ตอนที่ 4.2

1457 Words
คลื่น! “แมร่งเอ๊ย!” หมอนั่นเตะฝุ่นอยู่ถนนหน้าผับ สายตาจับจ้องท้ายรถคันหนึ่งที่วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฉันยืนอยู่ด้านหลัง น่ารำคาญจริง! “มันสนุกมากนักหรือไง” ดวงตาคมกริบตวัดกลับมามองทันที ใบหน้าหล่อเหลาดุดันอีกเท่าตัวเมื่อเห็นหน้าฉัน “เหมย?” “นายจงใจหลอกคะนิ้งมาที่นี่ใช่มั้ย ฉันเคยเห็นผู้ชายคนนั้น” “เธอไม่จำเป็นต้องรู้ แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ ...อย่าลืมสิอนาคตเธอขึ้นอยู่กับฉัน” คลื่นเดินเข้ามาบีบแก้มฉัน ฉันผลักมือเน่าๆ นั่นออกทันที “คะนิ้งเป็นเพื่อนฉัน ถ้านายทำให้ยัยนั่นเจ็บปวดฉันไม่อยู่เฉยแน่” “ก็เอาสิ.... ถ้าอยากเป็นนางเอกหนังเอ็กซ์มากขนาดนั้นฉันจะสนองให้” “ชั่ว!” ฉันง้างมือขึ้นจะตบหน้าชั่วๆ นั่นอย่างเหลืออดแต่คลื่นรู้ทันคว้าข้อมือฉันเอาไว้กลางอากาศก่อนที่ฝ่ามือของฉันจะสร้างความเสียหายให้กับแก้มของเขาจริงๆ “กล้าลองดีขนาดนี้คงอยากโดนมากใช่มั้ย” “ปล่อย!” ฉันนัยน์ตาแดงก่ำด้วยความโกรธ สะบัดข้อมือจากการจับกุมของเขาแต่มันดันไม่หลุดสักที คลื่นยื้อข้อมือฉันเอาไว้แน่น จ้องกลับมาด้วยสายตาเย็นยะเยือก “เหมย! คลื่น....” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้คลื่นปล่อยฉันทันที ฉันหันขวับไปมองด้วยสายตาตกใจไม่แพ้กัน ก่อนจะเห็นเพื่อนๆ เดินตรงเข้ามาหาด้วยท่าทางร้อนใจ “เกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้ในผับวุ่นวายไปหมด แล้วคะนิ้งล่ะ?” เค้กท่าทางเป็นห่วงคะนิ้งมาก แต่อารมณ์ฉันตอนนี้ไม่เย็นพอจะตอบคำถามใคร “ริกกี้พาขึ้นรถไปแล้ว” เสียงคลื่นดังขึ้น ความร้ายกาจเมื่อครู่ลดฮวบไปจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม เหอะ! “ริกกี้เหรอ....” เค้กเงียบนิ่งไปเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง หันไปเรียกเพื่อนๆ กลับเข้าไปข้างใน ฉันเดินตามหลังทุกคนไปแต่ว่ากลับถูกกระชากกลับไปด้านหลัง “คลื่น! ปล่อยนะ” ฉันสะบัดมือสุดฤทธิ์แต่ไม่กล้าโวยวายเสียงดังเพราะกลัวจะมีคนเห็น มองด้านหลังของเพื่อนๆ กับใบหน้าเยือกเย็นของคลื่นสลับกันไปมา “คะนิ้งไม่อยู่แล้ว คืนนี้ฉันจะใช้เธอแทน” “ว่าไงนะ!” “อยากร้องก็ร้องเลยสิ เพื่อนเธอจะได้รู้ไงว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ฉันไม่รังเกียจหรอกนะถ้าจะแชร์ความเร่าร้อนของเธอให้ทุกคนรู้” “อึก....” คำพูดของคลื่นทำให้เสียงร้องที่กำลังจะพุ่งออกจากปากฉันถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอ มองใบหน้ายียวนชวนกระทืบของเขาอย่างเดือดจัด “สารเลว! อย่าคิดว่าเป็นผู้ชายแล้วจะข่มเหงฉันยังไงก็ได้นะ” “ก็เอาสิ อยากร้องให้คนช่วยไม่ใช่เหรอ ร้องเลย” “.....” “หึ! เงียบทำไมล่ะ หรือว่าอายกลัวคนจะรู้ว่าใบหน้าหมวยๆ ซื่อๆ แรดขนาดไหนเวลาที่โดนสอดใส่” เพียะ!! ฉันเหวี่ยงฝ่ามือใส่หน้าคลื่นไปเต็มแรง “มันจะมากไปแล้วนะ” หน้าหมอนั่นหันขวับอย่างไม่ทันตั้งตัว คลื่นหันกลับมามองด้วยสายตาเลือดเย็น ใบหน้าหล่อเหลาสะท้อนแสงจากดวงไฟกัดฟันกรอด “มานี่!” “โอ๊ย! นี่มันเจ็บ... ปล่อยฉันนะว๊ายย” เขากระชากลากถูฉันออกมาอย่างเกรี้ยวกราด พลั่ก! ก่อนผลักฉันเข้ามาในรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันแทบไม่ทันไหวตัวด้วยซ้ำ ได้สติอีกทีรถก็พุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง เอี๊ยด! รถวิ่งเข้ามาจอดใต้อาคารจอดรถของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ฉันมองรอบๆ อย่างใจหาย “นายพาฉันมาที่นี่ทำไม” คลื่นไม่ตอบ ลงจากรถไปด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก เดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่ฉันนั่ง “ลงมานี่!” “โอ๊ย...” เขากระชากแขนฉันให้ลงไปอย่างไม่เสียเวลารอ ฉันยืนทุลักทุเล สะบัดมือหมอนั่นออกอย่างขุ่นเคือง “ปล่อยนะ” “เฮ้! นี่...ปล่อยฉัน บอกให้ปล่อยไงว๊าย” “เข้าไป” เขากระชากลากถูฉันมาที่ลิฟต์แล้วเหวี่ยงเข้าไปด้านในสุดแรง ให้ตายสิ เบาๆ ไม่เป็นหรือไงฮะ ฉันจ้องคลื่นนัยน์ตาขวาง กัดฟันแน่นด้วยความเกลียดชัง ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิด ไอ้เวรนั่นลากฉันออกจากลิฟต์แบบถูลู่ถูกังเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยฝันร้ายสำหรับฉัน หมอนั่นผลักฉันลงบนโซฟากว้างๆ แรงขนาดที่ทำให้ร่างฉันกระดอนได้ ร่างสูงโน้มตัวลงมาโถมทับในอึดใจเดียว “กรี๊ด อย่านะ... ไอ้บ้า! คนเลวออกไปเดี๋ยวนี้” ฉันทุบไหล่เขารัวๆ คลื่นซุกไซ้หน้าลงที่ซอกคอ สูดดมกลิ่นกายหอมๆ ของฉันอย่างดุดัน ความรู้สึกขมขื่นกัดกินไปทั้งหัวใจ ฉันดิ้นพล่านขัดขืนสุดฤทธิ์ คลื่นรวบข้อมือฉันขึ้นไพล่เหนือศีรษะ สบถลมหายใจออกมาอย่างรำคาญ “อยู่เฉยๆ ดิวะ” “ไม่ ปล่อยนะ บอกให้ปล่อยไง ไอ้บ้า สารเลว หน้าตัวอุบอื้อ....” ริมฝีปากร้อนกรุ่นฉุนกลิ่นเหล้าก้มลงมาปิดปากฉันทันที คำด่าทอโดนกลืนไปพร้อมกับสัมผัสหยาบกร้านน่ารังเกียจ ฉันเบือนหน้าหนีอย่างขยะแขยง แรงบดเบียดไล่ตามมาประกบไม่ทิ้งห่าง กดจูบลงมาหนักๆ จนหน้าฉันแทบจะจมลงไปกับเบาะโซฟานุ่มๆ “อื้อ! ~” ความหวิวไหวชั่วครั้งชั่วคราวที่สัมผัสได้จากเรียวปากร้อนฉ่ำไม่ทำให้ฉันคล้อยตามได้ง่ายๆ นอกจากความเกลียดชังฉันก็ไม่มีอารมณ์อื่นใดผสมอยู่เลย และฉันจะไม่ยอมถูกย่ำยีเหมือนในห้องน้ำอีก ฉันรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายผลักคลื่นออกไปสุดแรง ร่างสูงพลิกตัวล้มพลั่กลงไปนอนหงายท้องที่พื้น ฉันรีบฉวยโอกาสนั้นวิ่งหนีออกมา แต่ไอ้เวรนั่นคว้าข้อเท้าฉันเอาไว้ทันที แรงเหนี่ยวที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ฉันเสียหลักล้มเข่ากระแทกพื้นปวดหนึบ “โอ๊ย ปล่อยนะ” “จะหนีไป ฤทธิ์เยอะใช่มั้ย” คลื่นย่างสามขุมเข้ามาใกล้ด้วยสายตาที่เหมือนสัตว์ร้ายกำลังไล่ตะปบเหยื่อ ฉันส่ายหน้า ส่งสายตาไล่เขาออกไปไกลๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้น วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเข้ามาในครัว “คิดเหรอว่าจะหนีฉันพ้น” ฉันหันขวับกลับไปมองด้วยสายตาหวาดหวั่น คลื่นกระตุกยิ้มมุมปากสาวเท้าตามมาติดๆ ฉันถอยหนีจนหลังชนฝาก่อนจะเหลือบเห็นมีดใกล้ๆ ดึงออกมาด้ามหนึ่งชี้หน้าคลื่นด้วยสายตาดุดัน “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันแทงจริงด้วย” “เฮ้....” คลื่นกำลังจะพุ่งเข้ามาประชิดตัวฉันหยุดกึกกลางอากาศ มองมีดในมือฉันด้วยสายตาหวั่นไหวเล็กน้อย “วางมีดซะถ้าไม่อยากเจ็บตัว” “นายต่างหากที่จะเจ็บตัวถ้ายังไม่ถอยไป” ฉันยื่นมีดใส่เขาอย่างข่มขู่ คลื่นมองปลายมีดคมๆ กับใบหน้าดุเดือดของฉันด้วยสายตาพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะยอมหลีกทาง “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นแทงไส้ไหลจริงด้วย” ฉันค่อยๆ เดินผ่านร่างสูงออกมาอย่างระมัดระวัง หันปลายมีดไปทางเขาตลอดเวลา เผื่อตอนไหนที่มันพุ่งเข้ามาจะได้แทงทันที ออกมาจากห้องได้ฉันรีบวิ่งมาที่ลิฟต์ทันที ทิ้งมีดลงถังขยะ วิ่งออกมาที่ล็อบบี้ด้านล่างก่อนจะรู้ตัวว่าลืมโทรศัพท์กับกระเป๋าไว้ที่ผับ แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ย ตีหนึ่งกว่าแล้ว... ฉันไม่อยากนั่งแท็กซี่กลับ ดูสภาพฉันตอนนี้สิ... ชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้นเห็นขาอ่อนแบบนี้คงถูกพาไปม่านรูดไม่ก็โพรงหญ้าข้างทางแทน ฉันจะอยู่ที่นี่นานก็ไม่ได้กลัวว่าคลื่นจะตามลงมา สุดท้ายก็กลั้นใจเดินมาขอใช้โทรศัพท์กับพี่ยามที่ป้อม พี่ยามมองหน้าฉันอย่างอึ้งๆ แต่พอฉันบอกว่าลืมกระเป๋ากับโทรศัพท์ไว้ที่ผับเขาก็ยอมให้ใช้โทรศัพท์ เป็นคนดีกว่าไอ้คลื่นซะอีก ฉันรีบกดโทรหาเลโอ แต่... โทรไปสามสายแล้วก็ยังไม่รับ ให้ตายสิ ทำอะไรอยู่นะ ฉันยืนเครียดอยู่นานไม่รู้จะทำยังไงดี ระหว่างนั้นสายตายามก็มองมาอย่างกดดันด้วย เพราะฉันยึดโทรศัพท์เขานานผิดปกติ “ขอโทษนะคะ พอดีเพื่อนไม่ยอมรับสายเลย” “ครับๆ ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ” “ค่ะ” ฉันยืนนึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกได้... นอกจากเบอร์เลโอที่ฉันจำได้แล้วก็ยังมีอีกคนที่จำได้ขึ้นใจ ...พี่แทน!!                
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD