ตอนที่ 1
เจ้านายกับลูกน้อง
"เชิญด้านในครับคุณวิชิต เราเตรียมห้อง VIP ไว้เรียบร้อยแล้วครับ"
ภูริช ศิระกุล พนักงานหนุ่มหล่อของบริษัทซีดีเอเยนซี่ในวัยยี่สิบเจ็ดปี บอกกับลูกค้าคนสำคัญของบริษัทเมื่ออีกฝ่ายมาถึงร้าน The your garden ลูกค้าพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเขาเข้ามาข้างใน
"เห็นว่าคุณช่อลดาจะมาด้วยนี่ครับ?"
ลูกค้าถามถึงเจ้านายของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของซีดีเอเยนซี่บริษัทในกลุ่มของเศวตสิริ
"อีกสักพักน่าจะถึงครับ พอดีบอสเพิ่งจะประชุมกับฝ่ายการตลาดเสร็จ แต่ก็รีบตามมาเพราะรู้ว่านัดกับคุณวิชิตไว้ น่าจะใกล้ถึงแล้วนะครับ"
ภูริช ตอบอย่างนอบน้อม และรีบพาลูกค้าคนสำคัญเข้าไปยังห้องรับรองด้านใน
ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของรองเท้าส้นสูงหัวแหลมที่ดังอย่างสม่ำเสมอ ทว่าทรงอำนาจก็เดินใกล้เข้ามา ภูริชจำเสียงนี้ได้ดีและเขาจำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ แม้กระทั่งจังหวะการเดิน
ช่อลดา เศวตสิริ
เจ้านายสาวคนสวยของเขาเอง
"โอ้ ชิต! เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่ายูมาเปิดบริษัทผลิตของเด็กเล่น เซอร์ไพรส์มากเลยที่รู้ว่าเจ้าของบริษัทก็คือยูเอง"
ร่างระหงในชุดเดรสปาดไหล่สีน้ำเงินเข้มแสนสง่าดุจนางพญา ปราดเข้าสวมกอดกับลูกค้าหนุ่มพร้อมเอ่ยคำทักทายแบบชาวตะวันตกด้วยความเป็นกันเอง ทำให้ลูกน้องหนุ่มรูปหล่อที่นั่งอยู่ชะงักค้างอยู่เพียงครู่
"ผมก็ไม่นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าบริษัทเอเยนซี่ที่คนกล่าวขานว่าทำ PR ได้ดี จะเป็นของชาร์ลอต amazing มากเลย"
ชาร์ลอต คือชื่อเล่นของช่อลดา ที่เพื่อนๆ เรียกกันตั้งแต่เรียนประถม
"ยินดีมากเลยที่ได้ทำงานให้กับเพื่อนเก่าแก่ ถ้าชารู้ว่าเป็นบริษัทของยู ชาจะ cancel งานตั้งแต่เช้าเพื่อมาหาเลย"
เสียงหัวเราะสดใสออกจากริมฝีปากสีแดงสด ใบหน้ารูปไข่ที่มีเครื่องหน้าสวยหวานหมดจดถูกแต่งแต้มอย่างปราณีต หันมามองลูกน้องหนุ่มก่อนจะเอียงคอมาใกล้และกระซิบบอกเบาๆ
"ภู ช่วยไปขยับรถให้หน่อยสิเมื่อกี้ตอนถอยเข้า ฉันขับครูดกับกระถางต้นไม้ ไม่อยากรบกวนที่ร้าน"
คิ้วหนาของ ภูริช กระตุกขึ้นเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากตัวเธอ แม้ความจริงเขาไม่ชอบผู้หญิงใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นฉุนเท่าใดนัก แต่เมื่อกลิ่นนี้มาจากเรือนร่างของเจ้านายคนสวยเขากลับชอบมาก
ช่อลดา ราชินีน้ำแข็งเจ้านายที่เก่งในทุกเรื่อง
ยกเว้นเวลาถอยรถเข้าซอง
"ครับ"
เขาพยักหน้าแต่โดยดี รับกุญแจเบนท์ลี่ย์จากมือนิ่มของเธอ กระนั้นก็ยังจงใจที่จะปัดเกี่ยวโดนปลายนิ้วมือ จนสังเกตเห็นว่าสองแก้มสวยแดงระเรื่ออย่างน่ามอง
"เดี๋ยวผมมานะครับ"
ภูริช เหยียดกายลุกขึ้นและโค้งตัวให้กับลูกค้าหนุ่มซึ่งน่าจะอายุใกล้เคียงกับเจ้านายสาวของเขา แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับท่าทีที่สนิทสนมเกินกว่าเหตุของทั้งคู่ แต่เขาก็พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวไว้ในใจ
เพราะอย่างไรตอนนี้เขาเป็นแค่เลขาของกรรมการผู้จัดการบริษัทซีดีเอเยนซี่ เขามีหน้าที่ดูแลและทำตามคำสั่งของเจ้านาย
"นั่นเลขาคุณเหรอชา? ดูคล่องแคล่วและรู้งานมากเลยนะ อืม... ความจริงเลขาผู้ชายก็ดีเหมือนกันนะ ไปไหนไปกัน ถึงไหนถึงกัน และสามารถลุยกันได้เต็มที่ บางทีผมเองก็อยากจะมีเลขาผู้ชายแบบนี้เหมือนกันแหละ"
วิชิต มองตามหลังร่างสูงโปร่งของเลขาที่เดินห่างออกไปด้วยความชื่นชม
ช่อลดาคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ประกายบางอย่างปรากฏอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลคู่สวย ก่อนที่เธอจะปรับเปลี่ยนและสลัดทิ้งออกไปอย่างรวดเร็ว
"ใช่ ตอนแรกภูอยู่ฝ่ายออกแบบ แต่เขาดีลงานกับฝ่ายอื่นๆ ได้ดีมาก ชาก็เลยให้มาเป็นเลขาส่วนตัวเพราะงานส่วนใหญ่ต้องดีลกับลูกค้าและทีมที่เกี่ยวข้องหลายส่วน"
บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นกันเอง หลังจากที่ทั้งสองได้สั่งอาหารไปแล้ว ภูริชเดินกลับเข้ามาอีกครั้งก่อนจะย่อกายลงนั่งข้างๆ เจ้านายคนสวย
เลขาหนุ่มนั่งฟังทั้งคู่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องงานและเรื่องสัพเพเหระอย่างเงียบๆ และมีเอ่ยเสริมบ้างในบางจังหวะ
และจึงได้รู้ว่าทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนนานาชาติที่เมืองไทยก่อนที่ต่างคนจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศ แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งตอนนี้
"เพิ่งรู้ว่าชาคอแข็งเหมือนกันนะเนี่ย"
ช่อลดา สั่งไวน์มาขวดนึงและส่วนใหญ่เธอจะเป็นคนดื่ม
อาจเพราะวันนี้มีหลายงานที่ได้ทำสำเร็จและยังมีลูกค้ารายใหม่ที่ได้เซ็นต์สัญญาเพิ่มในสัปดาห์นี้หลายเจ้าทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ไวน์ขวดนึงจึงหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นานนัก
ใบหน้าสวยเริ่มจะแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
"ผมว่าพอดีกว่าครับ"
ภูริช โน้มหน้าไปใกล้เจ้านายคนสวยแล้วกระซิบบอกเบาๆ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มจะนั่งไม่ตรง ภูริชรู้ดีว่าเธอไม่ได้คอแข็งมากนัก และออกจากคออ่อนด้วยซ้ำ
"แล้วชาร์ลอตจะกลับยังไงเนี่ย เมาขนาดนี้”
วิชิต เอ่ยด้วยท่าทีกังวลเมื่อการคุยงานเสร็จเรียบร้อย แต่ชาร์ลอตเพื่อนสาวคนสวยเจ้าของซีดีกลับมีท่าทีเหมือนจะเริ่มเมามาย "เดี๋ยวเอารถจอดไว้ที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวผมไปส่งชาเอง"
"ไม่เป็นไรครับคุณวิชิต ผมเป็นเลขาคุณช่อลดามีหน้าที่ต้องดูแลยู่แล้ว เดี๋ยวผมไปส่งบอสเองครับ"
ภูริช รีบปรี่ไปประคองร่างของเจ้านายคนสวยทันที ทว่าอีกฝ่ายกลับสะบัดตัวออกจากเขาอย่างรวดเร็ว
และเอ่ยบอกด้วยเสียงสูง
"ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้!"
แค่ฟังก็รู้ว่าเธอไม่พอใจเขา และภูริชก็รู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร
"เมาขนาดนี้จะขับรถได้ยังไงล่ะครับบอส อันตรายนะ! ขนาดถอยเมื่อกี้ก็เกือบจะชนกระถางต้นไม้แล้ว ให้ผมไปส่งดีกว่าผมเป็นเลขาบอสนะครับ"
เขาบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพอย่างเลขามืออาชีพ
"นั่นนะซิ!!"
ลูกค้าหนุ่มเอ่ยสมทบ "ยูมีเลขามาด้วยจะขับเองให้เสี่ยงทำไม เลยจากตรงนี้ไปนี่มีด่านเยอะด้วย โดนเป่าไม่รอดแน่ ไม่คุ้มเสี่ยงเลยนะ ถึงจะเป็นลูกเจ้าสัวก็เหอะ ให้เลขาคุณไปส่งดีแล้ว ยังไงก็ฝากชาร์ลอตด้วยนะเลขาคนเก่ง"
"ได้ครับคุณวิชิต ขอบคุณมากครับยังไงเรื่องเอกสารสัญญาผมจะรีบดำเนินการส่งให้เร็วที่สุดครับ"
ภูริชตอบอย่างนอบน้อม ใบหน้าหล่อเหลาสว่างเจิดจ้าเมื่อมุมปากหยักยกโค้งขึ้นจนเห็นลักยิ้มเป็นรอยแก้มบุ๋มน่ารัก
ลูกค้าโบกมือแล้วเดินห่างออกไป เมื่อเช็คบิลเรียบร้อยแล้ว
"ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน!"
ช่อลดา สะบัดตัวออกจากวงแขนแข็งแรง เมื่ออีกฝ่ายพยายามประคองเธอมาที่รถ
คิ้วหนาเข้มของ ภูริช กระตุกขึ้นสูง และถามเสียงทุ้มต่ำ
"ยังไม่หายงอนผมเหรอครับ?"
"ไม่ได้งอน! ทำไมต้องงอน"
น้ำเสียงและท่าทางแบบนี้ก็คืองอนนั่นแหละ!!
ทำไมเขาจะไม่รู้
ทว่าเลขาหนุ่มไม่ใส่ใจ เขาปราดเข้าไปใกล้และโอบกอดเธอขณะกดเปิดประตูรถ ก่อนจะดันร่างของเธอเข้าในรถแล้วเดินอ้อมไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ
"ผมบอกแล้วไงครับ ว่าผมกับน้องก้อยไม่ได้มีอะไรกัน?"
เขาเอ่ยเสียงอ่อยอย่างเว้าวอน ด้วยรู้ว่าตอนนี้เจ้านายคนสวยงอนเขาหนักมาก จนไม่ยอมคุยกับเขาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
คงเพราะ น้องก้อย พนักงานฝ่ายบัญชีของบริษัทเอาคุกกี้เนยสดมาให้เขาที่โต๊ะ และเจ้าหล่อนก็ขยันส่งรูปวาบหวิวของตัวเองให้เขาทาง line อยู่ตลอด ส่งมาแม้กระทั่งตอนที่เค้ากำลังนั่งประชุมงานกับทีมงานเมื่อเช้า และบอสคนสวยของเขาก็ดันเห็นเข้าพอดี
เธอจึงไม่ยอมมารถคันเดียวกับเขา
ทั้งที่นัดกันไว้แล้ว
"จะมีหรือไม่มีก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันนี่นา นายจะจีบใครก็เป็นเรื่องของนาย ยังไงเราก็เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกันเท่านั้น!"
แม้จะเอ่ยไปเช่นนั้น แต่น้ำเสียงของช่อลดาก็สั่นระริก ต่างจากใบหน้าหล่อเหลาของคนฟัง ที่เริ่มจะอึมครึมขึ้น
ภูริช โน้มตัวไปใกล้จับปลายคางมนให้หันมาสบตา
ดวงตาสีเข้มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยที่มองเขาอย่างเย้ายวน พร้อมเอ่ยถามเสียงเข้มแตกต่างจากท่าทีต่อหน้าลูกค้าเมื่อก่อนหน้า
"แน่ใจเหรอครับ? ว่าเราเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง?"
"ก็ใช่! อื้อ.."
ริมฝีปากหยักบดจูบยังเรียวปากอิ่มสีแดงสดอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือหนาโอบกำชับร่างบางไว้แน่น ตรึงร่างของเธอไม่ให้ขยับ อีกมือหนึ่งบีบเคล้นเต้าทรวงอวบอัด กระตุ้นความปรารถนาของเธอให้คุกรุ่น
เสียงประท้วงของเจ้านายสาวดังอู้อี้อยู่ในลำคอ
ทว่า ภูริช ไม่สนใจเขาบดเคล้าจูบ จนเธอเผยอริมฝีปากออก ก่อนจะสอดลิ้นสากร้อนเข้าดูดรัดรึงเรียวลิ้นเล็ก รสชาติไวน์ที่ติดอยู่ในปลายลิ้นทำให้เขาละเลียดดูดกลืนกินอย่างหิวกระหาย
เธอหวานและหอมเสมอ
จนเขาแทบจะคลั่งตายทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิด
"ภู อื้อออ"
เธอครางเสียงหวาน เมื่อเขาจูบซ้ำๆ อย่างหนักหน่วงราวกลับจะดูดกลืนลมหายใจของเธอไปด้วย มือนิ่มที่คิดจะผลักใสออกในตอนแรกเปลี่ยนเป็นขยุ้มแขนเสื้อลูกน้องหนุ่มไว้แน่น
“อืม”
ภูริช คำรามต่ำในลำคอ ก่อนจะถอดถอนริมฝีปากออกและไล้จูบเลียยังปลายคางดูดซับความหอมหวานละมุน แล้วกระซิบชิดมุมปากของเธอด้วยน้ำเสียงต่ำพร่า
"คุณหึงผมมาก! และเราทำกันขนาดนี้ ...ยังบอกเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องอีกเหรอครับ?"
*****************