ตอนที่ 4 สายลึกลับในยามเช้า

1265 Words
แสงเช้าส่องผ่านผ้าม่านบาง ๆญาดาขยับตัวเบา ๆ บนเตียง ร่างกายยังคงอ่อนล้า แต่สมองเริ่มตื่นเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทันที ไม่ใช่เสียงแจ้งเตือนทั่วไปแต่เป็นเสียงเรียกเข้าจริง ๆ เธอสะดุ้งคว้ามือถือขึ้นมาดูด้วยหัวใจที่เต้นเร็วอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลข มีแค่คำว่า “ไม่ระบุผู้โทร” ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ญาดากำลังจะกดตัดสายแต่ไม่รู้ทำไม...นิ้วเธอกลับเลื่อนไปกด “รับ” แทน เงียบ ไม่มีเสียงพูด ไม่มีเสียงหายใจ มีเพียง...เสียงดนตรีคลาสสิกเบา ๆ ดังอยู่เบื้องหลัง เป็นเสียงเปียโนช้า ๆ ทำนองเหมือนกับ...เพลงในห้องอาหารหรู เพลงที่เธอเคยได้ยิน…จากไหนสักแห่งหรือจากความฝันเมื่อคืน? “ฮัลโหล?” เธอเอ่ยออกไปในที่สุด เสียงแหบเล็กน้อยจากการเพิ่งตื่น ยังคงเงียบ …ก่อนที่เสียงผู้ชายหนึ่งจะดังขึ้นช้า ๆ เสียงต่ำ ลึก และเรียบนิ่งจนน่าขนลุก “วันนี้คุณจะมา...หรือให้ผมส่งรถไปรับ?” ญาดานิ่งไปในทันทีเลือดในกายเธอเย็นวาบ เธอกำมือถือแน่นกว่าเดิม ริมฝีปากขยับแต่ไม่มีเสียง “คุณเป็นใคร…” เธอถามออกไปในที่สุด แต่ปลายสายกลับวางไปแล้วไม่มีคำอธิบายไม่มีการยืนยัน เหลือเพียงแค่จังหวะเปียโนที่ยังติดอยู่ในหัวเธอกับคำถามที่เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในใจว่า— นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่? และเธอ...หลุดเข้าไปในมันตั้งแต่เมื่อไหร่? หลังจากนั้นญาดาจึงอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานตามปกติ “คุณญาดาคะ เช้านี้มีประชุมตอนสิบโมงค่ะ” เสียงพนักงานต้อนรับที่หน้าเคาน์เตอร์แจ้งอย่างเคยชิน ญาดาพยักหน้าเบา ๆ ยิ้มเล็กน้อย เธอสวมสูทสีงาช้างเรียบหรู ผูกผมไว้เรียบเนี๊ยบ ริมฝีปากทาลิปสีแดงตุ่น ตัดกับผิวขาวจัดอย่างเฉียบขาด เธอเดินผ่านทางเดินกระจกของชั้นผู้บริหาร ทุกย่างก้าวแม่นยำ เสียงรองเท้าส้นสูงแตะพื้นอย่างมีจังหวะ ทุกคนที่เดินสวนต่างหลีกทางให้เธอโดยอัตโนมัติ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนเธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังไม่ลบ QR Code ที่ขึ้นคำว่า “ขอบคุณที่ตอบรับ” ไม่มีใครรู้...แม้แต่ตัวเธอเอง ว่ากำลังถูกใครบางคน "เฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา" ห้องกระจกด้านบนสุดของตึกฝั่งตรงข้าม ม่านสีเทาถูกเลื่อนเปิดเพียงแค่รอยแคบพอให้แสงลอดผ่าน เวหายืนอยู่ตรงนั้น สูทสีดำเช่นเคย ใบหน้านิ่ง ไม่มีอารมณ์ใดปรากฏ แต่ในสายตาเขา...ญาดาในวันนี้ “มั่นคงและทรงพลัง” กว่าทุกวัน เหมือนผู้หญิงที่รู้ว่าตัวเอง “กำลังถูกท้าทาย” แต่ยังไม่ยอมแสดงไพ่ เขาไม่ส่งข้อความ ไม่โทรซ้ำ...เพราะเขาไม่จำเป็นต้องทำ แค่ปล่อยให้เวลาไหลไปผู้หญิงอย่างเธอจะเลือกมาเอง ไม่ใช่เพราะถูกบังคับ แต่เพราะเธอจะเริ่มอยากรู้ว่า...โต๊ะดินเนอร์นั้น มีอะไรที่ “คู่ควรกับเธอ” ถึงเพียงนี้ เวหาหยิบแก้วเอสเพรสโซ่ขึ้นจิบ ปลายสายตายังหยุดอยู่ที่หญิงสาวอีกฟากของกระจก “มาวันนี้ก็ได้…” “หรือพรุ่งนี้…” “แต่เธอจะมาแน่นอน ญาดา” เสียงเปิดแฟ้มเอกสารดังเบา ๆ โปรเจคเตอร์ฉายภาพสไลด์ขึ้นบนผนังห้องประชุมกระจกใส ผู้บริหารนั่งล้อมโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ แสงแดดสะท้อนเงารูปร่างลงบนโต๊ะไม้ขัดเงา และญาดา…คือผู้หญิงเพียงคนเดียวในห้อง ที่ไม่มีตำแหน่งผู้บริหารแต่ทุกสายตากลับ “มองเธอ” ก่อนใคร เธอกำลังพูดสรุปตัวเลขจากไตรมาสล่าสุดน้ำเสียงมั่นคงแต่ไม่แข็ง นิ้วเรียวเลื่อนเลเซอร์ชี้กราฟขึ้นลงด้วยความมั่นใจ สายตาสบทุกคนตรง ๆ แบบที่ทำให้แม้แต่นักลงทุนชายวัยห้าสิบยังต้องกลืนน้ำลาย “รายงานนี้ใช้ข้อมูลล่าสุดจากสามแหล่งหลักค่ะ” “ถ้าเรากระจายงบในแบบที่เสนอ ช่องทางรายรับจะเปิดอีก 12% ภายในสิ้นปี” ทุกถ้อยคำจากปากเธอชัดเจน ไม่มีคำฟุ่มเฟือย ไม่มีเสียงสั่น แม้ในใจ…จะยังรู้สึกหน่วงแน่น “ค่ารักษาของแม่งวดหน้า…ต้องจ่ายภายในสิ้นเดือน” “ค่า MRI, ค่าเตียงพิเศษ, และยาที่ไม่อยู่ในประกัน…” แม้เงินเดือนเธอจะสูง แม้โบนัสของเธอจะได้มากกว่าหัวหน้าทีมบางคน แต่รายจ่ายชีวิตจริง…สูงกว่า “ตัวเลขบนสไลด์” เสมอ ญาดายังคงยืนตรง ยังยิ้ม ยังพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผู้ชายเก่งที่สุดในห้องเงียบฟัง แม้ในหัวจะกำลังคำนวณว่า ถ้าเธอตัดค่าอาหารไปอีกนิด อาจพอจ่ายค่าตรวจก้อนเนื้อที่แม่เริ่มเจ็บขึ้นมาอีกข้างเธอไม่สะท้าน เพราะนี่คือสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุด “แสดงให้โลกเห็นว่าเธอคุมได้” แม้ในใจจะไม่เหลืออะไรให้ควบคุมเลยก็ตาม ในอีกฟากของเมืองเวหาดูการประชุมผ่านหน้าจอส่วนตัวไม่ใช่ภาพสไลด์ ไม่ใช่เนื้อหาแต่เป็นเธอญาดาในโหมดที่เปล่งประกายที่สุด และก็ “เปราะบางที่สุด” ในสายตาเขา เขาไม่พูด แค่จิบกาแฟเงียบ ๆ แล้ววางซองการ์ดบนโต๊ะ เหมือนจะส่งคำถามผ่านสายตาไปถึงเธอว่า... “จะยอมแบกทั้งหมดไว้คนเดียว...ไปจนถึงเมื่อไหร่?” หลังประชุมจบ ญาดาเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ปกติแล้วพนักงานส่วนใหญ่จะกลับมาก่อนเธอ แต่วันนี้โต๊ะกลับเงียบผิดปกติ ราวกับเวลาเพิ่งหยุดเดินก่อนเธอเพียงเสี้ยวนาที เธอวางแฟ้มในมือลงกำลังจะเปิดคอมพิวเตอร์... แต่บางอย่างที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะดึงสายตาเธอไปทันที ซองกระดาษเนื้อหนา สีดำสนิท ขลิบขอบทองบาง ๆ ด้วยลวดลายสั่งทำพิเศษ ไม่มีตรา ไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีแม้แต่ลายมือเขียน “ใครวาง?” “เมื่อไหร่?” “ทำไมไม่มีใครเห็น?” เธอหันมองรอบตัว ไม่มีใครอยู่ใกล้โต๊ะข้าง ๆ ว่างเปล่า แม้แต่กล่องเอกสารที่เคยกองอยู่ด้านหลัง ยังถูกจัดเรียบร้อยเกินกว่าปกติ เหมือนมีใครบางคน ที่ “ไม่ใช่คนธรรมดา” ตั้งใจให้เธอเห็นมันชัดเจนที่สุด...ทันทีที่กลับมา ญาดาไม่แตะมันในทันทีเธอนั่งลงช้า ๆ จ้องมันอย่างระวัง เหมือนของต้องห้ามที่พร้อมจะปลุกบางอย่างขึ้นมาในใจเธอ สุดท้ายเธอจึงเอื้อมมือไปปลายนิ้วสัมผัสซองการ์ดเย็นเฉียบ กลิ่นหอมบางอย่างลอยแตะจมูกเธอ กลิ่นกุหลาบแดงแบบเดียวกับดอกไม้ที่วางบนโต๊ะเมื่อวาน กลิ่นเดียวกับที่เธอจำได้...จากเสียงเปียโนเมื่อคืนเธอเปิดมันออก ด้านในคือบัตรแข็งขนาดเท่าฝ่ามือพื้นดำพิมพ์ทองด้วยฟอนต์โบราณ มีเพียงประโยคเดียวตรงกลาง: “โต๊ะนี้ถูกจองไว้สำหรับคุณมาตลอด” Dinner for One — 20:00 น. LUNA TOWER ชั้นสูงสุด คืนนี้ ญาดาวางบัตรลงอย่างระวังนิ้วที่แตะบัตรยังรู้สึกเย็น และหัวใจของเธอ...ก็ไม่เหลือความสงสัยอีกต่อไปว่า “ใครกำลังตามเธอ” คำถามที่เหลือคือ เธอจะหนีออกจากโต๊ะนั้น …หรือจะลุกขึ้นแต่งตัวให้สวยที่สุดในชีวิต แล้วเดินไปนั่งตรงข้ามเขาด้วยตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD