เสียงสวย
---เสียงสวย
สวัสดี ฉันชื่อ เสียงสวย.. ชื่อเล่นสวย แม่ตั้งชื่อแบบนี้เพราะฉันพูดเก่ง และเสียงดีร้องงอแงแต่เด็ก ตอนนี้ฉันอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนXXX
เนื่องจากพ่อของฉันย้ายมาเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนในจังหวัดนครปฐม
บ้านเกิดของฉันอยู่ที่จังหวัดลำปาง เนื่องจากพ่อไปเป็นครูสอนที่นั่น และพบรักกับแม่จนมีฉันเกิดขึ้นมา ก่อนจะได้ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้
..เพิ่มเติม ฉันสูง 156 หนัก 70 กิโล เข้าขั้นกลิ้งได้เลยก็ว่าได้ ฉันเป็นผู้หญิงอ้วน แต่ดีที่ผิวขาวไม่เช่นนั้นคงถูกล้อเลียนว่าอ้วนดำแน่ หน้าตาก็ธรรมดาไม่ได้สวยแต่ก็ไม่ถึงขนาดดูไม่ได้
การเป็นลูกครูที่กำลังจะได้เป็นผู้อำนวยการ ทำให้ฉันต้องเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ๆ แต่ก็ต้องพยายามอย่างหนักกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว เพราะฉันเข้าใจอะไรยาก และถ้าไม่สนใจหรือขาดเรียนแค่วันเดียวก็เรียนไม่รู้เรื่องเลย
“แม่ ขอไปอ่านหนังสือเล่นที่สวนสาธารณะนะ” ฉันตะโกนบอกแม่ ก่อนที่จะปั่นจักรยานออกไปจากบ้าน
เมื่อวานตอนเลิกเรียน ฉันเจอกับป้าคนหนึ่งที่ล้มด้วยอุบัติเหตุ ฉันเข้าไปช่วยเหลือป้าคนนั้น จนได้รู้ว่าชื่อป้าคอน
ป้าคอนบอกกับฉันว่าวันนี้ให้ออกมาหาจะทำกับข้าวมาให้กิน ฉันไม่ได้เห็นแก่กินนะ! แต่เหมือนฉันได้เพื่อนใหม่ ฉันย้ายมาที่นี่ได้สองเดือนแล้วแต่ฉันไม่มีเพื่อนเลย ที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยมีใครคุยกับฉัน เพราะฉันย้ายมากลางเทอม และฉันก็อ้วนมีแต่คนล้อเลียน การได้คุยกับป้าคอนที่ฉันไม่รู้จักเหมือนได้เพื่อนสะอย่างนั้น
ฉันปั่นจักรยานเข้าไปในสวนสาธารณะ สายตาก็เห็นว่าป้าคอนนั่งรออยู่ที่โต๊ะม้าหินตัวที่ฉันนัดกันแล้ว วันนี้วันหยุดในสวนจึงมีคนค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ก็ 11.00น. ใกล้เวลากินพอดี ฉันเห็นปิ่นโตที่วางบนโต๊ะแล้วหิวขึ้นมาเลยทีเดียว ฉันยิ้มแก้มแทบแตกเดินเข้าไปหาป้าคอนพร้อมหนังสือที่ติดมือมาอ่าน ฉันชอบอ่านหนังสือ เพราะไม่มีเพื่อนก็อ่านหนังสือเอา เข้าใจไม่เข้าใจอ่านซ้ำก็ต้องเข้าสมองบ้างแหละ นี่เป็นวิธีคิดของฉัน
“สวัสดีค่ะคุณป้าคอน..ว้าว ปิ่นโตน่ารักจังเลย”
“หวัดดีจ้า.. วันนี้เสียงสวยก็แต่งตัวน่ารักนะ” ป้าคอนไม่พูดพร่ำทำเพลงเลย ปากพูดมือก็เปิดปิ่นโตเลย ดูเหมือนว่าป้าคอนจะอยากให้ฉันกินอาหารเหล่านั้นมาก “ป้าทำต้มขาหมูมาเลยนะ เมื่อวานจำได้ว่า..หนูบอกว่าแม่หนูทำอร่อย ป้าเลยเอาสูตรป้ามาให้กิน”
“อู้....น่ากินมาก” ฉันลากเสียงยาวบ่งบอกว่าวันน่ากินแบบสุด ๆ ท้องไส้เริ่มทำงานเลยทีเดียว ป้าเอาอาหารมาวางตรงหน้าฉันแล้วยิ้ม ช่างเป็นคุณป้าที่น่ารักเสียจริง “หนูไม่เกรงใจแล้วนะคะ..”
“จร้า.. กินเยอะ ๆ ”
..อั๊ม..
ฉันตักขาหมูเนื้อแน่นหนังสีน้ำตาลฉ่ำน้ำเข้าปาก มันหวานหอมอร่อยมาก อร่อยกว่าแม่ทำซะอีกอันนี้ไม่อยากจะเมาส์ แต่ขณะที่กำลังจะตักคำที่สองเข้าปากก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมานั่งที่โต๊ะ เขาวางหนังสือในมือและมองหน้าฉันราบเรียบ ไม่ยิ้ม แต่ก็ไม่ถึงกับบึ้ง
..แอะ!
นี่มันรุ่นพี่ม.6ที่อยู่โรงเรียนเดียวกับฉันนิ!!
เขาหล่อมาก และสาว ๆ ก็ชอบเขามากด้วยเช่นกัน เวลาที่เขาเล่นกีฬาจะมีคนไปดูเขาจนล้นสนามเลยก็ว่าได้ เป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนแบบในซีรี่ย์เกาหลีที่ฉันชอบดู หน้าตาพี่เขาก็เหมือนพระเอกเกาหลีที่สูง ๆ ขาว ๆ หล่อเท่ห์แบบสุด ๆ
แต่เท่าที่ฉันเคยสักเกตเขาเป็นคนเงียบและไม่ค่อยคุยกับผู้หญิงคนไหนเลย
“นี่ลูกชายป้าจ้า เรียนโรงเรียนเดียวกับหนูเลยนะ พี่คิว...รู้จักไหม”
++++++++
“หวัดดีค่ะ..” ฉันยิ้มและวางช้อน เขายังมองหน้าฉันเหมือนเดิมไม่พูดอะไร ก่อนที่จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านซะอย่างนั้น ไม่ทักทายฉันด้วย
ฉันพอได้ยินมาบ้างว่าพี่เขาไม่ค่อยวุ่นวายกับใคร โลกส่วนตัวสูง และไม่เคยคลุกคลีกับใครเป็นพิเศษโดยเฉพาะผู้หญิง ไม่เคยมีแฟนด้วยอันนี้สำคัญ มีแค่ข่าวลือว่าคบคนนั้นคนนี้ แต่เท่าที่ฉันดูไม่น่าเป็นไปได้ เพราะคนเป็นแฟนกันก็น่าจะมีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่านี้
“ลูกป้าเขาพูดน้อย อย่าถือสาเลยนะ กินเลยเสียงสวย กินเยอะ ๆ ป้าอยากมีลูกสาวกินเก่ง ๆ แบบหนูมาก”
“ค่ะ...”
ฉันเห็นหางตาพี่คิวมองมาที่ฉัน มองแบบราบเรียบเหมือนเดิมเลย ฉันตักข้าวกินอย่างช้า ๆ เหมือนจะอาย ๆ ไม่เคยนั่งกินข้าวต่อหน้าผู้ชายมาก่อนเลยนิมันก็ต้องอายนิดหนึ่งถูกแล้ว แต่ยิ่งอายก็ยิ่งเกร็ง เหงื่อก็ออกเยอะกว่าเดิม ฉันเอามือปาดเหงื่อทั้งที่ลมพัดตลอดเวลา..ก็มันตื่นเต้นนิ เอาปิ่นโตไปกินที่บ้านได้ไหมนะ
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ไม่ได้เตรียมใจมากินข้าวต่อหน้าคนหล่อสักนิด ให้ตายสิ!!
หลาย ๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มองมาที่โต๊ะของฉัน มองด้วยความสนใจเพราะมีคนหล่อนั่งอยู่ ก็ไม่แปลกหลอกก็พี่เขาหน้าตาหล่ออย่างกับดารา ทำไงดีละเสียงสวย ถ้าแกกินช้ากว่านี้พี่เขาก็จะไม่ไป เพราะเขามากับแม่ของเขา ดังนั้นแกต้องรีบกิน กินให้เร็ว ๆ เขาจะได้ไป และแกก็จะได้เลิกเขินเสียที มันไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย
อั๊ม ๆ ๆ ๆ
และฉันก็ยัด ๆ ๆ ๆ บอกว่าอิ่มไม่กินต่อเดี๋ยวป้าคอนเสียน้ำใจ ฉันต้องกินให้หมด แล้วขาหมูก็อร่อยมาก ทำใจไม่กินต่อไม่ได้จริง ๆ
“เดี๋ยวติดคอนะเสียงสวย ไม่ต้องรีบ..ป้าอยู่กับหนูทั้งวันจ๊ะ” เสียงป้าคอนเคยพูดแทรกการกินแบบความเร็วแสงของฉัน ‘อะไรนะ ทั้งวัน!!!’
แค๊ก!!! แค๊ก!!! แค๊ก!!! ยังไม่ทันขาดคำของป้าคอน ข้าวติดคอเป็นที่เรียบร้อย
ฉันเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเกินสำลักข้าวติดคอ ไม่เช่นงั้นข้าวในปากกระเด็นออกไปติดหน้าพี่เขาแน่ เหตุการณ์ตอนนี้เลวร้ายมาก ฉันไม่ชอบเลย!!!
พี่คิวมองหน้าฉัน เขาหยิบน้ำมาเปิดและยื่นให้ฉันโดยไม่พูด..เขาไม่ได้เป็นใบ้นะอันนี้ฉันรู้ ฉันจำได้ว่าเคยได้ยินเสียงเขาคุยกับอาจารย์ ฉันรีบรับน้ำและกินอย่างไว
น่าอายชะมัด..สำลักข้าวต่อหน้าผู้ชายและเป็นผู้ชายที่หล่อมากอีกด้วย พี่เขาคงว่าฉันตะกระสินะเสียงสวยเอ้ย ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วจริง ๆ น่าอายแบบสุด ๆ
“เอ่อ...หนูขอหันหลังกินนะคะป้าคอน” ว่าแล้วฉันก็ตักเนื้อขาหมูใส่ปิ่นโตข้าว แล้วหันหลังให้ป้ากับพี่คิวทัน ประโยคที่พูดไม่ใช่ประโยคคำถาม นั่นเป็นประโยคบอกเล่าเพราะคงกินไม่หมดแน่ถ้ายังเห็นหน้าคนหล่อ
โอ้ยยย....หันหลังแล้วรู้สึกกินข้าวง่ายกว่าเดิมเยอะเลย นี่สิ...ไม่เขินเลยสักนิด ไม่ต้องตักข้าวกินต่อหน้าพี่คิว
อะไรกันเนี้ย...ได้มานั่งกินข้าวต่อหน้าพี่สุดหล่อ อะไรมันจะโลกกลมขนาดนั้นเสียงสวยเอ้ย
แต่ก็ช่างเถอะ... ตอนนี้กินก่อนดีกว่า หมดแล้วก็จะได้กลับ เมื่อกี้ก็สำลักจนแสบคอไปหมดเลย ตอนนี้ฉันก็ได้แต่ดื่มดำรสชาตขิงขาหมูโดยไม่ต้องเขินพี่คิวอีกต่อไป
“คิวทำน้องไม่กล้านั่งกินข้าวด้วย...”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ..”
ฉันได้ยินพี่คิวกับแม่คุยกัน ใช่....พี่คิวไม่ได้ทำอะไร แต่ความหล่อพี่คิวทำไง หล่อบาดอกบาดใจขนาดนี้..ใครจะไปทนไหว
และฉันก็นั่งกินข้าวท่านั้นจนหมดปิ่นโต ก่อนที่จะหันกลับไปหาพี่คิวกับป้าคอนด้วยรอยยิ้มและความอิ่มแบบสุด ๆ
“แก้มเลอะนะ” ป้าคอนเอ้ยพูด เมื่อกี้กินข้าวสำลักเป็นคนตะกะ ตอนนี้กินข้าวเปื้อนแก้ม เป็นคนสกปกสินะ โอ้ย!!! เสียงสวย
ฉันเตรียมจะใช้มือเช็ดไปกับแก้มแต่ไม่รู้ว่าตรงไหน แต่มือยังไม่ทันถึงแก้มป้าคอนก็ร้องห้ามเสียก่อน
“อย่าใช้มือเช็ดนะ..มาเดี๋ยวป้าเช็ดให้” ป้าคอนขยับเข้ามาหาฉัน เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้อย่างเบามือ ป้าคอนเป็นผู้หญิงที่ดูอบอุ่นและน่ารักมาก
ฉันเห็นพี่คิวยิ้มเล็กน้อยผ่านสายตาที่เลยจากขอบหนังสือของเขา ขณะที่แม่ของเขากำลังเช็ดแก้มให้กับฉัน เหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็ก 8 ขวบที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นี่ฉัน 17 แล้วนะ ให้ตายสิ! แบบนี้เรียกใหญ่แต่ตัวรึเปล่า!
หลังจากนั้นฉันก็นั่งคุยกับป้าคอนพักใหญ่ มองนาฬิกาสีเหลืองสดที่ข้อมือมันก็บ่ายโมงกว่าแล้ว พี่คิวไม่ได้ร่วมคุยด้วยสักประโยค นั่งอ่านหนังสือเล่มเดิมจนเกือบหมดเล่ม ฉันมองจากหน้าหนังสือที่มันเหลือไม่กี่หน้า คนคุยกันขนาดนี้อ่านหนังสือรู้เรื่องได้ยังไงนะ?
คนหล่อก็แบบเนี้ย..ทำอะไรก็ไม่ผิด!
“หนูต้องกลับแล้วค่ะป้าคอน บอกแม่ว่าจะมาอ่านหนังสือเล่น แต่ไม่ได้อ่านสักตัวเลย ฮ่า ๆ ๆ” หัวเราะกลบความโก๊ะของตัวเอง
“หนังสือเคมี..” ป้าคอนมองไปที่ตะกร้าหน้าจักรยาน ใช่..เป็ยวิชาที่ยากและจำเท่าไหร่ก็ไม่ได้ ยังมีชีวะและฟิสิกอีก ไม่รู้จะเอาอะไรมาเปรียบกับคำว่ายากดี “ให้พี่คิวสอนก็ได้นะ พี่คิวเขาเก่งหลายวิชา...”
“......” พี่คิวพับหน้าหนังสือและมองหน้าฉันหลังจากที่ป้าคอนพูดจบ
‘มองทำไม ไม่ต้องมอง..ไม่รบกวนหรอก อ่านเองได้’ คิดในใจไม่กล้าตอบ
“ค่ะ.. แต่หนูคงไม่รบกวน ปิ่นโตนี่เดี๋ยวหนูเอาไปล้างเองนะคะ” ฉันพาเปลี่ยนเรื่องทันที เราไม่ควรคุยกันในเรื่องที่มีพี่คิว เพราะมันจะทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าพี่เขาบ่อยกว่าเดิม
“ไม่ต้อง...” ป้าคอนยื้อเอาไว้
“หนูล้างเถอะค่ะ หนูกิน..หนูล้างถูกแล้ว นะคะ... แล้วพรุ่งนี้วันอาทิตย์หนูเอามาคืนตอน 11.00 น. นะคะ...” ฉันขอร้อง และยังยื้อกับป้าคอนจนในที่สุดป้ายอมปล่อย
แอบเห็นว่ามีสายตาคนหล่อมองเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร คิดว่าเขาคงกำลังทำความเข้าใจกับเด็กผู้หญิงอ้วนและทำอะไรประหลาด ๆ คนนี้แน่
“ก็ได้จ๊ะ.... พรุ่งนี้เจอกันนะ”