bc

THE GUARD แฟนอาร์ต

book_age18+
608
FOLLOW
1.3K
READ
HE
opposites attract
independent
single mother
heir/heiress
drama
bxg
campus
highschool
like
intro-logo
Blurb

ตึก ตึก เสียงส้นรองเท้าสูงกระทบพื้นเป็นจังหวะการเดินที่ไม่รีบเร่งแต่มันกับแฝงความหนักแน่นเอาไว้ ปลายรองเท้าแหลมถูกบังคับเข้าไปยังตึกหนึ่งลักษณะใหญ่โตสมฐานะสถานที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้ามาถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งก็ตาม

เพียงไม่นานปลายเท้าก็หยุดลงมือเรียวขาวจนเห็นเส้นเลือดยื่นออกไปพร้อมกับกระดาษจำนวนหนึ่ง เล็บยาวแต่งแต้มด้วยสีแดงสดสะท้อนกับสีขาวของกระดาษทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอึ้งไปชั่วครู่อีกทั้งยังมองมาด้วยสายตาดูถูก นัยน์ตาจำนวนนี้มองแป๊บเดียวก็รู้ว่าภายในหัวสมองคิดอะไร

“เอกสารครบใช่มั้ย?”

ริมฝีปากเรียวเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดถามขึ้นและชักมือกลับไปกอดอกทว่าคู่สนทนาไม่ตอบหันใบหน้ายกริมฝีปากเหยียด

“ครบแต่ต่อไปจะมาติดต่อควรรับรู้มารยาทด้วยว่าควรแต่งตัวแบบไหน แต่งหน้าโทนไหนและใช้ภาษากับเจ้าหน้าที่เช่นไร”

“มาสมัครเรียน ไม่ได้มาดัดสันดาน...”

chap-preview
Free preview
CHAPTER 1
CHAPTER 1 ภายในห้องมืดสลัวแต่ปกคลุมไปด้วยความเย็นเฉียบอุณหภูมิต่ำต้นเหตุเนื่องมาจากเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่นั่นเอง แสงจากดวงจันทร์สอดส่องเข้ามาเล็กน้อยกระทบตรงเสี้ยวใบหน้าสวยได้รูปที่กำลังจดจดจ้องออกไปมองแสงไฟจากตึกอาคารต่างๆ ด้านนอกจากคอนโดสูงกว่ายี่สิบชั้น ความมืดสามารถทำให้เห็นว่าแสงสว่างจากด้านหน้ามันสวยงามมากแค่ไหนทว่านัยน์อันว่างเปล่าคู่นี้กับเฉยชาต่อสิ่งที่กำลังได้เห็นไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาทั้งนั้นนอกจากนิ่ง เหมือนไร้ความรู้สึก? สักพักดวงตาครู่นั้นก็หันมามองสิ่งที่อยู่ในมือซ้าย นัยน์ตาสีน้ำตามองมันก่อนยกรอยยิ้มเหยียดแสดงขึ้น ไพ่สองใบในมือยาวเรียวขยับตามแรงเคลื่อนไหวสลับกระทบเสียดสีกันไปมาหลายครั้งก่อนหยุดชะงักลงอย่างกะทันหันไม่ใช้เวลานานไปกว่านั้นเพราะสุดท้ายไพ่พวกนั้นมันก็ถูกเหวี่ยงออกไปจากวงโคจรทางสายตาอย่างไม่ใยดีนัก รู้สึกเหมือนเกลียดขยะแขยงแต่จากนี้ก็ต้องเข้าไปใกล้ รู้สึกเหมือนอยากเข้าไปแล้วจุดไฟเผาแต่ต้องรอ รู้สึกอยากไปให้ไกลแต่ก็ทำไม่ได้ แล้วควรทำยังไงดีล่ะ? ในชีวิตคนเรามันมีไม่กี่อย่างหรอกที่สมปรารถนาและก็มีอีกหลายอย่างที่ต้องผิดหวังไม่ได้ดั่งใจปรารถนา เรื่องเลวร้ายไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเองแต่ก็ไม่สามารถกำหนดได้ใช่ไหม แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก... ถึงกำหนดไม่ได้แต่ถ้าเลือกใช้หนทางอื่นๆ แน่นอนว่ามันย่อมมีเสมอ วงเวียนการใช้ชีวิตเมื่อก่อนต้องอดทนอดกลั้นมากเพียงไหนทำไมจะไม่รู้ ทุกความผิดหวังมันพลอยทำให้เป็นข้อบกพร่องของตัวเองเรื่อยๆ การย้ำคิดย้ำทำจะลงมืออะไร ตอนนี้คำเดียวที่มีอยู่ในหัวคือ ‘เอาคืน’ เท่านั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นตรงไหนที่ใดต้องเดือดร้อนสักกี่คน การตีกลับไปมันต้องรุนแรงกว่าหลายเท่าตัว “มาถึงแล้วสินะ” ริมฝีปากสวยพึมพำก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกว่าร้อยเจ็ดสิบกว่า เสื้อสีแดงตัวใหญ่เคลื่อนไหวลงมาปกคลุมขาเรียวสวยโผล่พ้นออกมาทั้งที่เจ้าตัวไม่สนใจกับเดินไปใกล้บานเคลื่อนทรงสูงจ้องมองแสงสีภายนอกอีกครั้งและมันก็ชัดเจนขึ้นหลายเท่าตัวในขนาดที่ก่อนหน้ามองไกลไปหน่อย เนิ่นนานเท้าเล็กก็ตั้งใจขยับเท้าเหยียบไพ่สองใบนั่นเต็มๆ “จะเหยียบให้จมเดิน...” ประโยคราบเรียบแฝงไปด้วยความเลือดเย็นอันแสนเฉยชาเกิดขึ้นกับตัวเอง คืนนี้เป็นคืนแรกที่ฉันมานอนที่นี่คอนโดใจกลางเมืองที่อยู่ของนักศึกษาผู้สูงส่งทั้งหลาย ผู้ดีในคราบนักศึกษาเบ่งอวดความร่ำรวยตั้งแต่หัวจรดปลายตีนไม่สนใจว่าคนข้างหลังส่งเรียนต้องปากกัดตีนถีบมากเพียงไหน วงวารความเน่าเฟะ วงวารความโอ้อวดว่ารวย วงวารขายควายส่งควายเรียน นึกแล้วน่าสมเพชสิ้นดีแต่มันก็ไม่ใช่จุดหมายของตัวเองที่จะมานั่งดูคนพวกนี้ การย้ายมหาลัยครั้งนี้มันต้องมีเหตุผลมากกว่านั้นและมันก็ต้องสามารถทำประโยชน์ให้ตัวเองพอสมควรโดยปราศจากคำว่าน้อย การเปิดฉากมาใหญ่ทุกอย่างมันต้องใหญ่ตามจากนั้นก็จะต้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉันชื่อ ‘แฟน’ รู้เท่านี้พอ ปีสามชีวิตมหาลัย ชีวิตใครจะบรรลัยมาดูกัน... @Kingston University (มอคิงส์ตัน /KU) “แฟนกินอะไรเปล่า?” “...” แค่ส่ายหน้าไร้เสียงพูดทุกคนก็รู้คำตอบดี การเป็นแบบนี้ของฉันถือว่าเป็นกิจวัตรตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาอย่างรวดเร็วในมหาลัยใหม่กับเพื่อนใหม่รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวใหม่ รู้ไหมว่ามันมีข้อดีคือไม่มีใครกล้าเซ้าซี้ขยายความถามต่อเพื่อให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของใครหลายคนทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มนี้ กลุ่มที่ฉันเลือกเข้ามาอยู่ “งั้นไปซื้อขนมแป๊บ” ว่าแล้วก็ลุกออกจากโต๊ะไป ร้านค้าอยู่ใกล้โต๊ะม้าหินอ่อนที่นั่งมาแค่เพียงเล็กน้อยพอหันไปก็เจอร่างเล็กของเพื่อนใหม่ยืนกอบโกยขนมเต็มไม้เต็มมือ ร้านนี้เป็นร้านเดียวตั้งอยู่ระหว่างอาคารใหญ่ของคณะมนุษยฯ กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ นักศึกษาส่วนใหญ่เวลาเกือบบ่ายไม่ค่อยมานั่งกันหรอก คนข้างบนนี้ชื่อน้ำหวานที่เอ่ยถามฉัน ความร้ายความแรงการโจมตีเรียกได้ว่าอยู่สกิลระดับศูนย์ถึงติดลบ นิสัยออกไปทางบ้าๆ บอๆ ไม่ค่อยสู้คนด้วยแล้วคงมองโลกในแง่ดีมากทุกอย่างเหมือนเป็นสีชมพูทั้งที่ความจริงอาจไม่ใช่แบบที่เธอคิดด้วยซ้ำไป คนเดียวที่ถือว่าผ่านหนึ่งในสาม “อย่าประหยัดนักสิ ตัวผอมแห้งขนาดนี้ควรกินบ้าง” หล่อนคนนี้ชื่อหนามเตย ความร้ายความแรง (เฉพาะคำพูด) เหน็บแนมจัดอยู่ในสกิลให้แปดสิบส่วนร้อย ยังไม่เคยดูเรี่ยวแรงการใช้กำลังว่าจะเหมือนกับที่ปากง้างออกมาหรือเปล่า อีคนนี้คบไม่ได้หรอก “ไม่หิวจริงๆ” ฉันเลือกส่งรอยยิ้มให้หลังพูดจากนั้นก็ดันแว่นตาขึ้นหน่อยทำเหมือนดูเกรงใจหล่อน นิสัยมนุษย์ส่วนมากชอบชะล่าใจด้วยท่าทางและคำพูดยกยอ ผู้หญิงคนนี้ก็เช่นกันคิดว่าตัวเองจัดอยู่บนห่วงโซ่อาหารหรอ “ไม่เหมือนเตยหรอกทั้งสวย ทั้งน่ารักแถมทั้งรวยหนุ่มๆ ชอบ” ได้ยินแค่นี้หล่อนก็แสระยิ้ม ได้ยินแค่นี้ใบหน้าก็บานเป็นจานข้าวหมา จะรู้ไหมว่าดูแล้วโง่แค่ไหน กะอีแค่ประโยคตอแหลจากฉัน “ระดับดาวอย่างเตยก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” และคนสุดท้ายชื่อเปลว ไม่มีความร้ายแรงอะไรในสมองวันๆ เอาแต่เป็นหมาตามรับใช้หนามเตย จงรักภักดีทุกอย่างเรียกง่ายที่สุดก็คือ สมองกลวง สกิลการโจมตีไม่มีถ้าไม่ได้รับคำสั่ง อีนี่ก็คบไม่ได้เช่นกัน “เตยดูนั่น...” “ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” ฉันลุกขึ้นกำลังจะขยับเท้าเดินแต่ต้องชะงัก “อย่าให้ได้รอ ทั้งกลุ่มจะซวยเพราะถูกเช็คชื่อขาด” “จริงสิ ถ้าช้าขึ้นไปก่อนได้ไม่ต้องรอนะ ฝากบอกน้ำหวานด้วย” การแยกออกมามันเป็นแค่ความตั้งใจล้วนๆ ไม่ได้อยากเข้าห้องนงห้องน้ำอะไรหรอกเพียงแค่เห็นอะไรบางอย่างเข้ามาเตะสายตาต่างหาก สายตาของฉันจ้องมองไปยังกลุ่มผู้ชายกลุ่มนั้นประมาณห้าหกคนเดินมาก็สามารถเรียกสายตาของพวกผู้หญิงได้เป็นอย่างดี ก็ที่เปลวหล่อนบอกให้หนามเตยดูนั่นแหละ เปิดฉากขึ้นแล้วสินะ... พวกนั้นเดินเข้ามานั่งม้าหินอ่อนถัดจากที่ฉันไปเว้นระยะห่างแค่หนึ่งโต๊ะ ความโดดเด่นแต่ละคนไม่แพ้กันคงมีแค่ฉันเท่านั้นที่จับจุดมองไปจุดเดียว ชายคนนั้นนั่งบนที่พิงเอาเท้าใหญ่เหยียบเก้าอี้หนึ่งข้างอีกข้างกับเหยียดตรง เรือนผมสีเทาเน้นใบหน้าเรียวให้ดูขาวสว่าง เขาอยู่ในชุดนักศึกษาไม่เรียบร้อยใดๆ ทั้งสิ้นโดยปลดกระดุมลงมาสองเม็ดโชว์แผงอก ชายเสื้อนักศึกษาแขนสั้นออกนอกกางเกงยีนเผยรอยยิ้มเสียงหัวเราะกับเพื่อน มีความสุขเหลือเกิน หึ... พอฉันละสายตามองโต๊ะที่จากมามันก็ว่างเปล่าไร้คนนั่งมีแค่น้ำเปล่าหนึ่งขวดตั้งอยู่พร้อมแก้วพลาสติกส่วนกระเป๋าน้ำหวานคงเอาไปให้แล้ว ไม่ว่าจะวันไหนการเผชิญหน้าต้องเกิดขึ้นอยู่ดีแล้วทำไมฉันต้องหลบอีก การเท้าก้าวออกมาเดินอ้อมไปอีกด้านมานั่งลงม้าหินอ่อนตัวเดิมประจวบเหมาะที่เดิมของฉันหันหลังให้พวกนั่นอยู่แล้ว “เบอร์ดาวนิติ อยู่ในมือกูแล้วเว้ย” “ไรกันวะ ไหนเมื่อวานมึงบอกอยากได้ไลน์ดาวแพทย์” หัวข้อก็ไม่พ้นเรื่องผู้หญิง เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าหยุดยั้งใดๆ ทั้งสิ้นมีแต่จะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตามประสาแต่สำหรับฉันมันขัดตา “มึงต้องถามไอ้ห่าอาร์ต มันเอามาให้กู” หึ... คราวนี้เป็นฉันเองที่เหยียดยิ้มสมเพชกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “เหี้ยแล้วมึงดูรอยยิ้มมันดิ ดูดิวะ เหยด... บ่งบอกมากว่ามันมีความสุขแค่ไหน ห่ารากคนเป็นเพื่อนอิจฉาครับ” ฝ่ามือฉันกำเข้าหากันแน่น บีบรัดเกร็งจนกระทั่งมันสั่นน่าแปลกที่ความเจ็บปวดไม่แล่นเข้ามาให้รู้สึกแต่อย่างใดทว่ามันมีความอัดอั้นเต็มไปหมด คนหนึ่งมีแต่น้ำตา อีกคนกับมีรอยยิ้ม คนหนึ่งชีวิตนี้คงปราศจากเสียงหัวเราะ อีกคนกับไม่สำนึก “ก็แค่... มีความสุขไม่ได้หรอวะ?” ปัง! ทุกอย่างรอบตัวเงียบเฉียบ ไม่มีเสียงเปล่าอะไรออกมาสักแอ๊ะ เสียงมาจากฉันเองโดยการใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างตบลงโต๊ะไม้ข้างกายไปอีกนิดความรุนแรงไม่ต้องถาม มันแรงมาก แรงเพราะอยากให้มันดัง ไม่ละเวลาให้มันล่วงเลยฉันเลือกยืนเต็มความสูงค่อยๆ หันใบหน้าไปมองกลุ่มผู้ชายพวกนั้นไม่สนสายตาคู่ไหนเว้นแค่นัยน์ตาสีดำคู่นั้น คู่ที่ฉันต้องการให้ชีวิตนี้มันมีแต่ความฉิบหายไม่สามารถแสดงความสุขออกมาให้เห็นได้อีก แว่นตาถูกถอดออกทิ้งลงพื้นไม่คิดใยดีมัน แกร็ก... พร้อมกับคว้าน้ำมาในมือ น้ำขวดนั้นถูกเปิดออกก่อนยื่นออกมาเทตรงหน้า สายน้ำเล็กๆ หยดลงสู่พื้นอิฐตัวหนอนกระเด็นกระทบปลายรองเท้าหยดแล้วหยดเล่าแต่ฉันก็ไม่คิดสนใจเพราะจ้องมองไปยังผู้ชายคนนั้น พอน้ำหมดขวดรอยยิ้มเหยียดของตัวเองก็แสดงให้เห็นกึ่งท้าทายกึ่งสมเพช “มีซะให้พอ ก่อนที่เจ้ากรรมนายเวรมาตามเก็บ!”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
33.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
7.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.6K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.6K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.4K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook