติ เศวตสิริ บิดาของเธอ ด้วยส่วนใหญ่เรื่องงานสำคัญทางเจ้าสัวจะนัดคุยที่บ้านมากกว่าด้วยสุขภาพของท่านช่วงนี้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นัก
"ไม่ต้องหรอกน่า ฉันจะขับรถไปเอง เตี่ยก็คงอยากจะคุยเกี่ยวกับเรื่องงานบางส่วนของซีดีที่เกี่ยวกับโครงการใหม่ๆ ของเศวตสิริ อีกอย่างตอนนี้แทนไทค่อนข้างจะยุ่งมาก เตี่ยก็คงต้องการจะช่วยแทนไท โดยลงมาดูเกี่ยวกับงานพีอาร์ที่เกี่ยวเนื่อง"
แทนไท เศวตสิริ คือน้องชายของเธอ และตอนนี้ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ของกลุ่มเศวตสิริ
ช่อลดา เองนั้นแม้จะบริหารบริษัทเอเยนซี่ในเครือของเศวตสิริ แต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ถือหุ้นใหญ่ของอีกหลายบริษัท และเป็นลูกสาวคนโตที่เจ้าสัวฮ้งให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ รองจากแทนไท
คนในบริษัทจึงค่อนข้างจะเกรงขามเธอพอสมควร
...ไม่ต่างจากนางพญา
แต่สำหรับภูริชนั้น เขากลับมองว่าเธอเป็นเหมือนเจ้าหญิงเอลซ่า ที่ภายนอกเย็นชาเหมือนราชินีน้ำแข็ง แต่แท้จริงแล้วเธอมีความน่ารัก ซุกซนและเร่าร้อนอยู่ภายใน
และเขาก็ชอบมาก
"ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ ผมไปรับคุณได้ ยังไงผมก็เป็นเลขาที่ต้องดูแลเจ้านายให้ดีที่สุดอยู่แล้ว"
เขาดึงร่างของเธอก็เข้ามาใกล้ วางศีรษะของเธอลงบนต้นแขนของตน เสียงครางในลำคออย่างงัวเงียพรึมพรำออกมา
"ไม่เป็นไรหรอก เธออยู่ที่ออฟฟิศนั่นแหละ ช่วยสรุปการประชุมไว้ให้ด้วย"
"ก็ได้ครับ"
"อื้อ ภู!! จะทำอะไรอีก"
เธอปรามเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงความแข็งร้อนที่ดุนดันยังกึ่งกลางกายของตน มือหนาเป็นปลาหมึกเริ่มจะซุกซนไปทั่วร่าง
ภูริช ยกยิ้มมุมปาก ขณะยกขาของเธอขึ้นแล้วแทรกตัวตนที่แข็งขึงเข้าไปอย่างรวดเร็วจนแทบมิดลำ
"อื้อ! ภู!"
"ผมขออีกครั้งนะครับ"
"โอ้ว! ภู! นี่เธออดอยากมาจากไหนกันเนี่ย!"
"ก็คุณนั่นแหละครับคนสวย! ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้"
ทำให้เขาหื่น! และมีความอยากอยู่ตลอดเวลา
"อื้อ... เกี่ยวอะไรกับฉันกัน! อ๊าาส์"
เธอบิดตัวจะขยับร่าง แต่ภูริชกลับตรึงเอวเธอไว้แน่น แล้วกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดซ่านสยิว ถี่ขึ้น และถี่ขึ้น
"อะ อร้ายยย ระ แรงไป เบาๆ ก่อนสิ"
เสียงหวานครางกระเส่า สะโพกสอบขยับถี่ยิบ ฝามือหนาไล้ขึ้นบีบเค้นเต้าทรงอวบอิ่มจนมวลเนื้อปลิ้นออกมาระหว่างนิ้ว
"บอสครับ คุณสั่งผมได้แค่เรื่องงาน ...ไม่ใช่บนเตียง"
ภูริช ขยับสะโพกสอดสวมเข้าสุดออกสุด ควานขึ้นลงให้ท่อนลำร้อนครูดสีกับจุดกระสันในโพรงนุ่ม จนน้ำรักซ่านกระเส็นเอ่อเยิ้มออกมา
"อู้ยยยย ภู!!"
เธอครางสั่น ตวัดขาเรียวขึ้นเกี่ยวสะโพกเขาไว้แน่น เมื่อเขาตอกตรึงท่อนลำอัดใส่กลีบอูมถี่กระชั้น
"อูย บอส สวยเซ็กซี่มาก!! ผมเริ่มจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วครับ"
ภูริชกัดฟันแน่นครางต่ำในลำคอ มองร่างขาวอมชมพูที่บิดร่านครางร่ำ ก่อนจะกดสะโพกลงไปแนบชิดแบบเนื้อติดเนื้อ ก่อนจะกระชากเข้าออก ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงดูดโลมเลียเต้ากลม ระดมขบเม้มระบายความเสียวซ่าน จนยอดทับทิมแข็งขันเป็นไตชูชันหยอกล้อปลายลิ้นในปากของเขา
ใบหน้าสวยแดงก่ำบิดร่านเหยเก
และเขาก็จ้องมองไม่ละสายตา
"อื้อออ ภู!!"
"ชอบไหมครับ? ชอบที่ผมทำแบบนี้ไหม"
"ชะ..ชอบ"
ชอบมาก ต้องยอมรับว่าทั้งปากและลิ้นของเขาทำให้เธอรู้สึกหฤหรรษ์พาอร่อย และปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสแห่งรักร่าน จนเริ่มจะเสพติดกับมัน ร่างสาวแอ่นโค้งขึ้นให้เนินเนื้อสัมผัสกับตัวตนของเขาแนบเนื้อชิดเนื้อ แนบชิดยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อแอ่นกลีบรับน้ำรักที่เขากำลังจะปลดปล่อยเข้าสู่ร่างกายของเธอ
"โอ้ว ที่รัก อย่าได้ไปทำสีหน้าท่าทางแบบนี้กับใครนะครับ ยกเว้นกับผมคนเดียว"
ความรู้สึกหวงแหนในตัวเธอผุดขึ้นมาในใจของเลขาหนุ่ม
"อร้ายยย ทั้งชีวิตฉันไม่เคยนอนกับใคร และฉันก็นอนแค่กับนายคนเดียวที่เป็นคู่นอนในตอนนี้"
คู่นอน...
ภูริชขบกรามเข้าหากันแน่นจนเป็นสันนูนเด่น รู้สึกสะกิดหัวใจ ก่อนจะกระแทกสะโพกเสยท่อนเนื้อแข็งร้อนเข้าไปอย่างแรงเต็มรัก
ปึก!!!!
"อร้ายยย!! ภู! ลึกจัง!"
"คู่นอนยังงั้นเหรอคนสวย!! งั้นผมก็คงเป็นคู่นอนคนเดียวที่ทำให้คุณน้ำแตกได้บ่อยๆ แบบนี้
เขาขยับสะโพกเข้าออกถี่เร็ว กระชั้นขึ้น
"อะ อร้ายยยย"
"ช่อลดา!!"
เขากัดฟันกรอดสูดปากอย่างทรมาน ก่อนจะกดตัวตนเข้าไปให้ลึกสุดลิ่ม เมื่อความซ่านสยิวแผ่ไปยังท้องน้อยและท่อนเนื้อจนคัดเกร็ง เขาแช่ตัวตนอยู่อย่างนั้นอยู่เพียงครู่ ก่อนปลดปล่อยธาราอุ่นร้อนเข้าไปในกายเธอ
.
.
ภูริช ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ในเวลาเจ็ดโมง เลยต้องตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เพนท์เฮ้าส์หรูของเจ้านายสาวอยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศ แค่นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
เขาจึงไม่รีบร้อนเท่าใดนัก แต่ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า เจ้านายคนสวยอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ไหนคุณบอกตื่นสายได้ ไม่ได้เข้าออฟฟิศ"
"ฉันไม่อยากให้เตี่ยรอ อีกอย่างรีบไปคุยจะได้ไปเคลียร์งานต่อที่ออฟฟิศ เห็นกิ่งกานบอกว่ามีเอกสารหลายฉบับรอฉันเซ็นต์ด้วย"
ช่อลดาอยู่ในชุดเดรสแบรนด์เนมสีงาช้างปาดไหล่เว้าหลัง ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นจนเห็นลำคอระหง ใบหน้างามผุดผาดถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงอย่างปราณีต
แค่มองผิวเนื้ออ่อนขาวละเอียดราวหิมะบริเวณช่วงลำคอระหง ใจของภูริชก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง
สวยชะมัด!!!
สวยจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้มองคนเดียว
"ภู!! ไม่ได้นะฉันแต่งหน้าละ! เดี๋ยวชุดยับพอดี"
ช่อลดาปราม เมื่อร่างหนาเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังและฝั่งจมูกโด่งยังผิวเนื้ออ่อนข้างลำคอ
"อะไรกัน! จะไปพบท่านเจ้าสัว ต้องแต่งตัวสวยขนาดนี้เลยเหรอครับ" น้ำเสียงเขาต่ำพร่า เมื่อเห็นว่าชุดเดรสด้านหลังของเธอเว้าไปจนเกือบครึ่ง
ดวงตาของเขาดำมืดลง
ความรู้สึกหวงแหนในเรือนร่างเจ้านาย แล่นปรี่ขึ้นมาในใจ
มือหนาควานยังซิปด้านข้างแล้วรูดลงอย่างรวดเร็ว
"ภู!!! จะทำอะไรนะ"
"ผมไม่ชอบชุดนี้ เปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยกว่านี้หน่อย"
น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้น ช่อลดาส่ายหน้า
"อะไรกัน! ชุดออกจะสวยนี่ collection ใหม่เลยนะ" เธอแหวเขากลับ "ดึงเบาๆ นะเดี๋ยวมันขาด ชุดหลายหมื่นเลยนะเนี่ย"
"ไม่ใช่ว่าไม่สวย แต่มันโป๊ไป! ผมไม่ชอบ"
ชุดบ้าอะไร!! แหวกหลังจนจะเห็นทั้งตัวแล้ว "ใส่ชุดนี้!! ไม่งั้นก็ไม่ต้องออกจากห้อง"
เขายื่นชุดใหม่ที่เรียบร้อยกว่าส่งให้
"ภู! เธอเนี่ยนะ!!"
ช่อลดาอยากจะเถียงเขากลับ แต่เธอไม่มีเวลามากนัก โดยต้องรีบไปตามที่นัดไว้ วันนี้ก็น่าจะเป็นอีกวันที่คงยุ่งทั้งวัน
สุดท้ายเธอเลยต้องยอมรับชุดจากเขามาใส่แต่โดยดี
นี่ตกลงเขาเป็นลูกน้องหรือเจ้านายเธอกันแน่!!!
***************