ตอนที่ 4.1

1200 Words
ฉันนั่งเหม่อในห้องเรียน ไม่รู้อาจารย์สอนอะไรบ้าง บทเรียนวันนี้ไม่ซึมซับเข้าหัวฉันเลยสักคำ แต่ละวินาทีที่ผ่านพ้นมีแต่เสียงครางกระเส่ากับภาพวาบหวิวในห้องน้ำหลอนใจไม่หยุด คำขู่ของหมอนั่นทำให้ฉันแอบมองไปที่คะนิ้งบ่อยๆ จนเลโอกระซิบถาม “มีอะไรหรือเปล่าคุณหนู” “เปล่าหนิ ไม่มีอะไร” ฉันหันกลับไปตั้งใจเรียนเงียบๆ กระทั่งคลาสเรียนเลิก ฉันบอกปัดเลโอที่ชวนไปกินข้าวก่อนจะสาวเท้าตามเป้าหมายไป “คะนิ้ง” “เหมย? มีอะไรเหรอ” “รีบกลับมั้ย ไปกินไอติมกัน” นิ้งทำหน้างงๆ กลับมา ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยชวนอะไรแบบนี้เลย “อื้ม ก็ไม่ได้รีบนะ ไปกินก็ได้” ยัยนั่นพยักหน้ารับมึนๆ เหมือนอยากรักษาน้ำใจฉันมากกว่า ไม่ได้ระแคะระคายเรื่องแผนการของฉันเลย นี่ฉันทำถูกหรือเปล่านะที่มาหลอกคะนิ้งเพื่อเอาตัวรอด “อ้าวเหมยไปสิ ยืนเหม่ออะไรอยู่เนี่ย” “เอ๊ะ?” “ไปกินไอติมไม่ใช่เหรอ” “อะอื้ม” “ไปเร็ว” ฉันแทบไม่มีเวลาได้คิดต่อ เกือบจะเปลี่ยนใจอยู่แล้วเชียวแต่คะนิ้งกลับกวักมือเรียกฉันด้วยท่าทางกระตือรือร้น ฉันยิ้มเจื่อนๆ ให้เธอด้วยความรู้สึกผิดในใจ   ภายในร้านไอติมหวานหน้ามหาวิทยาลัย G “นึกไงเนี่ยชวนมา” “หิวอะ ไม่รู้จะชวนใคร คนอื่นก็มีธุระกันหมด” “แล้วเลโออะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นไปไหนด้วยกันเลย” “หมอนั่นมีแฟนแล้ว กำลังเห่อแฟนใหม่อยู่น่ะ” ฉันไม่ได้โกหกเรื่องเลโอหมอนั่นมีแฟนจริงๆ แต่เรื่องเห่อนี่คงไม่ใช่ เพราะถึงจะมีแฟนก็ยังคอยรับใช้ฉันเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมา คะนิ้งไม่พูดอะไรอีก ต่างฝ่ายต่างสนใจของกินตรงหน้า สักพักประตูร้านก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมการปรากฏตัวของร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาที่เห็นแล้วทำเอาแทบสะอิดสะเอียน “คลื่น?” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร ยัยคะนิ้งก็สะดุ้งไหวทันทีที่เจอหมอนั่น “อ้าว...คะนิ้ง” แล้วไอ้เวรนั่นก็ตีหน้าใสซื่อกลับมาทำเนียนเหมือนบังเอิญเจอ เดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์แล้วกลับมาที่โต๊ะของเราสองคน “ไง เมื่อวานไม่ตอบไลน์เลยนะ” ฉันสะดุ้ง นึกว่าเขาคุยด้วยแต่สายตาหมอนั่นกับจ้องไปทางคะนิ้ง ตั้งแต่มาคลื่นยังไม่มองฉันตรงๆ สักครั้ง ฉันรู้สึกร้อนที่แก้มเบาๆ ทั้งเคืองทั้งหมั่นไส้สุดชีวิต “โทษทีพอดีมันวุ่นๆ เลยไม่ได้ดู” “ทีหลังทักไรไปก็ตอบหน่อยนะเป็นห่วง” ฉันฟังที่สองคนนั้นคุยกันแล้วเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแถมยังรู้สึกเจ็บที่ใจแปลกๆ ด้วย ไม่ได้อ่อนไหวหรือเสียดายไอ้สารเลวคลื่นนะ แค่หงุดหงิดที่มันเล่นละครได้เนียนก็เท่านั้น สีหน้าของคลื่นดูไม่ออกเลยว่าทำเรื่องเลวทรามแบบนั้นเอาไว้ ถ้าไม่เจอกับตัวฉันเองก็คงคิดไม่ถึงเหมือนกัน คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ฉันลุกขึ้นทันทีที่หมดหน้าที่แม่สื่อ “อ้าวเหมย ไปไหน” “ปวดท้อง ขอตัวนะ” “เป็นไรมากเปล่า” “ไม่หรอก น่าจะเป็นวันนั้นน่ะ” ฉันแสร้งทำเป็นตะขิดตะขวงใจที่ต้องคุยเรื่องผู้หญิงๆ ต่อหน้าคลื่น แต่ความจริงฉันอยากถอดรองเท้ามาตบกบาลมันให้เละคามือไปเลย   Line! ~ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงข้อความก็เด้งขึ้นในไลน์กลุ่ม คะนิ้ง : ไปเที่ยวกันเถอะทุกคน เค้ก : วันไหน? เลโอ : เที่ยวไหน คะนิ้ง : ผับๆ เค้ก : OoO แม็ก : อะไรเนี่ย คะนิ้งชวนเที่ยว >O< คะนิ้ง : ก็เห็นช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันเลย ไปมั้ย ไม่ได้สนุกนานแล้ว เลโอ : ได้สิ ไม่มีปัญหา แม็ก : ไปๆ คนอื่นว่าไง เหมย นิก เทียน ยิปโซ ทิว นาย เงียบเลย หลังจากแม็กทักมาเป็นรายคนแบบนั้น ข้อความก็เด้งขึ้นเป็นพรวน ฉันผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบยังไงก็ได้ คุยกันไปคุยกันมาท่าไหนไม่รู้ทุกคนถึงนัดมารวมตัวกันที่ห้องฉัน ฮึ่ย คนยิ่งรู้สึกไม่ดีอยู่ด้วย ที่คะนิ้งชวนเที่ยวต้องเป็นฝีมือหมอนั่นแน่... พอได้เวลาก็มานั่งอัดกันในรถเลโอ (ก็รถที่บ้านฉันนั่นแหละ) ไปที่ผับดังกลางเมือง คะนิ้งเป็นคนเลือก เป็นผับที่แพงแต่ไม่หรูเกินไป พวกวัยรุ่นหน้าตาดีชอบมากัน เราเลือกโต๊ะนั่งที่คิดว่าดีที่สุด เปิดเหล้าสั่งกับแก้มกันตามปกติ สักพักพวกผู้ชายก็ออกลวดลายลงไปเต้นที่ฟลอร์ให้ท่าผู้หญิงมั่วไปหมด “ไงสนุกมั้ย” กำลังมองพวกนั้นเต้นเพลินๆ บุคคลที่ไม่เป็นมิตรต่อสายตาก็ปรากฏกายออกมา คลื่นเดินเข้ามาโอบไหล่คะนิ้งจากด้านหลัง ต่อหน้าต่อตาฉันเลย “คลื่น....” คะนิ้งหันไปมองด้วยท่าทางตกใจ แก้มแทบจะชนกับปากเน่าๆ ของหมอนั่นอยู่แล้ว ฉันอยากจะตรงเข้าไปกระชากไอ้เวรนั่นออกมาใจแทบขาด แต่ติดตรงที่ไม่มีสิทธิ์ ถ้าฉันพุ่งเข้าไปแบบนั้นได้ถูกสงสัยแน่ “ไปเต้นกัน” มันหันไปชวนคะนิ้ง “ฉันเต้นไม่เป็น” “มาน่าเดี๋ยวสอน” “อ๊ะ คลื่น!” หมอนั่นลากเพื่อนฉันออกไปโยกย้ายส่ายสะโพกที่กลางฟลอร์ จับคะนิ้งกอดคลอเคลียสุดฤทธิ์ เห็นแล้วเหมือนคู่รักกันไม่มีผิด แต่มันผิดที่ไม่ใช่ไง ฉันกำหมัดแน่น ไม่รู้สิ... เห็นแล้วรู้สึกทนไม่ได้อย่างบอกไม่ถูก ผุดลุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจนเพื่อนๆ ที่โต๊ะหันมามองเพราะตกอกตกใจ “มีอะไรเหมย?” “เอ่อ จะเข้าห้องน้ำ” “อ่อ ตกใจหมดนึกว่ามีเรื่องอะไร” พวกนั้นคลายสีหน้าหวั่นๆ ลงแล้วหันไปสนุกกันต่อ ฉันเดินออกมาทันทีแต่ยังไม่ทันถึงสามก้าวก็ได้ยินเสียงขวดแตกดังขึ้นมา โครม! “กรี๊ดดดดด” ตามมาด้วยเสียงเอะอะโวยวายและเสียงกรีดร้องเอ็ดตะโรของผู้คน ฉันรีบสาวไปดูอย่างหวาดหวั่น “ริกกี้!” เสียงตะโกนนั่นของคะนิ้งฉันจำได้... ฉันมองไม่เห็นว่าข้างในเกิดบ้าอะไรขึ้นเพราะคนเยอะไปหมด รู้เรื่องอีกทีก็ตอนที่เห็นคะนิ้งถูกใครสักคนลากออกไปที่ประตูทางออก อ๊ะ! นั่นมันผู้ชายคนเดียวกับที่เจอวันงานเรซควีน? แล้วคลื่นละ... ฉันหันกลับมายังจุดเกิดเหตุ คนมุงแน่นไปหมด ฉันไม่ได้เป็นห่วงมันนะแค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง โดนกระทืบตายหรือยังแค่นั้น สักพักสถานการณ์ก็คลี่คลาย การ์ดพูดไกล่เกลี่ยให้ทุกคนสลายตัว เพลงในผับถูกเปิดอีกครั้งสถานการณ์ปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันเห็นเงาคนเดินไปที่ประตูทางออก รีบตามไปอย่างไม่สงสัยสักนิด แค่แผ่นหลังก็จำได้ทันทีว่าเป็นไอ้สารเลวนั่น   ◇ ◆◇ ◆◇ ◆        
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD