บทที่ 4 ออกงาน

1517 Words
- ช่วงเย็นของวัน - น้ำอิงกำลังนั่งแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อเตรียมไปงานกับพล ร่างบางในชุดเดรสสีครีมอ่อนกับเครื่องสำอางค์บางๆบนใบหน้า รวบผมตึงเก็บเป็นมวยต่ำโชว์ใบหน้ารูปไข่สวยงาม เรียบๆแต่ดูมีอะไร ก๊อก..ก๊อก.. แกร๊ก.. ”คุณอิงเสร็จหรือยังคะ“ เลขากิ่งเปิดประตูเข้ามาเธอเสร็จนานแล้วเลยแวะมาดูน้องสาวเจ้านายเผื่อจะมีอะไรให้ช่วย ”เสร็จแล้วค่ะ พี่กิ่งดูให้อิงหน่อยสิค่ะว่าชุดนี้เหมาะกับอิงไหม“ เธอยืนขึ้นและก้มมองตัวเองมันค่อนข้างรู้สึกแปลกกับชุดแบบนี้ ”สวยมากค่ะคุณอิงต้องสวยที่สุดแน่ๆเลย“ กิ่งเดินเข้าไปใกล้ๆอดที่จะเอ่ยชมคนตรงหน้าไม่ได้ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นักเธอรู้สึกประหม่า ตื่นเต้นกับการออกงานครั้งแรกกับพี่ชาย “ไปกันเลยไหมค่ะ พี่พลคงเสร็จแล้ว” เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆเรียกขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง “คุณพลเสร็จนานแล้วค่ะ” ทั้งสองเดินออกจากห้องพักลงไปที่รถ ภายในโรงแรมมีแขกเดินผ่านไปผ่านมาล้วนแต่เป็นชาวต่างชาติที่มาพักผ่อนเสพบรรยากาศทุกคนต่างมองมาที่เธอเป็นตาเดียวจนเจ้าตัวรู้สึกเขินกับสายตาผู้คนเหล่านั้น “พี่พลรอนานไหมคะ” น้ำอิงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายยืนพิงรถเขี่ยมือถือรออยู่ก่อนแล้ว “ไม่นาน สวยนะเราโตเป็นสาวแล้วน้องสาวพี่“ พี่ชายเอ่ยชมน้องสาวยิ้มๆน้องที่เขาเลี้ยงมาเองกับมือวันนี้โตเป็นสาวสะพรั่งและสวยเอาการเลยทีเดียว @โรงแรมหรูสถานที่จัดงาน น้ำอิงเดินควงแขนพี่ชายเข้าไปในงานด้านหลังก็มีกิ่งเลขาคนสนิทเดินตามเข้ามาด้วย แขกนักธุรกิจมากมายๆกำลังสาวเท้าเดินไปยังจุดหมายเดียวกันคือ งานเลี้ยงต้อนรับลูกชายเจ้าสัวที่เพิ่งบินกลับมาจากต่างประเทศหมาดๆ “อ้าว! คุณพลสวัสดีครับ” เจ้าสัวรีบเดินมาทักทายพลด้วยความสนิทสนมๆ “ไม่เจอกันนานท่านยังแข็งแรงเหมือนเดิมเลยนะครับ” “ขอบคุณครับ คุณก็ยังหล่อเหลาและเก่งกาจเหมือนเดิมเช่นกันนะครับ ธุรกิจอาหารแปรรูปโด่งดังมากๆเลยนะครับ” เจ้าสัวสนิทสนมกับพ่อของพลและน้ำอิงมากสนิทถึงขึ้นไปมาหาสู่กันตลอดในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ “น้องสาวผมเองครับท่านคงจำไม่ได้” พลรีบเอ่ยบอกเมื่อเห็นเจ้าสัวมองมายังน้ำอิง “สวัสดีค่ะหนูชื่อน้ำอิงเป็นน้องสาวพี่พลค่ะ” เธอยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีมารยาท “ลุงจำหนูได้แล้วตอนนั้นหนูยังเด็กมากเด็กผมจุกโตเป็นสาวจนลุงจำไม่ได้เลย ศิลา!“ ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นและหันไปเรียก ศิลา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง ”ครับ พ่อเรียกผมมีอะไรหรือเปล่า” “นี่คุณพลเจ้าของธุรกิจอาหารแปรรูป นี่น้องน้ำอิงรู้จักกันไว้สิ” “สวัสดีครับคุณพล อาหารของคุณมีขายทั่วในเมืองที่ผมอยู่ผมอาศัยฝากท้องอยู่บ่อยครับ“ ศิลานักศึกษาชาวไทยที่บินไกลไปเรียนถึงอิตาลีเพื่อที่จะนำความรู้มาบริหารธุรกิจของครอบครัวต่อไป “ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับพี่ก็พอยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ศิลาจับมือทักทายกับพลก่อนที่เขาจะหันไปมองยังน้ำอิงศิลานิ่งไปทันทีกับหญิงสาวตรงหน้าที่น่ารักมากจนเขาหยุดมองเธอไม่ได้เลย ใบหน้ารูปไข่กับดวงตากลมโตเธอสวยน่ารักราวกับตุ๊กตาเดินได้ “นี่น้ำอิงน้องสาวพี่เอง” พลเอ่ยบอกศิลา “สวัสดีค่ะคุ…“ “พี่ครับ พี่ศิลา” เขาบอกเธอด้วยรอยยิ้ม นอกจากเธอจะน่ารักแล้วน้ำเสียงของเธอก็หวานราวกับน้ำตาล “ค่ะ พี่ศิลา” “ศิลาถ้าว่างก็พาน้องไปหาอะไรกินก่อนสิ พ่อขอคุยธุระกับคุณพลหน่อย” “ครับ เชิญทางนี้ครับน้องน้ำอิง” เขาผายมือให้น้ำอิงไปยังโซนอาหารที่คอยให้บริการอยู่ “น้องน้ำอิงอยากทานอะไรดีครับเดี๋ยวพี่ตักให้” “เรียกอิงเฉยๆก็ได้ค่ะ อิงขอดูก่อนนะคะ” ศิลาหยิบจานอาหารและเดินตามเธอไป ร่างบางไปหยุดอยู่ตรงขนมไทยน่าตาน่าทาน “ชอบขนมเหรอครับ” “ใช่ค่ะ อิงชอบขนมไทยตอนที่แม่ยังอยู่แม่ชอบทำบ่อยๆเพราะอยากให้โรงงานของเรามีขนมไทยขายด้วยแต่ยังไม่ทันจะได้ทำแม่กับพ่อก็จากไปซะก่อน” เธอบอกคนตรงหน้า ศิลาค่อนข้างสุภาพและดูใจดีทำให้น้ำอิงกล้าที่จะพูดคุยด้วย “พี่เสียใจด้วยนะครับ” ศิลาเอ่ยบอกมือก็ตักขนมหลายอย่างใส่จานให้น้ำอิง “ขอบคุณนะคะแต่มันนานมากแล้วอิงทำใจได้แล้วค่ะ” “น้องอิงอยู่กับคุณพลแค่สองคนเหรอครับ” “ใช่ค่ะ พี่พลเป็นทุกอย่างของอิงเลยค่ะ” “แล้วนี่น้องอิงยังเรียนอยู่ใช่ไหมครับ” “ค่ะ นิติศาสตร์ปี 3“ ”โห! เรียนนิติเก่งมากๆเลยนะครับคงเรียนหนักน่าดู“ ”ค่ะ เรียนค่อนข้างหนักแต่อีกปีเดียวก็จะจบแล้ว“ ”สนใจมาเป็นทนายบริษัทพี่ไหมครับ พี่จองตัวไว้เลยได้ไหม“ ศิลาเอ่ยถามแต่ถ้าได้เธอมาเป็นทนายจริงๆมันก็คงจะดี ”555 เอาคนอื่นที่มีประสบการณ์ดีกว่านะคะ“ เธอหัวเราะขำคนตรงหน้า บริษัทใหญ่โตแล้วจะให้เธอเนี่ยนะไปเป็นทนาย ”ก็มาหาประสบการณ์ที่บริษัทพี่ไงครับ“ ”เรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะนะคะ แต่ว่าขนมอร่อยมากๆเลยค่ะ“ เธอคุยเพลินจนกินขนมที่เขาตักให้จนหมดจาน ”เอาเพิ่มไหม น้องอิงต้องลองชิมอันนี้ขนมโปรดของแม่พี่เลย“ ศิลาตักขนมตาล 2 ชิ้นใส่จานให้น้ำอิง “ลองดูนะครับถ้าชอบครั้งหน้าเจอกันพี่จะซื้อไปฝาก คนทำเป็นคนแก่ชาวบ้านแถวๆนี้แต่ฝีมือดีใช้ได้เลยนะครับ” ลูกชายเจ้าของโรงแรมอย่างศิลารู้จักขนมไทยโบราณแทบทุกอย่างเพราะขนมในห้องอาหารไทยของโรงแรมเขาล้วนมาจากฝีมือของชาวบ้านแถวๆนี้ เจ้าสัวต้องการให้ชาวบ้านมีรายได้ ของสดหรือผักต่างๆที่ใช้ในการทำอาหารก็ล้วนมาจากชาวบ้านแทบทั้งหมด นโยบายบริษัท เป็นมิตรกับธรรมชาติปราศจากพ่อค้าคนกลาง การทำธุรกิจแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าทำให้การอยู่ร่วมกันของนักธุกิจและชาวบ้านเป็นไปด้วยความสมัครสมานสามัคคีต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ “ดีจังเลยนะคะแบบนี้ชาวบ้านก็ได้มีรายได้ไปด้วย” “ครับ ให้ชาวบ้านได้มีกินมีใช้ลืมตาอ้าปากได้มันเป็นเรื่องที่ดี” “ขอโทษนะคะพี่ศิลาอายุเท่าไหร่คะ“ ”25 ครับพี่หน้าแก่เหรอ” “อ๋อ…ไม่ใช่นะคะ” น้ำอิงเบิกตากว้างขึ้นมือเรียวปัดไปปัดมาในเชิงปฏิเสธ “555 พี่ล้อเล่นทำไมต้องทำหน้าตกใจด้วย“ เขาอดที่จะขำคนตรงหน้าไม่ได้ทำหน้าตกใจซะและมันน่าเอ็นดูมาก ทั้งสองยืนพูดคุยกันหัวเราะสนุกสนานโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนที่นั่งมองพวกเขาทั้งสองอยู่ที่โต๊ะหน้าเวที ตะวันนั่งอยู่กับครอบครัวข้างกายมีโรสนั่งอยู่ด้วยเขาทั้งเหนื่อย เบื่อและอึดอัดอยากกลับใจจะขาด แต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอน้ำอิงในงานนี้ตอนเห็นเธอที่ร้านอาหารเขาติดว่าเธอแค่มาเที่ยวพักผ่อน ตาคมเอาแต่จ้องมองน้ำอิงกับศิลาที่ยืนพูดคุยหัวเราะสนิทสนมกันไม่วางตา “ตะวันพาหนูโรสไปหาอะไรกินหน่อยสิน้องมานั่งตั้งนานแล้วคงจะหิว” คุณหญิงกนกนุชเอ่ยบอกลูกชายที่เอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จากับใครเลย “ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าโรสไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” แม้จะอยากไปหาอะไรทานตามลำพังสองคนมากแค่ไหนแต่หญิงสาวก็ปั้นหน้าทำท่าเกรงอกเกรงใจ ตะวันปรายตามามองเธอและชักสายตากลับทันที ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าหญิงสาวเป็นคนแบบไหน “อย่าเกรงใจเลยจ๊ะหนูโรส ตะวันปะ…” พรึบ! ตะวันยืนขึ้นเต็มความสูงเดินออกจากโต๊ะไปทันทีทำให้ผู้เป็นแม่ทำหน้าไม่พอใจออกมาเพราะลูกชายไม่ไว้หน้าเธอเลย ร่างหนาเดินออกมาด้านนอกของงานเพื่อสูดอากาศและเอาความอึดอัดออกมาทิ้ง ^^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD