เสียงสวย

1956 Words
---เสียงสวย สวัสดี ฉันชื่อ เสียงสวย.. ชื่อเล่นสวย แม่ตั้งชื่อแบบนี้เพราะฉันพูดเก่ง และเสียงดีร้องงอแงแต่เด็ก ตอนนี้ฉันอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนXXX เนื่องจากพ่อของฉันย้ายมาเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนในจังหวัดนครปฐม  บ้านเกิดของฉันอยู่ที่จังหวัดลำปาง เนื่องจากพ่อไปเป็นครูสอนที่นั่น และพบรักกับแม่จนมีฉันเกิดขึ้นมา ก่อนจะได้ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้ ..เพิ่มเติม  ฉันสูง 156 หนัก 70 กิโล เข้าขั้นกลิ้งได้เลยก็ว่าได้ ฉันเป็นผู้หญิงอ้วน แต่ดีที่ผิวขาวไม่เช่นนั้นคงถูกล้อเลียนว่าอ้วนดำแน่ หน้าตาก็ธรรมดาไม่ได้สวยแต่ก็ไม่ถึงขนาดดูไม่ได้  การเป็นลูกครูที่กำลังจะได้เป็นผู้อำนวยการ ทำให้ฉันต้องเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ๆ  แต่ก็ต้องพยายามอย่างหนักกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว เพราะฉันเข้าใจอะไรยาก และถ้าไม่สนใจหรือขาดเรียนแค่วันเดียวก็เรียนไม่รู้เรื่องเลย  “แม่ ขอไปอ่านหนังสือเล่นที่สวนสาธารณะนะ” ฉันตะโกนบอกแม่ ก่อนที่จะปั่นจักรยานออกไปจากบ้าน เมื่อวานตอนเลิกเรียน ฉันเจอกับป้าคนหนึ่งที่ล้มด้วยอุบัติเหตุ ฉันเข้าไปช่วยเหลือป้าคนนั้น จนได้รู้ว่าชื่อป้าคอน  ป้าคอนบอกกับฉันว่าวันนี้ให้ออกมาหาจะทำกับข้าวมาให้กิน ฉันไม่ได้เห็นแก่กินนะ! แต่เหมือนฉันได้เพื่อนใหม่ ฉันย้ายมาที่นี่ได้สองเดือนแล้วแต่ฉันไม่มีเพื่อนเลย ที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยมีใครคุยกับฉัน เพราะฉันย้ายมากลางเทอม และฉันก็อ้วนมีแต่คนล้อเลียน การได้คุยกับป้าคอนที่ฉันไม่รู้จักเหมือนได้เพื่อนสะอย่างนั้น ฉันปั่นจักรยานเข้าไปในสวนสาธารณะ สายตาก็เห็นว่าป้าคอนนั่งรออยู่ที่โต๊ะม้าหินตัวที่ฉันนัดกันแล้ว วันนี้วันหยุดในสวนจึงมีคนค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ก็ 11.00น. ใกล้เวลากินพอดี ฉันเห็นปิ่นโตที่วางบนโต๊ะแล้วหิวขึ้นมาเลยทีเดียว ฉันยิ้มแก้มแทบแตกเดินเข้าไปหาป้าคอนพร้อมหนังสือที่ติดมือมาอ่าน ฉันชอบอ่านหนังสือ เพราะไม่มีเพื่อนก็อ่านหนังสือเอา เข้าใจไม่เข้าใจอ่านซ้ำก็ต้องเข้าสมองบ้างแหละ  นี่เป็นวิธีคิดของฉัน  “สวัสดีค่ะคุณป้าคอน..ว้าว ปิ่นโตน่ารักจังเลย”  “หวัดดีจ้า.. วันนี้เสียงสวยก็แต่งตัวน่ารักนะ” ป้าคอนไม่พูดพร่ำทำเพลงเลย ปากพูดมือก็เปิดปิ่นโตเลย ดูเหมือนว่าป้าคอนจะอยากให้ฉันกินอาหารเหล่านั้นมาก “ป้าทำต้มขาหมูมาเลยนะ เมื่อวานจำได้ว่า..หนูบอกว่าแม่หนูทำอร่อย ป้าเลยเอาสูตรป้ามาให้กิน”  “อู้....น่ากินมาก” ฉันลากเสียงยาวบ่งบอกว่าวันน่ากินแบบสุด ๆ ท้องไส้เริ่มทำงานเลยทีเดียว ป้าเอาอาหารมาวางตรงหน้าฉันแล้วยิ้ม ช่างเป็นคุณป้าที่น่ารักเสียจริง “หนูไม่เกรงใจแล้วนะคะ..”  “จร้า.. กินเยอะ ๆ ” ..อั๊ม..  ฉันตักขาหมูเนื้อแน่นหนังสีน้ำตาลฉ่ำน้ำเข้าปาก มันหวานหอมอร่อยมาก อร่อยกว่าแม่ทำซะอีกอันนี้ไม่อยากจะเมาส์ แต่ขณะที่กำลังจะตักคำที่สองเข้าปากก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมานั่งที่โต๊ะ เขาวางหนังสือในมือและมองหน้าฉันราบเรียบ ไม่ยิ้ม แต่ก็ไม่ถึงกับบึ้ง  ..แอะ!  นี่มันรุ่นพี่ม.6ที่อยู่โรงเรียนเดียวกับฉันนิ!!    เขาหล่อมาก และสาว ๆ ก็ชอบเขามากด้วยเช่นกัน  เวลาที่เขาเล่นกีฬาจะมีคนไปดูเขาจนล้นสนามเลยก็ว่าได้  เป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนแบบในซีรี่ย์เกาหลีที่ฉันชอบดู หน้าตาพี่เขาก็เหมือนพระเอกเกาหลีที่สูง ๆ ขาว ๆ   หล่อเท่ห์แบบสุด ๆ แต่เท่าที่ฉันเคยสักเกตเขาเป็นคนเงียบและไม่ค่อยคุยกับผู้หญิงคนไหนเลย  “นี่ลูกชายป้าจ้า เรียนโรงเรียนเดียวกับหนูเลยนะ พี่คิว...รู้จักไหม”  ++++++++ “หวัดดีค่ะ..” ฉันยิ้มและวางช้อน เขายังมองหน้าฉันเหมือนเดิมไม่พูดอะไร ก่อนที่จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านซะอย่างนั้น ไม่ทักทายฉันด้วย  ฉันพอได้ยินมาบ้างว่าพี่เขาไม่ค่อยวุ่นวายกับใคร โลกส่วนตัวสูง และไม่เคยคลุกคลีกับใครเป็นพิเศษโดยเฉพาะผู้หญิง ไม่เคยมีแฟนด้วยอันนี้สำคัญ มีแค่ข่าวลือว่าคบคนนั้นคนนี้ แต่เท่าที่ฉันดูไม่น่าเป็นไปได้ เพราะคนเป็นแฟนกันก็น่าจะมีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่านี้  “ลูกป้าเขาพูดน้อย อย่าถือสาเลยนะ กินเลยเสียงสวย กินเยอะ ๆ  ป้าอยากมีลูกสาวกินเก่ง ๆ แบบหนูมาก”  “ค่ะ...” ฉันเห็นหางตาพี่คิวมองมาที่ฉัน มองแบบราบเรียบเหมือนเดิมเลย   ฉันตักข้าวกินอย่างช้า ๆ เหมือนจะอาย ๆ  ไม่เคยนั่งกินข้าวต่อหน้าผู้ชายมาก่อนเลยนิมันก็ต้องอายนิดหนึ่งถูกแล้ว แต่ยิ่งอายก็ยิ่งเกร็ง เหงื่อก็ออกเยอะกว่าเดิม  ฉันเอามือปาดเหงื่อทั้งที่ลมพัดตลอดเวลา..ก็มันตื่นเต้นนิ เอาปิ่นโตไปกินที่บ้านได้ไหมนะ  ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ไม่ได้เตรียมใจมากินข้าวต่อหน้าคนหล่อสักนิด ให้ตายสิ!! หลาย ๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มองมาที่โต๊ะของฉัน มองด้วยความสนใจเพราะมีคนหล่อนั่งอยู่ ก็ไม่แปลกหลอกก็พี่เขาหน้าตาหล่ออย่างกับดารา ทำไงดีละเสียงสวย ถ้าแกกินช้ากว่านี้พี่เขาก็จะไม่ไป เพราะเขามากับแม่ของเขา ดังนั้นแกต้องรีบกิน กินให้เร็ว ๆ เขาจะได้ไป   และแกก็จะได้เลิกเขินเสียที มันไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย อั๊ม ๆ ๆ ๆ   และฉันก็ยัด ๆ ๆ ๆ  บอกว่าอิ่มไม่กินต่อเดี๋ยวป้าคอนเสียน้ำใจ ฉันต้องกินให้หมด แล้วขาหมูก็อร่อยมาก ทำใจไม่กินต่อไม่ได้จริง ๆ  “เดี๋ยวติดคอนะเสียงสวย ไม่ต้องรีบ..ป้าอยู่กับหนูทั้งวันจ๊ะ” เสียงป้าคอนเคยพูดแทรกการกินแบบความเร็วแสงของฉัน ‘อะไรนะ ทั้งวัน!!!’  แค๊ก!!! แค๊ก!!! แค๊ก!!!   ยังไม่ทันขาดคำของป้าคอน ข้าวติดคอเป็นที่เรียบร้อย  ฉันเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเกินสำลักข้าวติดคอ ไม่เช่นงั้นข้าวในปากกระเด็นออกไปติดหน้าพี่เขาแน่  เหตุการณ์ตอนนี้เลวร้ายมาก ฉันไม่ชอบเลย!!! พี่คิวมองหน้าฉัน  เขาหยิบน้ำมาเปิดและยื่นให้ฉันโดยไม่พูด..เขาไม่ได้เป็นใบ้นะอันนี้ฉันรู้   ฉันจำได้ว่าเคยได้ยินเสียงเขาคุยกับอาจารย์ ฉันรีบรับน้ำและกินอย่างไว  น่าอายชะมัด..สำลักข้าวต่อหน้าผู้ชายและเป็นผู้ชายที่หล่อมากอีกด้วย พี่เขาคงว่าฉันตะกระสินะเสียงสวยเอ้ย ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วจริง ๆ น่าอายแบบสุด ๆ  “เอ่อ...หนูขอหันหลังกินนะคะป้าคอน” ว่าแล้วฉันก็ตักเนื้อขาหมูใส่ปิ่นโตข้าว แล้วหันหลังให้ป้ากับพี่คิวทัน ประโยคที่พูดไม่ใช่ประโยคคำถาม นั่นเป็นประโยคบอกเล่าเพราะคงกินไม่หมดแน่ถ้ายังเห็นหน้าคนหล่อ โอ้ยยย....หันหลังแล้วรู้สึกกินข้าวง่ายกว่าเดิมเยอะเลย นี่สิ...ไม่เขินเลยสักนิด ไม่ต้องตักข้าวกินต่อหน้าพี่คิว  อะไรกันเนี้ย...ได้มานั่งกินข้าวต่อหน้าพี่สุดหล่อ อะไรมันจะโลกกลมขนาดนั้นเสียงสวยเอ้ย  แต่ก็ช่างเถอะ... ตอนนี้กินก่อนดีกว่า หมดแล้วก็จะได้กลับ เมื่อกี้ก็สำลักจนแสบคอไปหมดเลย  ตอนนี้ฉันก็ได้แต่ดื่มดำรสชาตขิงขาหมูโดยไม่ต้องเขินพี่คิวอีกต่อไป  “คิวทำน้องไม่กล้านั่งกินข้าวด้วย...”  “ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ..” ฉันได้ยินพี่คิวกับแม่คุยกัน ใช่....พี่คิวไม่ได้ทำอะไร แต่ความหล่อพี่คิวทำไง หล่อบาดอกบาดใจขนาดนี้..ใครจะไปทนไหว  และฉันก็นั่งกินข้าวท่านั้นจนหมดปิ่นโต ก่อนที่จะหันกลับไปหาพี่คิวกับป้าคอนด้วยรอยยิ้มและความอิ่มแบบสุด ๆ  “แก้มเลอะนะ” ป้าคอนเอ้ยพูด เมื่อกี้กินข้าวสำลักเป็นคนตะกะ ตอนนี้กินข้าวเปื้อนแก้ม เป็นคนสกปกสินะ โอ้ย!!!  เสียงสวย ฉันเตรียมจะใช้มือเช็ดไปกับแก้มแต่ไม่รู้ว่าตรงไหน แต่มือยังไม่ทันถึงแก้มป้าคอนก็ร้องห้ามเสียก่อน    “อย่าใช้มือเช็ดนะ..มาเดี๋ยวป้าเช็ดให้”   ป้าคอนขยับเข้ามาหาฉัน เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้อย่างเบามือ ป้าคอนเป็นผู้หญิงที่ดูอบอุ่นและน่ารักมาก  ฉันเห็นพี่คิวยิ้มเล็กน้อยผ่านสายตาที่เลยจากขอบหนังสือของเขา ขณะที่แม่ของเขากำลังเช็ดแก้มให้กับฉัน  เหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็ก 8 ขวบที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  นี่ฉัน 17 แล้วนะ ให้ตายสิ! แบบนี้เรียกใหญ่แต่ตัวรึเปล่า! หลังจากนั้นฉันก็นั่งคุยกับป้าคอนพักใหญ่ มองนาฬิกาสีเหลืองสดที่ข้อมือมันก็บ่ายโมงกว่าแล้ว พี่คิวไม่ได้ร่วมคุยด้วยสักประโยค นั่งอ่านหนังสือเล่มเดิมจนเกือบหมดเล่ม ฉันมองจากหน้าหนังสือที่มันเหลือไม่กี่หน้า คนคุยกันขนาดนี้อ่านหนังสือรู้เรื่องได้ยังไงนะ? คนหล่อก็แบบเนี้ย..ทำอะไรก็ไม่ผิด!  “หนูต้องกลับแล้วค่ะป้าคอน บอกแม่ว่าจะมาอ่านหนังสือเล่น แต่ไม่ได้อ่านสักตัวเลย ฮ่า ๆ ๆ” หัวเราะกลบความโก๊ะของตัวเอง   “หนังสือเคมี..” ป้าคอนมองไปที่ตะกร้าหน้าจักรยาน ใช่..เป็ยวิชาที่ยากและจำเท่าไหร่ก็ไม่ได้ ยังมีชีวะและฟิสิกอีก ไม่รู้จะเอาอะไรมาเปรียบกับคำว่ายากดี “ให้พี่คิวสอนก็ได้นะ พี่คิวเขาเก่งหลายวิชา...”  “......” พี่คิวพับหน้าหนังสือและมองหน้าฉันหลังจากที่ป้าคอนพูดจบ    ‘มองทำไม ไม่ต้องมอง..ไม่รบกวนหรอก อ่านเองได้’   คิดในใจไม่กล้าตอบ  “ค่ะ.. แต่หนูคงไม่รบกวน ปิ่นโตนี่เดี๋ยวหนูเอาไปล้างเองนะคะ” ฉันพาเปลี่ยนเรื่องทันที เราไม่ควรคุยกันในเรื่องที่มีพี่คิว เพราะมันจะทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าพี่เขาบ่อยกว่าเดิม  “ไม่ต้อง...” ป้าคอนยื้อเอาไว้  “หนูล้างเถอะค่ะ หนูกิน..หนูล้างถูกแล้ว นะคะ... แล้วพรุ่งนี้วันอาทิตย์หนูเอามาคืนตอน 11.00 น. นะคะ...” ฉันขอร้อง และยังยื้อกับป้าคอนจนในที่สุดป้ายอมปล่อย แอบเห็นว่ามีสายตาคนหล่อมองเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร คิดว่าเขาคงกำลังทำความเข้าใจกับเด็กผู้หญิงอ้วนและทำอะไรประหลาด ๆ คนนี้แน่  “ก็ได้จ๊ะ.... พรุ่งนี้เจอกันนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD