เสียงเพลงในผับค่อนข้างดัง น้ำอิงพูดมาขาดๆ หายๆ ฟังไม่ค่อยถนัด แต่ก็ฟังออกว่าพูดถึงคลิปอะไรสักอย่าง ผมเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ ลากแขนยัยนั่นออกมาคุยถึงห้องน้ำเพราะมันเงียบดี
“เมื่อกี้เธอพูดว่าไง!?”
“คลิปในโทรศัพท์นาย”
“ทำไม...”
“ฉันเอาไปปล่อยแล้ว”
ผมยืนอึ้ง มองใบหน้าไม่สะทกสะท้านของน้ำอิงด้วยความรู้สึกหัวหมุนชั่วขณะ ภาพเหมยทอวาบเข้ามาในหัว รีบตรวจสอบมือถืออย่างไวก่อนจะเจอประวัติการส่งเมลถึงน้ำอิง ผมแน่ใจว่าผมไม่เคยยุ่งกับคลิปนี้ตั้งแต่วันนั้น
“นี่มันหมายความว่ายังไง ทำไมเธอ!”
ผมนึกย้อนไปถึงวันที่น้ำอิงมาขอคำปรึกษาที่ห้อง รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนมุมปากน่ารักๆ นั่น
“ใช่ วันนั้นแหละที่แบตโทรศัพท์ฉันหมดแล้วนายก็ให้ฉันยืม แต่ฉันดันกดผิดไปเจอคลิปที่นายถ่ายไว้อย่างไม่ตั้งใจน่ะสิบังเอิญที่หน้าของผู้หญิงในคลิปมันเป็นคนเดียวกับที่จ้องจะแย่งแฟนฉัน”
“เธอทำอะไรลงไปน้ำอิง!”
ผมจ้องน้ำอิงอย่างไม่พอใจ โมโหที่มีคนมายุ่งเรื่องส่วนตัว ถึงยัยนี่จะเป็นเพื่อนสมัยม.ปลายยังไงก็ไม่มีสิทธิ์มาจิ๊กข้อมูลในโทรศัพท์คนอื่นตามใจชอบ
“ช่วยไม่ได้ ยัยนั่นอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง ฉันเตือนมันแล้วแต่มันไม่ฟังก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
จู่ๆ ภาพวุ่นวายหน้าหอพักก็ผุดวาบเข้ามาในหัว ตอนนั้นผมไปทันเห็นน้ำอิงทึ้งผมเหมยพอดีแต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปห้ามเลโอก็ดันโผล่มาซะก่อน ผมเหนื่อยด้วยเพิ่งขับรถไปรับปีใหม่ที่สนามบินจึงยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ไม่อยากเข้าไปยุ่งให้มันวุ่นวาย
ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนั้น ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้กับน้ำอิงมาก่อนด้วย ทีแรกที่ยัยนี่โผล่มาหาที่ห้องผมก็นึกว่ามาเรื่องนั้นแต่ดันไม่ใช่... น้ำอิงมาหาผมเพราะเรื่องที่เธอตั้งท้องต่างห่าง
ตอนที่ยัยนี่ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อแฟนผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเป็นเพื่อนเก่า
“เธอปล่อยคลิปนั่นที่ไหน”
“ในกลุ่มมหาลัยนี่นายยังไม่เห็นเหรอ”
“จะเห็นได้ไงวะ” ผมสบถเสียงฉุนรีบไล่ดูคลิปทันที ในคลิปมีการตัดต่อและเซนเซอร์หน้าผู้ชายเอาไว้ ถ้าไม่สังเกตดีๆ คงมองไม่ออกว่าเป็นผม แต่ผู้หญิง...มันหน้ายัยเหมยชัดๆ
“ฉันเซนเซอร์หน้านายแล้วไม่ต้องห่วง นายคงไม่ได้จริงจังกับยัยนี่ใช่มั้ย ไม่งั้นจะถ่ายคลิปไว้ทำไม”
น้ำอิงแสยะยิ้มยะเยือก ท่าทางสะใจมากกว่ารู้สึกผิดอีก
โธ่เว้ย!
ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี แผนที่จะใช้คลิปต่อรองกับเหมยเสียหมดแถมนัยน์ตาแดงก่ำสุดเคียดแค้นของยัยนั่นยังโผล่เข้ามาในหัวทุกๆ สิบวินาทีเลยให้ตายสิ
“เธอไม่มีสิทธิ์ขโมยอะไรในโทรศัพท์ฉัน”
“น่าๆ ถือซะว่าให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อน”
ผมกัดฟันกรอด
“หรือจะให้ฉันบอกอีนั่นว่านายไม่รู้เรื่องที่คลิปหลุดก็ได้นะ มันจะได้รู้ตัวไงว่าที่เป็นแบบนี้เพราะมาท้าทายฉัน”
“ไม่จำเป็น บอกไปก็เท่านั้น”
◇ ◆◇ ◆◇ ◆
: เหมย :
ไม่กี่วันต่อมา
หลังมีคลิปหลุดฉันเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน จู่ๆ บ่ายวันหนึ่งก็มีแขกมาพบ คะนิ้งกับผู้ชายคนนั้น ...ริกกี้! ทั้งคู่กำลังคอยฉันอยู่บนโซฟารับแขก
ถ้าจำไม่ผิดหมอนี่แหละคู่แข่งหัวใจของคลื่น
“รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่” ฉันมองหน้าคะนิ้ง จำได้ว่าไม่เคยบอกใครเรื่องที่อยู่ นอกจากเลโอไม่มีใครรู้เรื่องฐานะที่บ้านฉันสักคำ ไม่ได้ต้องการจะปกปิดแต่ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องป่าวประกาศเช่นกัน
“เลโอน่ะ”
“นึกแล้วเชียว ...แล้วนั่น?” ฉันตวัดสายตาไปทางผู้ชายท่าทางอันตรายคนนั้น แววตาของเขาดุดันและแฝงเร้นไว้ด้วยความร้ายกาจ ไม่น่าไว้ใจ
“เอ่อ แฟน... แฟนฉันน่ะ”
“เดี๋ยวไปรอข้างนอกนะนิ้ง” เขากำลังจะลุกขึ้น
“ไม่ต้องหรอกฉันไม่ถือ ยังไงเรื่องที่คุยกันวันนี้คะนิ้งก็ต้องเล่าให้นายฟังอยู่ดี” ฉันห้ามหมอนั่นเสร็จก็ตวัดสายตาไปทางคะนิ้ง “แล้วมาที่นี่มีธุระอะไร”
“เหมยฉันเห็นคลิป....”
“เห็นแล้วเหรอ”
คะนิ้งชักสีหน้าหวาดหวั่นเมื่อเห็นฉันทำหน้านิ่งๆ ฉันร้องไห้และจมอยู่กับความสิ้นหวังมามากพอแล้วที่สำคัญฉันไม่ชอบให้ใครเห็นด้านที่อ่อนแอ
“มันเกิดอะไรขึ้นเหมย ...อย่าบอกนะว่าเธอตั้งใจ”
“ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอกคะนิ้ง ...ไอ้บ้านั่นต้องชดใช้”
“เธอหมายถึงใคร”
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มา” ฉันตัดบท ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนเอามีดมากรีดหัวใจ
“แต่เราเป็นเพื่อนกันนะ มีอะไรก็บอกสิเหมย”
“รู้ตัวคนปล่อยคลิปแล้ว”
จู่ๆ ผู้ชายข้างๆ คะนิ้งก็โพล่งขึ้นมา ฉันขมวดคิ้ว มองท่าทีกระตือรือร้นของเขาอย่างสับสน ริกกี้ให้คนสืบเรื่องคลิปงั้นเหรอ
“ใคร” คะนิ้งโพล่งถามทันที
“เด็กไอ้คลื่น!”
“คลื่น!? เหมยนี่มันหมายความว่ายังไง” คะนิ้งหันขวับ
ฉันสูดหายใจลึกมองตอบสายตาร้อนรนของคะนิ้งด้วยสายตาเดือดพล่าน เหมือนมีก้อนแข็งๆ จุกที่ลำคอ สุดท้ายฉันก็ทนไม่ไหว ระบายเรื่องในวันนั้นออกมาจนหมด
“วันนั้นที่งานเรซควีน ฉันดื่มน้ำที่หมอนั่นเตรียมไว้ให้เธอแล้วมันก็เกิดขึ้น ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันถูกมันใช้ประโยชน์จากคลิปนั่น ทุกครั้งที่เธอเจอกับคลื่นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นฉันเองที่หลอกเธอ”
“นี่...” คะนิ้งอึ้งสนิท
ฉันไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงและไม่คิดจะให้ใครมาเข้าใจด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดมาจากความประมาทของฉันจริงๆ
“...เธอโดนปล่อยคลิปฉาวเพราะฉันเหรอ”
น้ำเสียงคะนิ้งเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ไม่ใช่หรอก คนที่ผิดคือไอ้สารเลวนั่นต่างหาก ไอ้เวรนั่น...มันต้องได้รับกรรมที่ทำกับฉัน!” ฉันกำหมัดแน่น
“วิเคราะห์จากสถานการณ์ก็คือเธอรับเคราะห์แทนคะนิ้ง”
ริกกี้สรุป คะนิ้งสะท้านเฮือกความรู้สึกผิดกลัดแน่นอยู่เต็มแววตา
“ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นเลยนะ”
“เธอไม่พูดแต่มันเป็นความจริง หมอนั่นต้องการจะวางยาคะนิ้ง...แล้วถ้าคะนิ้งไม่ไปโผล่ที่งานเรซควีนเรื่องเลวร้ายทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้นกับเธอเช่นกัน”
เขาจะพูดอะไร ไม่รู้ตัวเหรอว่ายิ่งพูดก็ยิ่งตอกย้ำคะนิ้ง ใช่... คนที่ชวนฉันไปทำงานวันนั้นก็คือคะนิ้ง
เธอแค่อยากมีเพื่อนไปด้วย... ฉันรู้ดีคะนิ้งไม่มีเจตนาร้าย
“ยิ่งพูดคนที่รู้สึกแย่ก็คือคะนิ้งนะ”
“ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้คลื่น ฉันเองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยกำจัดคลิปนั่นเอง”
คำพูดของริกกี้ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว แต่ว่า... ยังไม่ทันเที่ยงคืน จู่ๆ เลโอก็โทรศัพท์มาบอกว่าคลิปทั้งหมดหายเกลี้ยงไปจาก Internet
เป็นไปได้ยังไง เมื่อตอนบ่ายยังเห็นแชร์ให้ลึ่ม!
“เพื่อนนายเป็นคนทำเหรอ”
(เปล่าครับ มันบอกไม่ใช่ฝีมือมัน)
“งั้นใครล่ะ?”
(เห็นมันบอกว่าคนที่ลบคลิปใช้โค้ดแฝงว่า H)
“เอชเหรอ?”
(ครับ)
ใครกันนะ... หรือจะเป็นฝีมือริกกี้จริงๆ ฉันรีบโทรหาคะนิ้งด้วยความตื่นเต้นแต่อีกฝ่ายไม่รับสาย ฉันกำลังจะโทรอีกรอบแต่ดันมีสายเข้าซะก่อน
>> พี่แทน
ชื่อที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนหน้าจอทำฉันใจสั่น ตั้งแต่มีเรื่องคลิปหลุดออกไปฉันลืมนึกถึงเขาไปชั่วขณะ
“คะพี่แทน”
(เหมย... พี่อยากขอโทษ)
“พี่แทนจะขอโทษเหมยทำไม”
น้ำเสียงพี่แทนเศร้าและบีบคั้นแปลกๆ แต่ฉันนึกไม่ออกจริงๆ ว่าอะไรทำให้เขาเป็นแบบนั้น
(เรื่องคลิป...)
“คะ!?”
ฉันตัวแข็งทื่อ พี่แทนเห็นคลิป? หัวใจฉันมันเหมือนจะแตกสลายเมื่อรู้ว่าเขาเห็นมัน
“พี่แทน.... เหมย เหมย...ไม่ได้เป็นอย่างในคลิปนะ พี่แทนอย่าเพิ่งเข้าใจเหมยผิดนะ”
(พี่รู้ว่าเหมยไม่ใช่คนแบบนั้น พี่...พี่อยากเจอเหมย มีเรื่องจะคุยด้วย เหมยอยู่ไหนพี่ไปหาได้มั้ย)
“พี่แทน”
น้ำเสียงร้อนรนของพี่แทนทำฉันแปลกใจ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ต่อให้ใครพูดยังไงฉันไม่มีทางออกจากบ้านแน่ๆ แต่หลังจากที่คลิปถูกลบมันทำให้ฉันมีความกล้ามากขึ้น
“งั้นเราไปเจอกันที่นี่ได้มั้ยคะ”
ฉันบอกที่ที่อยากไปให้พี่แทนรู้ เขาดูอึ้งนิดหน่อยตอนได้ยินชื่อร้านที่ฉันบอกแต่ก็ตอบตกลงแล้ววางสายไป
พี่แทน...นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน
ฉันบีบโทรศัพท์ในมือแน่น ในอกปวดหนึบ พอเกิดเรื่องคลิปฉาวฉันก็ไม่คู่ควรกับเขาอีกต่อไป ที่ฉันนัดเขาคืนนี้ก็เพื่อตั้งใจจะบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
◇ ◆◇ ◆◇ ◆