ผลัก!
อ๊ะ!
เมื่อเขาปลดปล่อยจนพอใจเขาก็ผลักเธอออกไปจากตัวก่อนจะแต่งตัวให้กลับมาเรียบร้อยดั่งเดิมและสาวเท้าเดินออกจากห้องน้ำชายแห่งนั้นไป ทิ้งให้น้ำอิงยืนอยู่กับความเจ็บปวด ร่างบางรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่เพราะกลัวว่าจะมีใครบังเอิญเข้ามาเห็น มันคงเป็นเรื่องหน้าอายหากใครมาเห็นเธอในสภาพแบบนี้ มือเรียวยกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มและไม่ลืมที่จะหยิบแป้งตลับมาปิดทับคราบน้ำตาเธอจะไม่ทิ้งร่องรอยของความเศร้านี้ไว้ให้ใครได้เห็นเด็ดขาด เธอยิ้มบางๆให้กับตัวเองก่อนจะเอ่ยคำปลอบใจขึ้น
“อดทนนะน้ำอิงสักวันมันจะผ่านไป”
น้ำอิงเดินมาแง้มประตูห้องน้ำแล้วชะโงกหน้าออกไปมองด้านนอกว่ามีใครหรือเปล่าเมื่อเห็นทางโล่งเธอเดินมือกุมท้องออกมาจากห้องน้ำ เธอเจ็บมากตรงท้องน้อยและใจกลางสาวเจ็บจุกจนเธอแสดงสีหน้าของความเจ็บปวดออกมาในขณะก้าวเดิน
เธอหยุดมองไปทางงานเลี้ยงที่ยังต้องเดินอีกไกลพอสมควรก่อนจะกัดฟันพาตัวเองเดินต่อไปแต่ความเจ็บที่เกิดขึ้นจากเมื่อวานกับวันนี้มันx2 ทำให้น้ำอิงเซจะล้มจนกระทั่ง…
พรึบ!
“น้องน้ำอิงไม่สบายหรือเปล่าครับ” แขนแกร่งช้อนรับร่างบางที่กำลังจะล้มไว้ได้ทัน ศิลาเห็นน้ำอิงเดินมาห้องน้ำตั้งแต่ที่เขายืนพูดอยู่บนเวทีแล้วจนเขาพูดจบลงมารอด้านล่างอีกคนก็ยังไม่เดินกลับมาจนเขาต้องเดินตามมาดู
“พี่ศิลา น้ำอิงขอโทษนะคะพอดีน้ำอิงปวดท้องนิดหน่อยค่ะ” เธอบอกศิลาทำให้ชายหนุ่มทำหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“ไปหาหมอนะครับพี่พาไป” ศิลารู้สึกเป็นห่วงจนจะพาเธอไปหาหมอ
“ไม่เป็นไรค่ะน้ำอิงปวดแบบนี้บ่อยคงเพราะกินข้าวไม่เป็นเวลาค่ะ” เธอโกหกเขาอย่างที่เคยโกหกพี่ชายอยู่บ่อยๆ
“ปวดมากไหมเดินไหวหรือเปล่าขึ้นไปพักก่อนดีไหมครับพี่พาไป” ศิลาเอ่ยบอกอย่างใจดีเพราะเขารู้สึกชอบและถูกชะตากับคนตรงหน้ามากเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรค่ะน้ำอิงไหว”
“งั้นไปกินข้าวกันไหมครับพี่พาไป ห้องอาหารที่นี่มีอาหารไทยอร่อยหรือไปกินข้าวต้มร้อนๆจะได้อุ่นท้อง”
“เออ..คือ”
“อย่าปฏิเสธพี่เลยนะครับ พี่เป็นห่วง”
“งั้นก็ได้ค่ะแต่น้ำอิงขอไปบอกพี่พลก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่พลจะรอ”
“ครับ” ศิลาประคองน้ำอิงเดินมายังหน้างานก่อนที่เขาจะยอมปล่อยเธอเพราะไม่อยากให้เธอต้องดูไม่ดีในสายตาใคร เขาเดินตามหลังน้ำอิงมาเงียบๆคนทั้งงานต่างหันมามองหนุ่มสาวทั้งสองเป็นตาเดียวกันในนั้นก็ยังมีโต๊ะของตะวันที่หันมามองทั้งสองด้วย สายตาคมเอาแต่มองร่างบางที่เดินมากับเจ้าของงานในวันนี้นิ่ง
“คนรักคุณศิลาเหรอคะ” โรสที่นั่งอยู่ข้างตะวันหันไปถามผู้เป็นแม่
“แม่ก็ไม่รู้แต่เห็นว่าคุณศิลายังโสดนี่” คุณหญิงเยาวเรศตอบลูกสาว
“คุณศิลาโปรไฟล์ดีมากจบนอก ปริญญา 3 ใบที่เอากลับมาฝากเจ้าสัวหล่อ ฉลาดใครได้ไปเป็นเนื้อคู่โชคดีไปจนตาย” เสียงของภรรยานักธุรกิจอีกโต๊ะหนึ่งเอ่ยขึ้น
“แต่เด็กคนนั้นก็สวยมากนะคะดูเหมาะสมกันดีคุณพี่ว่าไหม“ เพื่อนที่นั่งรวมโต๊ะเอ่ยเสริม
”คนนั้นหนูน้ำอิงน้องสาวคนเดียวของคุณพลลูกของคุณหญิงปิยาพรไงคะ“
”อ๋อ..ถึงว่าหน้าคุ้นๆสวยเหมือนแม่ไม่มีผิดเลยค่ะดูเหมาะสมกันจริงๆนะคะทั้งหน้าตา ฐานะ” โต๊ะด้านข้างนั่งพูดคุยกันออกรสออกชาติตะวันเอาแต่นั่งฟังบทสนทนานั้นเงียบ ก่อนที่เขาจะหันไปมองทั้งสองอีกครั้ง
“พี่พลครับผมขอพาน้องน้ำอิงไปกินข้าวสักพักผมจะพามาส่งนะครับ” ศิลาเอ่ยปากขออนุญาตพลอย่างไม่คิดกลัว
“อิงปวดท้องอีกแล้วใช่ไหม” พลถามน้องสาว
“นิดหน่อยค่ะ“
”เชิญเลยครับพี่ฝากเด็กดื้อด้วยนะแล้วรบกวนบังคับให้กินข้าวให้หมดจานด้วยนะครับ“ พลหันไปบอกศิลาสีหน้าจริงจัง
”พี่พล“ น้ำอิงที่เห็นพี่ชายพูดราวกับเธอเป็นเด็กก็อดไม่ได้ที่จะเรียกพี่ชายเบาๆใบหน้าสวยยู่หน้าลงเล็กน้อย
”ศิลาพาน้องไปกินข้าวเถอะไป อาหารโรงแรมลุงอร่อยทุกอย่างหนูน้ำอิงจะต้องชอบ“ ท่านเจ้าสัวแสนใจดีเอ่ยบอกและถ้าลูกชายชอบน้ำอิงเขาก็จะเชียร์และสนับสนุนเต็มที่
“ไปเถอะครับเดี๋ยวจะปวดท้องอีก” ศิลาพาน้ำอิงเดินตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรม พนักงานต่างมองทั้งสองไม่วางตาว่าที่ท่านประธานคนใหม่เพิ่งเดินทางมาถึงได้ไม่กี่วันก็ควงสาวสวยมากินข้าวแล้วเหรอ
“น้องน้ำอิงอยากกินอะไรครับหรือเอาข้าวต้มกุ้งไหมแพ้อาหารอะไรหรือเปล่า”
“ไม่แพ้ค่ะ อิงทานได้ทุกอย่างเอาข้าวต้มกุ้งก็ได้ค่ะ“
”ครับ“ ศิลายกมือเรียกพนักงานที่แต่งชุดไทยประยุกต์ เสื้อแขนกระบอกสีแดงเลือดนกกับผ้าถุงที่ถักทอด้วยเส้นไหมอย่างดีจากเชียงราย
“คุณศิลาจะรับอะไรดีคะ“ พนักงานสาวรูปร่างดีเอ่ยถามอย่างมีมารยาทในมือถือแท็บเล็ตเตรียมกดสั่งอาหาร โรงแรมหรู 7 ดาวระดับความหรูไม่มีโรงแรมไหนเทียบชั้นได้เลยการบริการดี มีระดับไปทุกส่วน
“ข้าวต้มกุ้ง น้องน้ำอิงทานผักได้ใช่ไหมครับ”
“ได้ค่ะ”
“ข้าวต้มกุ้ง 1 กระเพรากุ้งรสจัดๆ 1 น้ำส้ม 1 น้ำเปล่า 2” ศิลาสั่งอาหารพร้อมกับน้ำดื่ม พนักงานรีบเดินออกจากตรงนั้นทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน ไม่นานอาหารจากฝีมือเชฟมือทองของทางโรงแรมก็ถูกนำออกมาเสริฟ์
“น้องน้ำอิงอยากได้อะไรเพิ่มไหมครับ”
“แค่นี้พอแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ศิลามากนะคะ”
“กินเถอะครับ ระวังร้อน” เขาเอ่ยบอกน้ำอิง เธอจำใจต้องกินข้าวต้มตรงหน้าทั้งที่ไม่ได้รู้สึกหิวอะไรเลย เธออยากกินยาแล้วนอนพักมากกว่า
“กินเยอะๆนะครับ“
”พี่ศิลาชอบทานอาหารรสจัดเหรอคะ“
”ครับ ตอนพี่ไปเรียนที่อิตาลีเผ็ดสุดในร้านอาหารก็ยังไม่เผ็ดสำหรับพี่เลย พี่อาศัยฝากท้องกับข้าวกล่องของบริษัทน้องน้ำอิงบ่อยครับโดยเฉพาะแพนงหมูอร่อยมากครับ พี่ชอบมาก“
”เหรอค่ะ ชอบเหมือนอิงเลยแม่เป็นคนคิดสูตรอาหารทุกอย่างเองเลยนะคะ“
”คุณน้าเก่งจังเลยนะครับ ทำไมน้องน้ำอิงถึงเลือกเรียนนิติศาสตร์ละครับ น่าจะเรียนโภชนาการทางด้านอาหารมากกว่า“
“น้ำอิงเรียนตามเพื่อนนะคะ 555”
“โถ่ พี่ก็คิดว่าชอบซะอีก” ศิลาเอ็นดูคนตรงหน้าอยู่ไม่น้อยเธอน่ารักไปหมดไม่ว่าจะพูด ยิ้มหรือหัวเราะ
“ข้าวต้มอร่อยไหม”
“อร่อยค่ะกุ้งสดมากกระเทียมเจียวก็หอม”
“ถ้าอร่อยก็มาทานที่นี่บ่อยๆนะครับที่นี่ยินดีต้อนรับน้องน้ำอิงเสมอมากินข้าวที่นี่ตลอดชีวิตเลยก็ได้“ ศิลาเอ่ยบอกคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
”จะเปลืองหรือเปล่าคะ“
”เปลืองอะไรละครับกินนิดเดียว กินให้หมดเลยไม่หมดพี่ฟ้องพี่พล“
”ค่ะ“ เธอก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มในชามตรงหน้าจนหมด คนตรงข้ามเอาแต่แอบมองใบหน้าสวยของเธออยู่บ่อยครั้งในบางครั้งเขาก็แอบยิ้มคนเดียวกับความน่ารักของเธอ
”ยังปวดท้องอยู่ไหมที่นี่มีห้องพยาบาล“ ถ้าอีกคนปวดมากเขาก็จะพาไปเอายา
”ไม่เป็นไรค่ะน้ำอิงมียา ขอบคุณพี่ศิลามากนะคะ“
”แล้วนี่จะกลับวันไหนครับ“
”พรุ่งนี้ค่ะ“
”เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีกพี่ขอเบอร์ติดต่อไว้ได้ไหมครับ“ ศิลาไม่คิดอ้อมค้อมเขาขอเบอร์เพราะกลัวว่าหลังจากนี้จะไม่ได้เจอกันอีกแต่ถ้ามีเบอร์จะได้โทรหาได้บ่อยๆ เขาส่งมือถือราคาแพงให้กับหญิงสาวตรงหน้า น้ำอิงก็ไม่ได้มองว่าน่าเกลียดอะไรเธอรับมือถือเขามาและบันทึกเบอร์ให้อย่างเต็มใจ
ทั้งสองเดินกลับเข้ามาในงานอีกครั้งเสียงเพลงจากนักร้องดังกำลังบรรเลงอยู่บนเวที แขกทุกคนก็ยังดื่มด่ำกับบรรยากาศและเครื่องดื่มนานาชาติมากมายที่เจ้าสัวนำมาจัดเลี้ยงในค่ำคืนนี้
“ผมพาน้องมาส่งแล้วครับ” ศิลาเอ่ยบอกพล
“กินข้าวหมดไหมหรือกินเหลืออีก”
“พี่พล น้ำอิงกินหมดไม่เชื่อถามพี่ศิลาได้” พลหันไปมองศิลาทันที
“หมดครับ ข้าวกุ้งชามโตกินไม่เหลือ“
”ดีมาก ดื้อครับพี่เหนื่อยจะดุแล้ว“ พลเอ่ยบอกศิลาที่เขาพูดมาคือเรื่องจริง น้องสาวค่อนข้างดื้อจนเขาต้องคอยบ่นอยู่บ่อยครั้ง
”ดื้อ แต่น่ารักครับ“ ศิลาเอ่ยขึ้นทำให้พลที่เป็นผู้ชายด้วยกันรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าสนใจในตัวน้องสาวเขาแน่นอน
^^