บทที่ 1 แก้แค้น
ในห้องพักนักศึกษาคณะวิศวะตะวันกำลังนั่งอ่านหัวข้อรายงานที่อาจารย์เพิ่งแจกให้มา
“ของมึงได้อะไรวะขอกูดูหน่อย” ไผ่ดึงเอกสารในมือเขาไปก่อนจะร้องเสียงดังออกมา
“ไอ้เหี้ย! ตลอดเลยอาจารย์แม่งเห็นมึงหล่อแน่ให้หัวข้อมึงง่ายซะ“ ไผ่โวยวายเสียงดังตะวันก็ยังคงนั่งเงียบ นิ่งตามบุคลิกของเขาที่เป็นคนเงียบๆอยู่แล้ว
“มึงยังไม่ชินอีกเหรอวะกูเห็นวิชาไหนที่อาจารย์เป็นผู้หญิงไอ้เหี้ยนี่แม่งได้หัวข้อรายงานง่ายตลอดอะ” ธันวาต้องส่ายหัวให้กับเพื่อนเกิดมามีเบ้าหน้าฟ้าประทานก็ดียังงี้
“หึ! คิดไกลนะพวกมึง” ตะวันดึงเอกสารจากไผ่คืนและเอ่ยว่าเพื่อนคิดไปไกลถึงไหนเขาว่ามันบังเอิญมากกว่าหรือไม่ก็เขาโชคดีได้หัวข้อง่ายๆมาทำ
“ทำเป็นพูดมึงนะกูเห็นทุกวิชาเลย อาจารย์แม่ง! ใครบ้างไม่ชอบมึงไอ้ ตะวัน ศิริประภัตร” ไผ่บ่นอุบยังไงซะไม่ผิดไปจากที่เขาคิดแน่ๆ
ทั้ง 3 นั่งทำรายงานกันอยู่ในห้องพักปี 4 รายงานค่อนข้างเยอะคะแนนเก็บก็ได้มาจากรายงานพวกนี้แหละ
”วันนี้วันศุกร์กูต้องกลับบ้านวะแม่โทรตาม พวกมึงกลับบ้านกันไหมวะ“ ไผ่ถามเพื่อนทั้งสองปกติถ้าไม่กลับบ้านพวกเขาก็จะนัดกันไปดื่มตามประสา
”กูไม่กลับค่อยกลับอาทิตย์หน้าว่ะขี้เกียจไปฟังแม่บ่น“
”555 ไอ้ธันกูถามจริงมึงยังไม่ชินอีกเหรอวะ กูเนี่ยชินแล้วกับแม่มึง บ่นก็จะเป็นอะไรวะมึงยังมีพ่ออีกคนที่คอยฟังเป็นเพื่อนมึง”
ฮ่า…ฮ่า…ฮ่า
ไผ่หัวเราะด้วยความสะใจเมื่อพูดถึงเรื่องเพื่อนกับพ่อที่วันๆโดนแม่บ่นจนหูชา
“แล้วมึงละไอ้ตะวันคนหล่อกลับบ้านไหม”
“ไม่”
“บ้านช่องหัดกลับบ้างนะครับเดี๋ยวพ่อแม่มึงก็ลืมหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกันพอดี แต่กูว่ามึงไม่กลับแหละดีแล้วแม่มึงเจ้าระเบียบ ขี้บงการ พ่อมึงแม่งก็ไม่กล้ากับเมียเลยว่ะ มึงอึดอัดไหมกูถามจริง“ ไผ่ที่เป็นเพื่อนสนิทคบกันมา 3 คนตั้งแต่มัธยมต้นถามตะวันเขาเห็นครอบครัวเพื่อนแล้วเหนื่อยแทน รวยจริง แต่แม่ง! บงการชีวิตเพื่อนเขาทุกอย่างนี่ถ้าตะวันเป็นผู้หญิงหรือเป็นคนที่ไม่มีความอดทนก็คงเป็นซึมเศร้าฆ่าตัวตายไปแล้ว
Rrrrr…Rrrrr…
“ …… “ ตะวันนั่งเงียบไม่ปริปากพูดอะไรออกมาเพราะที่ไผ่พูดมันก็เรื่องจริงทุกอย่าง ทว่าจู่ๆเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาดูและวางมันลงอีกครั้งแค่เห็นก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาทันที มือถือก็แผดเสียงร้องไม่ยอมหยุด
“ครับ”
“ทำไมรับสายช้า”
“ผมกำลังทำรายงาน แม่มีอะไรรีบพูดมาเถอะครับ” ทั้งไผ่และธันวาหันไปมองหน้ากันทันที
“วันนี้กลับมากินข้าวบ้านไหม”
“ไม่ครับ”
“ทำไม”
“แม่ผมมีรายงานต้องทำ งานเยอะแค่นี้นะครับ” ตะวันกดตัดสายด้วยความรำคาญที่แม่เอาแต่ถามเซ้าซี้ไม่ยอมหยุดถ้าขืนเขาคุยต่อก็คงบังคับให้เขากลับบ้านอย่างเช่นทุกครั้งและที่ไปก็ไม่ใช่เรื่องอะไรเลยนอกจากนัดเพื่อนให้พาลูกสาวมากินข้าวหวังจะจับเขาแต่งงาน
“เพิ่งพูดถึงอยู่เมื่อกี้ตายยากจริงๆมึงว่าไหมวะ” ไผ่หันไปกระซิบกระซาบกับธันวาหลังจากเห็นเพื่อนวางสายไปแล้ว
ตกเย็นหลังจากเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จตะวันก็แยกกับเพื่อนที่ลานจอดรถร่างสูงยืนพ่นควันสีเทาอยู่ในซอกตึกเขาจะดับความเครียดด้วยการสูบบุหรี่แบบนี้เสมอ ไม่ได้ติดถึงขนาดขาดไม่ได้แต่ถ้าเครียดมันจะช่วยให้เขารู้สึกดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“พี่ตะวันคะ” เสียงหวานของมิ้นท์นักศึกษาคณะแพทย์ชั้นปีที่ 1 เอ่ยเรียกตะวันเสียงดัง สาวน้อยตัวเล็ก ใส่แว่นหนาเตอะแอบชอบพอรุ่นพี่คนนี้มานานภายใต้กรอบแว่นสีดำมีอะไรอีกมากมายที่ซ่อนอยู่
ตะวันทิ้งมวนบุหรี่ที่เหลือลงพื้นและใช้เท้าบดขยี้มันก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากตรงนั้นไปขึ้นรถทันทีโดยไม่สนใจมิ้นท์เลยแม้แต่น้อย
“พะ พี่ตะวันเดี๋ยวสิค่ะ” เสียงเรียกของเธอไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขา รถหรูขับออกจากลานจอดรถด้วยความเร็ว เพื่อกลับไปยังเพนท์เฮาส์สุดหรูที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก
ตะวันขับรถมาจอดยังชั้นจอดรถของเพนท์เฮาส์ที่มันมีแค่เพียงรถของเขาคันเดียว ตะวันเดินเข้าลิฟท์โดยสารขึ้นไปยังชั้นที่พักอาศัยชั้นสูงสุดจะเป็นเพนท์เฮาส์ของเขาเองมีทั้ง ฟิตเนส สระว่ายน้ำและสวนเล็กๆค่อนข้างที่จะเป็นส่วนตัวสูง
เขาเดินเข้าห้องมาแล้วทิ้งสะโพกลงนั่งบนโซฟาสุดหรู วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยมากเหลือเกินเพราะเรียนหนักตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นทว่าไม่นานเสียงออดหน้าห้องของเขาก็ดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตบนโต๊ะกลางโซฟาแล้วกดปลดล็อคประตูให้คนด้านนอกเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่มากดออดนั้นคือใคร
แกร๊ก….
น้ำอิง…เปิดประตูเข้ามาในห้องร่างบางในชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับเขาเธอเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ ความสวยน่ารักของเธอทำให้เธอได้เป็นถึง ดาวคณะ แต่สวรรค์ช่างไม่เมตตาเมื่อจู่ ๆ เธอต้องมาตกเป็น จำเลย รับผิดชอบในสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ
“มาแล้วก็ทำหน้าที่ของเธอซะ” ตะวันเอ่ยบอกเสียงเรียบโดยที่เขาไม่ได้หันไปมองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย มือเรียวสองข้างปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองออกตามด้วยบราเซียที่เธอสวมใส่อยู่ โยนลงไปกองไว้กับพื้น ก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังห้องแต่งตัวและหยิบชุดคลุมสีขาวออกมา ร่างบางนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าชายหนุ่มถอดเข็มขัดราคาแพงออกจากรอบเอวสอบและปลดกระดุมกางเกงยีนส์ที่เขาสวมใส่อยู่ออกต่อด้วยชั้นในสีดำที่เขาใส่ออกไปด้วย
แท่งเนื้อขนาดใหญ่ที่มันกำลังหลับไหลปรากฏแก่สายตาของเธอ น้ำอิงมือสั่นราวกับจะเป็นลมถึงเธอจะมีอะไรกับเขาแล้วหลายครั้งแต่เธอก็ไม่ชินกับมันสักที
พรึบ!
อ๊ะ!
“ชักช้าน่ารำคาญ” ตะวันจับร่างบางโยนลงบนโซฟาจนน้ำอิงร้องออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บ และเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดรำคาญกับความชักช้าอืดอาจยืดยาดของเธอ เขาจับแท่งเนื้อของตัวเองและสาวเข้าออกเพียงไม่นานแท่งเนื้อขนาดใหญ่ก็แข็งขืนฟองฟูพร้อมที่จะออกรบ มือหนากระชากกระโปรงนักศึกษาตัวสั้นของเธอขึ้นไปกองไว้บนเอวคอดกิ่ว และดึงแพนตี้ตัวจิ๋วของเธอโยนทิ้งไปอย่างไม่คิดใยดี
“อ้าขา!” เขาตะคอกเสียงดังบอกคนที่นอนราบอยู่บนโซฟาน้ำอิงยอมอ้าขาให้เขาแต่โดยดี เขาใช้ปากฉีกถุงป้องกันราคาแพงและสวมใส่มันเพื่อป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
สวบ!
อ๊ะ…!! อื้อ…!!
เขาไม่ได้คิดสนใจดันเท่งเนื้อเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นของเธอเลยจนเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดมันทั้งเจ็บทั้งแสบจนเธอต้องกัดปากตัวเองไว้แน่น เขาไม่เคยสนใจว่าเธอจะเจ็บมากขนาดไหนที่เขาทำไปก็เพื่อที่จะ แก้แค้น
ปัก! ปัก! ปัก!
“อ๊ะ..คุณตะวันเบาหน่อยได้ไหมคะน้ำอิงเจ็บ” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นอยู่ในเพนท์เฮาส์สุดหรู เขากระหน่ำกระแทกแท่งเนื้อใส่ร่องรักที่แห้งสนิทของเธอจนเธอรู้สึกเจ็บต้องเอ่ยปากบอกให้เขาเบาแรงลงหน่อย
“เงียบซะ อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดถ้าไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้” นานนับชั่วโมงที่เขาเอาแต่กระแทกใส่น้ำอิง เขาเปลี่ยนถุงยางไปแล้วหลายต่อหลายชิ้นคนตัวเล็กนอนรองรับแรงกระแทกของเขาเงียบดวงตาคู่สวยค่อยๆปล่อยน้ำสีใสออกมา ตะวันเอาแต่มองหน้าเธอที่นอนร้องไห้ด้วยรอยยิ้มมุมปากเขารู้สึก สะใจ มากที่เห็นเธอในสภาพแบบนี้
“เก็บให้สะอาดแล้วออกจากห้องฉันไปซะ” ตะวันเอ่ยบอกเสียงเรียบและหยิบชุดคลุมสีขาวขึ้นมาสวมใส่เดินเข้าห้องนอนไปทันที
“ค่ะ” เมื่อเขาปลดปล่อยจนพอใจเขาจะไล่เธอไปแบบนี้เสมอน้ำอิงก้มหน้ารับคำเก็บเสื้อผ้าของเขาไปใส่ในตะกร้าผ้ารอซักในห้องแต่งตัวและเดินมาเก็บเศษซากถุงป้องกันที่ใช้แล้วบนพื้นทิ้งลงถังขยะก่อนจะเช็ดทำความสะอาดและแต่งตัวให้เรียบร้อยเดินออกจากเพนต์เฮาส์หรูของเขาไปเงียบๆร่างบางเดินขาสั่นออกไปเพราะความเจ็บและจุกมากเหลือเกินมือเรียวคอยไต่ผนังคอนโดเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลงเดินตรงไปยังลิฟท์โดยสาร
น้ำอิงเดินมาเรียกรถแท็กซี่หน้าเพนท์เฮาส์เธอพยายามเดินให้เหมือนคนปกติที่สุดทั้งที่ขาทั้งสองข้างสั่นจนแทบจะทรงตัวเอาไว้ไม่ได้
“ไปหมู่บ้านxxxค่ะ“ หลังจากบอกพิกัดกับคนขับไปแล้วร่างบางก็นั่งนิ่งความอ่อนล้า อ่อนเพลียทำให้เธอหลับบนรถได้อย่างง่ายดาย
^^