24.ขอจับหน่อย

1141 Words
ความเดิม- "………" วรรณดาได้แต่ยิ้มในหน้าด้วยความยินดี นับเป็นเรื่องที่ดีแล้ว งานนี้ต้องมีบอกต่อ …………………………………… ด้านวรรณดาหลังจากคุยกับลูกสาวจนพอใจแล้วก็ไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนชิลล์ ๆ ของเขาจึงเดินไปดูต้นไม้ต้นไร่ไปเรื่อย และเดินเรียบ ๆ เคียง ๆ จนไปถึงเรือนบุบผา (คือเรือนไม้ดอกไม้ประดับที่เขมรัฐชอบใช้เวลาว่างนอกจากเวลาทำขนมเข้าไปนั่งพรวนดิน ตัดแต่งกิ่งตลอดจนขยายพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ค่ะ) "อยู่นี่นี่เองเตี่ย มีเรื่องเม้าท์" "อือ ว่ามาซิ่" เขมรัฐหันมาอือออกับภรรยาสุดที่รักอย่างตั้งใจฟัง "คือยัยลูกสาววันนี้เข้ากะบ่าย แต่นอนอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ออกไปไหน พอแม่ถามว่าไม่ออกไปไหนเหรอ ลูกก็บอกว่าเก็บแรงไว้ทำงาน พอแม่บอกว่าลูกเปลี่ยนไป ลูกก็บอกว่าซึมซับจากคนที่เพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันก่อนน่ะเตี่ย.." "แล้วดีมั๊ยล่ะแม่" เขมรัฐรับฟังอย่างสงบนิ่งแล้วเอ่ยถามภรรยากลับด้วยใบหน้ายกยิ้ม "ดีน่ะดี แต่..แม่ว่าลูกเราจะแคร์เค้าเกินไปหรือเปล่า" วรรณดาพูดอย่างคนยังไม่ปลงใจเสียทีเดียว "แล้วจะให้เตี่ยทำไงล่ะแม่" "ไม่รู้ซิ สงสารลูก อยากให้เค้าสนใจลูกเราบ้าง" "รู้ได้ไงว่าเค้าไม่สนใจลูกเรา" เขมรัฐเอ่ยถามภรรยากลับแล้วยิ้มเก๋ส่งให้ "ก็…หรือว่าเตี่ยรู้อะไรดี ๆ มา เล่าเลย" "ก็ไม่รู้อะไรหรอกแม่ ผู้ชายด้วยกันน่ะดูออก แต่ความเจียมตัวมันมีอยู่มากเหมือนที่ลูกไหนมันทักมาเป๊ะเลย" "เออ..อย่างนี้แม่ค่อยสบายใจหน่อย" ตัดมาที่นวนนท์ วันนี้เป็นวันที่ชายหนุ่มทำงานอย่างไม่มีสมาธิอีกวันหนึ่ง รู้สึกหงุดหงิด ขวางหูขวางตาไปหมด จึงได้เดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกบ้าง เขาเดินมาเรื่อย ๆ ตามชายหาดในส่วนของพนักงาน ในหัวก็คิดทบทวนหัวใจตนเองไปเรื่อย ๆ จนได้คำตอบในใจที่ชัดเจนขึ้นแล้ว ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก รู้สึกสบายใจขึ้นมาที่ปลงตกเสียทีจึงคิดจะกลับขึ้นไปทำงานต่อแต่เขากลับพบว่ามีใครคนหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาพอดี ด้านณรรรดาที่ออกมาจากบ้านตั้งแต่ก่อนบ่ายสองเพราะรู้สึกเบื่อ ๆ เหงา ๆ คิดว่าจะมาเดินสูดอากาศตอนบ่าย ๆ ที่ชายหาดเสียหน่อย เธอเดินมาเรื่อย ๆ จนมาเจอกับคนในห้วงคำนึงพอดี "พี่นิวหายดีแล้วเหรอคะ ยังเจ็บหน้าอกอยู่หรือเปล่า" ณรรรดาตัดสินใจเอ่ยทักคนพี่ไปก่อนจนได้ทั้งที่ในใจไม่อยากจะทักคนพี่ก่อนเลย "ก็สบายดีขึ้นมากแล้วหละ ว่าแต่เราเถอะ เพิ่งจะบ่ายสองเศษ ๆ เอง ทำไมมาเร็วจังเลยล่ะ" นวนนท์ที่เห็นคนในห้วงคำนึงยืนอยู่ตรงหน้ามีคำพูดล้านคำที่อยากจะพูดอยากจะบอกคนตัวเล็กเหลือเกินแต่พอคนตัวเล็กอยู่ตรงหน้ากลับพูดได้แค่เพียงตอบถามของคนตัวเล็กไปและถามคำถามยอดฮิตของเพื่อนร่วมงานเวลาเจอกันแค่นั้น "เบื่อ ๆ น่ะค่ะ ก็เลยขับรถออกมาว่าจะมาเดินเล่นที่ชายหาดรอ ไม่คิดว่าจะมาเจอพี่นิวที่นี่ พี่ละคะทำไมมาเดินเล่นชายหาดตอนบ่ายสองแบบนี้ได้" "หัวมันตื้อ ๆ น่ะ ก็เลยมาฟังเสียงคลื่น เสียงลมหน่อยให้สมองโล่งแล้วค่อยไปทำงานต่อ" นวนนท์ตอบอย่างขอไปที "จะไม่สบายอีกหรือเปล่า ปอดพี่ยังไม่แข็งแรงนะคะ ไหนขอจับหน่อย" คนตัวเล็กยกมือขึ้นแตะที่หน้าคนพี่เพื่อวัดอุณหภูมิ ส่วนอีกคนได้แต่ยืนแข็งทื่อเหมือนถูกสาบกลายเป็นหิน "ไม่เป็นไรแล้ว เออ..ใช่ ทิ้งห้องควบคุมมานานแล้ว ต้องกลับไปดูซ๊ะหน่อย พี่ไปก่อนนะ" นวนนท์ทำทีเอาเรื่องงานมาอ้าง "งั้นหนูก็จะไปเข้างานเหมือนกันใกล้เวลาแล้วต้องไปรับเวรแล้ว" ณรรรดาเอ่ยขึ้นบ้าง "อื้ม..ไปซิ" สองคนเดินมาด้วยกันเพราะทางที่สองคนเดินนั้นมันบรรจบกันพอดี อีกด้านของผู้สังเกตการณ์ "เฮียว่าสองคนนี้ยังไงกันมั๊ย" จิรายุเอ่ยขึ้นแล้วหันไปสบตาคู่สนทนาเพียงครู่แล้วหันกลับมาสังเกตการณ์ที่จอมอนิเตอร์ต่อ "จะยังไงก็ช่างเถอะ ขอให้นายนิวมีความสุขก็พอ" กรวรรธเอ่ยยิ้ม ๆ "ครับ ผมก็หวังว่าอย่างนั้น ไอ้นี่มันตลกร้องไห้ครับ ผมรู้" จิรายุกล่าวเรียบ ๆ แล้วผ่อนลมหายใจยาว "อีกไม่นานเฮียจะไปบริษัทนู้นเต็มตัวล๊ะ ดูแลกันเองดี ๆ นะ ฝากดูแลคุณดามด้วย" กรวรรธเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วหันไปสบตาบอดี้การ์ดรุ่นน้องที่รักเหมือนน้องชายเพียงครู่ "ได้ครับเฮีย น้อมรับด้วยชีวิต สำหรับนายใหญ่และนายแล้ว ผมยอมถวายหัวให้เลย" จิรายุเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น "ไม่ต้องขนาดน๊าน แค่เต็มความสามารถก็พอแต่ต้องเหลือชีวิตซิ เฮียไปก่อนนะ ว่าจะเข้าบริษัทนู้นสักหนอย" กรวรรธตัดบท "ครับเฮียเกม" ด้านนวนนท์ที่เดินกลับมาถึงห้องควบคุมและเห็นหลังกรวรรธไว ๆ "เฮียเกมไปบริษัทนู้นแล้วเหรอโจ" นวนนท์เอ่ยถามเพื่อนรักเมื่อเห็นหลังไว ๆ ของพี่ชายที่นับถือ "อืม เห็นว่าจะไปเต็มตัวเร็ว ๆ นี้ เฮียเค้าคงอยากทำอะไรให้น้องวันพระมั่นใจและภูมิใจในตัวเค้าแหละ แล้วนายล่ะนิวจะเริ่มหรือยัง ไม่ต้องห่วงกุเลยนะเว้ยถ้ามึงจะทำแบบเฮียเกมบ้าง ถ้าคิดว่าใช่ก็ไปเลย" จิรายุเอ่ยขึ้นและมองหน้าเพื่อนรักอย่างค้นหา "เฮ้ย มึงพูดถึงอะไร จ้องหน้ากุทำไมหรือไอ้โจ ไอ้บ้า กุจะไปไหนได้ ใครเค้าจะเอากู" นวนนท์แค่นหัวเราะ "เออ..โกหกใครก็โกหกได้หรอก แต่ใจมึงอ่ะ.. รู้ดีที่สุด ระวังนะเว้ย หมาจะคาบไปแดก ทำเป็นเล่นตัว" จิรายุเอ่ยอย่างนึกหมั่นไส้เพื่อนรัก เพราะเขาได้รู้ข้อมูลมาบ้างแล้วว่ารีเซฟชั่นคนใหม่เป็นลูกคุณหนูตระกูลร่ำรวยและพออกพอใจเพื่อนรักของเขาอยู่ ติดอยู่ที่ว่าเพื่อนรักของเขาตีกรอบความคิด คิดว่าตัวเองต้อยต่ำจนเกินไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD