EP.5 บอสร้ายคุกคามรักอย่างบ้าคลั่ง

1016 Words
คนที่เพิ่งเป็นไม้กันสุนัขให้กับเขาหมาดๆ แค่เงยหน้าขึ้นสบตาคนใจร้ายปากร้ายเสี้ยววินาทีหนึ่งเท่านั้น ก็เดินเลี่ยงกลับไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง นั่งลงด้วยอาการสงบนิ่ง เพราะวันนี้หน้าที่ของเธอคงหมดแล้ว โซลดอนยืนมองหญิงสาวเก็บโต๊ะทำงานจนเรียบร้อยด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กๆ และไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงรู้สึกผิดหวัง แล้วมองดูหญิงสาวเตรียมกระเป๋าสะพายมาคล้องไหล่เตรียมจะลุก จึงเดินเข้าไปหา ทำให้ร่างเล็กที่กำลังจะลุกจากเก้าอี้ต้องนั่งลงต่อแล้วมองหน้าเจ้านายหนุ่มด้วยเครื่องหมายคำถาม เขาจะใช้เธอทำงานต่อหรือ “จูบเมื่อกี้ ฉันไม่ได้คิดอะไรนะ เธอก็ไม่ควรคิดอะไรเช่นกัน” เอวิตาก้มหน้าเข้าใจ ก่อนจะขยับเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยืน พูดกับเขาประโยคแรกของวัน ที่ยาวกกว่าคำว่า ‘ค่ะ’ ว่า... “เอวี่เลิกงานได้แล้วใช่ไหมคะ” “ได้เวลาแล้วนี่ แต่หวังว่าพรุ่งนี้ เธอจะยังคงมาทำงานต่อนะ คงไม่ใจเสาะออกจากงานตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานล่ะ” ร่างสูงไหวไหล่ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานตามเดิม เอวิตาไม่โต้เถียงอะไรอีก เธอเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ ปิดประตูห้องทำงานให้อย่างแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยินเสียง ทิ้งให้คนที่อยู่ข้างหลังมองตามไปจนลับตาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่ชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไร แต่ทว่าภาพที่เอวิตากำลังถูกเขากอดจูบเมื่อครู่ที่ผ่านมานั้น มันช่างชัดเจน แถมรสชาติแสนหวานในโพรงปากเล็กนั่น ก็ยังหวานติดลิ้นเขาอยู่เลย และกลิ่นกายของหล่อนก็ยังหอมกรุ่นติดปลายจมูกของเขาอีกต่างหาก เจ้าของร่างสูงมาดเข้มถอนหายใจเฮือกใหญ่ พ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะเคาะนิ้วกับโต๊ะทำงานหลายอีกนาทีอย่างใช้ความคิด ก่อนจะรีบเคลียร์เอกสารบนโต๊ะให้เรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องไป แต่ยังไม่ทันจะออกจากออฟฟิศ ก็เจอเข้ากับซีเรีย คู่ควงคนใหม่ล่าสุดของเขา แค่ชวนหล่อนไปดินเนอร์แค่ครั้งเดียว หญิงสาวก็ตามเขามาถึงที่ทำงานของเขาเชียวหรือ ทั้งที่โทรบอกหล่อนก่อนหน้านี้แล้วว่า เลิกงานแล้วเขาจะไปรับหล่อนเอง แล้วหล่อนมาหาเขาโดยไม่โทรบอกล่วงหน้าแบบนี้ แอบมาจับผิดเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ‘เริ่มจะรำคาญแล้วสิ’ โซลดอนถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้ง ก่อนจะฉีกยิ้มให้ดาราสาวผมทองตามมารยาท “คุณทำผมเซอร์ไพรส์มากนะซีเรีย” “พอดีวันนี้เลิกกองเร็วค่ะ ไม่รู้จะไปที่ไหน จำได้ว่าเรามีนัดกันเย็นนี้ ฉันก็เลยอาสามารับคุณเองค่ะ” “งั้นออกไปกันเลยนะ” “ดีค่ะ” ซีเรียเดินมาควงแขนชายหนุ่มเดินไปที่รถของตนเองที่จอดอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น การได้คู่ควงทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ คงมีผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศที่อิจฉาเธอ เอวิตากลับมาถึงบ้านราวๆหนึ่งทุ่ม เพราะมัวแต่ไปเลือกซื้อหนังสือนิยายมาอ่าน พอมาถึงห้องก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนแล้วนอนอ่านนิยายที่ซื้อมาทันที เพื่อสลัดภาพใบหน้าของคนใจร้ายทิ้งไป จึงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือนิยายเล่มหนาจนเกือบจบเล่มจึงได้ผล็อยหลับไปด้วยความง่วงงุน แล้วพอตื่นขึ้นมาอีกที ก็รู้สึกเหมือนถูกอะไรสักอย่างหนักๆทับร่างจนแทบกระดุกกระดิกไม่ได้ พยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อบางอย่างที่ทาบทับอยู่กำลังระดมจูบเธอทั่วใบหน้าอย่างคุกคาม แถมมีกลิ่นแอลกอฮอล์ติดมาด้วยอีกต่างหาก ‘กลิ่นแอลกอฮอล์!’ พอรู้แล้วว่าสิ่งที่ทับตัวเธออยู่คืออะไร เปลือกตาที่หนักอึ้งเปิดขึ้นทันทีแล้วก็เป็นอย่างที่คาดคิดเอาไว้ไม่มีผิด โซลดอนกำลังกอดปล้ำเธอเพราะเมา ‘พี่โซลดอนเข้ามาได้ยังไง หรือว่าเราลืมล็อกประตู?’ สาวน้อยคิดขณะที่ปากบางเฉียบกำลังใกล้จะจูบปากเธออยู่รอมร่อ จึงรีบสะบัดหน้าหนี แล้วขอร้องให้เขาหยุด “พี่โซลดอน พี่เมามาใช่ไหม ปล่อยเอวี่นะ” ‘โซลดอนคงเมามากแล้วเข้าห้องผิดแน่ๆ’ “อย่าดิ้นสิ” “พี่โซลดอน ปล่อยเอวี่นะ!” “ไม่ปล่อย เธอเป็นสมบัติของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้” “ไม่ใช่ เอวี่ไม่ใช่สิ่งของนะ และเอวี่ก็ไม่ใช่สมบัติของใคร ปล่อยเอวี่เดี๋ยวนี้นะ! โอ๊ย!” “เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันนะเด็กน้อย รวมทั้งแม่ของเธอด้วย ฉันเกลียดยัยแม่มดนั่น ฉันเกลียดแม่ของเธอ และฉันจะทำลายเธอให้ย่อยยับ!” คนเมาแม้จะเสียงอ้อแอ้ แต่ก็มีความจริงจังหนักแน่นอยู่ในน้ำเสียง เพราะสิ่งที่เขาพูดออกมา มันมาจากความรู้สึกที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจมานานแสนนาน พอได้ฟังที่ชายหนุ่มพูด แม้จะรู้ว่าเขาเมา แต่เธอก็อดที่จะรู้สึกเจ็บปวดร้าวในหัวใจไม่ได้ น้ำคำของเขา เหมือนน้ำกรดที่รินรดลงกลางใจ มันกัดกร่อนจนรู้สึกเจ็บแสบแปลบไปทั้งหัวใจ ยิ่งเมื่อสู้แรงเขาไม่ได้ ขณะที่ปากบางเฉียบก้มลงมาบดขยี้เรียวปากเล็กของเธอ น้ำใสๆก็ไหลลงมาเป็นทาง สองมือของเธอถูกจับกดจมลงกับที่นอน ปากของเธอก็ถูกเขาจูบอย่างบ้าคลั่งเต็มไปด้วยแรงแค้น แรงชัง และเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ เมื่อเขาทาบทับลงมาเกือบเต็มตัว และจูบแบบไม่ให้เธอได้พักหายใจเลย “อื้อ...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD